สีหน้าของเซบาสเตียนมืดมนลงในทันที เขาขมวดคิ้ว “เธอพูดอะไร?” ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยหยุดที่จะทำให้เขาประหลาดใจด้วยความสามารถในการทำให้เขาโกรธเคืองได้เลยนะ!“ฉันพูดว่า คุณพูลดูเป็นคนสง่างามมีมาตรฐาน ฉันบอกได้เลยว่าเขาน่าจะได้รับการเลี้ยงดูที่มีสถานะคล้ายกับคุณ เขาจะไม่รังเกียจคนอย่างฉันหรอกเหรอ?” ซาบริน่าพูดซ้ำอย่างใจเย็นเซบาสเตียนเอื้อมมือไปคว้าคอของซาบริน่าอย่างกะทันหัน “เธอจะไม่พูดถึงตัวเองแบบนั้นอีกนะ!”ครู่หนึ่ง ซาบริน่าสำลักและหายใจลำบาก เธอพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่ควรพูดถึงมัน หลังจากที่เขาปล่อยมือออก เธอไอเหมือนปลาที่ขาดน้ำและพยายามสูดอากาศบริสุทธิ์ ตอนนั้นเองที่มีคนมาเคาะประตู“เข้ามา” เซบาสเตียนพูดหลังจากกระแอมในลำคอพนักงานขายชั้นยอดของร้านก้าวเข้ามา "คุณฟอร์ดคะ นี่เป็นขนาดที่คุณให้กับทางเรา และรูปแบบได้รับการออกแบบตามคำอธิบายของคุณเรียบร้อยค่ะ เอ่อ...ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะที่จะลองสวม?" พนักงานขายมองไปที่ซาบริน่าซาบริน่าหน้าแดงเมื่อถูกการกล่าวถึง ตอนที่เซบาสเตียนพามาที่นี่ เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่ทุกคนตัดสินเธอ และเธอมั่นใจว่าพวกเขาคิดว่าเธอเป็นเพียงแค่ภรรยาอีกคนของเขาเ
ความงามของเธอเกินความคาดหมายไปมาก เธอมักจะเย็นชา แทบไร้ความรู้สึกเกือบตลอดเวลาที่เขารู้จักเธอ ครั้งเดียวที่เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอคือตอนที่เธออยู่กับแม่ของเขา เป็นรอยยิ้มที่จะได้เห็นในสาววัยรุ่น ทั้งอ่อนหวานและไร้เดียงสา เขายังได้เห็นว่าซาบริน่าแสดงท่าทีที่เหินห่างจากทุกคนตลอดเวลาราวกับว่าเธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับใคร แต่เขาไม่เคยเห็นเธออยู่ในกิริยาเย่อหยิ่งเช่นนี้ เขาต้องรู้สึกประหลาดใจกับความเย้ายวนจากเรือนร่างของเธอ"ฉันดูเป็นยังไงบ้าง?" ซาบริน่าถามอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ว่าชีวิตจะเติบโตขึ้นมายากแค่ไหน เธอไม่เคยนึกภาพตัวเองว่าสักวันหนึ่งจะหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นของเล่นสำหรับผู้ชาย แม้ว่าเธอจะติดอยู่ในเรือนจำเป็นเวลาสองปี เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อชีวิตบ้า ๆ นี้ เธอทำงานอย่างหนักและเรียนสถาปัตยกรรมจากความช่วยเหลือของป้าเกรซ และมักใฝ่ฝันที่จะหางานออกแบบตามต้องการ ตอนที่ได้รับการปล่อยตัวเพื่อที่จะได้มีเงินเลี้ยงดูตัวเธอและแม่อันเป็นที่รักจวบจนวันตาย ในความฝันเล็ก ๆ ของเธอ เธอเห็นว่าเธอมีแฟนที่รักเธอและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป แต่สิ่งต่าง ๆ กลับไม่เป็นไปตามที่เธอหวังเลย บางทีชะตากรรมอาจถูกกำห
