“หลินเซียวบอกว่าจะจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่อลังการกว่างานของเธอใช่ไหม? ตอนนี้ให้ตระกูลหวังไปเหมาจองโรงแรมซันแอนด์มูนให้หมด ถ้าตระกูลหวังคิดว่าแพง เงินก้อนนี้เดี๋ยวตระกูลซูของเราจะเป็นคนออกเอง! ฉันยังต้องการให้เจ้าสัวทางธุรกิจทั้งเมืองหนานหูมาอวยพรงานแต่งของพวกเธอด้วย ฉันจะดูสิว่าหลินเซียวมันจะชนะได้ไหม!” ท่านย่าซูพูดขึ้นด้วยความโกรธ“ท่านย่าคะ วิธีนี้ดีเลยค่ะ! หนูจะโทรหาหวังเทียนเฟิงตอนนี้เลยค่ะ และให้ตระกูลหวังแจกการ์ดเชิญเยอะๆหน่อย” ซูชิงเอ๋อร์พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เดิมทีตัวเธอเองก็แค่คิดจะใส่ร้ายซูหว่านเอ๋อร์สักหน่อย ไม่คิดว่าท่านย่าจะทำเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงแบบนี้ เพียงเท่านี้ตัวเองก็ไม่ต้องออกเงินจัดงานแต่งสักบาท นี่มันช่างคิดไม่ถึงเลยจริงๆ “ก่อนหน้านี้หลินเซียวเคยบอกว่างานแต่งของมันถ้าไม่ยิ่งใหญ่อลังการกว่างานแต่งของเธอ ก็จะยอมหย่ากับซูหว่านเอ๋อร์ ฉันจะให้คนร่างหนังสือข้อตกลงหย่าร้างเอาไว้ซะก่อน รอให้ถึงวันงาน เอาให้พวกมันเซ็นตรงนั้นเลย แล้วให้หลินเซียวไสหัวไปซะ! “ ท่านย่าซูพูดขึ้นอีกครั้ง“แบบนี้แล้ว งานแต่งของพี่กลับกลายเป็นสถานที่เซ็นใบหย่า แค่ลองคิดดูก็รู้สึกอับอายแล้ว”
อย่างไรซะ ชู๋ยู่หยานก็มีรูปร่างหน้าตาและด้านอื่นๆ ที่ก็ถือว่าไม่เลวเลย เธอและจางเหยายืนเคียงข้างกันก็ไม่มีใครดูเด่นไปกว่าใครที่สำคัญที่สุดก็คือในตอนนี้เธอเป็นถึงรองประธานของหนานหูกรุ๊ปโดยเปิดเผย ถ้าได้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับหว่านเอ๋อร์ คนของตระกูลจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษแน่ๆหลินเซียวพูดเสร็จ ชู๋ยู่หยานถึงกลับมามีสติอีกครั้ง ที่ไหนได้เธอคิดไปเองทั้งนั้น เขาก็แค่อยากให้เธอมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวก็เท่านั้นเองเวลานี้ ชู๋ยู่หยานกลับผิดหวังเล็กน้อย“แต่คำขอร้องนี้คุณจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะโอเคไหม” หลินเซียวเห็นว่าชู๋ยู่หยานนิ่งเงียบไป ก็เลยคิดไปว่าเธอไม่อยากจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว“ฉันตกลงอยู่แล้วค่ะ งานแต่งของคุณนายของท่านประธาน และเชิญฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาว ฉันจะหาโอกาสแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้นสุดท้ายแล้วซูหว่านเอ๋อร์จะเป็นประธานคนต่อไปของหนานหูกรุ๊ปในสักวันหนึ่ง และนี่ก็เป็นโอกาสดีโอกาสหนึ่งที่สามารถสร้างความสนิทสนมกับเธอ“งั้นตกลงตามนี้แล้วกันนะ นอกจากนี้เรื่องการเลือกชุดเจ้าสาว หวังว่าคุณจะสามารถไปเลือกเป็นเพื่อนภรรยาของผม และต้องซื้อชุดที่แ
