เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือเดินมาถึงชั้นล่าง ก็ไม่เห็นเฉียวสือเนี่ยนแล้ว
“ท่านประธาน คุณผู้หญิงนั่งรถกลับไปแล้วครับ” คนขับรถแจ้งให้ทราบอย่างระมัดระวัง
ฮั่วเยี่ยนฉือเม้มริมฝีปากล่าง จากนั้นก็ให้คนขับรถกลับไปที่วิลลาหลงเถิง
เมื่อเห็นรองเท้าของเฉียวสือเนี่ยนอยู่ที่ประตู เขาก็เดินขึ้นชั้นสองไป
ห้องของเฉียวสือเนี่ยนปิดสนิท และภายในก็ไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใด ๆ
ฮั่วเยี่ยนฉือหยุดลง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เคาะประตู
วันถัดไป เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือออกกำลังกายเสร็จ ก็เดินลงมาชั้นล่าง และป้าหวังก็ได้เตรียมมื้อเช้าไว้พร้อมแล้ว
เมื่อเขานั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก็เหลือบมองไปที่ชั้นสอง “ไปเรียกเธอตื่นมารับประทานอาหารเช้าสิ”
ป้าหวังตอบกลับตามระเบียบ “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงออกไปแล้วค่ะ”
ออกไปแล้วเหรอ?
เมื่อวานเขาตั้งใจจะให้เวลาเฉียวสือเนี่ยนใจเย็นลง และคิดจะรอจนถึงเช้าค่อยถามเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง
สุดท้ายตอนเช้าตรู่แบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะออกไปแล้ว?
“เธอไปไหน?”
ป้าหวังส่ายหน้า “ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ คุณผู้หญิงไม่ได้บอกไว้”
“แม้แต่อาหารเช้าคุณผู้หญิงก็ไม่ได้รับประทาน ดูเหมือนจะมีเรื่องสำคัญต้องไปทำนะคะ” ป้าหวังเอ่ยเสริม
ฮั่วเยี่ยนฉือคิ้วขมวดแน่น “เข้าใจแล้ว ไปทำธุระของคุณเถอะ”
เมื่อป้าหวังเข้าไปในห้องครัว ฮั่วเยี่ยนฉือก็โทรศัพท์หาโจวเทียนเฉิง
“นายไปสืบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอะพาร์ตเมนต์ป๋ายอีอีมาหน่อย”
เมื่อคืนเฉียวสือเนี่ยนผิดปกติมากเกินไป
แม้เธอไม่เต็มใจที่จะขอโทษมากขนาดนั้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอยอมรับแล้ว
ก่อนที่จะขึ้นไปยังดี ๆ อยู่เลย และทำไมพอเจอป๋ายอีอีถึงดูเหมือนมีความคับแค้นใจ
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่สงสัยเลยแม้แต่นิด ถ้าเขาไปถึงช้า เฉียวสือเนี่ยนอาจจะบีบคอป๋ายอีอีจนตายอยู่ตรงนั้นเลยก็ได้
สาเหตุอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอมีปฏิกิริยาที่รุนแรงแบบนั้น?
......
เฉียวสือเนี่ยนนั่งรถมาถึงโรงพยาบาลที่โม่ซิวหย่วนรักษาตัวอยู่
เฉียวสือเนี่ยนขึ้นลิฟท์มาถึง ตามเลขห้องผู้ป่วยที่เขาบอกมาทางโทรศัพท์
ห้องที่โม่ซิวหย่วนพักอยู่เป็นห้องวีไอพี ไม่ได้มีแต่ห้องนอน ห้องรับแขก ยังมีห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์ ภายในห้องยังมีโทรทัศน์จอแอลซีดีขนาดใหญ่ ตู้กดน้ำ โซฟาหนังแท้ และอื่น ๆ
หรูหรายิ่งกว่าห้องดีลักซ์ในโรงแรมเสียอีก
เมื่อเธอเคาะประตู พยาบาลรับจ้างก็วัดความดันโลหิตให้โม่ซิวหย่วนที่นั่งอยู่บนโซฟาเสร็จพอดี
“โอ้ คุณผู้หญิงฮั่วนี่ไวจริง ๆ !”