ซาบริน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุด เซบาสเตียนก็พอใจ และเธอก็ไม่ต้องลองชุดอื่นอีก การลองเสื้อผ้าโดยเฉพาะที่ต้องทำให้คนดูพึงพอใจนั้นเป็นเรื่องที่น่าวิตก"เหนื่อยเหรอ?" เซบาสเตียนถาม“ฉันสบายดีค่ะ” เธอตอบเซบาสเตียนเหลือบมองไปที่พนักงานขาย "ช่วยจัดการเรื่องชุดทั้งหมดที่ฉันเลือกตั้งแต่แรกถึงชุดนี้ด้วย"“ค่ะ คุณฟอร์ด ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” พนักงานขายขานรับอย่างร่าเริงจากนั้นเซบาสเตียนก็หรี่ตาลงมองตาซาบริน่าและถามว่า “ชอบชุดนี้ไหม?” เขาเป็นคนเลือกชุดแต่ละชุดให้เธอโดยเฉพาะ บางชุดก็ดูเป็นผู้ใหญ่และบางชุดดูเด็ก มีชุดทุกสไตล์ที่เหมาะกับลักษณะเฉพาะตัวของซาบริน่า“ก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้นนะคะ” ซาบริน่าหลับตาลงอย่างสงบแล้วถามว่า “ฉันใส่ชุดนี้แล้ว ซื้อเยอะขนาดนี้จะไม่เสียเปล่าเหรอคะ?” เธออดไม่ได้ที่จะกังวลว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเข้าไปในหนี้ที่เธอติดเขา และตัดสินใจเตือนเขา“นี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เธอต้องใช้เสื้อผ้าพวกนี้หรอกนะ ในอนาคตยังมีอีกหลายโอกาสที่เธอต้องใช้!” เซบาสเตียนตะคอก“อ๋อ!” ซาบริน่าคิด “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ต่อจากนี้ไปฉันอาจถูกพาไปหาผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วน บางทีอาจจะหลายคนต่อวันด้วย น
พวกเธอต้องคำนึงถึงความเหมาะสม“อเล็กซ์ วันนี้ที่ฉันมาเนี้ยเพราะนายชวนหรอกนะ จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเซบาสเตียนมันจะปรานีคนอย่างฉันบ้างรึเปล่าวะ ฉันหมายถึง นายน่ะรู้ดีกว่าฉันอยู่แล้วว่าหมอนั้นมันไร้ความเป็นมนุษย์มากขนาดไหนไง ฉันรู้สึกว่าฉันจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าได้ผูกมิตรกับหมอนั่นได้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกเหมือนกันรึเปล่าไง!” ชายผู้พูดมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและดูเหมือนคนอายุสามสิบ แม้จะมีหน้าตาที่ร้ายกาจ แต่ผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เขาก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์น่าดู“เคลวิน!” อเล็กซ์มีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ “ฉันจะบอกนายให้นะว่าไอ้เรื่องที่เซบาสเตียนจะปรานีนายหรือไม่นั้นน่ะ นายไม่มีสิทธิ์จะบ่นหรอกนะ แม้แต่ฉันที่โตมากับเจ้าหมอนั่นน่ะก็ยังไม่เคยได้รับความเมตตาจากเขามากนักเลย! เขาเป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือก็จริงนะ แต่ก็ไม่เคยแทงข้างหลังใครหรอกนะเว้ย คิดถึงสิ่งที่นายทำในตอนนั้นสิ ถ้านายไม่ได้เล่นเขาไว้หนักเหมือนวันนั้น ป้าเกรซคงไม่ต้องเข้าคุก ไม่ต้องพูดถึงการตายจากอาการป่วยหลังจากนั้นเลย เซบาสเตียนจะมองข้ามเรื่องนี้ไปและผูกมิตรกับนายได้ยังไงวะ?”“ก็ฉันโดนพี่ชายของเจ้าเซยาสเตียนมันบังคับนิหว่า ในตอนนั้น
