โปสการ์ดอ่านได้ว่า “คุณฟอร์ด คุณซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ฉันตั้งหลายตัว ฉันไม่เคยใส่เสื้อผ้าดี ๆ แบบนี้มาก่อนในชีวิต แถมคุณยังให้แล็ปท็อปราคาแพงกับฉันด้วย ฉันไม่รู้จะขอบคุณคุณอย่างไรดีฉันอยากจะให้อะไรบางอย่างกับคุณ แต่ฉันมันเป็นคนจนน่ะค่ะแม้ว่าจะมีเงินก็ตาม แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าคุณชอบอะไร ชุดสูทของคุณเพียงชุดเดียวอาจมีมูลค่าหลายแสน มากกว่าเงินเดือนของฉันทั้งปีเลยก็ได้ ดังนั้นฉันขอมอบสิ่งของราคาไม่เท่าไหร่ แต่กลับน่าสนใจให้แก่คุณนะคะดูจากสีและสไตล์ของที่กรองบุหรี่อันนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่ามันเหมาะกับผู้ชายอย่างคุณมาก เพราะมันดูเป็นผู้ใหญ่และมีอำนาจดีน่ะค่ะฉันไม่รู้ว่าคุณจะชอบไหมหากคุณไม่ชอบ ก็มาบอกฉันทีหลังก็ได้นะคะ เดี๋ยวฉันจะไปหาซื้ออันใหม่มาให้ตัวกรองบุหรี่ไม่ได้มีค่ามากมายแต่ว่า คุณชอบสูบบุหรี่ และตอนคุณสูบบุหรี่ คุณมักจะอมควันไว้ในปาก ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยมันออกมาทางจมูก ถ้าคุณสูบบุหรี่แบบนั้น น้ำมันทาร์จากควันบุหรี่จะเข้าปอดได้ง่ายดังนั้น ตัวกรองนี้มีไว้สำหรับปกป้องร่างกายของคุณนะคะแม้ว่าคุณจะแข็งแรงมาก คุณก็ยังต้องป้องกันร่างกายของคุณอยู่ดีนะผู้ส่ง: ซาบริน่า”ด้านล่างโน้ตเ
ซาบริน่าเดินหนีไปไกลจากตรงนั้นแล้วเธอเอาแต่หัวเราะเยาะตัวเองถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องนั้นขึ้น เธอคงไม่สั่งที่กรองนั่นหรอก เธอได้ขอให้ใครบางคนช่วยซื้อมันในนามของเธอ เธอยากจน แต่เธอก็ใช้เงินซื้อที่กรองนั่นไปมากกว่าสามร้อยดอลลาร์ทว่าก่อนที่ของจะส่งมาถึง เธอกลับถูกไล่ออกมา เมื่อนึกถึงสิ่งของนั่น เธอคิดตลกตัวเอง ตอนนี้ที่กรองน่าจะอยู่ในมือของเซบาสเตียน เขาอาจจะดูถูกพวกมัน ยิ้มอย่างเย็นชา ขณะโยนพวกเขาออกมาจากระเบียงใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อคิดขึ้นมาได้เธอแค่อยากจะขอบคุณเขาสำหรับเสื้อผ้าสวย ๆ และแล็ปท็อปตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกำลังคิดมากหลายอย่าง เธอพยายามแสดงความรู้สึกต่อคนที่ไม่เคยสนใจเธอกลับไปที่โรงแรมโมเต็ล ด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน เธอนอนลงทั้งที่ยังใส่เสื้อผ้า เธอหลับไม่ลงสาเหตุครึ่งหนึ่งมาจากตัวกรองบุหรี่ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นเพราะอาการป่วยของป้าเกรซความคิดสั่นไหวอย่างไม่หยุดหย่อนในจิตใจของเธอ ซาบริน่าผล็อยหลับไปเมื่อพระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นในตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เธอเหลือเวลาไม่มากนัก โชคดีที่โมเต็ลที่เธอพักอยู่ใกล้โรงพยาบาลของป้าเกรซ เธอลุกขึ้นจากเตียงและรีบไปที่วอร์
