ชายชราจับซาบริน่าและดึงเธอเข้ามาหาตัวเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แม่หนู เธอนี่มันขี้ลืมเสียจริง สองปีก่อน ตอนที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอขอเงินและของมากมายจากฉัน ตอนนั้นเธอยังเรียกฉันว่าผัวอยู่เลย ลืมไปแล้วหรือไงว่าเคยโทรหาฉัน? เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ คุณลุงเหรอ? ฉันแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซาบริน่าตะโกนว่า “คุณเป็นใคร! ปล่อยฉันนะ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะแจ้งตำรวจ!”ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอแก่มาก แก่กว่าลินคอล์นอย่างน้อยยี่สิบปี และเขาพูดเรื่องไร้สาระในเวลากลางวันแสก ๆ ซาบริน่าอยากจะตบชายแก่ที่น่ารังเกียจจริง ๆอย่างไรก็ตาม เขาจับแขนเธอแน่นจนเธอไม่สามารถจะดิ้นออกไปได้ ซาบริน่าหนีไปไม่ได้เลย“โทรแจ้งตำรวจเหรอ? ตอนที่เธออยากได้เงินจากฉัน ฉันไม่เห็นเธอจะโทรแจ้งตำรวจเลยนิ? ตอนที่เธออยากได้ของจากฉัน เธอไม่ยักจะโทรแจ้งตำรวจเหมือนกันนิ? ตอนนี้เธอจะโทรแจ้งตำรวจงั้นเหรอ? ซาบริน่า เธอทำกับเคนตัน ฮอร์สท์ผู้นี้เหมือนกับว่าเป็นคนที่สามารถจะเธอโยนทิ้งข้างทางได้งั้นเหรอ? ฉันมาหาตอนที่เธอต้องการฉัน และตอนนี้เธอจะโทรแจ้งตำรวจเมื่อไม่ต้องการฉันแล้ว” คนที่เรียกตัวเองว่าเคนตัน ฮอร์สท์ เย้ยหยันซาบริน่าอย่า
"ขับไป!" เคนตันออกคำสั่ง คนขับสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที“ตาแก่คนนั้น ฮอร์สท์ เขาพาแม่สาวบ้านนอกไป!” ไนเจลที่ติดไฟแดงอยู่เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทันทีที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ไนเจลก็รีบตามเคนตันไปทันทีเซย์นเตือนไนเจล “ตาแก่คนนั้นเป็นพวกไอ้เฒ่าหัวงู นายต้องตามพวกเขาไป อย่าให้คลาดสายตาใบหน้าของไนเจลมีท่าทางรังเกียจ “ตอนนี้ฉันกำลังมองแม่สาวบ้านนอกในมุมที่ต่างไปจากเดิม เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริง ๆ ! เธอสามารถลงนามในข้อตกลงแต่งงานกับเซบาสเตียน บุคคลสำคัญอันดับหนึ่งในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แถมเธอยังหว่านเสน่ห์ใส่นายน้อยของตระกูลชอว์ซึ่งเป็นบุคคลที่มีการศึกษามากที่สุดในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ได้อีก วันนี้เธอแสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเคยมีอดีตกับเคนตัน ฮอร์สท์ นายรู้ไหมว่าเคนตัน ฮอร์สท์ คือใคร? ศัตรูตัวฉกาจของเซบาสเตียนไงล่ะ!”“ก่อนที่เซบาสเตียนจะพลิกสถานการณ์ได้ เคนตันเคยพยายามจะฆ่าพี่ชายของฉัน พี่ชายของฉันทำลายทรัพย์สินของเคนตันไปเกือบสองในสาม ดังนั้นตอนนี้เขาเกือบจะเป็นคนไร้บ้าน แต่เขาก็ยังกล้ามาที่โรงพยาบาลและพาซาบริน่าออกไป! เธอไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เธอเห็นจริง ๆ !”เซย์นมองไปที่ไนเจลอย่างไม่ชอบใจ “แล
