มีผู้ชายประมาณยี่สิบถึงสามสิบคนอยู่ในห้อง แต่ซาบริน่ารู้จักเพียงไนเจลกับเซย์นเท่านั้นคนที่เหลือต่างก็ย้อมผมด้วยสีจัดจ้านจนแสบตา มีรอยแผลทั่วร่างกาย หรือยืนสูบบุหรี่กันอย่างเป็นปกติ เมื่อสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้อง พวกเขาก็จ้องไปที่ซาบริน่าอย่างจงใจ ไม่ต่างจากนักล่าที่สังเกตเห็นเหยื่อของมันซาบริน่าพยายามเพ่งมองใบหน้าที่เธอรู้จักจากคนทั้งหมดในห้องเดียวกันนั้น ตรงข้ามกับผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่คือผู้หญิงอีกสามคนผู้หญิงสามคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นเนื้อหนังและร้อนแรง พวกเธอทุกคนสวมแค่เสื้อปาดหัวไหล่และกระโปรงที่สั้นเป็นพิเศษขณะที่ซาบริน่ามองไปรอบ ๆ และตรวจดูผู้คนในห้องนั้น เธอรู้สึกว่าสถานการณ์นี้เลวร้ายยิ่งกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นบนเรือสำราญมากเธอหันหลังเดินจากไปโดยไม่ลังเล ในตอนที่เธอพยายามที่จะก้าวเท้า หนึ่งในผู้หญิงสามนั้นก็เรียกเธอไว้ “นี่ หล่อนก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพกับพวกเราใช่ไหม? เข้ามาเร็วสิยะ ดูสิ แต่งตัวเรียบร้อยเกินไปป่ะเนี้ย? ในสถานที่แบบนี้ หล่อนใส่เสื้อผ้ามากชิ้นไม่ได้นะยะ "ซาบริน่าหน้าแดงขึ้นมาทันทีและพูดว่า “ฉันไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของพวกเธอนะ!”
เขาไม่สามารถทนต่อสิ่งนั้นได้!ไนเจลอยากให้ซาบริน่าได้เห็นด้วยตัวเองว่าเขาโหดร้ายแค่ไหน เพราะเขาจะโหดร้ายไม่แพ้ลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างแน่นอน!เขามองดูซาบริน่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเสียงของซาบริน่าดูลังเล แต่เธอก็พยายามพูดอย่างสั่นเทาว่า “ฉันขอโทษ นายน้อยไนเจล แต่งานแบบนี้ไม่เหมาะกับฉัน ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรสารภาพกับคุณ ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบากอีกต่อไป ลาก่อน!”เมื่อพูดจบ ซาบริน่าก็หันหลังเดินจากไปเธอเดินเพียง 2 ก้าว ก็ไปถึงประตูที่จะพาเธอออกไปจากห้อง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรประตูก็เปิดไม่ออก ซาบริน่าหันกลับมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว มองทุกคนในห้องที่มีใบหน้าที่ชั่วร้ายและเยาะเย้ยมาที่เธออย่างชัดเจนไนเจลยังคงมีรอยยิ้มอันโหดร้าย “เข้ามานั้นง่ายดาย แต่จะออกไปคงยากหน่อยแหละ”“อย่างนั้นเหรอคะ?” น้ำเสียงและท่าทางของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ขณะที่เธอมองไปที่ไนเจลอย่างสงบและเดินตรงไปหาเขาอย่างรวดเร็ว“อ้าว เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?” ไนเจลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ซาบริน่าหยุดอยู่ตรงหน้าไนเจล และดึงเข็มฉีดยาที่เธอกำแน่นในมือออกมาภายในเข็มฉีดยาสามารถมองเห็นสีแดงเข้มของเลือดไ
