“ตบหน้าลูกสาวของหล่อนซะ หล่อนจะหยุดมือได้ก็ต่อเมื่อฉันบอกให้หยุด หากหล่อนไม่เต็มใจที่จะตบหรือถ้าตบไม่แรงพอ ฉันจะให้ชายร่างใหญ่และดุร้ายสองคนใช้ส้นรองเท้าตบลูกสาวหล่อนหนึ่งร้อยแทน”เจดตกตะลึง “คุณผู้หญิงฟอร์ด อะไรนะ...คุณพูดว่าอะไรนะคะ?”เซลีนยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก จนเธอเดินโซซัดโซเซและล้มลงกับพื้นด้วยน้ำตานองหน้าเกรซไม่ต้องการพูดซ้ำหลายหน จึงได้ถามเจดไปว่า “หล่อนจะทำ หรือให้ฉันหาคนอื่นมาทำแทน”“ฉันเอง! ฉันจะทำเอง ฉันจะทำเองค่ะ!” เจดคลานมาที่ด้านหน้าของเซลีน เธอยกมือขึ้นตบหน้าของเซลีนอย่างแรง“แม่คะ…” เซลีนร้องไห้ขณะที่มองดูแม่ของเธอ“ดีกว่าผู้ชายสองคนตบลูกด้วยส้นรองเท้านะ” เจดยกมือขึ้นตบอีกครั้ง ตบไปที่แก้มขวาของเซลีนเจดตบอย่างแรงราวกับว่าเธอกลัวว่าเกรซจะไม่พอใจเซลีนปล่อยเสียงคร่ำครวญขณะที่เธอถูกตบ แต่เธอไม่กล้าแม้แต่ขอความเมตตาเจดยังคงตบต่อไปจนมือทั้งสองข้างของเธอบวม และเธอก็หอบอย่างหนักจากความเหนื่อยล้า ในทางกลับกัน ใบหน้าของเซลีนก็บวมเหมือนลูกโป่งขนาดใหญ่สองลูกแล้ว และแก้มทั้งสองของเธอก็เปลี่ยนเป็นแดงราวกับตับหมูเซลีนดูเหมือนหมูอ้วนซาบริน่าไม่มีความสงสารต่อเธอเลยเ
คิงส์ตันไม่ได้รับสัญญาณการโต้ตอบจากเซบาสเตียนเลย และไม่มีเสียงใดให้ได้ยินหลังจากผ่านไปนาน“ท่านเซบาสเตียน ท่านเซบาสเตียนครับ?” คิงส์ตันเรียกอีกด้านหนึ่ง เสียงของเซบาสเตียนเย็นชามาก “อ้อ”คิงส์ตันพูดไปว่า “นายน้อยเซบาสเตียน คุณมีคำสั่งอะไรอีกไหมครับ?”“สองสามวันนี้ฉันจะยุ่ง วันมะรืนนี้ อย่าลืมไปรับเซลีน และรอฉันที่ด้านนอกคฤหาสน์ฟอร์ดหลังเก่า” เซบาสเตียนต้องการใช้เซลีน ช่วยกันพวกผู้อาวุโสต่าง ๆ ที่เชิญมาในนามเขา “รับทราบครับ นายน้อยเซบาสเตียน ผมจะวางสายแล้วนะครับ” คิงส์ตันกล่าวอย่างสุภาพ“อีกเรื่อง” เซบาสเตียนเรียกคิงส์ตันทันที“ตามเธอไป” น้ำเสียงของเซบาสเตียนมีความโกรธเล็กน้อยคิงส์ตันเอ่ยถาม “ตามใครครับ?” ทันทีที่เขาพูด เขาก็ตบหัวตัวเองและพูดขึ้น “รับทราบครับ นายน้อยเซบาสเตียน ผมจะตามคุณสก๊อตต์ไปทันที!”หลังจากที่วางสาย คิงส์ตันก็ขับรถตามซาบริน่าไป อย่างไรก็ตาม การสะกดรอยตามซาบริน่าเป็นเรื่องง่ายดายมาก หลังจากที่ออกจากตึกผู้ป่วยของเกรซ ซาบริน่าไปยังร้านเบเกอรี่และซื้อขนมปังก้อนใหญ่สองก้อน เธอกินซาลาเปาระหว่างรอรถประจำทาง หลังจากรถประจำทางมาถึง เธอขึ้นรถและตรงไปยังบ้านของเซบา
