“วิธีกระไร?” หลิงเฟิงซั่วไม่แปลกใจมากนัก เขายังคงมีความคาดหวังเล็กๆน้อยๆอยู่ในใจสำหรับสิ่งที่เธอจะกล่าวต่อไป เจียงหยุนลั่วโยนภาพวาดในมือของเธอให้เขา หลิงเฟิงซั่วรับมันไว้ เขาเปิดมันออกแล้วมองดู ดวงตาของเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจ!“นี่คือ... ดินปืน?” เขาพึมพำ รูปภาพที่วาดบนภาพวาดของเจียงหยุนลั่วนั้นยากที่จะนึกถึงดินปืนได้จริงๆ เขาเข้าใจหลังจากอ่านคำแนะนำด้านข้าง"ประมาณนั้น" เจียงหยุนลั่วพยักหน้าและอธิบายว่า "แต่มันมีพลังมากกว่าดินปืนมาก เจ้าสามารถเรียกสิ่งนี้ว่า...วัตถุระเบิด ยา หรือถุงก็ได้" หลังจากอยู่ที่นี่มานาน เธอได้พบว่า นอกเหนือจากอาวุธเย็นแล้ว ไม่มีอาวุธทำลายล้างสูงในโลกนี้ แม้ว่าจะมีดินปืน แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้ทำดอกไม้ไฟมันช่างสิ้นเปลืองเสียจริง“เจ้าต้องการที่จะระเบิดค่ายทหารซีฉีงั้นหรือ?” หลิงเฟิงซั่วขมวดคิ้ว พลางมองดูวัตถุที่ดูเหมือนพัสดุจริงๆ และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดที่จะสร้างดินปืนให้เป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่านั้น อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะวัสดุและสัดส่วนเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมาโดยตลอด และทุกครั้งที่ประดิษฐ์ออก
เจียงหยุนลั่วโยนแผ่นกระดาษออกไป "ข้ามีความมั่นใจอย่างยิ่งในแผนของข้า หากเจ้ายังคงกังวล ข้าได้ลงนามในคำสั่งทหารแล้ว เจ้าเพียงแค่ต้องประทับตราเท่านั้น! หากการดำเนินการล้มเหลว ข้าจะให้เจ้าทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ !" หลังจากทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ เธอก็จากไปโดยไม่หันกลับมามองจากนั้นก็ตรงไปหาลู่ถิง“องค์หญิงอยากยืมกำลังคนหรือ?”“ได้ ข้าจะไปกับองค์หญิงเอง!” ร่างกายส่วนใหญ่ของลู่ถิงได้ฟื้นตัวแล้ว และเขาก็รับปากโดยไม่แม้แต่จะถามอะไรด้วยซ้ำ! ขณะที่เขากล่าว เขาก็รีบร้อนที่จะลุกจากเตียง"ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน" เจียงหยุนลั่วรีบยื่นมือออกไปเพื่อหยุดเขา "เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังไม่หายดีนัก ดังนั้นเจ้าควรอยู่ที่นี่และพักผ่อนเถิด ข้าต้องการคนไม่มากนัก ข้าต้องการประมาณห้าสิบคน แต่..."เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ "เพียงแต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าคนห้าสิบคนนี้จะมีชีวิตกลับมาได้" เจียงหยุนลั่วอธิบายแผนของเธอโดยย่อ ลู่ถิงมีท่าทีประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นท่าทีที่ดูเคร่งขรึม“ข้าเข้าใจความหมายขององค์หญิง เพียงแต่ต้อง...”"ใช่" เจียงหยุนลั่วรู้ว่าเขาต้องการพูดอะไรต่อ“