ในห้องส่วนตัวอันหรูหรา ภาพด้านหน้าของเซย์นและไนเจลนั้นตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคิดไว้โดยสิ้นเชิงตรงหน้าพวกเขา เคนตันนอนขดตัวอยู่บนพื้น เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน มีกองเลือดเล็ก ๆ อยู่รอบตัวเขา ในมือของซาบริน่ามีขวดไวน์แตก และเธอกำลังตีไปตามร่างกายของเคนตันด้วยขวดไวน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การโจมตีแต่ละครั้งนั้นไร้ซึ่งความปราณีเป็นอย่างมากท่าทางของซาบริน่านั้นสงบมาก ไนเจลและเซย์นตกตะลึงเมื่อเห็นคนสองคนเข้ามาและรู้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกของบรรดาเศรษฐีของเมือง เคนตันจึงคลานไปหาไนเจลทันทีราวกับว่าฟ้ามาโปรดเขาแล้ส “นายน้อยไนเจล ช่วยฉันด้วย เรียกคนของฉันมาจัดการผู้หญิงบ้าคนนี้และฆ่าเธอที่นี่ที! ถือว่าขอร้องแหละ!”ไนเจลพูดไม่ออก ซาบริน่ามองไนเจลอย่างใจเย็น ขณะที่เธอถือขวดที่แตกไว้ “นายน้อยไนเจล เมื่อเช้านี้ฉันอยากบอกอะไรบางอย่างกับคุณ แต่คุณยุ่งกับเครื่องมือวัดค่าที่ไซต์งาน ดังนั้นฉันจึงไม่รบกวนคุณ ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่าอีกสองวัน เงินเดือนฉันก็จะออกแล้ว ฉันจะคืนเงินสามพันเให้คุณทันทีที่ได้รับเงินเดือนนะ”ไนเจลยังคงพูดไม่ออกซาบริน่ายิ้มอย่างเศร้าสร้อย “ไปแจ้งตำรวจเถอะ ไนเจล หรือบางทีคุ
ด้านหลังของพวกเขา เซย์นถึงกับตะลึงเมื่อเขาเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเซย์นเป็นพี่น้องที่ดีของไนเจลและเขารับฟังการวิเคราะห์ของไนเจลเกี่ยวกับซาบริน่ามาโดยตลอด บางครั้งเซย์นก็มีส่วนร่วมเพราะเขารู้สึกว่าซาบริน่าเป็นผู้หญิงที่พิเศษตามที่ไนเจลอธิบายไว้ทว่าในขณะนั้น เซย์นรู้สึกสงสารซาบริน่าซาบริน่าดูสงบ แต่เธอมีความมุ่งมั่นที่ไม่ลดละ เธออ่อนแอ อ่อนแอจนใคร ๆ ก็สามารถบดขยี้เธอให้จมดินได้ ไนเจลปฏิบัติต่อซาบริน่าแบบนั้น มินดี้ก็ปฏิบัติต่อเธอแบบเดียวกัน แม้แต่เซลีนคนรักของเซบาสเตียนก็ยังพยายามทำร้ายซาบริน่ามาโดยตลอด แต่ซาบริน่าก็ไม่เคยยอมแพ้ แม้ว่าเธอไม่มีทางตอบโต้ก็ตามในตอนนั้น ซาบริน่าเต็มใจที่จะเข้าไปนอนในคุก ยอมสละทุกอย่างและยอมตาย แต่เธอไม่ยอมให้เคนตันดูถูกหรือดูหมิ่นเธอแม้แต่น้อยเซย์นเดินผ่านไนเจลและคุกเข่าตรงหน้าเคนตันซึ่งอยู่บนกองเลือด เซย์นพูดว่า “เคนตัน ไนเจลเป็นหลานชายของตระกูลฟอร์ด นายท่านอาวุโสเฮนรี่ขอร้องนายน้อยเซบาสเตียนมาโดยตลอดว่าให้เซบาสเตียนปกป้องไนเจลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคุณเป็นศัตรูกับนายน้อยไนเจลในตอนนี้ คุณจะเป็นหัวข้อหลักที่จะเข้าไปตรงเป้าเล็งของนายน้อยเซบาสเตียน ท่
