“เธอ…”ไบรสันโพล่งออกมาด้วยความโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาในตอนนี้บิดเบี้ยวมาจนดูไม่เหมือนเขาอีกต่อไป“ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์! จำเรื่องนี้ไว้ซะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ฉันจะทำให้เธอชดใช้”“โอ้ จริงเหรอ?”หัวใจของชาร์ล็อตเริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เธอยังคงบังคับตัวเองให้แน่วแน่ต่อไป“นายกลัวฉันจริงสินะ ไบรสัน นายได้ตายไปจากฉันตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องจองเวรใด ๆระหว่างเรา ถ้านายไม่ว่าอะไร นายช่วยอธิบายเรื่องหนึ่งให้ฉันฟังได้ไหม? นายวางแผนที่จะทำให้ฉันชดใช้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับทิฟฟานี่ยังไง?”“ถ้าทิฟฟานี่ตาย ฉันจะทำให้แน่ใจว่าเธอตายด้วยเหมือนกัน เธอ นังฆาตกร” ชายคนนั้นที่ถูกกลืนกินด้วยความเศร้า ความโกรธ และความแค้นกำลังเปล่งเสียงออกมาทุกคำเหมือนคำสาป‘เฮะ…’ครั้งนี้ ชาร์ล็อตรู้สึกไม่เจ็บปวด ที่จริงแล้ว มุมปากของเธอม้วนเป็นการเย้ยหยัน “มันแปลกนะฉันไม่เคยรู้ตัวว่านายโง่มากแค่ไหน นายไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายทั่วไปเลยใช่ไหม? แม้ว่าเธอตายจริง อย่างมากสุด ฉันคงจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและถูกส่งตัวเข้าคุก ฉันคงไม่ได้รับโทษถึงตายอย่างแน่นอน”ไบรสันจ้องเธอด้วยสายตาที่เย็นชาที่คมเหมือนกับมีดและเยือกเย
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอเปิดประตูรถ ขณะที่เธอกำลังจะขึ้นรถ ก็มีเสียงเย็นเยือกน่าดึงดูดเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "เธอกำลังจะไปไหน?" “อ๊ะ!” ชาร์ล็อตร้องตกใจจนทำกุญแจตกลงพื้น เธอหมุนตัวไปรอบ ๆ เธอสั่นเกินกว่าจะก้มลงไปหยิบกุญแจ ตามที่คาดไว้ เธอได้เผชิญหน้ากับความเย็นเยือกที่เย็นยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็งของชายผู้นี้ แต่มันก็สง่างามยิ่งกว่าภูมิประเทศที่สวยงามทั้งหมดบนโลกใบนี้… “แซคคารี!” ชาร์ล็อตร้องเรียกชื่อของเขาด้วยความตื่นตระหนก “นายมายืนอยู่ข้างหลังฉันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย? นี่… นายสะกดรอยตามฉันงั้นเหรอ?” ดวงตาของแซคคารีเย็นชา เธอไม่เห็นร่องรอยของอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเขาไม่แยแสในขณะที่เขาพูด “บางครั้ง การมีคนสะกดรอยตามอาจเป็นสิ่งที่ดี แล้วมันก็อาจมีประโยชน์ เมื่อพูดถึงการป้องกันการต่อสู้แบบแก๊ง” ชาร์ล็อตเข้าสู่ความงุนงง จากนั้น เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมเหล่าแฟน ๆ ของทิฟฟานี่ถึงได้ถอยหนีแทนที่จะโจมตีเธอ ราวกับว่ามีบางอย่างทำให้พวกเขาหวาดกลัว เป็นเพราะแซคคารีปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเธอนี่เอง มีคนไม่มากนักที่รู้จักแซคคารี แต่คนขี้ขลาดจะหวาดกลัวเมื่อได้เ