รถของไนเจลมาจอดตรงหน้าซาบริน่าอย่างไม่เป็นที่สังเกต “ซาบริน่า ขึ้นมาสิ ผมกำลังจะกลับบ้านอยู่พอดี ให้ผมไปส่งไหม?” ซาบริน่ามองดูเนื้อตัวที่เกรอะกรังและคลุกฝุ่นของเธอ แล้วส่ายหน้าพร้อมยิ้ม “ไม่ค่ะ ฉันรอรถประจำทางดีกว่า”“มันดึกมากแล้ว ไม่น่ามีรถประจำทางอีกแล้วล่ะ หรือบางทีรถประจำทางอาจจอดเสียอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้ ดังนั้นคุณคงจะกลับบ้านไม่ได้เว้นแต่จะเรียกแท็กซี่แทนนะ” ไนเจลพูดอย่างใจดีเรียกแท็กซี่?เธอแทบจะถังแตกอยู่แล้ว“ขึ้นมาเถอะ” ไนเจลเปิดประตูให้ซาบริน่าด้วยตนเอง และซาบริน่าก็เข้ามาโดยไม่ลังเลอีกต่อไป“จะไปไหน?” ไนเจลถามเบา ๆ“โรงพยาบาลฮาร์โมนี่ค่ะ” ซาบริน่าพูดสั้น กระชับเพียงสองคำ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกไนเจลมองดูซาบริน่าสองสามครั้งตลอดการเดินทาง เธอมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้เริ่มบทสนทนาใด ๆ กับไนเจล จนกว่าเธอจะลงจากรถอย่างไรก็ตาม ไนเจลไม่กังวลเลยยิ่งเกมนี้ยืดเยื้อโดยใช้เวลานานเท่าไร ก็ยิ่งคุ้มค่าที่จะตั้งตารอมากขึ้นเท่านั้นรถหยุดลง เมื่อถึงเวลาต้องลงจากรถ ไนเจลเดินลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูรถให้ซาบริน่า ซาบริน่าเหนื่อยจากวันที่ยาวนาน และขาของเธอก็ชาเ
“ท่านเซบาสเตียน…” เซลีนอยากจะร้องไห้แต่ไม่กล้า เพราะทำให้ใบหน้าของเธอดูน่าเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก “ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน และสถานะทางสังคมของคุณก็เหนือกว่าฉันมาก ฉันจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก”เซลีนหันหลังเดินออกไปเซบาสเตียนคว้าแขนเธอไว้โดยไม่ได้คาดคิดเขารู้สึกเบื่อหน่ายเซลีนมากขึ้นอย่างไรก็ตาม เขายังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ เซลีนเคยช่วยชีวิตเขาด้วยร่างกายของเธอ จึงทำให้เขากลืนความขยะแขยงทั้งหมดที่เขามี และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้น้ำเสียงของเขาอ่อนลงแทน “หน้าเธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”เซลีนมีน้ำตาสองสายไหลลงมาด้วยความคับข้องใจและส่ายหัว“พูดสิ!” เซบาสเตียนพูดอย่างหมดความอดทน“แม่… แม่ตบฉัน” เซลีนพูดอย่างตรงไปตรงมา“หืม?”เซลีนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “แม่… แม่ของคุณส่งคนมาพาแม่กับฉันไป เธอบอกว่าเธอต้องการ… ล้างแค้นให้ลูกสะใภ้ เธอจึงขอให้แม่ของฉัน… ตบหน้าฉัน ถ้าแม่ไม่ตบฉัน แม่ของคุณจะ… ขอให้ผู้ชายสองคนเอาส้นรองเท้ามาตบหน้าฉัน คนละร้อยครั้ง”เซบาสเตียนพูดไม่ออกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม่ของเขาถูกใส่ร้ายป้ายสีนับครั้งไม่ถ้วนตอนที่ยังอยู่ในตระกูลฟอร์ด ในตอนแรกแม่ของเ