สองวันต่อมา ในตอนพลบค่ำ—เจียงหยุนลั่วพาเป่ยเฉินและทหารชั้นยอดที่ตนเลือกมาเป็นพิเศษจำนวนห้าสิบนายมาเตรียมพร้อมเพื่อออกเดินทาง เดิมทีเธอคิดว่าเธอจะถูกหลิงเฟิงซั่วขวางเอาไว้ และเธอก็ไม่ได้คาดคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่นตั้งแต่ที่เธอมอบคำสั่งทหารในวันนั้นดูเหมือนว่าหลิงเฟิงซั่วจะยินยอมในการกระทำของเธอ“องค์หญิง ทุกอย่างพร้อมแล้ว” เป่ยเฉินเดินเข้ามาจากด้านนอกที่พำนักด้วยสีหน้าจริงจัง"อืม" เจียงหยุนลั่วพยักหน้าและพูดขึ้นมาว่า "หยานเอ๋อ อีกประเดี๋ยวช่วยข้านำสารไปฝากหลิง ... "ยังพูดไม่จบ---จู่ๆ เป่ยเฉินก็หันกลับมา"องค์หญิง ม่อหยิง และเฮยเอี้ยนมาถึงแล้ว พวกเขาอยู่ด้านนอก""พวกเขา?"เจียงหยุนลั่วหยุดชั่วคราว โดยเธอคิดว่าหลิงเฟิงซั่วสร้างความยุ่งยากขึ้นอย่างกะทะทัน ดังนั้นเธอจึงเดินออกไปด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งขณะที่กำลังจะถาม ม่อหยิงก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "องค์หญิง องค์ชายได้ส่งข้าและเฮยเอี้ยนมาช่วยสนับสนุนท่าน""ช่วยสนับสนุนข้า?" ครั้งนี้เจียงหยุนลั่วรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากหลิงเฟิงซั่วไม่ได้คัดค้านเกี่ยวกับแผนการของเธอหรอกหรือ? ในตอนนี้ นอกจากเขาจะไม่ขัดขวางแล้ว แต่เขายั
ไม่นาน---ทหารซีฉีที่จัดทัพอย่างเป็นระเบียบสองกองรีบออกจากค่ายทหารไปตามทิศทางของอาวุธเฟยอี้เพื่อไปจับคนบนเขา เจียงหยุนลั่วกัดฟันแน่น สายตาของเธอเห็นอาวุธเฟยอี้ซึ่งถูกยิงลงมาและทำให้ทั่วทั้งค่ายทหารซีฉีถูกปกคลุมไปด้วยควันที่หนาทึบ เธอจึงลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“ตอนนี้แหละ!!!!”พวกเขาหลายคนล้วนสวมเสื้อผ้าที่เปลี่ยนมาไว้ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นชุดที่เหมือนกับชุดของกองทัพซีฉีทุกประการ เฮยเอี้ยนได้ยินดังนั้นก็รีบดึงเจียงหยุนลั่วและกระโดดลงไปที่ยอดต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ!เป่ยเฉินนำกำลังคนอีกสิบกว่าคนลงจากภูเขาในอีกเส้นทางหนึ่ง ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงด้านหลังของค่ายทหารที่ตกลงกันไว้ เท่าที่เห็น ทุกที่ภายในค่ายทหารล้วนเต็มไปด้วยอาวุธเฟยอี้ที่ถูกยิงลงมากับควันหนาทึบที่มองไม่ชัด ทหารจำนวนไม่น้อยกำลังยิงโจมตีและปาดน้ำตาไปด้วยเจียงหยุนลั่วได้ให้คนของเธอทาครีมชนิดพิเศษที่เปลือกตาเอาไว้ก่อนแล้ว เมื่อเล็งเห็นโอกาสที่เหมาะสม หลายๆคนรวมกลุ่มกันและแฝงตัวเข้าไปทั้งๆแบบนั้น! ไม่มีใครสักคนสังเกตเห็นพวกเขา ระเบิดดอกไม้ไฟทั้งหมดในครั้งนี้ได้ใช้สายชนวนชนิดพิเศษของเธอฝังเอาไว้รอบๆตัวหุ่น มันสามารถเผาไหม้ได