เมื่อก้าวออกจากห้องแล้ว ซาบริน่าก็เดินเข้าไปในลิฟต์ที่ซึ่งเธอทรุดตัวลงขณะที่ลิฟท์เคลื่อนตัวลงมาน้ำตาไหลอาบใบหน้าของเธอไม่หยุดไนเจลเป็นเศษเสี้ยวของความอบอุ่นเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของเธอ แม้แต่ในจินตนาการที่โลดโผนที่สุดของเธอ ซาบรินาก็ไม่เคยคิดเลยว่าไนเจลจะทำกับเธอเช่นนั้น เมื่อเธอเดินผ่านถังขยะ ซาบริน่าก็ขว้างเข็มฉีดยาเลือดไก่ที่เธอถืออยู่ไปโดยไม่หยุดคิด ด้วยท่าทางที่หดหู่เช่นเดียวกันกับสีหน้าของเธอทันทีที่เธอออกจากคลับ เธอรู้สึกคลื่นไส้เป็นอย่างมากและอาเจียนออกมาที่พุ่มดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในมุมที่ห่างไกลขณะที่เธอทำความสะอาดตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ เธอได้ยินคนพูดคุยกันซาบริน่ามองไปยังทิศทางของบุคคลที่เธอได้ยินเสียง และพบชายชุดดำในเงามืด เขากำลังโทรศัพท์หาใครบางคนอยู่ “ผู้อำนวยการฮอร์สท์ คุณแน่ใจรึว่าเจ้าหนุ่มคอนเนอร์อยู่ในห้องชั้นบนสุดน่ะ?”ซาบริน่าไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝั่งของสายกำลังพูด แต่ได้ยินชายชุดดำพูดว่า “ผมเปิดประตูได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่ต้องกังวล ผมจัดการให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี อย่าลืมโอนเงินสิบล้านเข้าบัญชีของผมด้วย”ซาบริน่าตกใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินชายคนนั้น
เมื่อซาบริน่าฟื้นคืนสติ เธอก็อยู่ในรถฉุกเฉินซึ่งมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลแล้ว ซาบริน่าจับมือของหมอ “อย่า อย่าใช้ยา...อย่าใช้ยาชากับฉันนะคะ”คุณหมอไม่รู้จะพูดอะไร“ฉันท้องอยู่ ฉันอยากจะเก็บลูกไว้ ฉันไม่มีครอบครัวอีกแล้ว ลูกคนนี้จะเป็นครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ ขอร้องแหละค่ะ ใช้…ใช้ยาชากับฉันไม่ได้นะคะ” ซาบริน่าขอร้องเซย์นไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกันสุดท้ายคุณหมอถามว่า “คุณทนเจ็บตอนเข้ารับการผ่าตัดไหวไหมล่ะ?”ซาบริน่าพูดด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่า “ฉันทนได้!”หลังจากที่แพทย์ให้การอนุญาต ซาบริน่าก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัดเซย์นรออยู่ข้างนอก เขาได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่ดังมาจากภายในห้องเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ซาบริน่าที่ถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด เธอหน้าซีด เหนื่อยล้า และเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเมื่อเธอออกจากห้อง เธอพบว่าเซย์นรอเธออยู่ข้างนอกตลอดเวลา“ขอบคุณค่ะ คุณสมิธ แต่ตอนนี้คุณกลับไปได้แล้วล่ะค่ะ” ซาบริน่าพูดอย่างอ่อนแรงเซย์นตอบว่า “ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร? เธอเพิ่งได้รับการผ่าตัด แล้วก็เธอยังมีลูกอยู่ในท้อง จะไม่มีคนดูแลเธอเลยได้อย่างไร?”ซาบริน่ามองไปที่เซย์น เห็นได
