ในเวลานี้ชายหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าและใจเย็นกว่าวิลเฮล์มเล็กน้อยได้พูดขึ้นมาว่า “พี่ชาย นี่เป็นเรื่องของครอบครัวโกลดิ้ง ฉะนั้นกรุณาอย่าเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องนี้ดีกว่านะครับ”คนที่พูดก็คือริกลีย์ โกลดิ้ง ลูกชายของเอเดรียนซึ่งเป็นหลานชายคนโตของนายท่านโกลดิ้งเนื่องจากควินน์เป็นผู้หญิง ริกลีย์จึงถือเป็นหลานคนโตของตระกูลชาร์ลีมองไปที่ริกลีย์แล้วพูดเรียบ ๆ ว่า “ถ้าคุณมีอะไรจะพูดก็พูดดี ๆ อย่าทำเป็นกร่างเข้ามาเห่าหอนในบ้านคนอื่นเหมือนฝูงหมาบ้า ตระกูลโกลดิ้งถือเป็นตระกูลที่น่านับถือในอีสต์คลิฟฟ์ ฉะนั้นก็โปรดควบคุมตัวเองเวลาอยู่ข้างนอกด้วย อย่าปล่อยให้คนอื่นคิดว่าคุณไม่มีการศึกษาป่าเถื่อน!”“แก…” เมื่อวิลเฮล์มได้ยินดังนั้น เขาก็กัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยวและอยากกระโจนเข้าใส่ชาร์ลีริกลีย์หยุดเขาไว้ได้ทัน จากนั้นเขาก็มองชาร์ลีด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดกับเอเดรียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ว่า “พ่อครับ เลิกอ้อมค้อมและเข้าประเด็นกันได้แล้ว”เอเดรียนจ้องมองชาร์ลีอย่างเย็นชา เขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นใคร เขาก็ต้องชดใช้ด้วยเลือดหลังจากทำธุระในวันนี้เสร็จแล้ว เขาอยากจะสั่งสอนเด็กคนนี้ให้เรียนรู้ความเ
เอเดรียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบหัวเราะแล้วพูดว่า “นี่ โรแกน แกพูดกับพี่ชายเราแบบนั้นได้ยังไง? ตอนนี้เขาอ่อนแอมาก ถ้าแกทำให้เขาโกรธแล้วเขาเกิดตายขึ้นมาก่อนจะทันได้เปลี่ยนพินัยกรรม เราก็ต้องไปต่อสู้กับพี่สะใภ้และหลานสาวของเราน่ะสิ ฉันไม่อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะ”โรแกนหัวเราะคิกคักอย่างชั่วร้าย “เอเดรียน พี่พูดถูก ฉันทำเกินไปหน่อย ขอโทษที!”จากนั้นเขาก็หันไปหายูล ยิ้มอย่างเสแสร้งแล้วพูดว่า “พี่ยูล ฉันขอโทษ เมื่อกี้นี้ฉันใช้คำรุนแรงเกินไปหน่อย ได้โปรดอย่าถือสาเลยนะ”เอเดรียนหัวเราะเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “อย่างไรก็ตามนะ ยูล ถึงแม้โรแกนจะใช้คำรุนแรงเกินไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิด พี่ลองคิดดูสิ ไม่มีใครทนเห็นทรัพย์สินของครอบครัวมูลค่าหลายแสนล้านตกไปอยู่ในมือของคนนอก ถ้าพี่ร่วมมือกับเรา ราเชลกับนานาก็ยังได้รับส่วนแบ่ง 20% เมื่อพี่จากไปแล้ว…”เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ สีหน้าของเอเดรียนดูน่ากลัวมากและน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูหมองม่นเหลือเกิน เขากัดฟันแล้วคำรามออกมาว่า “แต่ถ้าพี่ไม่ยอมร่วมมือกับเรา ฉันก็อาจหมดความอดทนและลงมือทำอะไรบางอย่างกับพี่และครอบครัวของพี่ ก่อนที่พี่จะลงไปนอนอยู่ในหลุม ถ้าครอ
ยูลหันไปหาเอเดรียนแล้วพูดในขณะที่กัดฟันด้วยความตกตะลึงว่า “เอเดรียน! บอกให้พวกเขาหยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำร้ายชาร์ลีนะ! ฉันยอมรับเงื่อนไขของแกแล้ว!”ในความคิดเห็นของยูลนั้น ชาร์ลีไม่ได้เป็นเพียงลูกเขยในอนาคตของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสายเลือดของเพื่อนรักที่เสียชีวิตไปนานแล้วของเขาด้วย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ทนนั่งดูให้ชาร์ลีต้องตายไปเฉย ๆ เพราะเขาหรอกถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงรู้สึกละอายใจที่ต้องไปพบหน้าพ่อแม่ของชาร์ลี ถ้าเขาต้องไปอยู่ในปรโลกหลังตายไปแล้วในขณะที่ยังถือข้อมือของตัวเองอยู่นั้น เอเดรียนก็กัดฟันอย่างเดือดดาลแล้วก่นด่าว่า “อ้อ ตอนนี้ต้องการประนีประนอมกับเราแล้วเหรอ? สายไปแล้วล่ะ! ไอ้เด็กนั่นทำร้ายฉัน ฉันคงต้องฆ่ามันทิ้งซะ!”จากนั้นเขาก็หันไปหาบอดี้การ์ดแล้วพูดว่า “ฆ่ามันซะ! เดี๋ยวนี้เลย!”สีหน้าบูดบึ้งและแฝงความเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบอดี้การ์ดสองคนนั้น หนึ่งในนั้นเป็นที่รู้จักในนาม ‘จ้าวนักรบ’ ส่วนอีกคนหนึ่งคือ ‘จ้าวดินแดน’ คนพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดเหี้ยมในโลกใต้ดิน ตอนนี้พวกเขาถูกเด็กสารเลวที่รู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวนิด ๆ หน่อย ๆ ทำให้ขายหน้า พวกนั้นรู
