เมื่อคนสนิทของเขาบุกเข้าไปในฟอร์ด กรุ๊ป ในที่สุดเซบาสเตียนก็สามารถพลิกสถานการณ์ในตระกูลฟอร์ดได้เมื่อหกปีที่แล้ว และกำจัดสมาชิกทุกคนในครอบครัวออกจากอำนาจในชั่วข้ามคืน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งน่าจะทำให้เกิดความโกลาหลทั่วทั้งเมืองหรือแม้กระทั่งทั่วทั้งประเทศ แต่ฟอร์ด กรุ๊ปยังคงมั่นคงโดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย วันแรกที่เซบาสเตียนก้าวเข้ามาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของฟอร์ด กรุ๊ป ผู้บริหารระดับสูงทุกคนทักทายเขาทันทีในฐานะ "ผู้อำนวยการฟอร์ด" ราวกับว่าพวกเขารู้จักเซบาสเตียนมาโดยตลอด นั่นเป็นช่วงเวลาที่ฌอน ฟอร์ด นายท่านอาวุโสฟอร์ด และพ่อของเซบาสเตียนได้ตระหนักว่าพวกเขาประเมินเซบาสเตียนต่ำไป เซบาสเตียนอาจถูกส่งตัวไปไกล แต่เขาหาวิธีที่จะเข้าควบคุมฟอร์ด กรุ๊ป ตระกูลฟอร์ดได้ทำตามกฎที่จะไม่ส่งต่อมรดกให้กับลูกนอกกฎหมาย พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ หรือได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลฟอร์ด และเซบาสเตียนเป็นคนแรกที่ฝ่าฝืนกฎนั้นเซบาสเตียนเข้ามากำจัดตระกูลฟอร์ดให้หมดไปจากรากที่หยั่งลึก จนเหลือนายท่านอาวุโสและคุณผู้หญิง พ่อและแม่เลี้ยงของเขาเพียงเท่านั้น ในที่สุด เขาก็พูดความคิดของเขา
ขณะที่เซบาสเตียนพยายามควบคุมอารมณ์ อเล็กซ์ก็สุขใจกับความทุกข์ทรมานของเพื่อนตนและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขารู้จักเซบาสเตียนดีกว่าใคร ๆ สำหรับเขา เซบาสเตียนไม่เพียงแต่หาทางเอาตัวรอดมาได้ แต่ยังโต้กลับทุกการกดขี่จากตระกูลฟอร์ดทุกคนได้ด้วย เซบาสเตียนเป็นคนที่หาได้ยากในแง่ของความสามารถและความมุ่งมั่นเสมอมา ทั้งสี่คนอาจไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนสามารถผ่านความทุกข์ยากโดยมีเซบาสเตียนเป็นผู้นำ ตลอดระยะเวลาหกปี ใครจะคิดว่าในที่สุดเซบาสเตียน ฟอร์ดผู้โหดเหี้ยมจะพบหญิงสาวสักคนที่สามารถสะกดเขาให้อยู่อานัติได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ อเล็กซ์บอกได้ว่าคำเหล่านั้นที่ซาบริน่าพูดออกมาแม้ว่าจะไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ แต่กลับส่งผลกระทบกับเซบาสเตียนมากเสียจนเขาหาคำที่จะโต้กลับไม่ได้“งั้น คุณสก๊อตต์ครับ” อเล็กซ์แซว “สำหรับค่าตัวที่เซบาสเตียนพาคุณมาที่นี่ ต้องแพงมากแน่ ๆ เลยสิครับ”"อืม... ขอบคุณที่ถามนะคะ ฉันก็คิดว่างั้นเหมือนกัน" ซาบริน่าตอบ“ฟู่ว...” อีกครั้งที่อเล็กซ์สูญเสียการควบคุมตนเองไปและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“แม่หนูนี่ใครแน่?” เคลวินเหลือบมองอเล็กซ์และถาม“ใครงั้นเหรอ?