เมื่อเห็นเธอ โม่ซิวหย่วนก็ยิ้มอย่างน่าสนใจ “นึกยังไง คุณถึงมาเยี่ยมผมได้ล่ะ?”
เฉียวสือเนี่ยนเอาดอกลิลลี่ที่ซื้อมาวางไว้บนโต๊ะน้ำชา “คุณบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนก็เป็นเพราะฉัน ฉันรู้สึกผิด จึงมาดูว่าร่างกายของคุณโม่พักฟื้นเป็นอย่างไรบ้างแล้วค่ะ”
โม่ซิวหย่วนจิปากอย่างประหลาดใจ “พวกคุณสามีภรรยาช่างน่าสนใจจริง ๆ สามีทำร้าย และส่งภรรยามาเยี่ยม”
พยาบาลรับจ้างยกน้ำมาให้เฉียวสือเนี่ยนเสร็จก็ออกไป เฉียวสือเนี่ยนนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างโม่ซิวหย่วนอย่างเป็นธรรมชาติ
และตอบกลับแบบยิ้มๆ “ไม่มีใครส่งฉันมาหรอกค่ะ ฉันอยากมาเยี่ยมคุณเอง”
โม่ซิวหย่วนเลิกคิ้วเข้มขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก “คุณผู้หญิงฮั่วตั้งใจมาที่นี่ คงไม่ได้มาเยี่ยมเพราะเรื่องนี้หรอกใช่ไหมครับ?”
คบกับคนฉลาดนี่ลดปัญหาได้จริง ๆ ด้วย
เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่อ้อมค้อม “ความจริงแล้วฉันยังมาหาคุณด้วยเรื่องอื่นอีกค่ะ”
“เอ๋? คุณผู้หญิงฮั่วอยากจะมาแลกเปลี่ยนวิธีทำกำไรกับผมจริง ๆ เหรอ?”
“ก็ใช่ค่ะ” เฉียวสือเนี่ยนยิ้มเล็กน้อย และยกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างผ่อนคลาย “ก่อนหน้านี้คุณโม่ถามฉันไม่ใช่เหรอคะ ว่าการเดิมพันของคุณกับฮั่วเยี่ยนฉือใครจะชนะ?”
เมื่อได้ยิน ใบหน้าที่หล่อเหลาของโม่ซิวหย่วนก็ดูสนใจขึ้นมาในทันที
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยต่อ “ฉันคิดว่าคุณโม่จะชนะค่ะ เพราะโชคของคุณมาถึงแล้ว”
ตาดอกท้อของโม่ซิวหย่วนหรี่ลงและมองเฉียวสือเนี่ยน “โชคมาถึงแล้ว? คุณคงไม่ได้จะบอกว่า โชคนั้นคือคุณเองหรอกใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ” เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ฉันสามารถช่วยให้คุณโม่ชนะโครงการหมิงเหมาได้นะคะ”
โม่ซิวเยี่ยนหัวเราะอย่างชั่วร้าย และไม่ได้บอกว่าจะเชื่อหรือไม่ “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงฮั่วมีเงื่อนไขอะไรเหรอครับ?”
สมแล้วที่เป็นนักธุรกิจ แค่เธอเอ่ยปาก เขาก็เริ่มถามถึงเงื่อนไข
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “ฉันต้องการเข้าทำงานในธนาคารเพื่อการลงทุนเจิงหย่วนของคุณ และเป็นหุ้นส่วนของคุณค่ะ”
“นอกจากโครงการหมิงเหมาแล้ว ฉันยังจะนำเงินทุนหนึ่งร้อยล้าน รวมถึงรับรองว่าฉันจะทำให้คุณได้ลงนามในโครงการ ที่ทำกำไรมากว่าสองโครงการขึ้นไปในทุก ๆ ปีด้วยค่ะ”
โม่ซิวหย่วนไขว้ขา และถามอย่างสนใจ “แล้วคุณผู้หญิงฮั่วจะรับรองอย่างไรล่ะ?”