ซาบริน่ายืนขึ้นและมองเซบาสเตียนด้วยสายตาที่เหนื่อยล้า “ฉันรู้ว่าช่วงนี้คุณยุ่งมาก อาการของป้าเกรซคงทำให้คุณไม่มีเวลาว่างไปสนใจเรื่องอื่นเลย แต่… มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกันเรื่องสัญญาอีกเหรอ?”ซาบริน่ากลืนน้ำลายเมื่อมองไปที่เซบาสเตียนเธอทำงานมาทั้งวันและค่อนข้างเหนื่อยล้ามาก แถมเธอยังถูกเคนตันพาไปที่คลับนั่น และเธอยังไม่หายตกใจจากเหตุการณ์ทั้งหมดอีกด้วยจากที่เธอกระวนกระวายใจอยู่ เธอก็เริ่มรู้สึกสงบลงได้บ้างแล้วจากความโกรธของเธอที่มีต่อเคนตันก่อนหน้านี้ แม้ว่าไนเจลจะช่วยเธอไว้ได้ แต่ชายคนนั้นก็ยังคงนอนอยู่ในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ซาบริน่าไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองได้ วิธีเดียวที่เธอจะมีเงิน คือได้เงินจากสัญญาของเซบาสเตียนที่พวกเขามีร่วมกันเซบาสเตียนมองไปที่ซาบริน่าอย่างเย็นชา วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก แม่ของเขาหมดสติไปสามวันแล้ว และไข้ของเธอก็ไม่ลดลงเลย มีโอกาสสูงที่เธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก ไข้สูงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ทำลายอวัยวะภายในของเธอไปทั้งหมดเมื่อมองดูแม่ของเขาที่กำลังจะจากโลกนี้ไปอย่างช้า ๆ หัวใจของเซบาสเตียนก็ไม่เพียงแค่เจ็บปวด เขายังคงเศร้าเสียใจเป็นอย่าง
ในห้องนั่งเล่นของเขา มีอุปกรณ์ในการฆ่าผู้คน เมื่อมีคนต่อต้านเขา เขาจะไม่ยอมให้โอกาสคนเหล่านั้นได้ร้องขอความเมตตา เขาไม่เคยลีลาที่จะลงมือทำสิ่งนั้น และมักจะจัดการกับผู้คนโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำในขณะนั้น ซาบริน่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเซบาสเตียน เธอทำได้เพียงพยายามสงบสติอารมณ์เท่านั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง และยังคงไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “สัญญาระบุว่าฉันจะจ่ายให้เธอหลังจากที่แม่ของฉันเสียชีวิตเท่านั้น ตอนนี้แม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่”ซาบริน่าไม่รู้จะพูดอะไร ขณะที่เธอมึนงงอยู่นั้น เซบาสเตียนเปิดประตูและเข้าไปข้างใน เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้เธอเข้ามา เขาปิดประตูตามหลังแล้วล็อคประตูขณะที่เธออยู่ข้างนอกเมื่อประตูปิดลง ความหนาวเย็นจากดวงตาของเซบาสเตียนก็หายไป เขาอยากจะบีบคอผู้หญิงคนนั้นให้ตายไปเลยสักสองสามครั้ง ทันใดนั้น เขาก็ฉุดคิดได้ เขาจำได้เสมอเธอดูแลแม่ของเขาอย่างตั้งใจมากขนาดไหน ตลอดจนรอยยิ้มอันแสนหวานและไร้เดียงสาที่เธอแสดงให้เขาเห็นเขายังจำลายมือที่นุ่มนวลและคมชัดของเธอได้ จากนั้นเขาก็คิดถึงความสามารถของเธอในด้านสถาปัตยกรรม แต่เธอยังคงซับซ้อนและอยากเกินไปที่จะเข้าใจได้ด
