แรกเริ่มกู้อิ๋นเล่นไพ่ไม่เป็น แต่หลังจากนั้นเพราะเคยคอยช่วยเหลือเผยเซียวเล่นต่ออยู่บ่อยๆตั้งแต่ทำตามคำสั่งของลั่วเหยียนนั้น เธอจึงสามารถเล่นไพ่นกกระจอกได้!แต่ทว่าเมื่อก่อนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าทั้งนั้น โดยปกติแล้วการเล่นแต่ละหมากคือไม่สามารถเอาชนะลูกค้าได้นั่นก็หมายความว่าจนถึงตอนนี้กู้อิ๋นเรียนรู้การเล่นไพ่ ล้วนแต่เล่นแพ้มาโดยตลอด......“อืม เอาสิ!ชนะแล้วยกให้เป็นของเธอเลย” เผยเซียวตะลึงสักพักแล้วตอบกลับพยักหน้าทันใดลูบผมลูบศีรษะของเธอคล้ายดั่งเอ็นดูประหนึ่ง ทำให้ผู้คนในนั้นต่างได้เห็นภาพคู่รักจู๋จี๋จนอิจฉาตาร้อน กู้อิ๋นพยักหน้า “เย้!”เมื่อได้ยินว่าชนะแล้วเงินเป็นของตน ทันใดนั้นกู้อิ๋นก็นึกสนใจขึ้นมาแลมองดูเธอท่าทางหิวเงินอย่างนี้ เผยเซียวกระตุกรอยยิ้มที่มุมปาก แล้วหยิบมือถือหมุนตัวเดินออกไป กู้อิ๋นมองดูแล้วดูอีกไพ่ที่จับได้ของเขาลู่ฝานมองไปกู้อิ๋นถาม “พี่สะใภ้ครับ เมื่อก่อนคุณเล่นไพ่ไม่เคยชนะเลยหรือ?”เมื่อครู่ที่เธอถามกับคำถามอย่างนั้นไป ก็เพราะไม่เคยชนะเลยสักครั้งเลยกระมัง! เหมือนกับว่าถามคำถามนั้นออกไปแล้วก็สามารถเอาชนะได้เลยเสียอย่างนั้นนะ!กู้อิ๋นพยักหน
เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าทำไมเผยเซียวถึงต้องแนะนำให้เพื่อนๆเขารู้จัก แต่ที่แน่ๆคือเขาไม่มีทางที่จะยอมรับสถานะเธออย่างง่ายขนาดนั้นแน่นอนมื้อเที่ยงแน่นอนว่าต้องเป็นสเต็กเนื้อแกะกู้อิ๋นยังดีหน่อย ไม่มีความรู้สึกท่าทีรับประทานไม่ได้ในขณะที่รออยู่นั้น เผยเซียวก็ดูแลเธอมาโดยตลอด ลงมือหั่นเนื้อสเต็กเป็นอย่างดีขณะที่รับประทานได้ครึ่งเดียวอยู่นั้น ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามา!หลีเวยเยว่“พี่คะ”เฉินซิงหลีลุกขึ้นยืนเรียกทักหลีเวยเยว่นั่งด้วยกันหลีเวยเยว่แลมองเผยเซียว แล้วสุดท้ายสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นร่างของกู้อิ๋นกู้อิ๋นพอจะเข้าใจที่เฉินซิงหลีไม่พอใจตัวเธอเองนั้นคือเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า ที่แท้เธอกับหลีเวยเยว่นั้นรู้จักกันแต่ทว่าหลีเวยเยว่มาถึงปุ๊บ!ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ต่างพากันหยุดชะงักเห็นได้ชัดว่าใครๆก็รู้ว่าเผยเซียวและหลีเวยเยว่เคยมีความสัมพันธ์ช่วงหนึ่งกันมาก่อน“เท่านี้พอหรือไม่ครับ?” สายตาของเผยเซียวมองร่างกู้อิ๋นตลอดเวลากู้อิ๋นพยักหน้าตอบรับ “ค่ะ พอแล้วค่ะ คุณเองก็รีบๆทานเถอะค่ะ!”สเต็กเนื้อแกะต้องทานตอนร้อนๆเท่านั้น จึงจะอร่อย ถ้าเย็นแล้ว รสชาติจะไม่ค่อยน่า
