หลังจากผ่านไปประมาณสองชั่วยาม ในที่สุดประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออกมาจากด้านใน“พระชายา!”“นายท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”“ท่านอ๋องไม่เป็นอะไรมากใช่หรือไม่?”ทุกคนรีบเดินไปข้างหน้าทันที สายตาที่เป็นห่วงจำนวนมากมองไปยังหญิงสาวอย่างพร้อมเพรียงกันฉู่เชียนหลีที่ทำการผ่าตัดสี่ชั่วโมงเต็ม ใบหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่น้ำเสียงกลับสบายใจขึ้นมาก“บาดแผลของ เลือดก็หยุดไหลแล้ว ตอนนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่อาการบาดเจ็บสาหัสมาก อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้ เกรงว่าอาจจะต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด”แน่นอนว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องในอนาคต สิ่งที่สำคัญก็คือปลอดภัยแล้วหานอิ๋งรีบวิ่งเข้าไปในห้อง รีบเข้าไปจับชีพจรให้อ๋องเฉิน พ่อบ้านหยางรีบเข้าไปเยี่ยม เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงยืนอยู่ที่ประตู จ้องมองอยู่ไกล ๆ ตอนที่หานเฟิงกำลังจะเดินเข้าไป เสียงหนึ่งก็เรียกเขาเอาไว้“เจ้ามากับข้า”เขาหยุดชะงักฝีเท้าเล็กน้อยพระชายา...มองด้านในห้องแวบหนึ่ง แล้วก็มองแผ่นหลังของพระชายาที่เดินออกไปด้านนอก ลังเลครู่หนึ่ง จึงสาวเท้าเดินตามไปด้านนอกเรือน บริเวณที่ไร้ผู้คนฉู่เชียนหลีเช็ดคราบเลือดบนมือทั้งสองข้างจนสะอาด เอ่ยปากพูดเ
รองเจ้ากรมเดินตามเกี้ยว ยังคงหัวเราะอย่างได้ใจไม่หยุด“ใต้เท้า เกรงว่าเจ้าอ๋องเฉินนั่นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส คงจะหายได้ยาก มีรัชทายาทคอยคุ้มครอง แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บ ก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเราหรอก พวกเราต้องไปเยี่ยมคนแพ้ที่จวนอ๋องเฉินหรือไม่?”ด้านในเกี้ยว น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม“ถ้าหากเขาเห็นว่าข้ากำลังกระโดดโลดเต้นต่อหน้าเขา ลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ไม่แน่ว่าถ้าได้เห็นข้า อาจจะโมโหจนตายไปเลยก็ได้...เอ่อ!”น้ำเสียงหยุดชะงักลงกะทันหัน“ฮ่า ๆ ๆ!” รองเจ้ากรมไม่สังเกตเห็นถึงรายละเอียดนี้ ยังคงหมกมุ่นอยู่ในเรื่องที่เอาชนะอ๋องเฉินได้ หัวเราะเสียงดังอย่างได้ใจ จนปากแทบจะฉีกไปถึงรูหู“ฮ่า ๆ ๆ! ใต้เท้าช่างมีจิตใจเมตตา ฮ่า ๆ ๆ!”“ใต้เท้า ข้าคิดว่า...”เขากำลังพูดเสียงเจื้อยแจ้วด้านในเกี้ยว กลับไม่มีเสียงตอบรับไม่มีใครมองเห็นด้านในเกี้ยว ชายวัยกลางคนที่เดิมทีนั่งตัวตรงตอนนี้แขนขาทั้งสี่ข้างกางออก ล้มอยู่บนพื้น หัวโผล่ออกมาด้านนอกอีกด้านอย่างไร้เรี่ยวแรง เลือดไหลออกมาจากมุมปากแท่งน้ำแข็งแท่งหนึ่งแทงทะลุหัวใจมาจากทางด้านหลัง เมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิของร่างกาย แท่ง
