Share

บทที่ 2

“พระชายา ยาขับเลือดต้มได้ที่แล้วเพคะ…”

เสียงคุ้นเคยระลอกหนึ่งดังข้างหู

ซูชิงอู่นอนอยู่บนเตียงลืมตาด้วยความตกตะลึง เอียงศีรษะมองไปข้างเตียงอย่างเหลือเชื่อ แม่นมหลินที่ควรจะเสียชีวิตไปนานแล้วกำลังยกยาต้มมาให้

นางยันกายลุกขึ้นพลางมองไปรอบตัว ทั่วห้องล้วนเป็นสีแดง บนหน้าต่างแปะอักษรมงคล 'มีสุข' แผ่นใหม่เอี่ยม

ชุดแต่งงานหลายตัวทิ้งอยู่บนพื้นกระจัดกระจาย ซูชิงอู่รู้กระจ่างได้ทันทีว่าที่นี่คือเรือนหอ

นางปวดเมื่อยทั้งตัวราวกับโดนหินทับก็มิปาน

ครั้นหวนนึก ความทรงจำในสมองก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้น

นางย้อนกลับมายังเจ็ดปีก่อน จนวันนี้ที่เพิ่งตบแต่งกับเย่เสวียนถิง

ไม่นึกฝันว่า…นางจะได้เกิดใหม่!

สายตาของซูชิงอู่ทำให้มือที่ยกชามยาของแม่นมหลินสั่นเทาอย่างอดไม่ได้

เพราะดวงตาคู่นั้นของนางผิดแผกไปจากเดิม คล้ายสามารถมองทะลุหัวใจนางได้ในพริบตาเดียว

แม่นมหลินผืนยิ้มพลางส่งชามยาไปให้ผู้เป็นเจ้านาย “คุณหนู หากยังมิรีบดื่ม ยาจักเย็นนะเจ้าคะ…”

ซูชิงอู่มองอย่างไม่ละสายตา ก่อนเอื้อมมือรับชามยาไว้อย่างใจเย็น

นางกำลังจะทำบางอย่าง แต่ขณะนั้นเอง ประตูหอนอนก็ถูกคนถีบให้เปิดออกกระทันหัน!

ซูชิงอู่เงยหน้ามองก็เห็นชายร่างสูงชะลูดผู้หนึ่งปรากฏตรงหน้านางในทันใด…

“ซูชิงอู่!”

ชุดแต่งงานที่บุรุษผู้นี้สวมอยู่ดูยับยู่ แต่บุคคลิกสง่างามบนเรือนร่างเขาก็ไม่ได้ลดลงเลย

ดวงตารูปหงส์สีดำขลับเปี่ยมไปด้วยความโกรธและเย็นชา จมูกได้รูป ริมฝีปากบาง คิ้วปานภาพวาด ดวงหน้างามขรึมอนึ่งราวรูปสลักเทพ ทำให้คนเห็นยากจะลืมเลือน

รอยดาบจาง ๆ สายหนึ่งระหว่างคิ้วซ้ายไม่เพียงไม่ลดทอนความหล่อเหลาของเขา แต่ยังเพิ่มความเคร่งขรึมให้เจ้าของร่างอีกด้วย

ซูชิงอู่ชาไปทั้งร่าง

ทันใดนั้นทั้งหัวใจและสายตาของนางก็ล้วนมีเพียงบุรุษตรงหน้าผู้นี้

กำแพงน้ำแข็งหนาที่ก่อตัวอยู่ในหัวใจของนางพังครืนลงในคราวเดียว ความคับข้องใจกับความคะนึงหาทั้งมวลที่กระหน่ำในอก ได้แต่พรั่งพรูออกมา

นางไม่มีวันลืมยามที่ได้ยินว่าเย่เสวียนถิงตาย!

หากไม่ใช่เพราะตื่นเต้นจนมือเท้าปั่นป่วนไม่ยอมเชื่อฟัง นางคงโถมตัวเข้าหาอ้อมแขนของบุรุษตรงหน้าเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่านี่ไม่ใช่เพียงฝันไป!

“เพล้ง!”

ครู่ต่อมา ชามยาขับเลือดใบนั้นก็ถูกเย่เสวียนถิงปาลงพื้น

มือข้างหนึ่งช้อนคางของซูชิงอู่ไว้

เย่เสวียนถิงบังคับให้นางเงยหน้าขึ้น หางตาเริ่มขึ้นสีระเรื่อ ดวงตารูปหงส์คู่นั้นกำลังจ้องมองนาง ภายในคำพูดแฝงความขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่หลายส่วน

“ซูชิงอู่ เพื่อไม่ให้อุ้มท้องลูกของข้า แม้แต่สุขภาพตัวเจ้าเองก็ไม่สนใจแล้วหรือ?”

ภาพที่คุ้นเคย คนที่คุ้นตา…

ความทรงจำของซูชิงอู่หวนกลับไปยังเจ็ดปีก่อนเดี๋ยวนั้น

คำพูดประโยคนี้ดังอยู่ข้างหูนาง ดวงตาเริ่มโศกเศร้าเมื่อนึกถึงคำตอบของตนในครานั้น

นางเคยตอบออกไปว่า ‘เย่เสวียนถิง เจ้าไม่คู่ควรให้ข้าอุ้มท้องลูกของเจ้า!’

