Share

บทที่ 13

เยี่ยเป่ยเฉิงสงบสติอารมณ์ เดินจ้ำอ้าวไปที่ประตู

เสวียนอู่เปิดม่านเกี้ยว เยี่ยเป่ยเฉิงโค้งตัวขึ้นบนรถม้า หลินซวงเอ๋อร์ก็เดินตามอยู่ข้างนอกรถม้า

รถม้าวิ่งเร็วมาก หลินซวงเอ๋อร์จึงต้องวิ่งเหยาะๆ ถึงจะตามทัน

หลังจากเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งกิโลเมตร รถม้าก็หยุดอีกครั้ง

เยี่ยเป่ยเฉิงเปิดม่านเกี้ยว: "ขึ้นมา"

หลินซวงเอ๋อร์ฟังแล้ว ก็ยังตอบสนองไม่ทัน

เสวียนอู่ที่อยู่ข้างหลังเร่งเร้าหลินซวงเอ๋อร์ว่า: "ถ้านายท่านขอให้ขึ้นไป เจ้าก็ขึ้นไป"

จากนั้นหลินซวงเอ๋อร์ถึงปีนขึ้นไปบนรถม้าด้วยความลนลาน

ตอนที่นั่งอยู่ในรถม้า หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายใจ

นางไม่เคยนั่งรถม้ามาก่อนเลย ข้างในมีกลิ่นหอม และกว้างขวาง แม้แต่เบาะรองนั่งก็ยังนุ่ม ดีกว่าเกวียนวัวที่นางเคยนั่งมาก่อนมาก

พื้นที่ภายในรถมีขนาดใหญ่มาก เยี่ยเป่ยเฉิงนั่งตรงกลาง หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้านั่งข้างเขา ร่างกายอันผอมเพรียวของซุกตัวอยู่ที่มุมด้านในสุด

นัยน์ตาแอบเหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิง เขาหลับตาลงเล็กน้อยเพื่อพักผ่อน

ในรถม้ามืดสลัว ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและหล่อเหลามาก

เสียงที่คึกคักบนท้องถนนดังก้องในหูไม่ขาดสาย หลินซวงเอ๋อร์ทั้งรู้สึกกังวลทั้งอยากรู้อยากเห็น นางอยากเปิดม่านดู แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนเยี่ยเป่ยเฉิง

อย่างไรเสีย ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้วจริงๆ

หลังจากที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เดิมทีเยี่ยเป่ยเฉิงอยากจะพักผ่อนครู่เดียว กลิ่นหอมค่อยๆเข้ามาเป็นระยะ ทำให้เขาอ่อนเพลียจริงๆ จึงหลับไปโดยไม่รู้ตัว

มีคนดึงแขนเสื้อของเขาท่ามกลางความมืดสลัว เยี่ยเป่ยเฉิงลืมตาที่เหนื่อยล้าคู่นั้น และเห็นหลินซวงเอ๋อร์มองเขาด้วยดวงตาที่กลมโต

“ท่านอ๋อง องครักษ์เสวียนกำลังเรียกท่าน”

รถม้าหยุด เสวียนอู่ร้องอยู่ข้างนอกหลายครั้ง เมื่อเห็นว่าเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ตอบสนอง หลินซวงเอ๋อร์จึงรวบรวมความกล้าแล้วปลุกเขา

เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดไม่ถึงว่า เขาที่นอนไม่หลับทั้งคืน จะหลับอยู่ในรถม้าคันนี้

เท่าที่เขาจำได้ เขาไม่เคยหลับอย่างสงบสักครั้งเลย เวลาเดินทางก็ยิ่งระมัดระวังมากกว่าเดิม การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้ตื่นทันที

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาถึงได้นอนหลับอย่างสงบสุข ในรถม้าขนาดเล็กและคับแคบเช่นนี้

มาถึงอย่างสบายใจ เสวียนอู่เรียกเขาอยู่ข้างนอกหลายครั้งแต่ก็ไม่ตื่น

เขาบีบนวดคิ้ว ถึงได้ยินเสียงของเสวียนอู่ชัดเจน

“ท่านอ๋อง เรามาถึงแล้ว” เสวียนอู่จอดรถม้าไว้ที่อยู่ข้างถนน

หลินซวงเอ๋อร์เปิดม่านและลงจากรถม้า

เมื่อเงยหน้าดู ก็พบว่านี่คือร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง-ปู้ซือสู่

เท่าที่นางรู้ คนที่มาที่นี่ไม่ใช่คนร่ำรวยก็เป็นคนที่สูงศักดิ์ สามัญชนคนธรรมดาไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไป

เยี่ยเป่ยเฉิงก็ลงจากรถม้าเช่นกัน เขายืนอยู่ข้างนอกร้านอาหารปู้ซือสู่ สายตามองไปที่ใครบางคนโดยไม่รู้ตัว

ในเวลานี้ ดวงตากลมโตของหลินซวงเอ๋อร์ พินิจมองปู้ซือสู่อย่างประหม่าและอยากรู้อยากเห็น

ความรู้สึกแปลกๆนั้นพลั่งพรูขึ้นมาอีกครั้ง เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ท่านอ๋อง ทุกคนมาถึงแล้ว องค์ชายสามทรงรออยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว”เสวียนอู่กล่าว