ทันที่ที่พูดจบ ทหารซีฉีกองหนึ่งก็โผล่ออกมาจากทางด้านหลังของยุ่ยฉือเหยียนและล้อมพวกเขาเอาไว้ตรงกลาง เป่ยเฉินและเฮยเอี้ยนพร้อมกันยืนกำบังอยู่ด้านหน้าเจียงหยุนลั่วในทันที ที่ล้อมอยู่ด้านนอกสุดคือทหารสิบนายที่เจียงหยุนลั่วพามา บรรยากาศอันตึงเครียดกำลังจะปะทุออกมาในไม่ช้า เจียงหยุนลั่วไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา พลางกวาดหางตามองไปที่ยุ้งฉางโดยไม่รู้ตัว ชนวนระเบิดได้ถูกฝังไว้แล้ว แต่ ในตอนนี้เอง…“ว่าไง ตกใจกลัวจนพูดไม่ออกเลยรึ?”สีหน้าของยุ่ยฉือเหยียนนั้นดูมืดมน เขาจ้องมองทุกๆการแสดงออกของเจียงหยุนลั่วอย่างใกล้ชิด ทันใดนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้น เขาเดินไปยังทิศทางของยุ้งฉางและเงยหน้าขึ้น“นำสิ่งนั้นออกมา”ในตอนที่เขามาถึง เขาได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเจียงหยุนลั่วกำลังนั่งฝังอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น!เจียงหยุนลั่วรู้สึกกระวนกระวายและตะโกนออกมาว่า “หยุดเขาไว้!” พูดจบ เธอก็ชักดาบออกมาจากเอวและพุ่งไปยังทหารซีฉีที่กำลังจะเดินออกไปเพื่อโจมตี เป่ยเฉินและเฮยเอี้ยนก็พุ่งตามเธอไปในทันที ทหารสามนายที่อยู่ด้านนอกสุดของวงล้อมถูกกำจัดในชั่วพริบตา ทำให้ทางที่พวกเขาถูกล้อมไว้เปิดออกเจียงหยุนล
สีหน้าของยุ่ยฉือเหยียนสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาหยุดการโจมตีในทันทีและมองไปทางเสียงนั้นอย่างเร่งรีบ ทันใดนั้นก็เห็นว่าฟางข้าวนั้นติดไฟไปแล้วกว่าครึ่ง รอบๆสายชนวนที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยผงเถ้าถ่าน และมันก็หดสั้นลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ เจียงหยุนลั่วยังโรยฟอสฟอฟัสสีขาวไว้รอบๆสายชนวนระเบิด เมื่อสักครู่นี้ เธอจงใจใช้แท่งจุดไฟโบราณเป็นเหยื่อล่อ และใช้ประกายไฟที่ติดจากปลายดาบแทน!“ไปเอาน้ำมา!!!” ยุ่ยฉือเหยียนตะโกนดังลั่นพร้อมกับโบกมีดยาวในมือ พลังของดาบทำให้คนสองคนล้มลมในทันที เจียงหยุนลั่วจึงใช้โอกาสนี้ถอยกลับไปที่ด้านหลังยุ้งฉาง เมื่อเห็นว่าสายชนวนเหลือเพียงปล้องสุดท้าย เธอจึงรีบสั่ง “ไปเร็ว!!!” เป่ยเฉินและเฮยเอี้ยนรีบหยิบโซ่ตะขอที่เตรียมไว้ออกมาอย่างรวดเร็ว เขาโยนมันไปที่กำแพงหินแล้วกระโดดไปพร้อมกับเจียงหยุนลั่วณ ตอนนี้ ความร้อนระอุได้พรั่งพรูออกมา“ตูม!!!!!” เสียงระเบิดที่ดังลั่นเกือบทำให้แก้วหูแตก แม้แต่แผ่นดินก็ยังสั่นตามไปด้วย เจียงหยุนลั่วรู้สึกได้ถึงแรงผลักจากด้านหลังอย่างรุนแรง และนั่นทำให้เธอถูกฟาดเข้ากับกำแพงหินอย่างจัง! เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอันแสบร้อ