นางเอ่ยต่อว่า ‘แม้ข้าจะมิอาจให้กำเนิดใครไปได้ชั่วชีวิต ข้าก็ไม่คิดอุ้มชูเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า…’

‘ตอนนั้นเขามีสีหน้าเช่นไรกัน?’

ซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่นางมั่นใจว่าตอนนั้นเย่เสวียนถิงกำลังบาดเจ็บหนัก

นางเคยเป็นบุตรีจากภรรยาเอกจวนอัครเสนาบดีมาก่อน เหล่าผู้ใหญ่กับท่านพี่ในจวนต่างรักใคร่เอ็นดู นางใจดีต่อผู้อื่นเสมอ ไม่เคยวิวาทหรือยื้อแย่งอะไรกับใคร แต่กลับเกลียดชังเย่เสวียนถิงอย่างสุดหัวใจ

เพราะก่อนนั้นมารดาของนางช่วยเย่เสวียนถิงจนตัวตาย! และมารดาผู้แสนดีของนางก็ไม่อาจกลับมาพบนางได้อีกแล้ว

แต่เย่เสวียนถิงกลับวนเวียนรอบตัวนาง แต่ทุกครั้งที่นางเห็นเย่เสวียนถิงล้วนทำให้นึกถึงมารดาที่ช่วยเขาจนตัวตายในปีนั้น!

ต่อมา เย่อวิ๋นถูถอนหมั้นนางเนื่องจากเย่เสวียนถิงใกล้ชิดกับนางจนเลยเถิด ทำให้แต้มพรหมจรรย์เลือนหาย!

ซูเชียนหลิงก็ปลุกปั่นนางอยู่ทุกวี่ทุกวัน จนนางคิดเกลียดเย่เสวียนถิงเป็นจริงเป็นจัง

หลังอภิเษกสมรส พวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่าตาต่อตา ฟันต่อฟันกันอยู่นานเท่าใด นางอาศัยกำลังของตัวเองก่อกวนทั่วทั้งจวนอ๋อง

หากไม่ใช่เพราะเกิดการลอบสังหารขึ้นอย่างไม่คาดคิด จนเขาที่เข้าช่วยนางต้องเกือบเสียมือข้างหนึ่งไป ก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่อีกนานเท่าไรถึงจะกลมเกลียวกัน

แต่คราวนี้นางจะไม่พูดถ้อยคำทิ่มแทงใจคนประเภทนั้นอีก

นางเบิกตากว้างเหลือบจ้องเย่เสวียนถิงอย่างแน่วแน่ จากนั้นจึงยื่นมือไปโอบเอวของเขาไว้แน่น

เสียงซูชิงอู่แหบพร่า น้ำตาไหลพรั่งพรูราวกับสายฝน ทำเอาสาบเสื้อของเขาชื้นในชั่วพริบตา

“เสวียนถิง ข้าคิดถึงท่านนัก…”

เย่เสวียนถิงที่เดิมทีอยู่ในอารมณ์โกรธเกรี้ยวพลันร่างกายแข็งทื่อในบัดดล

เขาปล่อยให้ซูชิงอู่โอบเอวเขา และรับรู้ถึงกำลังวังชาจากสตรีตรงหน้าที่ดูคล้ายกำลังหลอมรวมกระดูกและเลือดกับเขาไว้กับตัวนางเอง

เขาลดสายตาลงเล็กน้อย ครั้นมองเส้นผมของซูชิงอู่ หัวใจก็เต้นตึกตักจากการกระทำนี้ของนาง

ลูกกระเดือกเขาขยับขึ้นลง หมายจะกล่าวต่อจากเมื่อครู่ แต่ความโกรธกลับหายไปฉับพลัน

เย่เสวียนถิงพยายามบังคับให้น้ำเสียงของตนสงบ “ซูชิงอู่ ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดชังในตัวข้า แต่เจ้าทำเช่นนี้เคยคิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”

หากข้ารับใช้ไม่มาแจ้งข่าว เย่เสวียนถิงคงคาดไม่ถึงว่าซูชิงอู่จะดื่มยาขับเลือดทันทีที่ลืมตาตื่น

ถึงขั้นใช้หญ้าฝรั่นกับชะมดเชียงในยาต้มนั่นไปมากมาย!

เมื่อดื่มยาพวกนี้ลงไปแล้ว ไม่เพียงสุขภาพจะเสียหายอย่างสาหัส แต่ยังเสี่ยงถึงขั้นไม่อาจตั้งครรภ์คลอดบุตรได้ไปตลอดชีวิต…

สายตาเย่เสวียนถิงดำทะมึน เสียงแหบแผ่วเบาเอ่ยขึ้น “เจ้าไม่อยากอุ้มท้องลูกของข้า ข้าจะไม่บังคับเจ้า…”

ทว่าคำพูดของเขายังไม่ทันถูกเอ่ยจนจบ เสียงซูชิงอู่ก็ดังอู้อี้ขึ้นที่แผ่นอกของเขา

เสียงของนางยังเจือความแหบพร่าเล็กน้อย เพราะตลอดสามปีก่อนนั้นนางแทบไม่ได้พูดกับใคร

“ข้าอยาก ข้าอยากมีลูกให้ท่านประเดี๋ยวนี้เลย!”

Comments (1)
goodnovel comment avatar
Ukine Tomio
สรุปพระเอกชื่ออะไรกันแน่เนี่ย เขียนชื่อสลับไปสลับมา งงมาก สรุปชื่อเย่เสวียนถิงหรือเย่อวิ๋นถิงกันแน่
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status