การสนทนาอันร้อนแรงปะทุขึ้นระหว่างห้องทันทีที่ได้ยินคำพูดของซาบริน่า มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองเซ้าท์ ซิตี้ว่าเซบาสเตียน ฟอร์ดได้ตามหาผู้หญิงคนหนึ่งจากต่างแดนด้วยตนเองและพาเธอกลับมา ราวกับว่าเขามีความแค้นที่ไม่อาจบรรยายได้ต่อผู้หญิงคนนี้ เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ซาบริน่าพูดก่อนหน้านี้ ทุกคนในห้องก็สรุปได้ทันทีว่าเธอเป็นต้นเหตุของข่าวลือ เมื่อเซบาสเตียนพาเธอมาที่นี่ เป็นไปได้ไหมที่เขาอยากจะมอบเธอให้เป็นของขวัญแก่เพื่อน ๆ ของเขา?“อยากประกาศนักรึไงว่าเธอเป็นใคร?” เซบาสเตียนกระซิบข้างหูของซาบริน่าด้วยท่าทางเย็นชา"อืม" ซาบริน่าไม่อยากอธิบายเพิ่มเติม อย่างไร สถานการณ์ปัจจุบันที่เธออยู่ มันก็ไม่ใช่จุดที่เธอจะแสดงความคิดเห็นได้ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ทั้งหมดที่เธอรู้คือต้องทำทุกอย่างที่เซบาสเตียนบอกให้ทำเซบาสเตียนจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างหมดคำพูด เขาอยากจะบีบคอเธอนักในบรรดาแขกในห้องนี้ สี่คนในนั้นเป็นพี่น้องของเขาแต่คนละแม่ซึ่งยืนเคียงข้างมาโดยตลอดช่วงขาขึ้นและขาลงของเขา ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาถูกตระกูลฟอร์ดลอยแพ เขาเป็นคนที่ไม่มีสิทธิ์ในมรดกของตระกูลและถูกห้ามไม่ให้มีส
เมื่อคนสนิทของเขาบุกเข้าไปในฟอร์ด กรุ๊ป ในที่สุดเซบาสเตียนก็สามารถพลิกสถานการณ์ในตระกูลฟอร์ดได้เมื่อหกปีที่แล้ว และกำจัดสมาชิกทุกคนในครอบครัวออกจากอำนาจในชั่วข้ามคืน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งน่าจะทำให้เกิดความโกลาหลทั่วทั้งเมืองหรือแม้กระทั่งทั่วทั้งประเทศ แต่ฟอร์ด กรุ๊ปยังคงมั่นคงโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย วันแรกที่เซบาสเตียนก้าวเข้ามาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของฟอร์ด กรุ๊ป ผู้บริหารระดับสูงทุกคนทักทายเขาทันทีในฐานะ "ผู้อำนวยการฟอร์ด" ราวกับว่าพวกเขารู้จักเซบาสเตียนมาโดยตลอด นั่นเป็นช่วงเวลาที่ฌอน ฟอร์ด นายท่านอาวุโสฟอร์ด และพ่อของเซบาสเตียนได้ตระหนักว่าพวกเขาประเมินเซบาสเตียนต่ำไป เซบาสเตียนอาจถูกส่งตัวไปไกล แต่เขาหาวิธีที่จะเข้าควบคุมฟอร์ด กรุ๊ป ตระกูลฟอร์ดได้ทำตามกฎที่จะไม่ส่งต่อมรดกให้กับลูกนอกกฎหมาย พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ หรือได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลฟอร์ด และเซบาสเตียนเป็นคนแรกที่ฝ่าฝืนกฎนั้นเซบาสเตียนเข้ามากำจัดตระกูลฟอร์ดให้หมดไปจากรากที่หยั่งลึก จนเหลือนายท่านอาวุโสและคุณผู้หญิง พ่อและแม่เลี้ยงของเขาเพียงเท่านั้น ในที่สุด เขาก็พูดความคิดของเขา