เมื่อมาถึงจุดนี้ทุก ๆ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกไม่ใช่แค่เอเดรียนและโรแกนที่เข้าไปสร้างปัญหาที่นั่นเท่านั้น แต่สมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวของยูลก็ล้วนพูดอะไรไม่ออกด้วยความตกตะลึงเช่นกันจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยมป่าเถื่อนในอีสต์คลิฟฟ์ พวกเขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและไม่เคยพ่ายแพ้ใครเลย แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้คนหน้าซีดตัวสั่นกันได้แล้วแต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไร้ประโยชน์ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อสู้กับชาร์ลีโดยปกติแล้วการท้าทายกันไปมาถือเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้กันทางร่างกาย การเตะและต่อยรวมทั้งการหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ป้องกันตัวแต่ชาร์ลีรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วบีบคอคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังสองคนราวกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ไร้ค่า ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าชาร์ลีมีความแข็งแกร่งขนาดไหนกัน!ชาร์ลีไม่ได้สนใจอาการอ้าปากค้างด้วยความตกใจจากคนรอบข้าง เขามองไปที่ชายสองคนที่อยู่ในมืออย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวจะหาว่าฉันจะไม่ให้โอกาสแกได้มีชีวิต คุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วเรียกฉันว่าป๊ะป๋าซะ ถ้าแก
”โอ้” ชาร์ลีพยักหน้ารับรู้แล้วพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “สวัสดีจ้าวดินแดน ยินดีที่ได้รู้จัก ฉายาของแกนี่เท่จัง แต่ฉันเองก็มีฉายาเหมือนกันนะ ผู้คนในเมืองของฉันเป็นคนตั้งให้ ฉันสงสัยจังว่าฉายาของใครจะยอดเยี่ยมกว่ากัน ของฉันหรือของแก?”จ้าวดินแดนถามว่า “ฉายาของนายคืออะไร?”ชาร์ลียิ้มอ่อน ๆ “มังกรที่แท้จริง”สีหน้าของจ้าวดินแดนเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ลีมังกรที่แท้จริง?อะไรกันวะเนี่ย!นี่จะไม่โอ้อวดกันมากไปหน่อยเหรอ?ชาร์ลีไม่สนใจที่จะต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป เขารวบรวมพลังไว้ในมืออีกครั้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดูว่างเปล่า “แกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปถ้าคุกเข่า แต่ถ้าไม่แกก็ต้องตาย แกมีเวลาเลือกสามวินาที”จ้าวดินแดนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงมากเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่คอเพิ่มมากขึ้น เขาตะโกนออกมาด้วยความกลัว “โอเค! ฉันจะทำ! ฉันจะคุกเข่า!”ชาร์ลีจ้องมองสิ่งที่เรียกว่าจ้าวนักรบแล้วถามว่า “แล้วแกล่ะ พี่จ้าวนักรบ? จะคุกเข่าไหม?“คุณเข่าสิ! ฉันจะคุกเข่าด้วย!”จ้าวนักรบก็รู้ตัวว่าการมีชีวิตรอดแบบเดียวกับหมา ก็ยังดีกว่าการตายแบบสิงโต เขาจึงพยักหน้าโดยไม่ลังเลอะไรเลยชาร์ลียิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็
จ้าวนักรบและจ้าวดินแดนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นรีบคลานไปด้านข้าง โดยไม่กล้าที่จะประท้วงอะไรส่วนเอเดรียนและโรแกนต่างตกใจและตื่นตระหนก เมื่อพวกเขาได้ยินชาร์ลีบอกว่าอยากคุยกับพวกเขาพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีปีศาจร้ายอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขาจากที่เขารู้มานั้นยูลมีเพียงผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งก็มีความแข็งแกร่งพอสมควรแต่ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับบอดี้การ์ดสองคนที่เขาพามาในวันนี้ บอดี้การ์ดสองคนนี้สามารถเอาชนะผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านของยูลได้อย่างง่ายดายในเวลาอันรวดเร็วแต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีชายหนุ่มผู้ทรงพลังและเก่งกาจขนาดนี้อยู่ในบ้านของยูล ซึ่งเขามีความแข็งแกร่งดุจเทพซูสเลยทีเดียวในขณะที่ชาร์ลีเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีที่ดูมีอำนาจนั้น พวกเขาก็ก้าวถอยหลังออกไปอย่างหวาดกลัวทันที เอเดรียนถามขึ้นด้วยความกลัวว่า “อะไร… แกต้องการอะไร?”