ซาบริน่ายืนตัวตรงทันทีเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับใคร ฉับพลัน ท่าทีของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา "ขอโทษ!"ผู้อาวุโสชอว์มองซาบริน่าด้วยท่าทางรังเกียจก่อนที่เขาจะยิ้มอย่างเย็นชา “ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเธอ มีแต่เครื่องสำอางค์ราคาถูกฉาบหน้าเอาไว้หนาเตอะ คราวนี้ก็สกปรกไปทั้งตัว หน้าดำน่าเกลียด คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?"ซาบริน่าไม่ใส่ใจที่จะสร้างความบันเทิงให้กับเขา เมื่อดูจากผิวเผิน เขาดูเป็นคนเข้มงวดและใจดี แต่เขาไม่เคยเป็นมิตรกับเธอเลย ตรงกันข้าม เขาเป็นชายชราที่หยาบคายเป็นอย่างมากเธอเพิกเฉยต่อนายท่านอาวุโสชอว์ และพยายามเดินไปข้างหน้าต่อ อย่างไรก็ตามนายท่านอาวุโสชอว์ยกไม้เท้าขึ้นเพื่อขวางทางเดินของเธอซาบริน่าถามอย่างเย็นชาว่า “ตั้งใจจะทำอะไรคะ?”"ตอบคำถามฉันเดี๋ยวนี้!" ชายชราตะคอกใส่ซาบริน่าด้วยน้ำเสียงที่ข่มเหงเป็นอย่างมากซาบริน่าระงับความโกรธของเธอและตอบว่า “คุณคะ ฉันรู้จักคุณเหรอ?”“เธอไม่ใช่ภรรยาของเซบาสเตียนเหรอ? ผู้หญิงที่เขาซื้อมาเล่นด้วยตั้งสองเดือนเพื่อสนองความปรารถนาของแม่ที่กำลังจะตายใช่ไหม?” ผู้เฒ่าชอว์ถามด้วยน้ำเสียงสงสัย“มันเกี่ยวอะไรกับคุณมิทราบ?” ซาบริน่าถาม“ม
เธอไม่อยากเปลืองลมหายใจเสวนากับใครที่นี่เลยจริง ๆทั้งหมดที่เธอต้องการทำคือได้รู้อาการของป้าเกรซโดยเร็วที่สุดมินดี้เบื่อที่จะโต้ตอบกับความตายด้านของซาบริน่าแล้ว เธอจึงเดินตามนายท่านอาวุโสชอว์เข้าไปข้างใน ด้านหลังของซาบริน่า มาร์คัสเพิ่งจอดรถเสร็จ เขาจึงเดินเข้ามานับตั้งแต่นายท่านอาวุโสชอว์สั่งห้ามมาร์คัสไม่ให้พบกับซาบริน่า มาร์คัสก็ไม่ได้เจอเธอเลย เมื่อได้เจอเธออีกครั้ง หัวใจของมาร์คัสก็ว้าวุ่นเขารู้สึกสงสารซาบริน่า“ทำไม...สภาพของคุณถึงเป็นแบบนี้?” มาร์คัสพูดอย่างสงสารซาบริน่าตอบว่า “คุณชอว์ ถ้าไม่อยากให้ฉันโทรแจ้งตำรวจ คุณก็ควรอยู่ห่างจากฉันไว้!”มาร์คัสพูดไม่ออกเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดอย่างจริงใจว่า “ซาบริน่า ผมรู้ว่าคุณโกรธและผมไม่โทษคุณในเรื่องนี้ อีกเพียงไม่กี่วันต่อจากนี้ เมื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณผู้หญิงแห่งฟอร์ดจบลง ผมจะจัดการให้คุณ”ซาบริน่าไม่ตอบโต้อะไรมาร์คัสรีบตามนายท่านอาวุโสชอว์และมินดี้ไปซาบริน่ายังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาล คนตระกูลชอว์ยังไม่ออกมาแม้จะผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว ซาบริน่าเริ่มวิตกกังวล เธอไม่ได้มีเวลาพักกลางวันมากนัก เมื่อเธอไม่สาม