ในหนึ่งปีถ้าผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนพยายามหน่อย การลงนามสองถึงสามโครงการก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องยาก แต่แม้กระทั่งคนระดับหัวกะทิด้านการลงทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในสายงาน ก็ยังไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าโครงการที่ตัวเองลงทุนจะได้กำไรอย่างแน่นอน
เธอภรรยาเศรษฐีที่ไม่สนโลกคนหนึ่ง จะเอาความมั่นใจมาจากไหน?
เฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าโม่ซิงหย่วนกำลังสงสัยอะไรอยู่ แต่เธอมีโอกาสที่กำหนดชะตาอนาคตอยู่ในมือ
เธอรู้ดีว่าในอนาคตมีโครงการไหนบ้างที่ทำกำไรได้
เพียงแต่เธอก็กลัวว่าการเกิดใหม่ของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง จึงไม่กล้าโลภมาก และเสนอตัวเลขสองทีซึ่งมีความยากกำลังพอดี
“ถ้าฉันทำไม่ได้ เงินหนึ่งร้อยล้านนั่น ฉันให้คุณค่ะ” เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยอย่างสุขุม
น่าสนใจ
หลังโม่ซิงหย่วนฟังเฉียวสือเนี่ยนจบ ก็เหลือบมองเฉียวสือเนี่ยนตั้งแต่หัวจรดเท้า
ด้านบนเธอสวมเสื้อถักตัวหลวม ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์เข้ารูป เสริมให้ขาดูเรียวยาว
โดยรวมดูแล้วถือว่าเป็นคนสบาย ๆ ทั้งยังสวยและมีเสน่ห์อยู่บ้าง
ตอนนี้เธอดูสุขุมเยือนเย็น ดวงตาใสแจ๋วสงบนิ่ง ดูไม่เหมือนคนว่างไม่มีอะไรทำแล้วมองหาความสุขใส่ตัว ทั้งยังดูไม่เหมือนคนที่มีอาการทางจิตด้วย
“แต่คุณผู้หญิงฮั่วน่าสนใจมาก เป็นถึงภรรยาของประธาน ‘ฮั่ว กรุ๊ป’ และสะใภ้เศรษฐีแท้ ๆ นึกไม่ถึงว่าจะนำเงินหนึ่งร้อยล้านเพื่อมาร่วมงานกับผม เงินของตระกูลฮั่วคงมีมากมายจนไม่มีที่จะใช้แล้วเหรอ? ”
โม่ซิวหย่วนยังไม่เชื่อเธอ
เฉียวสือเนี่ยนเอ่ยอย่างจริงจัง “เงินหนึ่งร้อยล้านนั่นเป็นสินเดิม[footnoteRef:1]ของฉัน ไม่เกี่ยวกับตระกูลฮั่ว การที่มาหาคุณเพื่อร่วมงาน ก็เป็นการกระทำของฉันคนเดียว ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ฉันเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมดค่ะ” [1: คือ ทรัพย์สินส่วนตัวก่อนที่จะจดทะเบียนสมรส]
ชาติก่อนหลังจากเธอเข้าโรงพยาบาลจิตเวช สินเดิมของเธอโดนน้าสะใภ้ยึดไป ‘ดูแล’ ทั้งหมดแล้ว โดยอ้างจากปัญหาทางจิตของเธอ ชาตินี้เธอจึงอยากจะใช้มันให้ดี จะได้ไม่ต้องถูกคนจ้องตาเป็นมัน
เมื่อได้ยิน ใบหน้าที่หล่อเหลาของโม่ซิวหย่วนก็ดูจริงจังขึ้นมาก “คุณผู้หญิงฮั่ว ข้อเสนอของคุณฟังดูไม่เลวเลย แต่ว่า ——“