เผยเซียวพากู้อิ๋นกลับไปแล้วในตอนที่เหลือแค่หลีเวยเยว่ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกระดากอายเฉินซิงหลีมองไปทางเธอด้วยความรู้สึกสงสาร “พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอก ยายคนนั้นก็แค่ผู้หญิงบ้านนอก พี่เขยเขาก็แค่เล่นละครกับเขาก็เท่านั้น”เฉินซิงหลีเคยตรวจสอบกู้อิ๋นมาก่อน ยายนั่นก็แค่คนที่เรียนจบให้สูงๆเพื่อถีบตัวเองออกมาจากตรงนั้น ยังอยากจะหวังพึ่งหน้าตาของตัวเองเพื่อแต่งงานกับคนรวยอีกงั้นหรอ?ช่างเป็นคนโง่ที่ฝันสูงจริงๆ!หลีเวยเยว่ฝืนกลั้นน้ำตา!ในตอนที่เผยเซียวกลับไปอย่างกระทันหันนั้นก็ทำให้ฉินเยว่ ลู่ฝาน ถังอี้และคนอื่นๆรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อยลู่ฝานส่งสายตาไปให้โจวลี่ “ลี่ลี่เธอดูคุณหนูหลีหน่อยเร็ว”“ค่ะ”โจวลี่ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เธอรีบหันไปช่วยหลีเวยเยว่หั่นเนื้อแกะแต่จริงๆแล้วในใจของเธอรู้สึกไม่พอใจกับนิสัยนี้ของหลีเวยเยว่อย่างมาก!ไม่สนว่าแต่ก่อนทั้งสองคนจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้พี่รองเขาก็แต่งงานกันไปแล้วแต่เห็นแก่หน้าเบบี๋ของเธอ เธอจะอดทนก็แล้วกัน!“เวยเยว่ ทานเถอะ!” โจวลี่ส่งเอาเนื้อแกะที่หั่นแล้วใส่ลงในจานให้กับเธอแต่หลีเวยเยว่ก็ไม่ได้แตะ!เธอเงยหน้าขึ้นก่อนจะกวาดสา
คำว่าเย็นชาสามารถเอามาใช้อธิบายท่าทางของเขาที่มีต่อหลีเวยเยว่ได้อย่างชัดเจนกู้อิ๋นมุมปากกระตุก “เธอร้องไห้หนักเลยนี่คะ”ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมากู้อิ๋นก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะพูดถึงหลีเวยเยว่ยังไงดีการที่เธอตามมาในงานร่วมเพื่อนแบบนี้ก็แล้วกันไป แต่ยังจะมาร้องไห้กลางงานแบบนี้อีก นี่มัน......เผยเซียวมองไปทางเธอหนึ่งที “อยากให้ฉันไปปลอบหรือไง?”ตอนที่พูดประโยนี้ น้ำเสียงของเผยเซียวเย็นชามากๆ แถมให้ความรู้สึกเหมือนจะถูกไอเย็นๆจากตัวของเขาทิ่มแทงด้วยกู้อิ๋นเบะหน้า “ไม่ใช่สักหน่อย แต่แบบนี้ก็แปลว่าคุณกับเธอยังตัดกันไม่ขาดน่ะสิ!”“ก่อนหน้านี้คุณอยากจะแต่งงานขนาดนั้น ทำไมไม่เลือกเธอล่ะคะ?”ท่าทางของหลีเวยเยว่ก็ดูไม่อยากจะแยกกับเขาสักเท่าไหร่นี่นาตอนนี้ดูทำเข้าสิ……!“เธอเงียบไปเลยนะ!” เผยเซียวพูดน้ำเสียงของเขาเย็นชามากขึ้นไปอีกกู้อิ๋นถูกตะคอกใส่ก็ช็อคไป!เธอก็แค่พูดความจริงก็เท่านั้นเอง ไม่ร็ว่าทำไมเผยเซียวถึงได้โมโหอีกแล้วพอคิดถึงบ้านที่เธอซื้อไว้ก็ไม่กล้าไปยั่วโทสะเขาอีก จึงได้แค่หยุดหัวข้อสนทนาที่ทำให้เขาไม่สบายใจนี้ลงเธอรีบเข้าไปปลอบ “ก็ได้ค่ะ ฉันไม่พูดแล้ว คุณไม่โกรธแล้วได้