เซบาสเตียนมีท่าทางเคร่งขรึม ผิวสีบรอนซ์อย่างผู้ชายของเขาแบกรับความรู้สึกเศร้าอยู่ลึก ๆแต่เขาก็ยังไม่ยอมแสดงอารมณ์ออกมาด้วยใบหน้าที่ดูเศร้าและเหนื่อย เขามองซาบริน่าและไม่ขยับเขยื้อนซาบริน่าเดาไม่ออกเลยว่าเซบาสเตียนกำลังคิดอะไรอยู่เธอเคยคิดมาโดยตลอดว่าเธอแน่วแน่และไม่ยอมเปิดใจรับใคร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเธอรู้สึกเหมือนกับกระดาษแผ่นใสเช่นเดียวกับตอนนี้ เขาอาจมีออร่าของความเศร้าอยู่รอบตัวเนื่องจากอาการของแม่ แต่เขายังคงไม่หลั่งน้ำตาแห่งความเจ็บปวดใด ๆ เพียงระงับความโศกเศร้าไว้กับตัวเองภายนอกเขายังคงดูเย็นชาและสง่างามในชุดสูทของเขาแล้วเธอล่ะ?เธอสกปรกและใบหน้าของเธอดำคล้ำ เธอเคยถูกเซลีนหลอก ถูกไนเจลเยาะเย้ย หรือแม้แต่โดนนายท่านอาวุโสชอว์ด่า แม้แต่มินดี้ก็เคยพูดดูถูกเธอเซบาสเตียนก็เช่นกันซาบริน่าไม่รู้ว่าเซบาสเตียนจะจัดการกับเธออย่างไร หลังจากที่เขามีอิสระที่จะทำเช่นนั้นได้เขามีนิสัยที่ลึกล้ำ โหดเหี้ยม และไม่ลังเลใจเธอแข็งขืนกับเขาไม่ได้แม้แต่น้อย เธอไม่ได้อยากจะต่อต้านเขา เธอไม่เคยคิดที่จะทำให้คนที่มีหน้ามีตาของเซ้าท์ ซิตี้อารมณ์ขุ่นเคืองแต่เธอก็เหมือนตัวตลกที่หิวก
เมื่อล่วงเลยเวลาที่ซาบริน่าควรจะกลับไปทำงานเล็กน้อย เธอก็ออกไปจากโรงพยาบาลโชคดีที่ไม่มีใครสร้างปัญหาในช่วงบ่ายที่เหลือเมื่องานใกล้จะเลิก นักออกแบบคนหนึ่งซึ่งกำลังช่วยผู้อำนวยการจัดการแผนกโทรหาซาบริน่า “ซาบริน่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ต้องมาสำนักงานหนึ่งสัปดาห์นะ ไปที่ไซต์ก่อสร้าง ที่นั่นเราต้องการคนเพิ่ม”ซาบริน่าพยักหน้า "ได้ค่ะ"เธอเต็มใจที่จะไปที่ไซต์ก่อสร้างเป็นอย่างมาก งานที่นั่นอาจจะหนักและเหนื่อยมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอเหนื่อยใจนอกจากนี้ ที่ไซต์งานยังให้อาหารจำนวนมาก เมื่อเธอมีลูกอยู่ในท้อง เธอต้องรับประทานมาก ๆ แต่ถ้าเธอไปที่ไซต์ก่อสร้างก็แสดงว่าเธอจะไม่มีเวลาไปเยี่ยมป้าเกรซในตอนบ่ายหลังจากเลิกงาน ซาบริน่าก็รีบไปโรงพยาบาลทันที เธอรู้สึกว่ามันน่าจะนานพอที่จะไม่มีใครมาเยี่ยมป้าเกรซอีกแล้ว เธอตั้งตารอที่จะได้อยู่เป็นเพื่อนกับเกรซและพูดคุยกับเธอเมื่อเธอมาถึงวอร์ด เธอเห็นเซบาสเตียนนั่งอยู่ข้างเตียงของเกรซ เขาจับมือของแม่ไว้ ร่างกายของเกรซยังเต็มไปด้วยท่อ และเธอยังคงไม่ได้สติ ซาบริน่าไม่กล้าเข้าไปทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเกรซอาจจะไม่ต้องการ
