ชาร์ล็อตกระโดดลงจากเตียง แล้ววิ่งไปในห้องนั่งเล่นโดยไม่สนใจคนใช้ที่ขัดขวางอยู่ เธอมองเข้าไปในกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน และแทบจะช็อคกับสภาพของตัวเอง 'โอ้พระเจ้า!' ปัจจุบันใบหน้าของเธอมีบาดแผลที่ดูเหมือนมะเขือเทศสุก เธอจำรูปลักษณ์เดิมของเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 'โอเค! อย่าตื่นตระหนกไปเลย...อย่าตื่นตระหนก! หมอบอกว่ามันจะดีขึ้นและกลับมาเป็นเหมือนเดิม มันแค่ต้องรอเวลาเท่านั้น!' ชาร์ล็อตคิดว่าเธอกำลังจะตายเพราะโดนวิกเตอร์ทุบตี แต่ตอนนี้เธอรอดจากสิ่งนั้นแล้ว เธอจะหวังอะไรไปมากกว่านี้ล่ะ? “นายท่านรองสุดยอดไปเลย เขาบอกว่านายหญิงของผมน่าจะตื่นแล้ว เขาเลยสั่งให้ผมมารับ แล้วคุณก็ตื่นเมื่อไม่กี่นาทีผ่านมา” เสียงของวัยรุ่นหนุ่มดังมาจากประตู ชาร์ล็อตละสายตาจากกระจกอย่างกังวลใจ “แซคคารี... ทำไมเขาถึงให้นายมาหาฉัน...” เธอกลัวว่าแซคคารีจะเห็นเธอในสภาพน่าเกลียดแบบนี้ทันที “นายหญิง คุณบาดเจ็บอยู่ และเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก นายท่านรองขอให้ผมมารับคุณ ในเรื่องที่สำคัญมากเท่านั้น” เมื่อเห็นความเศร้าโศกเปล่งประกายจากดวงตาของชาร์ล็อต ลูคัสก็เข้าใจความกังวลของเธอในทันที “เอ่อ... นายหญิงของผม คุณไม่ต้องกั
ชาร์ล็อตมองเข้าไปใกล้ ๆ 'เด็กสาวพวกนี้คงไม่ใช่คนเดียวกับที่แวะซื้องานศิลปะของฉันที่สตูดิโอศิลปใช่ไหม?' “นายท่านรองตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบ ๆ สตูดิโอของคุณ เด็กสาวพวกนี้หลอกให้คุณละสายตาจากการซื้อผลงานศิลปะ พวกนี้ตีคุณตอนคุณเผลอและบังคับให้คุณกินยา คุณมองให้ดี ๆ นะครับ ใช่คนพวกนี้ไหม?” ลูคัสเตือนชาร์ล็อตขณะที่เขาเดินตามหลังเธออย่างใกล้ชิด ชาร์ล็อตอาจไม่รู้จักแซคคารีมากพอที่จะอ่านอารมณ์ของเขาได้ แต่ลูคัสรู้ว่าเขากำลังโมโห เด็กสาวที่วางยาชาร์ล็อตต้องพบกับชะตากรรมอันน่าสลดใจ ดังนั้น ชาร์ล็อตจึงจำเป็นต้องยืนยันตัวตนของพวกเขา มันอาจจะเป็นหายนะหากพวกเขาลงเอยด้วยการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ชาร์ล็อตพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่ คือพวกเธอนี่แหละ” ชาร์ล็อตไม่ใช่คนใจร้อน เธอคงมีแผนที่จะตามหาเด็กสาวเหล่านั้น แม้ว่าแซคคารีจะไม่ได้ทำเพื่อเธอก็ตาม เธอจะไม่มีวันลืมใบหน้าที่อ่อนวัยและชั่วร้ายของพวกเธอ แม้ว่าพวกเธอจะกลายเป็นเถ้าถ่านก็ตาม ชาร์ล็อตไม่รู้เลย ว่าสายตาของแซคคารีนั้นมืดมนและน่าสะพรึงกลัวราวกับขุมนรก เด็กสาวทั้งสองตัวแข็งทื่อและร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเธออยากจะขอความเมต
