ฉีหลานและฉินหานจากไปแล้ว!ในห้องทํางานเหลือแต่กู้อิ๋นและลั่วเหยียนสองคนเท่านั้นลั่วเหยียนมองไปที่กู้อิ๋นด้วยดวงตาที่ลึกล้ำและคมกริบเหงื่อเย็นไหลออกมาบนหลังของกู้อิ๋นและเธอก็ไม่กล้าที่จะมองลั่วเหยียนเลยกู้อิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "คือว่า...ถ้าไม่มีอะไรก็ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ?""เธออยู่ในห้องของคุณเผยเมื่อตอนนั้นตั้งสองชั่วโมงเลยหรอ?" ลั่วเหยียนถามอย่างเฉียบขาดหัวใจของกู้อิ๋นเต้นเร็วขึ้นในช่วงสองชั่วโมงที่ผ่านมานั้นไม่เห็นใครเข้าไปอีกเลยจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน...ก็ไม่เห็นกู้อิ๋นออกมาเช่นกันตอนนี้ลั่วเหยียนอาจจะแค่ถามเฉยๆเท่านั้นเอง แต่กู้อิ๋นกลับรู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมากเมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองที่คมกริบนี้กู้อิ๋นก็รู้สึกหวาดผวามากๆ จึงพูดตะกุกตะกักขึ้นไปอีก "ใช่ค่ะ เพราะ...เอ่อเพราะ...เพราะว่าคุณเผยอาเจียนไปหลายครั้งในคืนนั้นฉันก็เลยอยู่ทำความสะอาดน่ะค่ะ"บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบยิ่งขึ้นไปอีก!เท้าของกู้อิ๋นรู้สึกชาขณะที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น และเธอก็กลัวว่าลั่วเหยียนจะถามอะไรเพิ่มอีกเพราะเธอกลัวจนจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!ลั่วเหยียนมองดูเธออย่างลึกล้ำอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาเนิ
ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะพูดอะไรอีกโทรศัพท์มือถือของกู้อิ๋นก็ดังขึ้นเธอหยิบออกมาดูเห็นเป็นเผยเซียวโทรมาลมหายใจของกู้อิ๋นเริ่มแรงขึ้นอีกมองเหยียนฉู่อย่างประหม่าแล้วหันกลับมารับสาย:"ประธานเผย!"วินาทีนั้นกู้อิ๋นรีบเปลี่ยนมาใช้เสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพและประจบสอพลอเหยียนฉู่เม้มริมฝีปาก ได้แต่หวังว่าเธอจะรักษาทักษะการแสดงเอาไว้ได้ไม่อย่างนั้นความมั่งคั่งของครอบครัวเธอจะตกอยู่ในอันตรายจริงๆ แล้วเผยเซียวที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม "เธออยู่ไหน?""อยู่ที่ประตูทางเข้าบริษัทค่ะ!" กู้อิ๋นตอบ"รออยู่ตรงนั้นแหละ!"เขาไม่ถามเธอว่ามาทำอะไรที่บริษัท แต่พูดแค่เพียงสองคำแล้วจึงวางสายไปเหยียนฉู่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังของกู้อิ๋น "ประธานเผยโทรมาเหรอ?"กู้อิ๋นพยักหน้า "ใช่"หลังสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ตอนนี้กู้อิ๋นก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเผยเซียวยังไงดียอมรับผิดก่อนดีหรือว่าจะปิดบังอีกต่อไปดีล่ะ?โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอถูกลั่วเหยียนสงสัยเข้าแล้ว แล้วเขาจะปิดมันไว้ได้จริงไหม!?ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ภายในใจของกู้อิ๋นก็ยิ่งสับสนมากยิ่งขึ้น!แต่เหยียนฉู่กลั