ซาบริน่าดึงมือของเธอกลับมา แล้วตอบกลับเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไร้ชีวิตชีวา “ฉันแค่ต้องการหารายได้พิเศษ”“ชิ คิดว่ากำลังตีหน้าซื่อใส่ใครกัน?!” พนักงานบริการหัวเราะเยาะ และเหวี่ยงมือของซาบริน่าออกไปซาบริน่าเซและล้มลงซาบริน่าเงยหน้าขึ้น และเห็นเซบาสเตียนยืนอยู่ไม่ไกลเซบาสเตียนกำลังมองมาที่เธอ และมีใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แต่ซาบริน่ารู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจไม่พอใจมากเธอลดความเร็วของฝีเท้าลง และค่อย ๆ เดินหลบกลุ่มพนักงานบริการจากด้านหลัง จากนั้นก็เข้ามาหาเซบาสเตียนอย่างเงียบ ๆ เธอกำลังจะอธิบายบางอย่าง แต่เซบาสเตียนบีบคางของเธอซาบริน่าตัวสั่นด้วยความกลัวเซบาสเตียนเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อประคองเธอทันที และเขาก้มลงจูบซาบริน่าโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใด ๆ จูบของเขามีกลิ่นอายของความบ้าคลั่งและความปราถนาของตน แต่ก็ยังมีความผสมผสานระหว่างการหยอกล้อและการลงโทษด้วยซาบริน่ารู้สึกอับอายอย่างมาก เธอดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหลุดพ้นแล้วรีบวิ่งหนีไปรถสองคันจอดอยู่ไม่ไกลไนเจลพูดคุยกับเซย์นในรถ “ลูกเจี๊ยบตัวนี้ ทำให้ฉันมีอาการหนาวสั่นมาสองสามวันแล้ว และฉันคิดว่าเธอยังไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ ฉันไม่ไ
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นมองเซบาสเตียนทันทีเซบาสเตียนถือผลตรวจการตั้งครรภ์ไว้ในมือ นอกจากนี้ นั้นยังเป็นใบแสดงผลการตรวจการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธออีกด้วย เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าตลอด แต่เมื่อถูกเซลีนลักพาตัวไปในภายหลัง เซลีนก็หยิบแผ่นนั้นออกไปหลังจากนั้น เธอได้รับการช่วยเหลือจากเซบาสเตียน และคิดว่าเธอทำผลตรวจนี้หายไปแล้วเธอไม่เคยคาดคิดว่ามันจะอยู่ในมือของเซบาสเตียน“คุณ… ทำไมคุณถึงมีผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉันได้?” แก้มของซาบริน่าร้อนผ่าวทันที เธอรู้สึกอับอายจากการที่คนอื่นล้วงล้ำเรื่องส่วนตัวของเธอวันนี้เธอต้องอับอายต่อหน้าเซบาสเตียนมากพอแล้วอยู่ดี ๆ เขาก็พุ่งตัวเข้ามาจูบเธอกลางวันแสก ๆเขายังถือและโบกผลตรวจการตั้งครรภ์ของเธออยู่ตรงหน้า ซาบริน่ารู้สึกว่าเธอกำลังมองหน้ารอยแตกสักแห่งแล้วแทรกตัวหนีออกจากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไรก็ตาม ท่าทีของเซบาสเตียนนั้นเย็นชามากจนทำให้หัวใจของซาบริน่าหดตัวเป็นลูกบอลเธอกลัวเขาเล็กน้อยเธอเห็นด้วยตาของเธอเองว่าเขาจัดการกับพวกอันธพาลที่เคยลักพาตัวเธอไปอย่างไร“ได้โปรด… ได้โปรดคืน… ผล… ผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉันมาด้วยค่ะ” ซาบริน่ากระพริบขนตาที่โค้งมนเพื