'ฮะ?' ชาร์ล็อตตัวแข็งทื่อ อย่างไรก็ตาม แซคคารีพูดต่อ "เธอต้องไปโรงพยาบาล" ชาร์ล็อตยิ่งสับสนเข้าไปเข้าอีก “ทิฟฟานี่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เธอต้องไปกับทิฟฟานี่” น้ำเสียงของแซคคารีเฉยเมยเหมือนอย่างเคย มันไม่มีอารมณ์ใด ๆ เลย ในทางกลับกัน ชาร์ล็อตโพล่งออกมาทันทีราวกับสิงโตตัวเมียที่ฉุนเฉียว “ไม่ ฉันไม่ไป! เธอทำตัวเอง ฉันไม่เสียใจที่ตบเธอเลยสักนิด! ฉันจะไม่ไปโรงพยาบาลกับเธอ และฉันจะไม่เอ่ยปากขอโทษเด็ดขาด!” ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้นโดยลืมความกลัวไปหมดสิ้น เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาที่เฉียบคมของแซคคารี แซคคารีไม่โกรธและหน้าก็ไม่ได้บูดบึ้ง มุมปากของเขากลับขดเป็นรอยยิ้มที่น่าพิศวงแทน “เธอหมายความว่า เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉันงั้นสิ?” 'อะไรนะ? เขาไม่ได้จะลงโทษฉันที่ก่อปัญหาหรอกเหรอ? เขาจะช่วยฉันงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนฝันไป?' ชาร์ล็อตกระพริบตาปริบ ๆ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? แซคคารี… นายจะช่วยฉันงั้นเหรอ?” แซคคารีไม่ตอบ แต่ความเงียบของเขามันก็เพียงพอแล้ว “นี่คือการถ่ายทอดสดที่คนทั้งโลกกำลังจับตามอง ผู้คนหลายพันล้านคนเห็นเธอตบหน้าทิฟฟานี่ และคนเหล่านั้นก็ยังเข้าใจผิดคิดว่าที่
'เขาเป็นซุปเปอร์แมนเหรอ? เขามีวิสัยทัศน์อย่างกับกล้องส่องทางไกลเลยรึไง?' “ฮ่า! สวัสดีนายหญิงของผม คุณมีเสียงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะครับ แต่คุณมีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า” คำอุทานที่ประจบประแจงอย่างมีความสุขมันเป็นการบอกการมาถึงลูคัส ชาร์ล็อตโบกมือให้ลูคัสและยิ้มอย่างรู้ทัน “เฮ้ สวัสดี!” สายตาของแซคคารีมืดลงอย่างน่ากลัว ชาร์ล็อตไม่ค่อยยิ้มให้เขา ถึงเธอจะยิ้มแต่มันก็เป็นร้อยยิ้มฝืน ๆ เหมือนถูกบังคับ แต่กับลูคัสมันตรงข้ามกันเลย เธอมักจะพูดกับลูคัสด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะเสมอและมีท่าทางเป็นกันเองและยิ้มง่าย... 'ดูเหมือนว่าฉันจะเตือนลูคัส และบอกให้เขาระวังตัวทุกครั้งที่เขาอยู่กับนายหญิงคอนเนอร์แล้วนะ!' “ครับ ผม… โอ้!” ลูคัสเสียงสูงเป๋ เมื่อเห็นแววตาอาฆาตในดวงตาของแซคคารี 'อ้อ เข้าใจแล้ว! นายหญิงคอนเนอร์อาจจะลืมไป แต่นายท่านรองนี่สิ หึงหวงจนตาขุ่นตาเขียวแล้ว แต่ลืมผู้ชายอย่างฉันไปได้เลย ฉันเกรงว่าถ้านายหญิงคอนเนอร์มีสัตว์เลี้ยงขึ้นมา นายท่านรองคงจะอิจฉาสัตว์เลี้ยงตัวนั้นมากด้วยเหมือนกัน ฉันว่าฉันน่าจะหยุดคุยกับนายหญิงคอนเนอร์ต่อหน้านายท่านรองนะ…’ ลูคัสลูบหัวรังนกสีทองเพื่อปลอบ