"หล่อน! หล่อนต้องการอะไร ตอนนี้หล่อนกำลังพยายามที่จะสูบเงินจากครอบครัวของเราเหรอ? ตอนแรก หล่อนมีความสัมพันธ์กับเซบาสเตียน หลานชายของฉัน และตอนนี้หล่อนคงรู้แล้วว่าหล่อนคงไม่มีอนาคตร่วมกับเขา หล่อนเลยไปหาหลานชายอีกคนของฉันใช่ไหม? นางตัวดี จำไว้นะ ถ้าหล่อนล่อลวงคนในครอบครัวฉันอีก ฉันมั่นใจเลยว่าหล่อนจะต้องพบกับจุดจบที่น่าเสียใจแน่!” เฮนรี่ที่ยืนอยู่หน้ากลุ่ม เริ่มด่าซาบริน่าขณะชี้นิ้วไปที่เธอใบหน้าของซาบริน่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่เธอไม่ได้แสดงถึงความขี้ขลาด “ขอโทษด้วยนะคะ นายท่านอาวุโสฟอร์ดแต่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยล่อลวงเซบาสเตียนหลานชายของคุณเลย! ไนเจลก็เหมือนกัน!“ฉันช่วยชีวิตไนเจลเอาไว้!”"หล่อนน่ะเหรอ? ช่วยชีวิตไนเจล?” หญิงวัยกลางคนร้องเสียงดังว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ไนเจลจะตกอยู่ในอันตรายตั้งแต่แรกไหม? เหตุผลเดียวที่ไนเจลของฉันยั่วโมโหเคนตันก็เพราะปัญหาที่หล่อนก่อขึ้นไม่ใช่เหรอ?!“หล่อน นางคนเถื่อน! หล่อนทำให้เคนตันสูญเสียความเป็นชายไป แล้วยังมีอะไรให้หล่อนต้องกลัวอีกล่ะ?!“ตอนแรกก็เซบาสเตียน และตอนนี้หล่อนกำลังไปหาไนเจล และหล่อนก็ไปหาตาแก่หัวงูเคนตันคนนั้นด้วย บอกฉันมาว่าหล่
ต้องเป็นเรื่องนี้อย่างแน่นอน!เมื่อคิดว่านั่นน่าจะใช่ เซลีนจึงพยายามหว่านล้อมเซบาสเตียน “นายน้อย คุณมาที่นี่เพื่อพาฉันไปลองชุดแต่งงานใช่ไหมคะ? ฉัน...ฉันสังเกตว่าในช่วงสองวันที่ผ่านมาฉันน้ำหนักขึ้น ท้องของฉันก็ใหญ่ขึ้น ถ้าเรารอนานไปกว่านี้ ฉันอาจจะใส่ชุดสวย ๆ ไม่ได้แล้วนะคะ”น้ำเสียงของเซบาสเตียนเย็นชา “ฉันจะให้คิงส์ตันพาเธอไปลองชุดแต่งงานวันพรุ่งนี้”“ถ้าอย่างนั้นวันนี้…” เขามาหาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธออย่างนั้นเหรอเซลีนรู้สึกมีความสุขมาก“ตระกูลลินน์เคยมีความเกี่ยวข้องกับเคนตัน ฮอร์สท์รึเปล่า?” เซบาสเตียนถามขึ้นทันทีเจดและเซลีนต่างก็ตกใจกลัวเมื่อได้ยินคำถามทำไมเซบาสเตียนถึงถามแบบนั้น?เจดพยายามจะพูดแต่ก็พูดตะกุกตะกักว่า “นายน้อย คุณก็รู้นี่ พวกเรา...ตระกูลลินน์ภักดีต่อคุณเพียงคนเดียวเสมอมา เรารู้ว่าเคนตันคือศัตรูตัวฉกาจของคุณ แล้วเราจะมีความเกี่ยวข้องกับเขาได้อย่างไร?”เซลีนยิ้มและพูดต่อ “ถูกอย่างที่คุณแม่พูด ไม่มีทางที่เราจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับคนอย่างเคนตัน”“แต่เขาเพิ่งติดต่อกับครอบครัวเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน” น้ำเสียงของเซบาสเตียนนิ่งยิ่งเซบาสเตียนกดดันมากเท่าไหร่ เจดและเ