ไม่คิดเลยว่าเขาจะมารับหล่อนด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของแม่หนูนี่กันแน่…เห็นเผยเซียวเดินมาทางตัวเองแล้ว ในใจของกู้อิ๋นก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา!เธอจึงได้แต่ก้มหน้า กล่าวเบาๆด้วยความเคารพว่า “ประธานเผย”เผยเซียว “มาทำอะไรอยู่ที่นี่?”ตอนที่เขาเดินเข้ามาใกล้ กู้อิ๋นก็ได้กลิ่นเหล้าโชยหึ่งออกมาจากตัวเขาอย่างเบาบางเธอมาทำอะไรที่นี่กันนะ? ก็มาดูว่าลั่วเหยียนกู้คืนวิดีโอไปถึงไหนแล้วไงล่ะยังไม่ทันรอให้เธอพูดอะไร ลั่วเหยียนก็เดินออกมาจากตึกสำนักงานแล้ว พอเห็นเผยเซียวเขาก็เดินเข้ามาหา “วันนี้ไปเจอคุณคาร์ดี้มาแล้วหรอครับ?“เผยเซียวพยักหน้าก่อนจะตอบแค่ว่า ‘อืม’ คำเดียวลั่วเหยียนมองมาทางกู้อิ๋น ดวงตาเป็นประกายแววลึก ก่อนจะพูดกับเผยเซียว “ฉินหานกับฉีหลานเพิ่งจะกลับไป คุณอยากจะขึ้นไปดูวิดีโอหน่อยไหมล่ะ”พอได้ยินว่าจะให้เผยเซียวไปดูวิดีโอ ลมหายใจของกู้อิ๋นก็แรงขึ้น!ใบหน้าก็ขาวซีดลงไปอีกอย่างควบคุมไม่ได้……!เมื่อกี้เธอพูดกับลั่วเหยียนว่ายังไงนะ? คืนวันนั้นเผยเซียวอ้วกออกมาตั้งหลายครั้ง ถึงจะผ่านสองชั่วโมงนั้นมาได้อย่างงงๆแต่ว่าถ้าเผยเซียวไปดูคลิปวิดีโอนั้นด้วยตัวเอง เขาอ้ว
พอกลับมาถึงซ่างเหอหยวนกู้อิ๋นกับเผยเซียวก็ลงจากรถ คนขับรถก็ขับรถออกไปเลยตอนแรกกู้อิ๋นตั้งใจจะขอให้คนขับรถพาเธอไปส่งที่หอพัก แต่พอเห็นความเย็นชาและถือตัวของเผยเซียวในตอนนี้ เธอก็ไม่กล้าจะพูดอะไรเลย ได้แต่เดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมาถึงที่บ้านเผยเซียวก็มองมาทางกู้อิ๋น : “ข้าวของเธอเมื่อไหร่จะย้ายเข้ามาที่นี่สักที?”กู้อิ๋นหัวใจเต้นผิดจังหวะไปเล็กน้อย“ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ หรอคะ” เธอยังคงอยากจะคัดค้านสักหน่อยก็เธอน่ะ ไม่อยากย้ายมาที่นี่จริงๆ นี่นา……!ยิ่งมองไปทางเผยเซียว ในใจของเธอก็ยิ่งกังวลต้องมาเจอหน้ากันเป็นเวลานานๆ เธอกลัวว่าเธอจะหลุดพูดเรื่องคืนวันนั้นออกมาจนหมดดวงตาของเผยเซียวแสดงถึงความไม่พอใจออกมากู้อิ๋นเห็นดังนั้นจึงรีบพยักหน้า “พรุ่งนี้จะย้ายเข้ามาแล้วค่ะ”เผยเซียวไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หันไปถอดเสื้อตัวนอกออกและโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องนอนกู้อิ๋นหยุดยืนที่ทางเดิน และปลอบตัวเองเบาๆสองสามทีก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆเรื่องมาถึงตรงนี้แล้วเธอเองก็รู้แล้วว่าเธอคงเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะเรื่องที่จะต้องอยู่กับเผยเซียวเนี่ย!ไม่นานเผยเซียวก็เดินกลั
