Share

บทที่ 4

"องค์หญิง!"

ทันใดนั้น เสียงสะอื้นก็ดังขึ้นข้างหู

เจียงหยุนลั่วกลับมามีสติสัมปชัญญะขึ้น จากนั้นนางก็สบตาเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่แดงก่ำจากการร้องไห้ และชะงักไปครู่หนึ่ง

นี่คือ......

สาวใช้ส่วนตัวของนาง หยานเอ๋อ!

หลิงเฟิงซั่วเสนอก่อนงานแต่งงานว่าองค์หญิงหยุนลั่วสามารถนำสาวใช้คนสนิทมาได้เพียงคนเดียว และจะมีคนรับใช้คนอื่นๆ ในตำหนักของท่านอ๋องซั่วคอยปรนิบัตินาง เจ้าของร่างก็เห็นด้วยอย่างโง่เขลานัก!

เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เจียงหยุนลั่วก็รู้สึกหมดหนทาง

“เป็นอะไรไปเจ้าคะ ร้องไห้ทำไม?”

แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่ชอบคนที่ร้องไห้ และยิ่งไม่รู้ว่าจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร

“แน่นอนว่าเพื่อองค์หญิงแล้วข้าพระองค์ไม่เต็มใจยอมรับ ท่านอ๋องปฏิบัติต่อองค์หญิงเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

หยานเอ๋อปาดน้ำตาอีกครั้งหันกลับไปมองหญ้ารกๆ ที่สูงเท่าครึ่งตัวของคนในลานบ้าน สีหน้าก็เศร้ายิ่งกว่าเดิม"องค์หญิง วันนี้คืนวันแต่งงานของท่านไม่ใช่หรือ? ทำไมท่านอ๋องถึงพาท่านมาที่นี่ ท่านจะอาศัยอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไรกัน…”

“ทำไมจะไม่ได้กัน?ไปดูกันก่อน”

เจียงหยุนลั่วก็เดินนำเข้าไปด้านใน

จากนั้นก็หมุนวนดูรอบหนึ่ง จึงพอจะเข้าใจสภาพการณ์แล้ว

แม้ว่าลานสวนจะทรุดโทรม แต่ก็มีอุปกรณ์ครบครัน มีบ่อน้ำหลังสวน ด้านข้างยังมีห้องครัวขนาดเล็กและห้องเก็บอุปกรณ์ และบังกะโลหลายหลัง น่าจะเป็นที่ที่สาวใช้ประจำตำหนักเคยอาศัยอยู่

นอกจากนี้ยังมีห้องเดี่ยวซึ่งน่าจะเป็นห้องที่ให้แม่นมพัก และห้องยังมีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดอีกด้วย

“องค์หญิง ท่าน...จะอยู่ที่นี่จริงๆ หรือเจ้าคะ?”

หยานเอ๋อยืนอยู่ในห้องด้วยความรังเกียจเล็กๆ

แม้ว่าห้องตรงหน้าจะเป็นห้องเดียวที่สะดุดตาข้า แต่ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ และเตียงก็สกปรกและรุ่งริ่ง และทำให้บรรยากาศดูเก่าล้าหลัง

"เอาล่ะ มาทำความสะอาดที่นี่กันเถอะ"เจียงหยุนลั่วพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

สถานที่แห่งนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว ทั้งเงียบสงบ และเหมาะสำหรับการฝึกฝน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฟื้นฟูสภาพร่างกายของตัวเองให้กลับสู่สภาพเดิม อย่างน้อยก็เพื่อที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้ เมื่อได้เผชิญหน้ากับหลิงเฟิงซั่ว!

......

วัน ถัดมา--

ก่อนรุ่งสางเจียงหยุนลั่วก็เริ่มฝึกฝน

ในเมื่อตอนนี้นางอยู่ที่นี่แล้ว ละทิ้งเรื่องอื่นไปก่อนอยู่อย่างสงบที่นี่ นางไม่สามารถเอาชนะหลิงเฟิงซั่วได้ สู้ฝึกพลังยุทธให้แข็งแกร่งและเก็บตัวชั่วระยะหนึ่งดีกว่า

หลิงเฟิงซั่วไม่ยอมรับการหย่า ดังนั้นนางจึงต้องไปขอราชโองการจากพระราชชนนีที่รักนางมากที่สุด ยังไงซะนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการแต่งงาน!