เรื่องนี้เกิดขึ้นกระทันหันเกินไปตอนแรกเธอคิดว่าถ้าจบเรื่องคุณป๋อไปเรื่องนี้จะไม่มีการถูกพูดถึงอีก ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะสั่งให้ไล่หมอคนที่ออกใบรับรองแพทย์คนนั้นออกยิ่งคิดได้ว่าลั่วเหยียนกำลังจะไปคุยกับเหยียนฉู่ เธอก็อยากจะส่งข้อความให้เหยียนฉู่เดี๋ยวนี้แต่จากท่าทางน่ากลัวของเผยเซียวในตอนนี้ก็ทำให้เธอกลัวจนเหมือนกับลูกนก กลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเห็นกู้อิ๋นยังไม่ยอมพูดอะไร น้ำเสียงของเผยเซียวก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นไปอีก “พูดออกมา!”“ฉัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ!” กู้อิ๋นรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาตอนนี้เธอพูดอะไรได้บ้าง? พูดไปก็ผิดทั้งหมดอยู่ดี!ตอนนี้ทางเดียวที่เธอนึกออกก็คือ...หนี!แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเผยเซียวไม่ให้โอกาสเธอแล้วในครั้งนี้‘แกร็ก~!’ เสียงของไฟแช็คดังขึ้นเหมือนจะได้ยินว่าความเร็วมันดูจะเร็วขึ้นกว่าปกติเห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เผยเซียวกำลังอดกลั้นความโมโหอยู่!กู้อิ๋นอยากจะโดดลงจากรถเพื่อหนีในตอนนี้“เธอไม่รู้งั้นหรอ?” เผยเซียวความอันตรายของหาคำนี้มันเหมือนกับซาตานที่โผล่ออกมาจากนรก กู้อิ๋นได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้าแต่ในสถานการณ์แบบนี้เธอไม่กล้าจะพูดอะไรออกมาแ
“กินไม่อิ่มค่ะ!” กู้อิ๋นบ่นออกมาปกติแล้วแกะย่างเป็นเมนูโปรดของเธอเลย แต่เพราะแขกที่ไม่ได้รับเชิญวันนี้ทำให้อาหารของเธอวันนี้ไม่มีรสชาติป้าเฉินได้ยินกู้อิ๋นพูดว่ากินไม่อิ่มก็ออกจะตกใจอยู่เล็กน้อย!“งั้นคุณชายกลับมาด้วยไหมคะ?” ป้าเฉินถามพอพูดถึงเผยเซียว กู้อิ๋นก็รีบเอาหน้าซุกลงกับหมอนข้าง “เขาไม่ได้กลับมาค่ะ”เขาไปหารักแรกของเขาแล้ว!พอพูดถึงรักแรกของเผยเซียว กู้อิ๋นก็รู้สึกหมดคำจะพูดจริงๆแล้วเผยเซียวควรจะชอบใครที่ดีกว่านี้สิ ทำไมถึงได้มาชอบคนอย่างหลีเวยเยว่กันล่ะ?นี่มัน สร้างความลำบากให้ชีวิตสุดๆ!ป้าเฉินพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวป้าไปทำบะหมี่ให้!”“ได้ค่ะ” กู้อิ๋นพยักหน้า!เธอชอบทานบะหมี่ที่สุด และเธอก็คิดว่าเธอทำบะหมี่อร่อยมากๆ แต่เหมือนว่าเผยเซียวจะไม่ชอบฝีมือการทำอาหารของเธอก็ถูกปฏิเสธจนสิ้นชื่อแล้วในตอนนี้ป้าเฉินเข้าไปในครัวแล้วกู้อิ๋นรีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแต่พอคิดถึงคำพูดของลั่วเหยียนตอนนี้เหยียนฉู่คงจะอยู่ในห้องทำงานของลั่วเหยียน......เธอคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะส่งข้อความไปหาเธอก่อน “ฉู่ฉู่?”เธอไม่ตอบข้อความ!ไม่ต้องคิดก็พอจะรู้ตอนนี้เธอคงจะอยู่ในห้องทำงานขอ