เสียงที่ดังขึ้นมากพอที่จะทำให้เผยเซียวขมวดคิ้วเขามองไปทางห้องน้ำกู้อิ๋นที่อยู่ในห้องน้ำหัวใจเต้นตึกตัก ได้ยินเสียงเผยเซียวดังออกมาจากด้านนอก “มีอะไร?”ได้ยินเสียงของเผยเซียวตัวของเธอก็แข็งอยู่กับที่!เธอหลับตาแน่นก่อนจะกัดฟัน “ท่านประธานเผยคะ ฉันไม่มีผ้าขนหนูน่ะค่ะ!”ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ!ตอนนี้กู้อิ๋นรู้สึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองสุดๆถ้าไม่เคยเห็นว่ากู้อิ๋นเล่อล่าขนาดไหน เผยเซียวจะคิดว่าเธอกำลังอ่อยเขาอยู่เป็นแน่แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกปวดหัวมากกว่าเดิมเพราะความเล่อล่าของเธอเขาลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่ห้องสำหรับเก็บของหยิบเอาผ้าขนหนูผืนใหม่ก่อนจะเดินไปที่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงต่ำ “เปิดประตู”กู้อิ๋นแง้มประตูออกเล็กน้อยไม่เห็นว่ามีคนยืนอยู่ เธอจึงยื่นมือเล็กๆ ของเธอออกไปหยิบผ้าขนหนูเข้ามา “ขอบคุณนะคะ”เผยเซียวรู้ว่ากู้อิ๋นมีรูปร่างที่บอบบาง แต่ก็ไม่คิดว่ามือของเธอจะดูมีน้ำมีนวลขนาดนี้และที่สำคัญเด็กบ้านนอกแบบเธอกลับมีผิวพรรณที่ขาวใส......กู้อิ๋นหนาวจนจะแย่อยู่แล้ว เธอจึงรีบใช้ผ้าขนหมูมาเช็ดตัวก่อนจะสวมใส่เสื้อผ้าแต่เผยเซียวกลับมีแต่เสื้อและกางเกงให้ก
กู้อิ๋นหัวใจเต้นรัวและเร็วมากยิ่งขึ้น!ยิ่งรู้ว่าอีกคนเริ่มไม่มีสติแล้วในใจของเธอก็ยิ่งกลัวมากขึ้น “ไม่ได้นะคะท่านประธานเผย”เธอใช้แรงเพิ่มมากขึ้นอีกเพื่อที่จะพาตัวเองออกมาจากพันธนาการของอีกคนคนที่เหมือนจะเมาไม่รู้ตัวอย่างเผยเซียวเมื่อได้ยินเสียงของเธอก็เริ่มที่จะมีสติขึ้นมา......ความอบอุ่นในสายตาหายไปแล้วเหลือแต่ความเย็นชา!สายตาเย็นชามองมาที่เธอ กู้อิ๋นจึงยิ่งหวั่นใจเข้าไปอีก ก่อนที่เธอจะใช้น้ำเสียงอ่อนๆ พูดขึ้นมา “ท่านประธานเผยคะ”แค่คำเรียกว่าท่านประธานเผยคำเดียว ทำให้เผยเซียวสร่างเมาขึ้นไปอีกเกือบครึ่งเขาพูดด้วยเสียงที่ต่ำกว่าเดิม “ไปนอนได้แล้ว”ไปนอน?พอได้ยินคำว่าไปนอนสองคำนี้ กู้อิ๋นก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เสียงของเธอจึงสั่นมากๆ ตอนที่พูด “นอนที่ไหนคะ?”เพราะว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติกลับมาเผยเซียวได้ยินคำถามโง่ๆจากปากเธอ ความอบอุ่นในสายตาก็หายไปจนหมดโดยเฉพาะตอนที่เห็นเธอถามคำถามโง่ๆ นี้ออกมามุมปากจึงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่กู้อิ๋นไม่เข้าใจ “แล้วเธออยากจะนอนที่ไหนล่ะ?”“ฉันไม่อยากนอนที่ไหนทั้งนั้นค่ะ ฉันอยากกลับหอพักของฉัน