การเสียชีวิตของเกรซทำให้เซบาสเตียนเจ็บปวดอย่างที่สุดและมันก็ทำให้ซาบริน่าเศร้ามากจนเกือบจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์ของเธอเช่นกัน แม้ว่าซาบริน่าจะเศร้าโศกเพียงใด แต่ซาบริน่าก็ไม่สามารถไปส่งป้าเกรซในการเดินทางครั้งสุดท้ายของเธอได้งานศพที่เซบาสเตียนจัดขึ้นเพื่อแม่ของเขานั้นยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ คนในแวดวงสังคมชั้นสูงต่างมาแสดงความเคารพ แต่ซาบริน่าไม่มีโอกาสได้ไปเฝ้าดูเกรซ เธอไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ว่าป้าเกรซถูกฝังอยู่ที่ไหน นั่นเป็นเพราะทั้งครอบครัวฟอร์ดและญาติ ๆ ต่างก็เฝ้าดูเกรซ แม้แต่ไนเจลยังอยู่ที่นั่นเพื่อส่งป้าของเขาไปซาบริน่าเดินอยู่ตามท้องถนนเพียงลำพัง เมื่อรถลีมูซีนสีดำจอดอยู่ตรงหน้าเธอ เธอถูกดึงเข้าไปข้างในทันที ซาบริน่ากลัว “คุณ… พวกคุณเป็นใครกัน?”ชายในรถไม่พูด และขับรถไปจนมาถึงทางเข้าโรงพยาบาล เมื่อพวกเขาไปถึงโรงพยาบาลเท่านั้น ซาบริน่าก็เห็นว่าเป็นโรงพยาบาลที่เคนตันกำลังพักฟื้นอยู่ ชายสองคนลากซาบริน่าไปที่เตียงของ เคนตัน ซึ่งเคนตันเกือบจะหายดีแล้ว“เธออยากจะตายจริง ๆ ใช่ไหม!” เคนตันมองไปที่ซาบริน่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังใบหน้าที่อ่อนล้าและเศร้าโศกของซาบริน่าม
คิงส์ตันเห็นใจซาบริน่ามาก แต่เขายังคงเป็นบอดี้การ์ดที่เซบาสเตียนไว้ใจได้และเขาก็ภักดีต่อเซบาสเตียนเพียงคนเดียวเท่านั้น“นายเห็นอะไร?” เซบาสเตียนไม่ได้มองที่คิงส์ตันเมื่อเขาถามอย่างเย็นชาคิงส์ตันพูดไม่ออก“พูดมา!”“ดูเหมือนว่านายหญิง… ” คิงส์ตันตระหนักว่าเขาทำผิดพลาด และรีบแก้ไขตัวเองทันที “ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณซาบริน่า และนายน้อยไนเจลก็ไปจัดการครับ”ใบหน้าของเซบาสเตียนไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอารมณ์ใด ๆ เผยออกมา“เข้าใจแล้ว” เขาพูดอย่างใจเย็นหลังจากนั้นเขายังคงเฝ้าดูแลแม่ของเขาต่อไปไม่มีใครรู้ว่าชายที่เศร้าหมองและโหดร้ายคิดอะไรอยู่ แขกเหรื่อจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาเพื่อไว้อาลัย ท่านผู้อาวุโสชอว์ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน เมื่อเขาเข้าใกล้ทางเข้ามากขึ้น ท่านผู้อาวุโสชอว์ก็บ่นหลานชายอย่างเงียบ ๆ “มาร์คัส แกนี่ไร้ยางอายเกินไปแล้วนะ ดูสิว่านี่เป็นสถานที่แบบไหน? ควรให้ความสำคัญกับคนตายหน่อย! นอกจากนี้ นี่คือแม่ของนายน้อยเซบาสเตียนนะ!”เสียงของท่านผู้อาวุโสชอว์เบาลง แต่คิงส์ตันยังคงได้ยิน คิงส์ตันได้เห็นการตอบโต้กันไปมาชั่วขณะระหว่างมาร์คัสกับไนเจลเรื่องซาบริน่าก่อนหน้านี้