แต่ทว่า......

เมื่อไม่นานนี้พระราชชนนีเสด็จไปที่ภูเขาจิงซิ่วเพื่อสักการะพระพุทธเจ้ายังไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อใด อาจสั้นเพียงสองหรือสามเดือน หรืออาจนานถึงครึ่งปี!

อดทนเอาไว้ก่อน แล้วคอยดูสถานการณ์ไปก่อนค่อยว่ากัน!

หลังจากผ่านไปอีกสองชั่วยาม หยานเอ๋อก็ลุกขึ้น

คืนวานพวกเขาทั้งสองจัดการเก็บให้เป็นพื้นที่ว่างและกางเสื้อคลุมลงบนพื้นเพื่ออดทนนอนให้คืนนี้ผ่านพ้นไป

วันนี้ก็มาจัดที่พักกันให้เรียบร้อย

ทั้งสองใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มในการช่วยกันทำความสะอาดลานสวนทุกจุดจนสะอาด

หยานเอ๋อแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วพูดอย่างร้อนรน"ทำไมถึงเวลานี้แล้วรึนี่! ข้าจะไปหาอาหารมาให้องค์หญิงทาน องค์หญิงโปรดนั่งรอสักครู่นะเจ้าคะ"

แม้ว่าหลิงเฟิงซั่วจะจำกัดการเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนของเจียงหยุนลั่วได้ แต่กลับไม่อาจจำกัดการเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนของสาวใช้เพียงคนเดียวของนางได้

หลังจากที่เจียงหยุนลั่วมองส่งหยานเอ๋อออกจากประตูสวนไป ก็มาตรวจดูด้านในสวน

จากนั้นไม่นาน--

"พวกเจ้าปล่อยข้า!"

เสียงที่พยายามดิ้นรนของหยานเอ๋อดังขึ้นที่ประตูลานสวน

เจียงหยุนลั่วได้ยินเสียงจึงรีบเดินออกไปทันที

ทันใดนั้นก็เห็นหญิงชราผู้หนึ่งกับสาวใช้ข้างกายที่คุมตัวหยานเอ๋ออยู่เดินเข้ามา และก็สะบัดมือขึ้นและตบนางดัง“เพี๊ยะ!”

"พูดความจริงมา! ทำไม เจ้าคิดว่าเพียงเพราะเจ้าเป็นสาวใช้คนสนิทขององค์หญิง เจ้าก็เป็นคนเหนือกฎหมายได้งั้นรึ"

ขณะที่หญิงชราผู้นั้นพูดก็เหลือบมองไปที่เจียงหยุนลั่วอย่างนึกคะนอง

ดูเหมือนว่าการตบฉาดเมื่อสักครู่ไม่ใช่ตบหยานเอ๋อ แต่เป็นนาง!

“องค์หญิง...”

หยานเอ๋อพยายามลุกขึ้นยืนและวิ่งกลับไปหาเจียงหยุนลั่ว ใบหน้าของนางบวมขึ้นมาแล้ว

“องค์หญิง ข้าสาวใช้ชราคนนี้คือแม่นมซูผู้ดูแลการงานของตำหนักหลังนี้ สาวใช้คนนี้ขององค์หญิงไม่รู้กฎเกณฑ์ จึงได้สั่งสอนบทเรียนแก่นาง คิดว่าองค์หญิงคงไม่ถือเอามาใส่ใจ”

แม่นมซูมีท่าทางที่ดูเย่อหยิ่ง

ขณะที่นางกำลังพูด สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ นางก็ย้ายของทุกอย่างเข้ามาด้วย

มีหม้อ กระทะเครื่องใช้ในครัวต่างๆ และกองผักเน่าๆ อยู่เต็มพื้น!