“เมื่อวันก่อนฉันกลับอาณาจักรไปแล้วได้ข่าวใหม่ล่าสุดมาว่ามีการเคลื่อนไหวของศัตรูนอกเขตชายแดน” เหลิ่งซวงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“เรื่องนี้รอให้ฉันแต่งงานเสร็จแล้วค่อยคุยกัน ถึงตอนนั้นฉันจะพิจารณากลับไปชายแดนอีกครั้ง” หลินเซียวพูดขึ้น“เพียงแค่ราชามังกรได้ปรากฏกาย ใครหน้าไหนจะกล้ามารุกราน! เวลาตายของพวกชั่วนั่นใกล้จะมาถึงแล้ว!” เหลิ่งซวงพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น“งานแต่งเตรียมการไปเป็นไงบ้างแล้วล่ะคะ?” หลินเซียวเคยบอกว่าเหลิ่งซวงว่ามีอำนาจจัดการเองได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สองวันเท่านั้น เขาอยากจะรู้ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้วสักหน่อย“ราชามังกรวางใจได้ค่ะ เรื่องงานแต่งยังเป็นไปตามกำหนดค่ะ ฉันได้เชิญทีมงานมืออาชีพที่สุดมา ภาพบรรยากาศของงานแต่งวันนั้นจะต้องทำให้ท่านพอใจอย่างแน่นอนค่ะ” เหลิ่งซวงพูดขึ้น“โรงแรมรุ่ยหลง เป็นฝีมือของเธอใช่ไหม?” หลินเซียวถามขึ้น“ใช่ค่ะ” เหลิ่งซวงพยักหน้า“ก็ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือยเกินไปหรอก ก่อนหน้านี้ฉันบอกเธอว่าต้องการจัดงานให้ยิ่งใหญ่อลังการสักหน่อย ก็คิดไม่รอบคอบสักเท่าไหร่ ตอนนี้ศัตรูเข้ามารุกราน งานแต่งงานไม่ได้สำคัญอะไรเท่าไหร่แล้วล่ะ การที่อ
“โอเคค่ะ ถ้าอย่างงั้นเรียกเพื่อนเจ้าสาวของคุณไปดูชุดเจ้าสาวด้วยกันวันนี้เลยโอเคไหมคะ?” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้น“แต่ตอนนี้กำลังทำงานอยู่นะคะ!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“วันนี้ลาหยุดค่ะ ฉันอนุมัติเอง การเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานนั้นสำคัญที่สุด คุณต้องเตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะคะ และบริษัทจะออกเงินค่าชุดเจ้าสาวให้ด้วย ถือเป็นของขวัญอวยพรงานแต่งงานค่ะ” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้น“ประธานชู๋ดีกับฉันจังเลยค่ะ” ซูชิงเอ๋อร์ประหลาดใจเล็กน้อย“ตอนนี้คุณเป็นถึงผู้อำนวยการโครงการของบริษัทเรานะคะ” ชู๋ยู่หยานรู้ว่าที่หลินเซียวปกปิดตัวตนมาตลอดก็เพื่อจะเซอร์ไพรส์ซูหว่านเอ๋อร์ และเธอก็จะไม่บอกความลับนี้ออกไปนอกจากซูหว่านเอ๋อร์จะประหลาดใจแล้วเธอก็ยากที่จะปฏิเสธด้วยเช่นกัน ก็เลยไปหาจางเหยากับชู๋ยู่หยานแล้วทั้งสามก็ไปเลือกชุดเจ้าสาวด้วยกันจางเหยารู้ว่ารองประธานหนานหูกรุ๊ปไม่เพียงต้องการเป็นเพื่อนเจ้าสาวของหว่านเอ๋อร์ แถมยังต้องการซื้อชุดเจ้าสาวให้เธออีกด้วย จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกันต่อมา ชู๋ยู่หยานพาซูหว่านเอ๋อร์และจางเหยามาถึงร้านแต่งงานที่หรูหราที่สุดในเมืองหนานหูกรุ๊ปได้ซื้อชุดเจ้าสา