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะอุ้มท้องลูกของผู้ชายคนไหนอยู่! เธอมีความกล้าที่จะมาที่นี่ ดังนั้น เธอจะต้องรับผลกรรมของการมาที่นี่ ถ้าเธอต้องการเผยแพร่ข่าวว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกของฉันเพื่อให้ทั้งตระกูลฟอร์ดยอมรับเธอ ไม่มีทาง!” ชายคนนั้นหันกลับมาและจากไปหลังจากพูดอย่างนั้น ซาบริน่าตกใจมากจนทรุดลงกับพื้น และน้ำตาของเธอก็หยุดไม่ได้เป็นเวลานาน เธอมีสติขึ้นมา ก็ตอนที่มีคนโทรมาหาเธอ โทรศัพท์ของเธอเป็นรุ่นเก่าเมื่อสองปีก่อน ก่อนที่เธอจะถูกคุมขัง หน้าจอแตกและร้าวมาเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงไม่สามารถถ่ายภาพได้เลย นั่นคือเหตุผลที่เธอตั้งใจเช่ากล้องมา อย่างไรก็ตาม ไม่เจอกล้องเลย แต่เซบาสเตียนพบว่าเธอกำลังท้องเสียด้วย ซาบริน่ารับสายด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ “สวัสดีค่ะ?” “ซาบริน่า เธออยู่ที่ไหน? ฉันบอกเธอแล้วว่าอย่าขี้เกียจ ทุกคนต่างมาเป็นพนักงานบริการ ทำไมเธอถึงซ่อนตัวอยู่ล่ะ? ออกมาเดี๋ยวนี้ แขกทุกคนอยู่ที่นี่หมดแล้ว ดังนั้นเธอต้องมาเสิร์ฟไวน์และถาดผลไม้” หัวหน้าพนักงานบริการโทรหาเธอ “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” ซาบริน่ารีบเช็ดน้ำตาของเธอ และกลับไปที่งานเลี้ยง ตระกูลฟอร์ดได้เชิญครอบครัวจากสังคมชนชั้
เซบาสเตียนจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาจากราวบันไดชั้นสาม แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆเขาถือแก้วไวน์หันหลังเดินจากไปอย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเหยียบมือของซาบริน่า เธอถูกชายอีกคนหนึ่งในชุดสูทมาขวางไว้ชายคนนั้นตำหนิผู้หญิงเล็กน้อยว่า “มินดี้ ไม่ระวังเลยนะครับ! คุณจะเหยียบไปบนมือของพนักงานบริการในงานเลี้ยงของครอบครัวฟอร์ดได้อย่างไงกัน?”“นี่นาย! พนักงานบริการหน้าโง่นี่ทำให้การมาที่นี่ของฉันเปล่าประโยชน์ เธอเอาอกเอาใจนายน้อยเซบาสเตียน และเขาก็จูบเธอต่อหน้าทุกคน ถ้าฉันไปคุยกับเซบาสเตียนหลังจากเหตุการณ์นั้น ฉันจะไม่เสียหน้าเลยรึไง? ทั้งหมดเป็นเพราะนังผู้หญิงคนนี้คนเดียว!” มินดี้กระทืบเท้าด้วยความโกรธชายคนนั้นหัวเราะอย่างไม่พอใจ “เธอเข้าใจผิดไปเองน่ะสิ! ท่านเซบาสเตียนจูบเธอ แสดงว่าเธอสะดุดตาเขา โกรธเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถูกไหม?”มินดี้พูดว่า “…นายนี่มัน!”“ถ้าเป็นฉัน ฉันคิดว่าเธอไม่ควรมาวันนี้ มีผู้หญิงมากมายที่ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเป็นนายหญิงของตระกูลฟอร์ด เธอมั่นใจแค่ไหนกันในการชนะครั้งนี้?” ชายคนนั้นถามกลับเป็นการตอบมินดี้กระทืบเท้า และหันหลังเดินจากไปด้วยความโกรธแค้นชายคนนั้นเอ