"ขอบคุณนะ" แซคคารีมองมาที่เธอ โดยที่เขาซ่อนอารมณ์ของเขาไว้ หน้าของเธอแดงราวกับมะเขือเทศสุกในตอนนี้ เธอน่าเกลียดที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้น แซคคารีก็รู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอสวยงามกว่าทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในโลกเสียอีก “เอาล่ะ นายหญิงของผม คุณต้องการทำอะไรกับพวกเขาครับ?” ลูคัสถาม ชาร์ล็อตหันไปทางเด็กสาวสองคนในกรง “พวกเธอไม่รู้เหรอ ว่าสตูดิโอของฉันมีกล้องวงจรปิด? ใช้ส่วนในคลิปที่พวกเธอหลอกฉัน ตีฉัน และยัดยาลงไปในคอของฉัน ส่งไปให้ครูและครูใหญ่ของพวกเธอ จากนั้นโทรแจ้งตำรวจและปล่อยให้พวกเขาจัดการ” เด็กสาวร้องไห้เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นยิ่งกว่าที่เคย นักเรียนในวัยนี้ไม่กลัวพ่อแม่จะค้นพบความชั่วหรือผลที่ตามมา ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเธอคือครูและครูใหญ่ จากระดับความชั่วร้ายที่เลวร้ายนั้น ครูใหญ่ของพวกเธอจะเรียกพวกเขาออกมาในระหว่างการประชุมของโรงเรียน เขาจะขับไล่พวกเธอ และจะส่งพวกเธอไปยังศูนย์กักกันเด็กและเยาวชนอย่างแน่นอน พ่อแม่ของพวกเขาคงจะผิดหวังอย่างมากในตัวพวกเธอ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอจะต่างพากันเยาะเย้ย ชีวิตของพวกเธอจะจบลง... ลูคัสอดไม
ชาร์ล็อตพยักหน้า ลูคัสพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “วิกเตอร์พิการตั้งแต่คุณอัดเขา ผมก็เลยอยากรู้น่ะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนง่อยนั่น ถ้าผมบังคับให้เขาดื่มน้ำที่เขาให้คุณดื่ม?” ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่ความขยะแขยงส่องประกายผ่านดวงตาของแซคคารี “ผมก็เลยคิดว่า… ทำไมไม่ใช้วิกเตอร์เป็นหนูทดลองล่ะ? ผมขังเขาไว้ในห้องที่เงียบสนิท เขาวิ่งไปรอบ ๆ อย่างกระวนกระวายใจแล้วก็หมดสติไปพร้อมกับน้ำลายฟูมปาก พอเขาตื่นขึ้นมา เราก็พบว่าเขากลายเป็นคนสติไม่ดีไปแล้ว” ชาร์ล็อตเม้มปาก แต่เธอไม่ได้รู้สึกสงสารเลย บางทีอาจเป็นเรื่องดีที่พวกขยะสังคมอย่างวิกเตอร์จะกลายเป็นคนสติไม่ดี เขาสมควรได้รับมัน ถ้าแซคคารีมาไม่ทันหลังจากที่ชาร์ล็อตโดนวางยา ผลของยานั้นคงทำให้เธอกลายเป็นเหมือนวิกเตอร์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทุบตีเธอจนตายก็ตาม “ผมคิดว่าขยะนั่นไปง่ายเกินไป ผมเตรียมการทรมานไว้ตั้ง 17 แบบ สำหรับคนอย่างเขา ผมต้องการลองพวกนั้นทั้งหมดกับเขาทีละอย่าง แต่ผมจัดการกับเขาได้แค่อย่างเดียว เขาก็กลายเป็นซากไปซะแล้ว ขยะไร้ประโยชน์” ลูคัสเล่นต่างหูห่วงทองอันใหญ่ด้วยความผิดหวัง “แต่ผมแน่ใจว่าผมจะม