การมีเซบาสเตียนนั่งอยู่ด้วยน่าจะเป็นสิ่งดีกว่า เมื่อเซบาสเตียนออกไปรับโทรศัพท์ ซาบริน่ารู้สึกอึดอัดอยู่ในห้องขนาดมหึมานั้นเป็นอย่างมาก ทุกสายตาต่างจับจ้องมายังซาบริน่าอเล็กซ์เผยรอยยิ้มบนใบหน้า ส่วนมาร์ตินดูสงบนิ่ง เคลวินมองไปที่อเล็กซ์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นและต้องการรับรู้ข่าวคราวจากอเล็กซ์เพิ่มเติม เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ เคลวินอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศและแทบไม่ได้ติดต่อกับเซบาสเตียนเท่าไหร่เลย ดังนั้น เขาจึงไม่ทราบสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้น เขาก็รู้ว่าคู่หมั้นของเซบาสเตียนมาจากตระกูลลินชื่อเซลีนแล้วผู้หญิงคนนี้ที่เซบาสเตียนพามาด้วยเป็นใครกันแน่เล่า?ในห้องนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหนุ่มที่จ้องมองซาบริน่าเท่านั้น แต่รวมถึงผู้หญิงทุกคนก็มองซาบริน่าเป็นตาเดียวเช่นกัน“ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกเซบาสเตียนจับมานิ”“ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่ทำลายการแต่งงานของเซบาสเตียนเมื่อหลายปีก่อนสินะ”“เราก็ต่างรู้ดีว่าเซบาสเตียนโหดเหี้ยมแค่ไหน! เขาไม่เคยปล่อยให้ใครก็ตามที่ทำให้เขาขุ่นเคืองใจรอดไปได้ง่าย ๆ หรอก”“เธอไม่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดเองเหรอ? เธอติดสอยห้อยตาม
ซาบริน่าไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมอง เพียงแต่ล้างมืออย่างใจเย็นเท่านั้น"เธอ!" น้ำเสียงเย็นชาของแอร์แฝงไปด้วยความไม่ยอมอ่อนข้อใด ๆ เลย “ข้อเท้าฉันแพลง ช่วยถือรองเท้าให้ฉันหน่อยได้ไหม ได้ยินรึเปล่า?!”ซาบริน่าล้างคราบเหงื่อออกจากฝ่ามือแล้วหันกลับไปมองแอร์ ผู้หญิงคนนั้นสวยแต่ก็มีความหยิ่งทะนงในตัวเองเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ซาบริน่าจะดูน่าเบื่อและดูไม่แยแสใคร ๆ น้ำเสียงของเธอดูเฉยเมยมากกว่า "พูดว่าอะไรนะคะ"แอร์สะบัดผมยาวเป็นลอนไปด้านหลัง พร้อมเชิดหน้าอกและเดินมาขวางทางของซาบริน่า “เธอเป็นแค่เด็กนั่งดริงก์ ทำไมเธอไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเนี้ย? การได้ถือรองเท้าของฉันเป็นเกียรติสำหรับเธอนะ! เธอควรรู้ด้วยนะว่าเธอก็แค่เด็กที่ติดสอยห้อยตามเซบาสเตียนมาก็เท่านั้น! และควรรู้ไว้นะว่าในวันหนึ่งเซบาสเตียนจะทรมานเธอไปจนตาย ถ้าเธอถือรองเท้าให้ฉันตอนนี้ ฉันอาจจะช่วยเธอไว้ในอนาคตก็ได้ เธออยากจะทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันจริง ๆ เหรอ?”ซาบริน่าไม่อยากลงเอยด้วยการทะเลาะกับผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักคนนี้ เธอบีบจมูกของเธอและพูดอย่างเหยียดหยาม “คุณจะหลีกทางให้ฉันรึเปล่าคะ?”แอร์พูดไม่ออก เด็กนั่งดริงก์แสนน่ารังเ