ฉู่เชียนหลีค่อย ๆ ยกมือข้างขวาขึ้น ฝ่ามือหงายขึ้นด้านบนแล้วแบออก ถามขึ้นอย่างกะทันหัน“นี่คือ?”หานเฟิง “?”แน่นอนว่าต้องเป็นมือสิ!ยังไม่ต้องพูดถึงว่า มือของพระชายาสวยงามมาก เล็ก ๆ นิ้วมือทุกนิ้วเรียวยาวมาก ขาวสะอาดราวกับต้นหอม แม้แต่กระดูกข้อนิ้วก็สมบูรณ์แบบจนไร้คำบรรยายแต่ว่าที่พระชายาถามไม่ใช่คำพูดเหลวไหลหรอกหรือ?หรือว่ามีความหมายอื่นแฝงอยู่?เขาเกาหัว มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง ก็สะอาดหมดจด ไม่มีตำหนิ ถามอย่างอดสงสัยไม่ได้“พระชายา หรือว่ามือของท่านมีอะไรอย่างนั้นหรือ?”นางพยักหน้า กล่าว “เลือด”“?”เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าสะอาดมาก ไม่มีแม้แต่ไฝสักเม็ด มีเลือดที่ไหนกัน?!ฉู่เชียนหลีหลุบดวงตาลงเล็กน้อย แต่กลับมีความซับซ้อนไหลล้นออกมานางเป็นหมอ ฝีมือทางการรักษายอดเยี่ยม สองชั่วชีวิตได้ช่วยผู้คนเอาไว้มากมาย แต่ไม่เคยฆ่าคนมาก่อน วันนี้เป็นครั้งแรกเมื่อก่อน มือนางเปื้อนไปด้วยเลือด ล้วนเป็นเลือดที่ช่วยชีวิตคนให้รอดพ้นจากการบาดเจ็บล้มตายวันนี้...เป็นครั้งแรก...ดูเหมือนว่าในฐานะที่เป็นหมอ ก็ควรจะช่วยเหลือทุกคน ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพแต่ความรู้สึกของการฆ่าคนเหมือนว่าจ
เขาผู้เป็นพี่ใหญ่ มาเยี่ยมน้องชายด้วยความหวังดีแต่ดวงตาของฉู่เชียนหลีกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนแอบจัดการ ร่วมมือกับเจ้ากรมคลังทำร้ายเฟิงเย่เสวียนจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กลับมาเสแสร้งร้องไห้เสียใจ ชายหนุ่มที่แสดงละครช่างน่าสะอิดสะเอียนเสียยิ่งกว่าดอกบัวสีขาวเสแสร้ง!นางแสยะยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณรัชทายาทที่เป็นห่วง อ๋องเฉินมีเพียงแค่แผลถลอกเท่านั้น ไม่เป็นอะไรมาก”“งั้นหรือ?”เฟิงเจิ้งอวี้เลิกคิ้วเหลือบตา กวาดสายตามองภายในห้องรอบหนึ่ง ถงเฟยอยู่ภายในห้องด้วย พุ่งตัวไปด้านหน้าเตียง ร้องไห้จนตาแดง เป็นเพียงแค่แผลถลอกอย่างนั้นหรือ?อวดดีเขายกเท้าขึ้น เดินเข้าไปในห้องทันใดนั้นฉู่เชียนหลีก็ยกมือขึ้นขวาง “อ๋องเฉินกำลังพักผ่อน ไม่ควรให้คนไปรบกวนมากเกินไป ก่อนหน้านี้อ๋องเฟิง อ๋องติ้ง อ๋องหลีพวกเขาก็มาเยี่ยมเช่นกัน แต่ไม่ได้เข้าไปในห้อง”เมื่อเฟิงเจิ้งอวี้ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มในดวงตาก็ล้ำลึกมากกว่าเดิมขวางเอาไว้ไม่ให้พบ ดูท่า อาการน่าจะสาหัสมากเลยสิท่าไม่เข้าก็ไม่เข้า ถึงอย่างไร ภายในใจเขาก็ย่อมรู้ดี“โชคดีที่พระชายาอ๋องเฉินมีฝีมือการรักษา สามารถรักษาน้องเจ็ดได้ท