น้ำเสียงเย็นชาที่ใช้ถามกลับทำให้กำแพงในใจที่สร้างไว้ของเธอล้มลงจนหมด!แต่เธอยังคงพยายามเข้มแข็งไว้ ก่อนจะได้ยินเธอพยายามพูด “ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ”“หืม?”ไม่มีปัญหา กล้าที่จะบอกว่าไม่มีปัญหามาถึงตอนนี้ควรจะพูดว่าเธอปากแข็งดีหรือจะพูดว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันใหญ่แค่ไหนดี?“งั้นฉันขอเตือนเธอสักหน่อย ชื่อในใบรับรองแพทย์นั้นเป็นชื่อของกู้อิ๋น!” น้ำเสียงของลั่วเหยียนดุดันมากยิ่งขึ้น“ใช่ค่ะ เป็นชื่อของกู้อิ๋นแต่เป็นเพราะฉันเขียนผิดไงคะ” เหยียนฉู่ว่าลั่วเหยียนมองไปทางเธอด้วยสายตาดุดัน เขาไม่พูดอะไรเพื่อรอฟังเธอพูดประโยคต่อไปเหยียนฉู่ถูกเขามองแบบนี้ก็ยิ่งประหวั่นแต่เธอก็ยังคงพยายามต่อไป “พ่อบังคับให้ฉันแต่งงาน ตอนแรกฉันตั้งใจจะออกใบรับรองแพทย์ให้ตัวเอง แต่ว่าตอนนั้นกำลังโทรศัพท์อยู่ก็เลยพูดผิดเป็นชื่อของกู้อิ๋น เพราะอย่างนั้นมันก็เลยผิดไปน่ะค่ะ”เหยียนฉู่พูดออกมาหน้าตาเฉย!ลั่วเหยียนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายกน้ำขึ้นมาดื่มท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจนั่นกำลังบอกเหยียนฉู่ว่าเขาไม่เชื่อเธอแม้แต่น้อย!เห็นท่าทางแบบนี้ของเขาเหยียนฉู่ก็ยิ่งประหวั่นใจถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะพยายามปลอบใจต
แล้วเธอตอบว่าไม่ใช่ได้ไหม?เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ได้!คำพูดที่พูดออกไปก็ไม่ต่างจากน้ำที่ถูกสาดออกจากแก้ว......ถ้าตอนนี้เธอคิดจะคืนคำก็เหมือนกับเธอยอมรับต่อหน้าลั่วเหยียนว่าคำโกหกทั้งหมดที่ผ่านมาของเธอมันไม่ใช่ความจริงและมันจะตามมาด้วยเรื่องราววุ่นวายอีกมากมายพอคิดได้ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า “ฉันสาบานเลยว่าฉันพูดความจริง”“เพราะอย่างนั้นก็แปลว่ากู้อิ๋นพูดโกหกใช่ไหม?”ใช่อะไรล่ะ?เหยียนฉู่คิดว่าตอนนี้เธอกำลังจะเป็นบ้าแล้วต่อหน้าสายตาของลั่วเหยียนเธอจะพยักหน้าก็ไม่ได้ จะส่ายหน้าก็ยิ่งไม้ได้!สุดท้ายเธอจึงกัดฟัน “ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าเขาพูดว่าอะไร แต่ที่ฉันพูดน่ะเป็นความจริงแน่นอน”ในตอนนี้เหยียนฉู่คิดว่าตัวเองไม่รู้ว่ากู้อิ๋นพูดว่าอะไรไม่แน่ลั่วเหยียนอาจจะกำลังหลอกเธอก็ได้โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ก็คือยึดมั่นในคำพูดของตัวเองไม่ปล่อยโอกาสให้เขาสงสัยต่อให้เขาจะสงสัยอะไร แต่เธอก็ไม่ควรเปิดโอกาสให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้และเพราะแบบนี้เหยียนฉู่จึงได้เดินบนนถนนแห่งคามมืดของการโกหก และยังเดินไปไกลยิ่งกว่าเดิมที่ซ่างเหอหยวนฝีมือของป้าเฉินอร่อยมากๆกู้อิ๋นไม่