“เป่ยเฉิน?” หัวใจของเจียงลั่วเฉินเต้นแรง เธอมีคำตอบอยู่ภายในใจแล้วเป่ยเฉินไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงมองไปที่เฮยเอี้ยนและพูดออกมาสี่คำ“ฝากองค์หญิงด้วย...” พูดจบ เขาก็เดินไปยังทางแยกที่ตนโยนเศษเสื้อไปโดยไม่หันหลังกลับมาเขาต้องการใช้ตัวเองเพื่อล่อศัตรูออกไป!“เป่ย...”เจียงหยุนลั่วกำลังจะร้องตะโกนเรียกโดยไม่รู้ตัว แต่พูดได้เพียงคำเดียวเธอก็ถูกสกัดจุดไว้อีกครั้ง เฮยเอี้ยนแบกเธอขึ้นมา“องค์หญิง ข้าขออภัยหากล่วงเกินท่าน”“ฮือ...ฮึกฮึก”เจียงหยุนลั่วพูดไม่ออก เธอกระวนกระวายมาก ดวงตาของเธอนั้นแดงก่ำ!เป่ยเฉินบ้าไปแล้วหรือ! เจียงหยุนลั่วผู้นี้ต้องการให้สหายของเธอเสียสละเพื่อปกป้องเธอเช่นนี้เมื่อใดกันเล่า? ในกรณีที่แย่ที่สุด ก็ควรจะสู้จนตัวตายไปด้วยกัน! เธอรู้สึกเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายในอก เจียงหยุนลั่วกลั้นหายใจและรวบรวมสมาธิ ด้วยพลังอันแรงกล้าที่อธิบายไม่ได้ เธอพยายามอย่างหนักที่จะหลุดพ้นจากจุดที่โดนสกัดไว้ เฮยเอี้ยนรีบเตือนทันทีที่สังเกตเห็นว่าเธอกำลังจะทำอะไร “องค์หญิง หากพยายามที่จะเปิดจุดที่โดนผนึกไว้ ท่านจะได้รับบาดเจ็บนะขอรับ เป่ยเฉินได้ตัดสินใจแล้ว อย่าทำให้เข
เธอกำลังหลั่งน้ำตา......เพื่อเขาอย่างนั้นหรือ?ลึกลงไปภายในจิตใจของเขาเกิดอ่อนไหวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เป่ยเฉินสัมผัสได้ว่าดวงตาของเขาร้อนผ่าวในฐานะอารักขา มันเป็นหน้าที่และเป็นเรื่องปกติที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเจ้านายของตนแต่องค์หญิงกลับปฏิบัติต่อเขาในแบบเดียวกัน! ในใจของเธอ ไม่เคยมองเขาเป็นเครื่องมือที่จะตายเมื่อไรก็ได้เลยงั้นหรือ? ขณะที่คิด—เจียงหยุนลั่วก็ได้พยายามพาเขาไปยังหลังพุ่มไม้เพื่อตั้งหลัก จากนั้นจึงถอดเสื้อของเขาออก “ให้ข้าดูบาดแผลของเจ้าหน่อย” “องค์หญิง…” เป่ยเฉินคว้าข้อมือของเธอไว้แล้วส่ายหัวเบาๆ “ไปเถิดขอรับ อีกไม่นานก็จะมีทหารไล่ตามมาอีก ข้าน้อย…” “หุบปากซะ!!!” เจียงหยุนลั่วกัดฟัน พลางกวาดสายตามองไปในพุ่มหญ้าอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีสิ่งใดที่พอจะใช้เป็นยาได้หรือไม่ เธอพูดอย่างดุดันว่า “เจ้าเป็นคนของข้า! เจ้ากล้าที่จะตายโดยที่ข้าไม่ได้สั่งงั้นรึ?” “ข้า….” เป่ยเฉินหดปลายนิ้วลงในทันที จู่ๆหัวใจก็ร้อนรุ่มราวกับถูกลาวาลวก ในตอนนั้นเอง— “พวกมันอยู่ตรงนััน!” จู่ๆเสียงของศัตรูก็ดังขึ้นจากระยะไกล ไม่นาน กองทหารศัตรูก็มาล้อมพวกเขาเอาไว้