สีหน้าของเซียวจือฮว่าชะงักไปเล็กน้อย ทั้งสองข้างที่ยื่นออกมาแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ จะเก็บกลับไปก็ไม่ใช่ วางลงก็ไม่ใช่ ขายหน้ายิ่งหานอิ๋งเดินอ้อมนาง มาถึงที่ตรงด้านหน้าเตียง ตักยาที่ยังร้อนกรุ่นขึ้นมาช้อนหนึ่งแล้วเป่า หลังจากลงให้เย็นลงหน่อย ก็ยื่นไปใกล้ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างระวังถงเฟยเห็นดังนั้น หว่างคิ้วก็ขมวดเข้าหากันทันทีเซียวจือฮว่าไม่มีสิทธิ์ปรนนิบัติอ๋องเฉิน หานอิ๋งมีสิทธิ์อย่างนั้นหรือ?ทันทีที่หันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง ก็เห็นฉู่เชียนหลียืนอยู่ด้านนอก พับแขนเสื้อแล้วกำลังจะเดินจากไปนางรีบพุ่งตัวออกไปด้านนอกเอ่ยปาก “เชียนหลี สามีที่รักของเจ้ากำลังรอเจ้าไปป้อนยาอยู่น่ะ เจ้าเดินผิดทางแล้ว!”ฉู่เชียนหลี “?”นางยังโมโหอยู่นะ!ช่วยชีวิตเขากลับมาได้ ทั้งหมดเป็นเพราะเชื่อฟังหัวใจ ฝืนอารมณ์ แต่นางยังคงโมโหอยู่จริง ๆ ในเมื่อเขาไม่ได้มีอันตรายถึงแก่ชีวิตแล้ว ยังจำเป็นต้องให้นางปรนนิบัติที่ไหนกัน?ป้อนยา?มือขวาก็พอมือของใครไม่ใช่มือ เหตุใดต้องเป็นมือของนางด้วย?นางหันหลังกลับมา กล่าวกับในห้อง “เสด็จแม่ ข้าจะไปจัดยาให้เขา”พูดจบ กำลังจะเดินไป“ข้าไปเอง!” ถงเฟยรีบลุกขึ้น
ฉู่เชียนหลี “...”อายุยี่สิบกว่าแล้ว ยังไม่กินยา?สายตาที่เหลือบมองชายหนุ่มแฝงไปด้วยท่าทีรังเกียจพร้อมขมวดคิ้วท่าทางที่ดื้อรั้นยิ่ง เมื่อคิดถึงคำพูดที่แล้งน้ำใจเหล่านั้นก่อนหน้านี้ของเขา ในใจก็มีเพลิงโทสะลุกโชนขึ้นมาทันใดนั้น สายตาล้ำลึก เจตนาร้ายฉายแววออกมา“เยว่เอ๋อร์ ไปเอาช้อนแกงมา”เยว่เอ๋อร์ตอบรับ ไปหยิบมาด้วยความรวดเร็วฉู่เชียนหลีโยนช้อนยาเล็กทิ้ง เปลี่ยนเป็นช้อนใหญ่ ตักยาสีดำสนิทขึ้นมาหนึ่งช้อนใหญ่ช้า ๆ บีบปากของชายหนุ่มให้อ้าออก แล้วเททั้งหมดลงไป“อ่อก!”ชายหนุ่มต่อต้านกำลังจะอ้วกออกมา มือของหญิงสาวรีบปิดคางของเขาทันที บีบจุดลมปราณบริเวณลำคอของเขา พยายามให้เขากลืนลงไปยาที่มีรสขมลงไปในท้อง ทำให้หว่างคิ้วของชายหนุ่มที่อยู่ในอาการหมดสติขมวดเข้าหากัน จนใบหน้าเหยเกฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น ยังไม่ทันจะได้สะใจก็รีบตักขึ้นมาอีกช้อน แล้วพยายามเทลงไป“อ่อก! อ่อก ๆ ...”ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียง บริเวณท้องบาดเจ็บ ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้ มีเพียงแค่แขนขาทั้งสี่ข้างที่สั่นระริกกำลังพยายามดิ้นรนอย่างดื้อรั้น...เยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนใจสั่นท่านอ๋องเหม
