Share

บทที่ 15

นัดหมายสามวันพริบตาเดียวก็มาถึง เรื่องเกี่ยวพันถึงตัวเลือกผู้จะได้เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของต้าเฉียน และคล้ายเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของทุกคน บรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหมดในต้าเฉียนมาชุมนุมกันอยู่ที่ตำหนักว่านฉงแต่เช้าแล้ว

ไท่เว่ยจางเต้าหลินที่พักครึ่งปีเต็ม ๆ ก็ปรากฏตัวอยู่ในราชสำนักแบบมหัศจรรย์ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของประลองคราวนี้ในใจทุกคน

เมื่อฉินอวิ๋นฟานย่างเท้าเข้าตำหนักใหญ่ก็ถูกภาพเบื้องหน้าทำให้ตกตะลึงพรึงเพริด เสายักษ์สูงชะลูดแปดต้นอลังการอย่างยิ่ง บนนั้นแกะสลักมังกรสีทองคำตัวมหึมาที่ราวกับมีชีวิตแปดตัว สง่างามน่าเกรงขาม ให้คนรู้สึกเหมือนมีความกดดันจากทวยเทพอย่างยิ่ง

ตำหนักใหญ่มาก บรรจุได้สามร้อยกว่าคน ภาพแกะสลักวิจิตรทองอร่ามอยู่ถ้วนทั่ว หรูหราปานวิมานเซียน!

ครั้นดึงสติกลับมา ฉินอวิ๋นฟานกวาดสายตามองรอบหนึ่ง ตรงกลางตำหนักใหญ่มีขุนนางใหญ่สำคัญยืนอยู่สองฟากฝั่งร้อยกว่าคน เช่นเดียวกัน ทุกสายตาต่างจับจดอยู่ที่ตัวของเขาด้วย

“อ้าว นี่น้องเจ็ดไม่ใช่หรือ? หลายปีขนาดนี้ ในที่สุดเจ้าก็หวนคืนราชสำนักเป็นปกติสักที ไม่รู้ว่าวันนี้เจ้าจะนำการแสดงตลกอะไรมาให้พวกเราสิน่า? ชวนให้คนอยากรู้จริง ๆ เลย”

พอเห็นฉินอวิ๋นฟานมาถึง องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังก็ก้าวออกมาหาเรื่องก่อนเป็นคนแรก จ้องฉินอวิ๋นฟานที่มีชีวิตชีวาและไม่โง่งมอีก เขาไม่สบอารมณ์มาก หวังว่าฉินอวิ๋นฟานจะขายหน้าเหมือนกับเมื่อก่อนอีก

“อย่างไร? ดูจากท่าทาง เหมือนว่าการตายของหลินฮั่วจะทำให้ท่านมีความสุขมากนะ เรื่องนี้น่าจะรู้กันทั่วแล้วกระมัง? ใจร้อนอยากให้ข้าแสดงให้ท่านดูขนาดนั้นเชียวหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานเลิกคิ้ว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีทีท่าว่าจะยอมให้ฉินอวิ๋นคังแม้แต่น้อย

“เจ้า...”

ทีแรกองค์ชายใหญ่อยากข่มขวัญฉินอวิ๋นฟานสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าฉินอวิ๋นฟานไม่เพียงแต่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ หนำซ้ำยังจะท้าทายก่อนอีก ฉีกหน้าเขาต่อหน้าธารกำนัลโดยตรง กลับเป็นคำพูดของฉินอวิ๋นฟานเสียอีกที่โต้จนพูดไม่ออก

“คังเอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท!”

พอแม่ทัพฝ่ายซ้ายฮั่วเจิ้นหลงเห็นฉินอวิ๋นคังไม่เพียงแต่ไม่ได้ประโยชน์ยังจะโดนตอกหน้ากลับจึงออกหน้าปรามทันที เขามองสำรวจตัวฉินอวิ๋นฟานรอบหนึ่ง ต่างจากเมื่อก่อนดังคาด ในด้านพลัง เขาสะกดข่มฉินอวิ๋นคังชัดเจน

แต่วันนี้ส่วนสำคัญไม่ใช่การปะทะฝีปาก แต่เป็นการสู้ด้วยความสามารถและอิทธิพล เขามองทางฉินอวิ๋นฟานแล้วพูดเนิบช้า “รัชทายาทช่างปากคอเราะรายนัก จากกันสามวันเปลี่ยนไปจนต้องดูใหม่แท้!”

เดิมองค์ชายรองก็อยากข่มฉินอวิ๋นฟานในราชสำนักเหมือนกัน แต่พอเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้วจึงเลือกที่จะปิดปากไปเสีย

เพราะในสายตาของเขา แม้ฉินอวิ๋นฟานจะเป็นรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดิน แต่ก็เป็นคนที่ไม่มีความสำคัญใด ๆ ไม่มีคุณสมบัติควรค่าแก่การเป็นคู่แข่งพวกเขาด้วยซ้ำ

เมื่อการประลองสิ้นสุด ผู้สืบทอดบัลลังก์จะเกิดขึ้นระหว่างเขากับพี่ใหญ่ แล้วไยต้องถือสากับถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานด้วย?

“ไท่ซั่งหวงเสด็จ!”

สิ้นเสียงแหลมของขันที ด้วยการประคองของนางกำนัลสองคน ชายชราหลังค่อมผมขาวโพลนนั่งอยู่บนบัลลังก์ช้า ๆ

“น้อมรับเสด็จไท่ซั่งหวง ขอให้ไท่ซั่งหวงพระชนมายุยืนยาวหมื่นปีหมื่น ๆ ปี!”

ทุกคนคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง ท่าทีเคารพยิ่ง!

“ลุกขึ้นได้!”

ไท่ซั่งหวงกวาดตามองรอบ ๆ เผยรอยยิ้มที่ไม่เห็นมานาน นี่คือการกลับมานั่งบัลลังก์สูงสุดอีกครั้งหลังจากอำลาตำแหน่งอำนาจสูงส่งนี้ไปแบบจนปัญญาและไม่สมัครใจอย่างยิ่งเมื่อยี่สิบปีก่อน

สำหรับเขา นี่คือความรู้สึกซับซ้อนที่สุด ทำให้เขาดีใจและจนใจ

เพื่อต้าเฉียน เพื่อความผิดที่ระดับสงครามที่เคยทำผิดพลาด เขาจำต้องออกโรงคุมสถานการณ์ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง หลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อน

“ขอพระทัยไท่ซั่งหวง!”

ทุกคนลุกขึ้นยืนพร้อมกัน!

ไท่ซั่งหวงเอ่ย “กำหนดการสามวันมาถึงแล้ว ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวรออยู่นอกตำหนักแล้ว ข้าจะไม่อธิบายในรายละเอียดอีก เชิญฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวเสด็จเข้าตำหนักมาเถอะ!”

ครั้นสิ้นเสียง ทุกคนก็หันไปมองทางปากประตู

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status