“วันนี้องค์หญิงไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน ตามกฎของตำหนักอ๋อง อาหารไม่ควรสิ้นเปลืองและควรนำกลับมารับประทาน แต่สาวใช้หยานเอ๋อคนนี้คิดว่าอาหารถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานและพยายามติดสินบนแม่ครัวด้วยเงิน... "

ขณะที่นาง พูด นางก็กวาดสายตาลงเหลือบมองถุงเงินของตัวเองแล้วลากเสียงของนางพูด——

“เศษเงินนี้ก็ไม่เก็บแล้ว ว่าไปควรจะลงโทษสาวน้อยผู้นี้ที่ทำลายบรรยากาศในตำหนักอ๋อง เพื่อให้จำไปอีกนาน! อีกทั้งองค์หญิงที่บอบบางและฐานะสูงส่งในเมื่ออาหารง่ายๆ ไม่คู่ควรในตำหนัก ก็กลับไปเปิดครัวทำเองเถิด!”

ทันทีที่คำพูดจบ——

"ตุบ! ! !"

ร่างอ้วนของแม่นมซูก็ลอยออกไปและชนเข้ากับประตูอย่างแรง!

ขณะนางล้มลงหน้านางก็ซบเข้ากับพื้นและก่อนที่นางจะทันได้โต้ตอบกลับ นางก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก และฟันของนางก็หลุดออกมาสองซี่!

เจียงหยุนลั่ว ยกชายกระโปรงของนางขึ้น และทันใดนั้นก็เผยแววตาที่เย็นชาในดวงตาของนาง

หญิงชรารับใช้คนนี้ กล้าทุบตีคนของนางได้ยังไงกัน?

หาที่ตายชัดๆ !

“เมื่อพบองค์หญิงอย่างข้ากลับไม่ถวายบังคม ดูเหมือนแม่นมซูจะไม่ค่อยรู้กฎเกณฑ์ดีนักนะ ยังต้องรบกวนองค์หญิงอย่างข้าฝึกวินัยให้ด้วยตัวเอง เศษเงินนั่นเอาเป็นค่ารักษาฟันให้เจ้าเถอะ” !"

"เจ้า!!! เจ้ากล้าดียังไง..."

นิ้วของแม่นมซูสั่นเทา ขณะที่นางถูกพยุงขึ้นและลากออกไป

ตามที่คาดไว้ องค์หญิงหยุนลั่วเอะอะก็จะลงไม้ลงมือ!

น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

“ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องทราบอย่างแน่นอน!”

เสียงที่ทนไม่ได้ของแม่นมซูก็ค่อยๆ จางหายไป

ในที่สุดลานเล็กๆ ก็เงียบสงบและได้ยินเสียงใบไม้พัดชัดขึ้น

หยานเอ๋อที่อยู่ด้านข้างก็สะอื้นเบาๆ "องค์หญิงเจ้าคะ...มันเป็นความผิดของสาวรับใช้อย่างข้าเอง... "

“หยุด!ห้ามร้องไห้!”

เมื่อเห็นว่านางกำลังจะเช็ดน้ำตาอีก เจียงหยุนลั่วก็รีบหยุดนาง"เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ถือของมาแล้วตามข้าไปที่ห้องครัว!"

พูดจบ นางก็หยิบของขึ้นมามองดู หยิบเลือกใบผักออกมาที่ยังสะดุดตาอยู่อย่างช่วยไม่ได้ แล้วหันหลังกลับเพื่อเดินไป

สีหน้ากลับเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

หญิงชรารับใช้นั่นต้องมีคนหนุนหลังอยู่ข้างหลังนางแน่ถึงได้ทำเช่นนี้!

มีความเป็นไปได้มากว่าพวกเขาได้นำเรื่องไปร้องเรียนแล้ว

ยังไงก็ช่าง

หากนางกลัว"เจียงหยุนลั่ว" ก็เขียนกลับด้านแล้ว!

ผ่านไปชั่วยามหนึ่ง——

หยานเอ๋อยืนอยู่หน้าเตาอย่างตกตะลึงมองดูเจียงหยุนลั่วที่เตรียมอาหารเรียบร้อยแล้วสองจาน

กลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้องครัว ทำเอาน้ำลายสอ

“องค์หญิง...มีฝีมือแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเจ้าคะ...”