“เธอตบทิฟฟ์ตกจากเวทีและทำให้ชีวิตของเธออยู่ห่างจากความตายเพียงแค่เสี้ยวเดียว แต่เธอก็ยังทำตัวเย็นชาและไร้หัวใจได้ ตอนนี้ทิฟฟ์พ้นขีดอันตรายแล้ว เธอมาที่นี่เพื่อเยี่ยมทิฟฟ์งั้นเหรอ? หรือเธอกำลังเสแสร้ง?” ไบรสันโกรธจัดทันทีที่เห็นชาร์ล็อต ชาร์ล็อตขดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ “นายพูดถูก ฉันเสแสร้ง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย? ทิฟฟานี่เสแสร้งแกล้งใส่ร้ายฉันได้คนเดียวงั้นเหรอ? ฉันไม่มีสิทธิ์เสแสร้งและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันงั้นเหรอ?” “เหอะ” ไบรสันหัวเราะทั้ง ๆ ที่เขาโกรธ ข้ออ้างของชาร์ล็อตเคยหลอกเขาได้ในอดีต เขาเคยคิดว่าเธอใสซื่อและจิตใจดี แม้ว่าชาร์ล็อตจะส่งคนกลุ่มหนึ่งมาทำร้ายทิฟฟานี่ ไบรสันก็ยังพยายามเข้าใจในจุดที่เธออยู่ บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกต่อเขาที่มันล้นหลาม นั่นคงเป็นเหตุผลที่เธอสูญเสียการควบคุมและโหดร้ายกับทิฟฟานี่… ตอนนี้เขาได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว ชาร์ล็อตเป็นคนใจดำเสมอมา มันไม่มีทางที่จะดีขึ้นได้! “โอ้ ไบรซ์ มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอมาที่นี่ทำไม แต่ฉันมีความสุขที่เธอมา อย่าพูดถึงเธอแบบนั้นสิ” ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทิฟฟ์…” ใจของไบรสันละลายเมื่
“เธอรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร” น้ำเสียงของแซคคารีเย็นชา เขารู้ว่าทิฟฟานี่จะไม่สารภาพ ดังนั้น เขาจึงไม่โต้เถียงกับเธออีก เขากลับออกคำสั่งอย่างเลิศลอยแทน “เธอบอกว่าเธอจะไม่สารภาพ งั้น ฉันจะให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง แถลงต่อสาธารณะชนเพื่อชี้แจงความจริงโดยสมัครใจ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ใช่คนเดียวที่ต้องตาย ทั้งครอบครัวของเธอจะตายไปกับเธอด้วย” ทิฟฟานี่ได้ยินเสียงพึมพำในใจ ก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา ไบรสันก็สูญเสียการควบคุมและลุกขึ้นยืน “มันมากเกินไปแล้วนะ แซคคารี คอนเนอร์! นายก็อยู่แถวหน้ากับฉันตอนที่ทิฟฟ์เกิดอุบัติเหตุ นายเห็นชาร์ล็อตตบทิฟฟ์เต็ม ๆ ตา ทิฟฟานี่ผ่านเรื่องพวกนี้มาไม่พองั้นเหรอ? แทนที่จะให้ชาร์ล็อตขอโทษทิฟฟ์ นายกลับกำลังบังคับให้เธอบิดเบือนข้อเท็จจริงและแก้ต่างให้ชาร์ล็อตงั้นเหรอ?” 'อะไรนะ? แซคคารีอยู่ที่คอนเสิร์ตด้วยงั้นเหรอ? เขาระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลงก่อนสมรสของเราว่า ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาใด ๆ ดังนั้น… เขาควรจะห้ามไม่ให้ฉันสร้างปัญหาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาไม่หยุดฉัน ทำไมเขาถึงอยู่แถวหน้าและเฝ้าดูเรื่องราวทั้งหมดล่ะ?' ชาร์ล็อตสับสนมาก แซคคารีจ้องไปที่ไบรสัน “นี่เ