“ดึกดื่นขนาดนี้แล้วมีธุระอะไรเร่งด่วนเหรอคะ? หรือว่าจัดงานแต่งไม่ได้แล้ว ตอนนี้อยากจะหนี?” ซูหว่านเอ๋อร์คิดว่าหลินเซียวก็แค่พูดโอ้อวดจนตอนนี้ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ดังนั้นอยากจะใช้โอกาสนี้หนีไปสถานการณ์แบบนี้ ซูหว่านเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดมาก่อนหลินเซียวพูดขึ้นด้วยความอับอาย: “เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ เป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากๆ คุณเชื่อใจผมนะ”“ช่างมันเถอะ คุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณเลย ถึงคุณจะออกไปหาผู้หญิง ฉันก็ขี้เกียจจะยุ่งด้วยแล้ว” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้นด้วยความเสียใจหลินเซียวนับวันยิ่งทำให้เธอผิดหวัง หลังจากงานเลี้ยงครั้งก่อน เธอคิดว่าหลินเซียวยังจะสามารถพึ่งพาอาศัยได้ แต่ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันแต่งงานอยู่แล้ว เขากลับจะออกไปข้างนอกทั้งที่ยังดึกดื่นขนาดนี้ ยิ่งทำให้เกิดความน่าสงสัยอย่างเลี่ยงไม่ได้“ผมเหมือนเป็นคนแบบนั้นไหม? อีกอย่าง หญิงสาวที่สวยที่สุด หุ่นดีที่สุดก็อยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมจะไปหาผู้หญิงอื่นได้ไงกัน?” หลินเซียวพูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าซูหว่านเอ๋อร์จะเข้าใจตัวเองผิดไป“มันก็ไม่แน่ไง ใครจะไปรู้ว่าคุณอาจจะอยู่กับฉันจนเบื่อแล้วก็ได้จนอยากจะไปหาผู้หญิง
……หลังจากที่ได้เดินทางมาถึงชายแดนใต้ ทุกคนได้ทำความเคารพราชามังกรผู้ช่ำชองการสงครามด้วยความกล้าหาญผู้โด่งดังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ราชามังกรผู้เป็นตำนานเพียงหนึ่งเดียวบนสนามรบ ที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนักรบจำนวนมากสำหรับพวกเขาแล้ว หลินเซียวเปรียบดั่งเทพเจ้า!เพียงแค่สถานที่ที่หลินเซียวปรากฏกาย ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทำสงครามแล้วไม่เคยชนะวังต้าไห่ ผู้บังคับบัญชาสงครามชายแดนทางใต้รู้ว่าราชามังกรมากำกับดูแลการทำสงครามด้วยตนเองจึงออกมาต้อนรับในทันทีการที่ราชามังกรเดินทางมาที่นี่เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่าเขาให้ความสำคัญกับการทำสงครามมากขนาดไหนหลังจากมองเห็นหลินเซียวก็เกิดความนับถือมากยิ่งขึ้นจึงทำวันทยหัตถ์ทำความเคารพแล้วพูดขึ้นว่า: “วังต้าไห่คารวะราชามังกรครับ! ยินดีต้อนรับตรวจการณ์ชายแดนใต้“ครั้งนี้ฉันไม่ได้มาตรวจการณ์ ฉันต้องการใช้ห้องบัญชาการของคุณมากำกับดูแลและสั่งการการรบแนวหน้า!” ตอนนี้สถานการณ์แนวหน้าค่อนข้างตึงเครียด หลินเซียวไม่อยากเสียเวลาจึงบอกเป้าหมายการเดินทางมาครั้งนี้“เชิญราชามังกรตามผมมาได้เลยครับ” วังต้าไห่ก็รู้ว่าชายแดนใต้เปิดฉากการสู้รบขึ้นแล้ว จึงได้รีบพา