ขณะที่เซบาสเตียนพยายามควบคุมอารมณ์ อเล็กซ์ก็สุขใจกับความทุกข์ทรมานของเพื่อนตนและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขารู้จักเซบาสเตียนดีกว่าใคร ๆ สำหรับเขา เซบาสเตียนไม่เพียงแต่หาทางเอาตัวรอดมาได้ แต่ยังโต้กลับทุกการกดขี่จากตระกูลฟอร์ดทุกคนได้ด้วย เซบาสเตียนเป็นคนที่หาได้ยากในแง่ของความสามารถและความมุ่งมั่นเสมอมา ทั้งสี่คนอาจไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนสามารถผ่านความทุกข์ยากโดยมีเซบาสเตียนเป็นผู้นำ ตลอดระยะเวลาหกปี ใครจะคิดว่าในที่สุดเซบาสเตียน ฟอร์ดผู้โหดเหี้ยมจะพบหญิงสาวสักคนที่สามารถสะกดเขาให้อยู่อานัติได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ อเล็กซ์บอกได้ว่าคำเหล่านั้นที่ซาบริน่าพูดออกมาแม้ว่าจะไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับส่งผลกระทบกับเซบาสเตียนมากเสียจนเขาหาคำที่จะโต้กลับไม่ได้“งั้น คุณสก๊อตต์ครับ” อเล็กซ์แซว “สำหรับค่าตัวที่เซบาสเตียนพาคุณมาที่นี่ ต้องแพงมากแน่ ๆ เลยสิครับ”"อืม... ขอบคุณที่ถามนะคะ ฉันก็คิดว่างั้นเหมือนกัน" ซาบริน่าตอบ“ฟู่ว...” อีกครั้งที่อเล็กซ์สูญเสียการควบคุมตนเองไปและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“แม่หนูนี่ใครแน่?” เคลวินเหลือบมองอเล็กซ์และถาม“ใครงั้นเหรอ?
การมีเซบาสเตียนนั่งอยู่ด้วยน่าจะเป็นสิ่งดีกว่า เมื่อเซบาสเตียนออกไปรับโทรศัพท์ ซาบริน่ารู้สึกอึดอัดอยู่ในห้องขนาดมหึมานั้นเป็นอย่างมาก ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังซาบริน่าอเล็กซ์เผยรอยยิ้มบนใบหน้า ส่วนมาร์ตินดูสงบนิ่ง เคลวินมองไปที่อเล็กซ์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นและต้องการรับรู้ข่าวคราวจากอเล็กซ์เพิ่มเติม เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ เคลวินอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศและแทบไม่ได้ติดต่อกับเซบาสเตียนเท่าไหร่เลย ดังนั้น เขาจึงไม่ทราบสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้น เขาก็รู้ว่าคู่หมั้นของเซบาสเตียนมาจากตระกูลลินชื่อเซลีนแล้วผู้หญิงคนนี้ที่เซบาสเตียนพามาด้วยเป็นใครกันแน่เล่า?ในห้องนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหนุ่มที่จ้องมองซาบริน่าเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงทุกคนก็มองซาบริน่าเป็นตาเดียวเช่นกัน“ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกเซบาสเตียนจับมานิ”“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่ทำลายการแต่งงานของเซบาสเตียนเมื่อหลายปีก่อนสินะ”“เราก็ต่างรู้ดีว่าเซบาสเตียนโหดเหี้ยมแค่ไหน! เขาไม่เคยปล่อยให้ใครก็ตามที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจรอดไปได้ง่าย ๆ หรอก”“เธอไม่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดเองเหรอ? เธอติดสอยห้อยตาม