“ชาร์ล็อต ฉันเตือนเธอแล้วนะ… บอกแซคคารีให้หยุดหรือ— อุ๊บ!” เทปพันสายไฟถูกพันเข้าที่ปากของไบรสันอย่างแน่นหนา มันทำให้เขาเงียบ ลูคัสปิดปากเขาไว้ และเอาเทปพันปากของเขา เขาดูปลื้มปริ่มกับตัวเองมาก “เก็บแรงของคุณไว้เถอะครับ นายท่านรองต้องการให้คุณเงียบปากและเพลิดเพลินกับการแสดง เพื่อประโยชน์ของคุณเอง นี่เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมากเลยนะครับ” ไบรสันไม่สามารถส่งเสียงได้ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คุ้มกันที่แข็งแรงสองคนล็อกแขนของเขาไว้คนละข้าง เขาจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย เขาทำได้แค่เบิกตากว้างเฝ้าดูทุกอย่าง 'ทิฟฟานี่ มิลเลอร์! ผู้หญิงที่ฉันรัก!' หลังจากที่ทิฟฟานี่โดนข่มขืน เขาเคยคุกเข่าลงตรงร่างที่บอบช้ำและมีแผลเต็มไปหมดของเธอ และสาบานด้วยน้ำตา นับตั้งแต่วันนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก แต่ในวันนี้ เขาถูกบังคับให้ได้แค่ยืนข้างเตียงของเธอและมองดูแซคคารีรังแกเธอ! 'ไม่! ชาร์ล็อตต้องจัดการแซคคารีในเรื่องนี้ ชาร์ล็อตเป็นคนอยู่เบื้องหลังความทุกข์ทรมานของทิฟฟ์! ชาร์ล็อตอีกแล้ว!' แซคคารีเหลือบมองไบรสันอย่างเฉยเมย จากนั้นหันก็กลับมามองทิฟฟานี่ เขาหรี่ตาลง “เธอได้ยินที่ฉัน
“นางตัวสร้างปัญหา!” “นางลูกทรพี! ลูกไม่รักดี!" แม่ของทิฟฟานี่หยุดพูดทันที เพราะมีมีดแหลมจ่อที่คอของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดในขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอจ้องไปที่กล้องและร้องไห้ และมีมีดอีกสองเล่มจ่ออยู่ที่คอของพ่อและน้องชายของทิฟฟานี่พร้อมกัน ทิฟฟานี่ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสิ่งนี้ เธอตกใจมากจนลืมที่จะร้องไห้ไปเลย พ่อแม่ของทิฟฟานี่ปฏิบัติต่อเธอไม่ค่อยดีนัก เมื่อหลายปีก่อน พ่อแม่ของทิฟฟานี่บังคับให้เธอเลิกกับไบรสันและย้ายไปบูเรเซีย แต่เธอก็ดูแลพ่อแม่ของเธอเสมอ และยีนน้องชายของเธอเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกสำหรับเธอ ทิฟฟานี่ไม่เคยคิดว่าอำนาจของแซคคารีจะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสามารถจับครอบครัวของเธอที่อาศัยอยู่ห่างไกลออกไปอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว เขารู้จุดอ่อนของเธออย่างแม่นยำ… “เธอจะต้องเผชิญสองความเป็นไปได้ในหนึ่งชั่วโมง เธอจะแก้ข้อกล่าวหาเรื่องภรรยาของฉันแล้วครอบครัวของเธอจะปลอดภัย หรือปล่อยให้ภรรยาของฉันเสียชื่อเสียงต่อไปและครอบครัวของเธอจะต้องตาย แล้วเธอก็จะตามพวกเขาไปในอีกไม่ช้า” แซคคารีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จากนั้นก็หันหลังกลับเดินออกจากวอร์ด เขาคว้าข้อมือของชาร์ล็อตด้วยมืออั