“ผมเหรอ?” ชาร์ลียิ้ม “คุณทำกร่างและอวดดีตั้งแต่เดินเข้าประตูมาแล้ว ตอนนี้ถึงทีผมบ้างแลเวล่ะ ไหนบอกมาซิว่าวันนี้คุณวางแผนจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”“แกหมายความว่ายังไง?!” เอเดรียนร้องคำรามออกมาพร้อมกัดฟันแน่นด้วยความเด
แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีก็แผ่ซ่านอยู่ในตัวจ้าวนักรบอย่างฉับพลันนี่เป็นเพราะเขาได้พกปืนติดตัวมาด้วยถึงแม้ว่าเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ศิลปะการป้องกันตัวจะไม่ชอบใช้ปืนมากนัก แต่ท้ายที่สุดสุดแล้วปืนก็เป็นเครื่องพึ่งพิงที่ช่วยชีวิตได้ การทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับเอเดรียนนั้นไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่เป็นอันตรายมากนัก แต่เขาก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเผื่อเอาไว้ในกรณีที่จำเป็นก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถคว้าปืนออกมาใช้งานได้ เนื่องจากชาร์ลีพยายามรั้งตัวเขาไว้ จนเขาไม่สามารถคิดเรื่องการใช้ปืนได้เลย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนนั้นแล้วตอนนี้ชาร์ลีไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกต่อไปแล้วเขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจมีโอกาสแอบคืบคลานเข้าไปจัดการกับชาร์ลี เมื่อชาร์ลีพุ่งความสนใจไปที่เอเดรียนและโรแกนไม่ว่าคนคนนั้นจะมีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ ลูกกระสุนก็ยังคงเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขา ถ้าเขาสามารถยิงชาร์ลีได้สักนัด ชาร์ลีก็น่าจะสูญเสียพลังในการต่อสู้ทันที จากนั้นเขาก็ยิงซ้ำไปอีกสองนัด ก็จะช่วยให้เขาสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งปรมาจารย์ผู้ทรงพลังในการใช้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันต
ตอนนนี้เอเดรียนตัวสั่นด้วยความกลัว‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?! ฉันจ้างจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนด้วยเงินเดือนก้อนโต แต่ไอ้เจ้าพวกนี้กลับโดนชาร์ลีบีบคอจนหายใจไม่ออก แถมยังต้องนั่งคุกเข่าเรียกชาร์ลีว่าป๊ะป๋า! ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนนี้จ้าวนักรบยังชักปืนออกมาไม่ได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?’คนพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นกับปืน! การที่พวกเขาไม่สามารถถือปืนได้นั้นก็ช่างน่าขันพอ ๆ กับการที่ช่างตัดผมไม่สามารถถือกรรไกรรได้นั่นแหละ!แต่ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อขนาดไหน ความจริงก็คือความจริงเอเดรียนจ้องมองไปที่จ้าวนักรบที่กำลังตื่นตระหนก เขาอ่อนแอราวกับแมวขี้กลัวและไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว เขารู้ว่าวันนี้ช่างเป็นวันสิ้นหวังที่ไม่สามารถพึ่งพาคนพวกนั้นได้‘ถ้าอย่างนั้น การที่ฉันโดนตบหน้าก็คงทำอะไรไม่ได้ด้วยล่ะสิ… ใช่ไหม?’เมื่อคิดได้ดังนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาไม่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับชาร์ลีในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเดือดดาลมาก “โอเค! ไอ้หนู ระวังตัวไว้ให้ดีนะ! ฉันจะจับตามองแก! แล้วแกจะต้องเสียใจ!”จากนั้นเขาก็พูดกับริกลีย์ลูกชายของเขาทันทีว่า “ไปกันเถอะ!”จู่ ๆ ชาร์ลีที่ยืนยิ้มมาตลอดก็ตะโกนออกม