เขาหนีหายไปเป็นเวลาหกปี เพื่อที่จะตามหาเซย์น พ่อแม่ของเซย์นถูกบังคับให้ขายบริษัทให้กับเเซคในราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ตอนนี้แซคเป็นผู้ที่ความคุมดูแลสมิธ กรุ๊ปครอบครัวของเซย์นกลับถูกเซบาสเตียนไล่ออกนอกประเทศ และไม่ทราบที่อยู่ของพวกเขา เซบาสเตียนสามารถตามหาซาบริน่าและเซย์นได้เพราะแซค แซคเคยช่วยเซบาสเตียนเพราะเขาต้องการให้เซบาสเตียนติดหนี้บุญคุณเขา และเขาต้องการเข้าไปในแวดวงของเซบาสเตียน เขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของตนเองในเซ้าท์ ซิตี้แซครู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาในการเข้าไปคลุกคลีกับแวดวงของเซบาสเตียน เพราะภรรยาของแซคเป็นลูกพี่ลูกน้องของอเล็กซ์ พูลแซคจึงโชคดีในการเข้าร่วมการสังสรรค์กับกลุ่มพี่น้องสี่คนด้วยความสัมพันธ์เช่นนั้น แต่แซคกังวลว่าจะไม่มีเรื่องคุยกับพวกเขาจึงได้พาผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ตัวเขามาด้วยเธอเป็นดาราภาพยนตร์ชั้นนำระดับนานาชาติ ความสวยและความสง่างามของแอร์ในทุกท่วงท่านั้นน่าจดจ้อง แม้แต่ทักษะการสื่อสารของเธอก็อยู่ในระดับที่ดีทีเดียว ติดเพียงแค่แอร์เป็นเพื่อนของภรรยาที่ทรงอำนาจมากกว่าเขานัก มิฉะนั้น แซคก็อยากจะได้ดาราหนังคนนี้มาอยู่บนเตียงนอนของเ
เมื่อเธอพูดไปเช่นนั้น ทุกคนก็ตกตะลึงก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบ ซาบริน่าเดินไปหาแซคและถามว่า “คุณคะ… คุณเป็นญาติกับพี่ชายฉันใช่ไหมคะ? คุณรู้ไหมคะว่าตอนนี้พี่ชายอยู่ที่ไหน? เขาอยู่ที่ไหน เขาสบายดีรึเปล่าคะ?”แซคถอยกลับด้วยความประหลาดใจ ในห้องนั้นคนที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างซาบริน่ากับเซบาสเตียนมากที่สุดก็คือแซค เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับเซบาสเตียนมากขึ้น แซคแกล้งทำเป็นเป็นมิตรสนิทกับลุงและป้าของเขา แซคแอบฟังการสนทนาระหว่างพวกเขากับเซย์นและรู้ว่าที่ซ่อนของเซย์นอยู่ที่ไหน และได้ช่วยเซบาสเตียนค้นหาเซย์นและซาบริน่าแซคได้ยินจากลุงและป้าของเขาว่าเซบาสเตียนเกลียดซาบริน่ามากแค่ไหนในขณะนั้น เมื่อซาบริน่าพุ่งเข้าหาเขา แซคก็ตะโกนออกมาด้วยความรังเกียจทันทีว่า “เธอทำอะไรน่ะ นางผู้หญิงไร้หัวใจ! เธอทำร้ายลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอกำลังพยายามจะทำร้ายฉันอีกคนด้วยเหรอไง?! ฉันมีเมียแล้วเว้ย! เมียกับฉันยังรักกันดีอยู่ และฉันจะไม่ทำให้ตัวเองต้องมาแปดเปื้อนกับผู้หญิงอย่างเธอด้วย!”ซาบริน่าตกตะลึง “ลูกพี่ลูกน้องของคุณเหรอคะ? พี่ชายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณใช่ไหมคะ? รู้ไหมคะว่าเขาอยู่ที่ไหน?”แซคตอบอย่างเย็นชาไปว่า “ข