“ต่อให้ยากแค่ไหนแต่ก็จะต้องหาให้ได้!” กู้อิ๋นพูดด้วยเสียงที่เย็นชามากขึ้นไปอีกจากที่เธอดูแล้วไม่ใช่ว่างานมันหายากหรอก แต่เพราะสวีจิ่งอวี่เป็นเหมือนกับที่เหยียนฉู่พูดว่าเป็นพวกทะเยอะทะยานสูงตอนนี้เป็นแค่เด็กฝึกงานยังจะเพ้อฝันอยากจะมีงานที่มีเงินเดือนมากกว่าหลักหมื่นอยากจะรู้จริงๆว่าบริษัทไหนจะยอมควักเงินเดือนเป็นหมื่นๆ เพื่อมาจ้างเด็กฝึกงาน? มันก็ต้องไปทีละขั้นไม่ใช่หรือไง?สวีจิ้งอวี่เห็นเธอเป็นแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมาบ้างแล้ว “ก็ไม่ใช่ว่าผมยังหาไม่ได้ไม่ใช่หรือไง? ทำไมพวกพี่ถึงเอาแต่จะบังคับผมล่ะ!”“ใครบังคับแกกัน? ไม่ใช่เป็นเพราะปากของแกอยากจะกินข้าวหรือไงบังคับงั้นหรอ? คำนี้กู้อิ๋นชักจะไม่พอใจแล้วล่ะ!ถ้าแน่จริงก็อย่ากลับมาขอเงินคนที่บ้านสิ ใครบ้างที่โตแล้วจะไม่อยากพยายามเพื่อมีชีวิตที่ดีกันน่ะ?บ้านของพวกเธอก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร สามารถเรียนจบออกมาได้ก็แปลว่าเลือกทางเดินในอนาคตถูกต้องไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่ดูจากสวีจิ้งอวี่ตอนนี้แล้ว เรียนไปก็ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวพวกนี้ได้ก็อย่างกับเรียนไปเปล่าประโยชน์!สวีจิ้งอวี่เห็นท่าทีไม่ยอมลงให้ของกู้อิ๋นก็เริ่มจะหงอยลง “พี่ร
เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกอ่อนล้าโรยแรง ให้ตายสิ ทำไมเขาถึงฝันแบบนี้นะบางทีอาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่โรงแรมคืนนั้นก็ได้ พอได้ประสบพบผ่านมาแล้วก็ไม่เหมือนกับที่คิดเลยจริงๆเมื่อนึกถึงคืนวันนั้นที่หนานเฉิง เผยเซียวก็ยิ่งรู้สึกอดรนทนไม่ได้ อยากออกตามหาผู้หญิงคนนั้นและหั่นเธอเป็นชิ้นๆกู้อิ๋นที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว รู้สึกวูบวาบขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จากนั้นก็ ‘ฮัดชิ๊ว!’ ไปหนึ่งที‘ครืด ครืด!’ โทรศัพท์ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวกำลังสั่นเมื่อเห็นว่าเป็นกู้หลานโทรมา กู้อิ๋นจึงรับสาย ‘ค่ะพี่’“เมื่อคืนเธอได้โอนเงินหนึ่งพันบาทให้สวีจิ้งอวี่ไหม”“แค่ข้าวมื้อเดียวก็เกินพอ! ” กู้อิ๋นพูดด้วยความหงุดหงิดใครกันนะที่ทำให้เขาคิดจะทำตัวเป็นพี่ใหญ่ทั้งที่ทำตัวไม่เอาถ่าน ต้องสั่งสอนเขาให้ดูเป็นบทเรียนสักหน่อยแล้ว!ถึงมันจะช่วยแก้ปัญหาไฟลนก้นของเขาได้ แต่ความรู้สึกที่ว่าเกือบตายแค่ไหนยังไงก็รอดมาได้อยู่ดี คงจะติดตัวเขาไปตลอดชีวิตคิดว่าเดี๋ยวกู้หลานก็คงบ่นอีกว่าจ้าวเป่าอวิ๋นหาปัญหามาให้อีกแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างอดไม่ได้ “พอแล้วล่ะ พวกเราคงต้องให้บทเรียนเขาแล