เรื่องที่อ๋องเฉินได้รับบาดเจ็บกระจายออกไป ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพากันวิพากษ์วิจารณ์ โดยทั้งด้วยความห่วงใย สงสัย และคาดเดา...เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช้าวันใหม่ตลอดคืนนี้ ฉู่เชียนหลีเฝ้ามาตลอดทั้งคืน ชายหนุ่มบนเตียงกลับยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมา อุณหภูมิของร่างกายเย็นขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป สมรรถภาพแต่ละด้านของร่างกายจึงลดลง ภูมิต้านทานลดต่ำลง กลัวหนาวเป็นอย่างยิ่งนางหอบผ้าห่มมาสองผืน ห่มลงไปบนร่างกายของเขา ผ้าห่มหนา ๆ ทับเขาจนกลายเป็นลูกแกะที่ดูซีดเซียวน่าสงสารไร้เรี่ยวแรงตัวหนึ่ง“พระชายา ทำแบบนี้ไม่ได้!”ด้านนอกประตู หานอิ๋งเห็นดังนั้น จึงรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “นายท่านบาดเจ็บบริเวณท้อง ทำเช่นนี้จะกดโดนแผล ถ้าหากกดทับจนบาดแผลเสียหาย ทำให้เลือดทะลักละก็จะยุ่งยาก!”ในขณะที่นางกำลังพูด ก็หอบผ้าห่มออกไปฉู่เชียนหลีขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็กล่าวเสียงดัง“หยุดก่อน!”เย็บบาดแผลแล้ว ไหมที่นางใช้เป็นไหมละลายที่ทันสมัยที่สุด และราคาแพงที่สุดของยุคสมัยใหม่ จะทำให้แผลเสียหายได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?แล้วก็หานอิ๋งผู้นี้ ด้วยตัวตนองครักษ์ลับของนาง เหมือนว่ายังไม่มีสิทธิ์ท
หลังจากนางเดินไป ฉู่เชียนหลีรีบอ้าปากเรียก “หานเฟิง!”ทันทีที่พูดจบ หานเฟิงรีบเดินพุ่งตัวเข้ามา คิดว่ามีเรื่องสำคัญอะไร แต่กลับได้ยินพระชายาถาม“ตั้งแต่หลังจากที่ท่านอ๋องกลับมาจากเมืองตงหนิง ก็เอาแต่เพ่งเล็งรัชทายาทมาโดยตลอด เหตุใดเขาถึงได้รีบร้อนลงมือขนาดนั้น?”จุดนี้ นางไม่สามารถเข้าใจได้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่ารัชทายาทจะอวดดีอย่างไร เขาก็มักจะมีท่าทีโอบอ้อมอารี เห็นแก่ความสัมพันธ์ญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่งหานเฟิงกลับไม่รู้เรื่อง ‘ฆ่าลูกเหลือแม่ไว้’ เรื่องนี้มีเพียงหานอิ๋งกับเฟิงเย่เสวียนเท่านั้นที่รู้ เขาเกาหัว กล่าว“น่าจะเป็นเพราะรัชทายาททำเลยเถิดเกินไป”เขาพูดด้วยความโกรธ “พระชายา ตอนนั้นท่านป่วย อาจจะไม่ทราบ เรื่องโรคระบาดที่เมืองตงหนิง เป็นฝีมือของรัชทายาท!”กึก...ด้านนอกประตู ฝีเท้าของอวิ๋นอิงหยุดชะงักทันทีเป็นรัชทายาท...เรื่องโรคระบาด คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของรัชทายาท...เขาพลางแพร่โรคระบาด ทำร้ายบรรดาชาวบ้าน พลางแสร้งทำท่าทางเป็นคนดี มาช่วยเหลือชาวบ้าน มารดาของนางก็ตายด้วยเหตุนี้เช่นกัน...ที่แท้ก็เป็นเขา!ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างที่กำลังยกถาดของสาวน้อยก็กำแน่น ดว