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว กำจัดความคิดที่ยุ่งวุ่นวายในใจ ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน หลินซวงเอ๋อร์ตามมาอย่างใกล้ชิด

พอคนสองสามคนเดินเข้าไปในร้านอาหารปู้ซือสู่ ทันทีที่เถ้าแก่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงก็ยกกระโปรงเดินลงมาจากบันได

นางมีสายตาที่เฉียบแหลมมาก เยี่ยเป่ยเฉิงมีบุคลิกที่โดดเด่น เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ก็เป็นผ้าทอชั้นดี พอเห็นรถม้าของจวนอ๋องที่จอดอยู่ข้างนอก นางก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้ท่านนี้จะต้องเป็นท่านอ๋องแห่งจวนหย่งอันแน่นอน

“โอ้ ได้ยินมาว่าท่านอ๋องกำลังจะมา ข้าน้อนจึงมารออยู่ที่นี่นานแล้ว” เถ้าแก่สาวแต่งหน้าประณีตสวยงาม และทุกการเคลื่อนไหวล้วนมีเสน่ห์มาก

เมื่อเดินเข้ามาใกล้เถ้าแก่สาว กลิ่นหอมฉุนของแป้งก็กระทบไปที่ใบหน้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าที่ดูเย็นชา พอเห็นนางก็ขมวดคิ้ว

เสวียนอู่รีบไปปกป้องอยู่ข้างหน้าทันที และส่งสัญญาณให้เถ้าแก่สาวอย่าเข้ามาใกล้อีก

เถ้าแก่สาวก็หยุดเดิน ว่ากันว่าท่านอ๋องเทพแห่งสงครามแห่งจวนหย่งอัน ไม่ใคร่ในอิสตรี ตอนนี้ได้เห็นมันด้วยตาตนเองแล้ว

เถ้าแก่สาวมีไหวพริบที่ดีมาก จึงรีบถอยหลังกลับไปสองสามก้าว

“โอ้ สังคมภายนอกต่างก็บอกว่าท่านอ๋องมีรูปลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกายก็จะหน้าตาขนาดนี้ ดูรูปร่างหน้าตาที่มีน้ำมีนวลของเขาสิ ช่างทำให้ข้าน้อยอิจฉามาก” พอเถ้าแก่สาวสังเกตเห็นหลินซวงเอ๋อร์ที่ติดตามอยู่ข้างหลังเยี่ยเป่ยเฉิง นัยน์ตาก็เป็นประกายทันที

นัยน์ตาที่เฉียบคมกวาดสายตาไปที่บนตัวหลินซวงเอ๋อร์ เถ้าแก่สาวก็อุทานด้วยความประหลาดใจ

“ดูรูปร่างหน้าตาสิ สวยงามมาแต่กำเนิด หากเป็นสตรีไม่รู้ว่าจะทำให้คนอิจฉาเพียงใด” พูดจบ นางก็มองหลินซวงเอ๋อร์อย่างมีนัยความหมาย

หลินซวงเอ๋อร์ถูกนางจ้องจนรู้สึกอึดอัดใจ นางย่อตัวลง และไปหลบอยู่ด้านหลังของเยี่ยเป่ยเฉิง

เยี่ยเป่ยเฉิงยกแขนขึ้นเล็กน้อย แขนเสื้อที่กว้างของเขาบดบังสายตาเถ้าแก่สาวได้พอดี

เถ้าแก่สาวก็หัวเราะออกมาทันที

นางก็แค่มองดูแค่ครู่เดียวก็เท่านั้น เขาก็ปกป้องขนาดนี้ ซึ่งไม่เหมือนกับบุคลิกที่เย็นชาที่เขาเป็นมาตลอด

เมื่อเห็นดังนี้ เถ้าแก่สาวก็ไม่อย่าเย้าแหย่นาง แล้วพาเยี่ยเป่ยเฉิงขึ้นไปที่ห้องส่วนตัวบนชั้นสอง

“ท่านอ๋อง เชิญขึ้นไปชั้นบนเถิด สหายของท่านรออยู่ชั้นบนนานแล้ว”

หลินซวงเอ๋อร์ตามไปตามสัญชาตญาณ แต่เสวียนอู่กลับขวางนางเอาไว้

“เจ้ารออยู่ที่นี่ แล้วจะมีคนมารับเจ้าทีหลัง” เสวียนอู่มีใบหน้าที่เย็นชา เหลือบมองไปที่หลินซวงเอ๋อร์บแล้วเดินตามเยี่ยเป่ยเฉิงเข้าไปในห้องส่วนตัว

เมื่อได้ยินดังนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็หยุดชะงักเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังลังเล

เสวียนอู่กล่าวว่า: "ขันทีอู๋ก็อยู่ที่นี่ด้วย หากท่านอ๋องเสียใจ จะจัดการวันอื่นก็ได้"

เยี่ยเป่ยเฉิงกำหมัดแน่น ราวกับว่าตัดสินใจแล้ว เขาสงบจิตใจลงอีกครั้ง และขึ้นไปชั้นบนโดยไม่หันกลับมามอง

หลินซวงเอ๋อร์มองไปที่แผ่นหลังของเยี่ยเป่ยเฉิง ยืนอยู่ที่เดิมและทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่ได้มองนางอีกเลย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status