“อเล็กซ์ นายเตะฉันทำไมเนี้ย?!” มาร์ตินถามเมื่อมองดูความตึงเครียดในบรรยากาศ ซาบริน่าลุกขึ้นและพูดว่า “ใช่ค่ะ ฉันมาที่นี่… เพื่อรับใช้พวกคุณทุกคนค่ะ”ใบหน้าของเซบาสเตียนมืดลงเพราะคำพูดของเธอ แอร์เห็นว่าท่าทีของเซบาสเตียนรุนแรงแค่ไหนและรีบหัวเราะออกมา “นี่ ช่วยจำใส่สมองเอาไว้ด้วยว่าหล่อนมีหน้าที่รับใช้ใคร ผู้อำนวยการฟอร์ดถูกลงโทษให้ดื่มสามสิบแก้ว ดังนั้นเธอจะต้องช่วยเขาดื่มให้หมด เมื่อเธอดื่มจนหมดแล้ว กลิ่นของเหล้าจะช่วยทำให้เธอมีเสน่ห์ขึ้นมานะ นอกจากนี้ เด็กนั่งดริงก์อย่างเธอก็ควรจะดื่มพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบนี้เก่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? พวกเธอส่วนใหญ่ไม่ได้ดื่มย้อมใจก่อนจะออกไปกับผู้ชายหรอกเหรอ?”หลังจากนั้น แอร์ก็เทแอลกอฮอล์ให้ซาบริน่าอย่างหนัก เธอต้องการทำให้ผู้หญิงคนนั้นจมแอลกอฮอล์ตายไปเสีย! คงจะวิเศษมากถ้าซาบริน่าเมาในห้องนี้ จากนั้นแอร์ก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเซบาสเตียนขณะที่แอร์หยิบแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นมา เธอได้ยินเสียงของเซบาสเตียนพูดขึ้น “ชื่อแอร์ใช่ไหม?”แอร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ประจบประแจง “ผู้อำนวยการฟอร์ด ฉันแอร์ค่ะ… ”"ดาราภาพยนตร์สินะ?" เซบาสเตียนถามแอร์ยิ้มและกล่าวตอบ “ใ
แอร์นิ่งอึ้ง “... คุณฟอร์ด คุณพูดว่าอะไรนะคะ?”เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เซบาสเตียนขอให้เธอเป็นเด็กนั่งดริงก์เหรอ เธอไม่เคยเจอกับความอัปยศแบบนี้มาก่อนเลย“เป็นเด็กนั่งดริงก์ไง!” เซบาสเตียนพูดอีกครั้งอย่างใจเย็นแอร์ตอบอย่างเย็นชาและจองหองทันที “คุณฟอร์ด! คุณไม่ได้มีเด็กนั่งดริงก์อยู่ข้าง ๆ คุณอยู่แล้วเหรอคะ? ฉันไม่ใช่เด็กนั่งดริงก์นะคะ! ฉันจะไม่ทำตัวเป็นพวกเดียวกับมันหรอกค่ะ!”น้ำเสียงของเซบาสเตียนยังคงสงบ “แล้ววันนี้เธอมาที่นี่ทำไมล่ะ?”แอร์เริ่มพูด “ฉันมาที่นี่กับคุณสมิธ-”“ภรรยาของคุณสมิธเป็นลูกพี่ลูกน้องของอเล็กซ์ใช่ไหม?” เซบาสเตียนถามอย่างเย็นชา “ถ้าอย่างนั้น บอกฉันมาทีสิว่าเธอมาที่นี่ด้วยสถานะอะไร?”แอร์พูดไม่ออก“เด็กนั่งดริงก์ก็คือเด็กนั่งดริงก์! เธอมาที่นี่ในฐานะคนที่มาเป็นเพื่อนเท่านั้น แต่เธอกำลังพยายามจะโอ้อวดตัวเองอย่างนั้นเหรอ?” เซบาสเตียนถามกลับอย่างไร้ความปรานีแอร์รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตา เธอพูดตะกุกตะกัก “คุณฟอร์ดคะ… ”ขณะที่เธอพูด ซาบริน่าใช้นิ้วบีบจมูกอีกครั้ง ซาบริน่าไม่ชินกับกลิ่นนั้นจริง ๆเธอทำงานใช้แรงงานมาบ้างเมื่อตอนอยู่ที่เคียร์รายและ