ขบวนรถหรูของตระกูลเฉียน ตระกูลซุน ตระกูลโจว ตระกูลลู่ และตระกูลจู ตระกูลใหญ่ของอาณาจักรได้เคลื่อนขบวนออกเดินทางเข้าสู่เมืองหนานหู มุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลซูอย่างยิ่งใหญ่คุณชายเฉียนว่านชิงของตระกูลเฉียน คุณชายซุนเฟิงของตระกูลซุน คุณชายโจวเจิ้งคุนของตระกูลโจว คุณชายลู่หงของตระกูลลู่ และคุณชายจูจื่อซวน ทั้งห้าคนนี้ต่างสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์อย่างเต็มยศ เป็นผู้นำขบวนรถหรูของตนเองรถซูเปอร์คาร์ป้ายทะเบียนอาณาจักรกว่านับร้อยนับพันคันวิ่งแล่นอยู่บนถนนของเมืองหนานหูราวกับมังกรที่กำลังเหาะอย่างรวดเร็วเกินต้าน ไม่มีใครที่ไม่เหลียวมองคนที่มีหน้ามีตาที่สุดขอบอาณาจักรต่างออกเดินทางมายังเมืองหนานหูตั้งแต่เช้า พวกเขามีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นก็เพื่อมาร่วมงานมงคลสมรสของราชามังกรและคุณหนูใหญ่ของตระกูลซูซูหว่านเอ๋อร์ตื่นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด อย่างแรกคือเพื่องานแต่ง อย่างที่สองคือเพราะการหายไปของหลินเซียว ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้น เมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้นอนเลยแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน แต่ซูหว่านเอ๋อร์ก็ชินกับการที่มีหลินเซียวอยู่ข้างกายตลอดเวลาสองวันมานี้ไม่มีหลินเซียวอยู่เคี
เวลานี้รถออฟโรดกันกระสุนที่ดัดแปลงใหม่ทั้งหมดจำนวนสามคันกำลังแล่นอยู่บนเส้นทางที่กลับไปยังเมืองหนานหูอย่างรวดเร็วหลินเซียวและเหลิ่งซวงนั่งอยู่บนรถคันกลางรถคันหน้าและรถคันหลังมีลูกน้องจากตำหนักมังกรนั่งมาด้วยเวลานี้เอง โทรศัพท์ของเหลิ่งซวงก็ดังขึ้น สายโทรเข้าของวังยุ๋นหง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เหลิ่งซวงมอบหมายหน้าที่เรื่องงานแต่งงาน“เตรียมการเป็นไงบ้างแล้ว?” เหลิ่งซวงถามขึ้น“รายงานครับ ท่านนายพลเหลิ่ง ขบวนรถหรูของตระกูลใหญ่หลายตระกูลของอาณาจักรได้เข้ามาถึงเมืองหนานหูแล้ว และทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็รอแค่คำสั่งของท่านแล้วครับ!” หวังยุ๋นหงพูดขึ้น“ยังไม่ต้องรีบ ให้พวกเขารอไปก่อนสักครู่ ฉันกับราชามังกรกำลังเดินทางกลับไปยังเมืองหนานหู เดี๋ยวพวกเราเคลื่อนขบวนขันหมากไปสู่ขอเจ้าสาวที่ตระกูลซูด้วยกัน” เหลิ่งซวงออกคำสั่ง“เข้าใจแล้วครับ” หวังยู๋นกงพูดขึ้น“ชุดสูทเจ้าบ่าวและแหวนเพชรไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เหลิ่งซวงถามขึ้นอีกหนึ่งประโยค“วางใจเถอะครับ เตรียมไว้พร้อมตั้งนานแล้วครับ” หวังยุ๋นหงตอบขึ้น“งั้นแค่นี้ก่อน ส่วนเรื่องที่เหลือ พวกเราเจอหน้ากันแล้วค่อยคุย” เห