ชาร์ล็อตกลืนน้ำลายอย่างประหม่า เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ สามครั้งเพื่อเรียกเสียงของเธอ “เฮ้… อย่าโกรธกันนะ ลุคบอกว่านายจะช่วยฉันหาตัวคนร้ายตัวจริง ฉันไม่ต้องการให้นายเสียเวลาเปล่า ฉันเลยต้องบอกความจริงกับนาย ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย ว่าไม่ใช่ไบรสันอย่างแน่นอน” ความหลงใหลในตัวไบรสันของเธอไม่ได้เกิดขึ้นจากรูปลักษณ์อันโดดเด่นของเขาเท่านั้น เธอสนใจในอุปนิสัยของเขาด้วย อันที่จริง ไบรสันดีกับเธอมากตลอดสี่ปีที่อยู่ด้วยกัน เขายอมเธอทุกอย่างและไม่เคยโกหกเธอ ครั้งเดียวที่เขาโกหกก็เพราะทิฟฟานี่… นั่นเป็นครั้งเดียวเท่านั้น! ใบหน้าของแซคคารีเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างกับก้นหม้อที่อังไฟไว้จนไหม้ เขาจ้องไปที่เธออย่างเย็นชาและนิ่งเงียบสนิท “ฮี่ฮี่…” ชาร์ล็อตบังคับมุมปากของเธอให้ยืมฝืน ๆ แล้วจ้องไปที่แซคคารี “ฉันยังไม่ได้ขอบคุณนายเลย ดังนั้น… ขอบคุณนะ ขอบคุณจากก้นบึ้งในหัวใจของฉันเลย” แซคคารีช่วยชีวิตเธอไว้ถึงสองครั้ง แถมเขายังช่วยพ่อของเธอและตระกูลซิมม่อนส์ด้วย แต่สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้เพื่อเป็นการตอบแทนคือการขอบคุณเขา แซคคารีเปิดปากขณะที่เขาตอบอย่างสงบ "ยินดี" “ถ้าอย่างนั้น… ฉันขอตัวก่อนนะ”
“โอบรอบคอฉันสิ” เสียงเย็นเยือกของเขาดังขึ้นอีกครั้ง “โอ้…” ณ จุดนี้ ชาร์ล็อตได้แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ซึ่งถูกตั้งโปรแกรมมาให้ฟังคำสั่งเพียงอย่างเดียว เธอเอามือออกจากเอวของแซคคารี เธอเขย่งเท้า แล้วเอาแขนโอบรอบคอของเขาแทน แซคคารีก้มหน้าลงเล็กน้อย ริมฝีปากเรียวบางและลมหายใจอันอบอุ่นของเขาค่อย ๆ เข้ามาจนเกือบจะบรรจบกับริมฝีกปากของชาร์ล็อต จิตใจของชาร์ล็อตว่างเปล่าในทันที เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมันกำลังจะกระโดดออกมาจากท้องของเธอแล้ว… 'เขาจะจูบฉันไหมนะ?' ชาร์ล็อตเคยอยู่ในจุด ๆ นี้เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เธออดไม่ได้ที่จะคล้อยตามและจูบเขา 'ครั้งนี้… เขาจะจูบฉันเหรอ?' อย่างไรก็ตาม ริมฝีปากของแซคคารีไม่ได้สัมผัสเธอ เขาใช้แก้มแตะปลายจมูกของเธอแทน จากนั้นเขาก็โน้มลงอีกแล้วอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา แซคคารีอุ้มชาร์ล็อตไว้ในอ้อมแขนแล้วและเดินไปเรื่อย ๆ ทั้งที่เธอรู้สึกตัว 'เขาไม่ได้ต้องการจูบฉัน เขาต้องการอุ้มฉันต่างหาก!' ชาร์ล็อตรู้สึกผิดหวังในตอนแรก จากนั้นเธอก็เริ่มเยาะเย้ยตัวเอง ความรู้สึกผิดหวังของเธอมันช่างป็นเรื่องตลกสิ้นดี… 'เธอไม่เห็นรึไงว่าแซคคารีเย็นชาแค่ไหน?' เขาออกจ