ไนเจลแต่งตัวดีเลิศ และใบหน้าของเขาก็จริงจัง ดูเหมือนเขากำลังทำงานอยู่เพราะมีเครื่องมือสำหรับใช้วัดค่าอยู่ตรงหน้าของเขาด้วย เขาดูตัวเลขที่ออกมาจากเครื่องมืออย่างจริงจัง จนเหมือนว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นซาบริน่า ในตอนที่เธอชนเข้ากับเขาเขามองซาบริน่าอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาสงบ "เธอเองเหรอ? ไม่เห็นเหรอว่าฉันทำงานอยู่? กระโดดเข้ามาในอ้อมแขนฉันแบบนั้นได้ยังไง? เธอนี่มันไม่รู้จักโตจริง ๆ! เรื่องส่วนตัวควรเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว และงานก็คืองาน คราวหน้าอย่าใช้ลูกไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้อีก โดยเฉพาะเวลาที่ฉันทำงาน”น้ำเสียงของเขาดูเหมือนไม่ได้พูดเล่น และตั้งใจจะทำให้ซาบริน่าผิดหวัง เขามุ่นอยู่กับงานของเขา เมื่อเธอชนเขา เขาก็เสียสมาธิซาบริน่าเม้มริมฝีปากของเธอ "ขอโทษค่ะ!"เมื่อพูดอย่างนั้น เธอก้มศีรษะลงและเดินผ่านไนเจลไปยังไซต์ก่อสร้าง เธอตั้งใจจะบอกไนเจลว่าอีกสองวันเงินเดือนของเธอก็จะออกแล้ว และพอได้เงินนั่นมา เธอจะสามารถคืนเงินสามพันที่ไนเจลเคยให้ยืนได้อย่างไรก็ตาม เมื่อซาบรินาเห็นว่าไนเจลทุ่มเทกับงานและเขาก็หงุดหงิด เธอก็ไม่พูดอะไร และมุ่งหน้าไปไปที่ไซต์งานแทนเมื่อซาบริน่าเดินไปได้ระย
ไนเจลเลิกคิ้วพร้อมกับรอยยิ้ม “ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ที่เซ้าท์ซิตี้ มีสาวประเภทไหนที่ฉันไม่เคยไล่จีบมาก่อนเหรอ? ฉันเบื่อแล้ว! นายคงเลือกมินดี้ เจ้าหญิงของตระกูลชอว์ไปไหมล่ะ?”“ถามตรง ๆ เลยนะ เซย์น นายชอบผู้หญิงอย่างมิยดี้หรือเปล่า?”“เจ้าเล่ห์และเย่อหยิ่งอยู่ตลอด นายแตะต้องเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ มันคงจะดีถ้าเธอมาจากตระกูลชอว์จริง ๆ แต่เธอมาจากตระกูลแมนน์และถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลชอว์ ฉันเหนื่อยและท้อใจตอนที่เห็นความอวดดีนั่นของเธอ!”เซย์นหมดคำจะพูดไนเจลทำตัวเหมือนทำงานหนักที่ไซต์ก่อสร้างตลอดทั้งวัน เมื่องานสิ้นสุดลงในวันนั้น เขาเห็นร่างที่หดหู่ของซาบริน่ากำลังเดินเข้ามาหาเขาจากที่ไกล ๆ ไนเจลเริ่มทำงานอย่างจริงจังอีกครั้งเมื่อซาบรินาเดินผ่านไปคนงานจำนวนไม่กี่คนยืนล้อมรอบไนเจล ซึ่งดูเหมือนกำลังถามเขาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆเมื่อซาบริน่าเดินผ่านไนเจลซึ่งเมินเฉยต่อเธอและจดจ่ออยู่กับงานของเขา ซาบริน่าดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เธออ้าปาก แต่ก็ลังเล และปิดปากลงอีกครั้ง ก่อนมุ่งหน้าไปที่ป้ายรถประจำทางโชคดีที่เธอถึงป้ายรถประจำทางตอนรถมาพอดี ไนเจลและเซย์นสตาร์ทรถและขับตามรถของซาบริน่า เป็นไปตาม