นางพึมพำออกมาและนึกสงสัยว่านี่นางกำลังฝันอยู่หรือ

เมื่อสักครู่องค์หญิงบอกว่านางต้องการลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง และสาวใช้จึงเตรียมพร้อมสำหรับครัวที่จะโดนไฟไหม้ไว้แล้ว!

ใครเล่าจะคิดว่าทักษะการทำอาหารขององค์หญิงจะดีมากถึงเพียงนี้!

“บอกแล้วให้เชื่อใจข้า เอาล่ะ ไปเสิร์ฟอาหารได้เลย ข้าจะทำซุปเพิ่ม เดี๋ยวก็เสร็จ”

เจียงหยุนลั่วโบกมือของนางโดยไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

มันเป็นเพียงแค่อาหารบ้านๆ แบบเรียบง่าย หากวัตถุดิบดีกว่านี้ นางก็จะทำได้ดีขึ้นแน่!

น้ำในหม้อเดือดแล้ว เจียงหยุนลั่วหยิบผักที่หั่นแล้วเตรียมใส่ลงในหม้อ

ณ ขณะนี้--

นางหยุดชะงักชั่วขณะ และเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้เก่าแก่หนาทึบข้างกำแพงด้านนอกหน้าต่าง!

มีคนกำลังดูนางอยู่!

แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆ...

แต่สัญชาตญาณของนางไม่ผิดแน่!

หนึ่งวินาที--

สองวินาที——

สามวินาที——

ความรู้สึกที่กำลังถูกจ้องมองก็หายไปอีกครั้ง

สีหน้าอันตึงเครียดของเจียงหยุนลั่วก็ผ่อนคลายลงในทันที

ไปแล้วรึ?

การที่สามารถหลบซ่อนตัวในที่แบบนั้นได้ ดูเหมือนจะเป็นผู้มีฝีมือด้านวิทยายุทธเป็นแน่...

ใต้ชายคา ——

ร่างเงาดำก็หายไปอย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นไม่นาน บุคคลนั้นก็ยืนอยู่ในห้องหนังสือ

“รายงานต่อท่านอ๋ององค์หญิงหยุนลั่วกำลังทำอาหารในครัวเล็กๆ ในลานสวนขอรับ”

ม่อหยิงองค์รักษ์ลับอันดับหนึ่งของหลิงเฟิงซั่ว รายงานด้วยความเคารพ

"ทำอาหารรึ?"

มือของหลิงเฟิงซั่วหยุดชะงักลง ขณะที่เขากำลังพลิกดูรายงานของกองทัพ

“ขอรับฝ่าบาทมีอีกเรื่องหนึ่ง…”

ม่อหยิงหยุดไปครู่หนึ่ง แต่ยังลังเลที่จะพูด ทันใดนั้นก็นึกถึงสายตานั้นของเจียงหยุนลั่วขึ้นมา

ถูกจับได้หรือไม่นะ?

แม้ว่าตอนนั้นเขาจะไม่ได้ตั้งใจซ่อนตัวของเขา แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้รับการฝึกฝนจากท่านอ๋องมา!

เป็นไปไม่ได้ที่องค์หญิงซึ่งเป็นหญิงสาวที่อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงจะเฉียบแหลมถึงขนาดนี้!

นั่นคงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ...

ม่อหยิงกลืนคำพูดแล้วเปลี่ยนไปเรื่องอื่น"ข้าพระองค์ได้รับข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่...ก็ยังเหมือนเดิมขอรับ อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ฝ่าบาทกำลังตามหา... .. ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แรงกดอากาศของหลิงเฟิงซั่วก็ตึงกว่าเดิม

เมื่อครึ่งปีก่อน ในคืนอันมืดมิด เขาได้รับการช่วยเหลือจากหญิงผู้หนึ่งในวัดร้าง เขาเอาพรหมจรรย์ของหญิงสาวผู้นั้นไป และได้ทิ้งจี้หยกเอาไว้ให้และให้คำสัญญาว่าจะแต่งงานกับนาง!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status