ลูคัสพลิกดูหน้าอื่น ขณะที่เขาอ่านออกเสียง “หนึ่งในหกคนที่ร่ำรวยที่สุดในรอธเซย์ ก็คือแอนโธนี่ ไมเคิล และเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของนายหญิงคอนเนอร์ เชอร์แมน เพอร์รี วิทแมน...” "พอแล้ว!" แซคคารีตัดบทลูคัสทันที “บอกมาว่ามีทั้งหมดกี่คน” “ได้ครับ ผมจะคำนวณโดยเริ่มจากตอนนายหญิงนายคอนเนอร์อายุ 13 ปีนะครับ ภายในเจ็ดปี เธอมีคนมาจีบ 87 คน ถ้าให้รวมถึงคนที่เขียนจดหมายรักให้เธอ มอบดอกไม้ให้เธอ และสารภาพความรู้สึกของพวกเขากับเธอ ผมยังสามารถกรองสุภาพบุรุษสองสามคนที่อาจจะแอบชื่นชมเธอและแอบซุ่มอยู่รอบ ๆ เธอ เหมือนกับที่เซนิออสเคยทำในอดีต ซึ่งทำให้เรามียอดรวม 239…” ดวงตาของแซคคารีเย็นลงจนดูเหมือนว่าสายตาพวกนั้นสามารถแช่แข็งวัตถุทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ “แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกนะครับ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่นายหญิงคอนเนอร์เริ่มมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับไบรสัน เธอปฏิเสธคนที่มาจีบคนอื่น ๆ ของเธอทั้งหมดแล้ว ภัยคุกคามที่แท้จริงของคุณนอกเหนือจากจากเซนิออส ก็คือสุภาพบุรุษที่ผมเพิ่งพูดถึงไป เฟอร์ดินานด์ อาลอนโซ แอนโทนี่ ไมเคิล มาร์คัส บรู๊ค และคนอื่น ๆ รวมแล้วมีทั้งหมด 5 คน พวกเขาทั้งหมดถือเป็
“มันยากที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดทางโทรศัพท์ ผมจะรอพี่อยู่ข้างหน้าสตูดิโอศิลปของพี่นะ พี่คาร์ลี่ มาเจอผมหน่อย” ชาร์ล็อตไม่ได้ปฏิเสธเขาในครั้งนี้ รถที่แซคคารีมอบให้เธอจอดอยู่ที่เฉลียงรถหน้าบ้าน เธอกระโดดขึ้นรถและขับตรงไปยังสตูดิโอศิลปของเธอ ไมเคิลกำลังรอเธออยู่หน้าสตูดิโอศิลปของเธอ เขาตื่นตากับซุปเปอร์คาร์สุดเท่ที่ปรากฏในวิสัยทัศน์ของเขา เมื่อเขาเห็นชาร์ล็อตออกมาจากรถ เขาก็ขยี้ตาแล้วเดินเข้ามาหาเธอ “พี่คาร์ลี่ ผมรู้ว่านางงูพิษทิฟฟานี่เธอเจ้าเล่ห์ ผมจึงได้สอบสวนเธอ และในที่สุดวันนี้ผมก็รู้ทุกอย่าง ทิฟฟานี่ เธอ--” “ไมเคิล เข้าไปในสตูดิโอกันก่อน” ชาร์ล็อตขัดจังหวะ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เด็กสาวสองคนทุบเธอจนล้มลงไป และวิกเตอร์มาหาเธออีกคน หลังจากที่เธอมาถึงสตูดิโอศิลปะเมื่อวันก่อน เธอระแวงว่าจะมีคนตามเธอมาอย่างเงียบ ๆ ดังนั้น เธอจึงคิดว่าเป็นการดีกว่าสำหรับพวกเขาที่จะนำบทสนทนาของพวกเขาไปคุยในห้องที่ไม่มีใครได้ยิน นี่เป็นครั้งแรกที่ชาร์ล็อตมาที่สตูดิโอศิลป นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นั้น ตอนที่แซคคารีมาช่วยเธอ เขาได้เตะประตูเดิมหลุดไป ตอนนี้ได้เปลี่ยนประตูใหม่แล้ว พ่อของชา