Share

บทที่ 15

ในขณะนั้น หัวใจของเสิ่นหยินอู้ก็สั่นไหว และแววตาตื่นตระหนกก็ผุดขึ้นมาในดวงตาของเธอ

ซึ่งรู้สึกเหมือนกับถูกจับได้

แต่เธอก็สงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเม้มริมฝีปากสีชมพูที่ซีดเล็กน้อย แล้วพูดอย่างไม่ปิดบังว่า: "คุณก็เห็นหมดแล้วไม่ใช่เหรอ?"

ทัศนคติที่ตรงไปตรงมาของเธอทำให้การมองอย่างสงสัยในดวงตาของฉินเย่จางลงไปเล็กน้อย

เขาเดินเข้ามา และจ้องมองถ้วยยาที่ว่างเปล่าในมือของเธอ

“ฉันให้ในครัวทำงานหนักเพื่อปรุงยากัน แล้วเธอเทยาทั้งหมดทิ้ง โดยที่ไม่ได้ดื่มแม้แต่อึกเดียวเลยอย่างงั้นเหรอ?”

เสิ่นหยินอู้เหลือบมองเขา

“ฉันบอกไปตั้งนานแล้วไงว่าไม่ดื่ม”

พูดจบ เธอก็ออกไปพร้อมกับถ้วยเปล่า

ฉินเย่ตามออกมา และพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า: "เมื่อคืนนี้ เธอตั้งใจเปียกฝนหรือเปล่า?"

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เสิ่นหยินอู้ยุดก็หยุดชะงักไปชั่วครู่ และส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ

“ไม่ใช่ ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงคะ?”

แต่ฉินเย่ก็ยังคงจ้องมองเธออย่างสงสัย: "ใช่เหรอ? แล้วทำไมเธอถึงปฏิเสธที่จะไปโรงพยาบาล รวมทั้งปฏิเสธที่จะกินยาด้วย?"

เสิ่นหยินอู้อธิบายไปอย่างสบาย ๆ ว่า: "ยาขมเกินไป ฉันไม่อยากดื่มค่ะ"

"แค่นี้เหรอ?" ฉินเย่หรี่ตาราวกับกำลังนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และถามอย่างไม่ยอมแพ้ว่า: "เมื่อวาน...…"

เดิมทีเขาอยากจะพูดคุยเรื่องข้อความ ว่าเธอพบเบาะแสอะไรหรือไม่?

แต่หลังจากคิด ๆ ดูแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วเมื่อวานนี้เธอก็ไม่ได้เข้ามาในประตูคลับด้วยซ้ำ แล้วจะไปรู้ได้อย่างไร?

เสิ่นหยินอู้ไม่อยากโต้เถียงกับเขาอีก เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลาดพูดอะไรออกไป

ตอนนี้เธอมีความลับอยู่ และไม่อยากให้เขารับรู้

ขณะที่คนรับใช้เข้ามาพร้อมกับอาหาร เสิ่นหยินอู้ก็ถือโอกาสไปทานอาหารทันที

และเนื่องจากเธอยังเป็นคนป่วย คนรับใช้จึงเตรียมอาหารนิ่ม ๆ และจืดให้เธอ

เสิ่นหยินอู้ไม่มีความอยากอาหาร ดังนั้นจึงกินเข้าไปบางส่วนแล้ววางชามลง และคนรับใช้ก็รีบมาเก็บไปทันที

ฉินเย่มองดูจากด้านข้าง และริมฝีปากบาง ๆ ของเขาก็เม้มจนเป็นเส้นบาง ๆ

ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจผิดหรือเปล่า แต่เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป แต่เขาก็ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เพียงแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป

ทั้งเธอ และบรรยากาศของทั้งห้องก็ผิดปกติไป ซึ่งแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ด้วย

แม้ว่าฉินเย่ไม่เคยอารมณ์ดี แต่เขาก็ไม่ค่อยหงุดหงิดขนาดนี้มากนัก

ครู่ต่อมา เขาก็รู้สึกได้ว่าการไหลเวียนของอากาศในห้องนั้นไม่ราบรื่น จึงหันหลังและกลับออกไป

หลังจากที่เขาจากไปเสิ่นหยินอู้ก็แสร้งทำเป็นสงบและผ่อนคลาย และหลับตาลง ก่อนจะจ้องมองไปที่เท้าของตัวเองด้วยความงุนงง

ก่อนเข้านอน

คนรับใช้นำถ้วยยามาส่งให้อีกถ้วย

ถึงอย่างไรฉินเย่ก็รู้เรื่องแล้ว และตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่บ้านด้วย เสิ่นหยินอู้จึงหยุดแสร้งทำ และพูดออกมาตรง ๆ ว่า: "ฉันไม่อยากดื่ม ต่อไปไม่ต้องต้มมาอีกนะ"

คนรับใช้ถือถ้วยยาด้วยความสับสนเล็กน้อย

เสิ่นหยินอู้ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา: "ถ้าไม่มีอะไร ก็ไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว"

คนรับใช้กระพริบตาปริบ ๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนไปด้วยความงุนงง

ฉินเย่ไม่ได้กลับมา

ในห้องนอนนั้นเงียบสงัด และมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น

เมื่อเสิ่นหยินอู้นอนลง ก็ยังคงรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ซึ่งนี่เป็นอาการที่มาจากการเป็นไข้

เธอรู้สึกหนัก ๆ หัว แต่ในใจกลับแจ่มชัดขึ้นมา

เขาไม่กลับมา...…

ซึ่งมันก็ชัดเจนว่าเขาไปที่ไหนอยู่

เสิ่นหยินอู้พลิกตัว และหลับตาลง และมีเพียงความคิดเดียวที่เหลืออยู่ในสมอง

คือถ้าหากเธอเป็นคนที่กระโดดลงไปช่วยเขา ในตอนนี้ทั้งสองก็จะไม่ต้องหย่ากันใช่ไหม?

น่าเสียดาย……

ที่ทุกสิ่งไม่มีคำว่าถ้าหาก

เสิ่นหยินอู้ผล็อยหลับไปอีกครั้ง และมีแสงริบหรี่เล็ดลอดออกมาจากหางตาของเธอโดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำ

เมื่อหลับไปจนถึงเที่ยงคืน เสิ่นหยินอู้ก็สะลึมสะลือ และรู้สึกว่าที่บริเวณข้างกายเธอนั้นดูเหมือนจะยุบตัวลงไป

เขากลับมาแล้วเหรอ?

แต่จิตสำนึกของเธอก็หายไปอย่างรวดเร็วด้วยความมืดอันไร้ขอบเขต

เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นหยินอู้ก็พลิกตัวและปฏิกิริยาแรกของเธอคือเอื้อมมือไปสัมผัสบริเวณข้างกายเธอ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status