เซย์นตะลึงกับคำพูดของเซบาสเตียนและทำได้เพียงมองซาบริน่าอย่างงุ่มง่าม ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้เซบาสเตียน "นายน้อย…"“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ” น้ำเสียงของเซบาสเตียนเคร่งขรึมแต่นิ่งสงบเซย์นไม่ดึงดัน เขาลุกขึ้นจากไปโดยทันทีเขารู้ว่าเซบาสเตียนนั้นโหดเหี้ยม แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะไม่ดูดุร้าย แต่เขาก็สามารถฆ่าคุณได้ในวินาทีถัดมาเมื่อเซย์นออกจากห้อง เซบาสเตียนก็เดินไปหาซาบริน่าและสบตากับเธอ ใบหน้าของเขาไร้อารมณ์แม้ว่าซาบริน่าจะแปลกใจที่เห็นเซบาสเตียนที่นี่ แต่เธอก็ถามอย่างใจเย็นว่า “คุณฟอร์ด วันนี้คุณมาที่นี่เพื่อหย่ากับฉันใช่ไหมคะ? แต่ตอนนี้ฉัน…”เธอมองที่แขนของเธอด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเซบาสเตียนกล่าวว่า “เธอยั่วผู้ชายเก่งจริง ๆ ! คนแรกก็ฉัน คนต่อมาก็มาร์คัส ชอว์ และไหนจะไนเจลอีก หลังจากนั้นก็มีเคนตัน ตอนนี้แม้แต่เซย์นก็ยังป้อนอาหารให้เธออย่างใกล้ชิดอีกสินะ?”ซาบริน่าถามว่า “คุณหมายความว่าอะไร?”“อาหารที่เซย์นป้อนเธออร่อยไหมล่ะ?”เธอถึงกับพูดไม่ออกเพราะสิ่งที่เซบาสเตียนเพิ่งพูดไป ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจผิดและเกิดอารมณ์โกรธกับเขาความโกรธที่แผดเผาลึกลงไปในดวงตาของเขานั้
“เหอะ!”เซย์นก็พลันพบความกล้าหาญจากภายในใจ และเขาก็ถ่มน้ำลายออกมา “นาย...ไม่ว่าจะเป็นไนเจล มาร์คัส เคนตัน หรือแม้แต่นายน้อยเซบาสเตียน ก็ล้วนเป็นผู้ชายนะ!“ผู้ชายที่เติบโตมาแบบพวกเขานั้นรังแกผู้หญิงไร้ทางสู้ได้แน่ แถมพวกเขารู้ด้วยว่าตนสามารถหลีกเลี่ยงได้หากทำอะไรลงไป ช่างน่าละอายจริง!“นายไม่คิดแบบนั้นเหรอ?“โดยเฉพาะนายน้อย...ในเมื่อแม่ของเขาเป็นผู้หญิงประเภทที่น่าสงสารที่ตระกูลฟอร์ดไม่ยอมรับเหมือนกัน เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลยเหรอ?!”หลังจากพูดจาโผงผางออกไป เซย์นมองที่คิงส์ตันเหมือนผู้ชายที่เตรียมใจจะตายแม้ว่าคำเหล่านั้นเป็นคำที่เขาตั้งใจพูดจริง ๆ แต่ในตอนแรกเขาก็ไม่กล้าที่จะพูด เมื่อเขาถูกคิงส์ตันยุแหย่เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ถูกเหยียบย่ำอีกต่อไป“ฉันเดาว่าตอนนี้นายคงอยากเอาชีวิตของฉัน ฉันแค่ขอร้องนายว่าอย่าข้องเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน สามเดือนที่ผ่านมา ในตอนที่ครอบครัวฟอร์ดต่อสู้อย่างดุเดือดกับครอบครัวอื่น ๆ นับไม่ถ้วน ครอบครัวสมิธไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยว ดังนั้นโปรดบอกนายน้อยเซบาสเตียนให้พิจารณาเรื่องนี้และไว้ชีวิตครอบครัวของฉันด้วย เพราะเราไม่เคยเหยียบย่ำเขาหรือแม่ของเขาเลย!”คิ