Share

บทที่ 18

เสร็จสิ้นการประชุม

ฟู่เจิงนั่งนวดคิ้วอยู่บนพนักพิงเก้าอี้

ในจังหวะนี้เองเสียงริงโทนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

ฟู่เจิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอทีหนึ่งก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล”

“อาเจิง คุณอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ? ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”

ฟู่เจิงมองปฏิทินบนโต๊ะ “วันนี้ถ่ายงานเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”

ฉู่ซืออี๋ทำทีอยากจะพูดแต่ก็ชะงักไป “วันนี้...วันนี้ไม่ได้ถ่ายค่ะ”

“ไม่ได้ถ่ายงั้นเหรอ? ทำไมล่ะ?” ฟู่เจิงถาม

ตอนที่เขาเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ยังเห็นห้องทำงานของเวินเหลียงถูกล็อกเอาไว้ เห็นชัดว่าออกไปทำงานข้างนอก

ทุกครั้งที่มีการถ่ายโฆษณา เวินเหลียงจะไปดูที่สถานที่ถ่ายทำ

ในเมื่อวันนี้เธอก็ออกไปสตูดิโอ ทำไมถึงไม่ได้ถ่ายล่ะ?

“ตอนที่เราไปถึงสตูดิโอ จู่ ๆ อาเหลียงก็บอกกับเราว่ามีเรื่องด่วนไม่ถ่ายแล้ว พูดจบเธอก็ออกไปเลย เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“คงจะมีเรื่องอะไรด่วนจริง ๆ แหละมั้ง ไหน ๆ ก็ไม่ได้ถ่ายแล้ว คุณมาหาผมที่บริษัทสิ”

ในสามปีนี้ ฟู่เจิงรู้ท่าทีในการทำงานของเวินเหลียงมาตลอด

ถ้าไม่ได้เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้นมาจริง ๆ เธอไม่มีทางบอกว่าไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายเด็ดขาด

เมื่อได้ยินว่าในน้ำเสียงของฟู่เจิงไม่มีทีท่าจะตำหนิเวินเหลียงเลยแม้แต่น้อย ฉู่ซืออี๋ที่อยู่ปลายสายก็หัวเราะเสียงเย็น ทว่ากลับพูดอย่างอ่อนโยน “ฉันเองก็เดาว่าคงเกิดเรื่องอะไรที่พิเศษขึ้นบางอย่าง จริงสิ อาเจิงฉันอยากจะขอร้องคุณเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไรเหรอ?”

“การถ่ายทำครั้งนี้ ฉันอยากพาช่างแต่งหน้าไปเอง หลายปีนี้ฉันอยู่ต่างประเทศตลอดเพิ่งจะกลับมา เลยปรับตัวไม่ได้อยู่นิดหน่อย สภาพผิวก็ไม่ได้ดีมาก ฉันกลัวว่าช่างแต่งหน้าที่นี่จะไม่เข้าใจสภาพผิว แล้วการแต่งหน้าที่ออกมาจะไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้ ถ่ายออกมาคงไม่สวยแน่ ๆ ช่างแต่งหน้าของฉันเข้าใจสภาพผิวฉันดีที่สุด แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่มากกว่า”

ฟู่เจิงยังแอบคิดว่าเรื่องใหญ่โตอะไรกัน “เรื่องแค่นี้ คุณก็ต้องรายงานผมด้วยเหรอ?”

ทว่าอู่ซืออี๋กลับพูดว่า “เรื่องเล็กที่ไหนกันคะ? เรื่องงานไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ต้องสื่อสารกันให้ดี ตอนนี้ควรเคารพซึ่งกันและกัน เป็นความจริงใจในการร่วมงาน อาเจิง ฉันให้ความสำคัญกับการเป็นแอมบาสเดอร์ตัวนี้มาก แน่นอนว่าเลยใส่ใจกับทุกเรื่อง ถ้าฉันไม่รายงานก่อนล่วงหน้า อาจมีคนหาว่าฉันเล่นตัวก็ได้”

“คุณพูดถูก”

แม้แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ฉู่ซืออี๋ก็ยังมาอธิบายให้ฟู่เจิงฟัง แต่เวินเหลียงกลับไม่แจ้งเรื่องที่วันนี้ไม่ถ่ายทำให้รู้ ไม่ได้บอกให้ชัดเจน

ฟู่เจิงเชื่อมั่นในการทำงานของเวินเหลียงมาตลอด การพัฒนาของเอ็มคิวก่อนหน้านี้ฟู่เจิงก็แทบจะแทรกแซงเข้าไปช่วยน้อยมาก เขามอบอำนาจในการตัดสินใจเองให้กับเวินเหลียงมากพอตัว

เรื่องในวันนี้เขาไม่ได้รีบเอาความ

...

การถ่ายทำในวันต่อมา ฉู่ซืออี๋และทีมของเธอไม่ได้มาสายอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ

สถานที่ถ่ายทำที่จัดเตรียมไว้เมื่อวานยังไม่ได้รื้อออก

ฉู่ซืออี๋แต่งหน้าเสร็จ ทำผมเป็นทรงสวย เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เข้าไปถ่ายทำได้เลย

เพียงแต่ครั้งนี้ดันเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว

“ผู้อำนวยการเวิน คุณรีบไปดูช่างแต่งหน้าหน่อยเถอะค่ะ” ผู้ช่วยวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาแจ้งเวินเหลียง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” เวินเหลียงเงยหน้าขึ้นมา

“คุณฉู่พาช่างแต่งหน้ามาเอง เหมือนจะเป็นเพราะว่าปัญหาเรื่องการแต่งหน้าแล้วก็ทรงผม เลยทะเลาะกับคุณถังน่ะค่ะ”

เวินเหลียงวางนิตยสารในมือลง แล้วเดินไปทางห้องแต่งตัวทันที

เมื่อเห็นเวินเหลียง ถังซือซือก็เดินออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “อาเหลียง คุณมาพอดีเลย คุณฉู่พาช่างแต่งหน้ามาเอง แถมยังแต่งหน้าอะไรไม่รู้มั่วซั่วอีก คุณไปดูเองละกัน!”

เวินเหลียงเดินเข้าไป หวังเหยียนยิ้มพลางพูดขึ้นว่า “ผู้อำนวยการเวิน ขอแนะนำให้คุณรู้จักนะคะ นี่คือคุณมิร่าช่างแต่งหน้าของซืออี๋ คุณคงเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณมิร่ามาบ้างใช่ไหมคะ เธอคือช่างแต่งหน้าที่ใช้ในมิสเวิลด์”

ถังซือซือกลอกตาขาวอยู่ข้าง ๆ

“สวัสดีค่ะ” มิร่าทักทายเวินเหลียงด้วยภาษาจีน

“คุณมิร่า สวัสดีค่ะ” เวินเหลียงพยักหน้าให้มิร่า แล้วมองไปที่หวังเหยียน “หัวหน้าหวังคะ ฉันพอเข้าใจได้ว่าคุณฉู่ชินกับการใช้ช่างแต่งหน้าที่คุ้นเคยกัน แต่ทำไมถึงไม่แต่งหน้าและทำผมตามที่ขอมาล่ะคะ”

“ผู้อำนวยการเวิน คุณอย่าเพิ่งโกรธไปเลยนะคะ คุณมิร่าบอกว่า ทรงผมและการแต่งหน้าที่พวกคุณให้มามันไม่เหมาะกับซืออี๋เลย หรือว่าการออกแบบของคุณมิร่าไม่คู่ควรกับเสื้อผ้าของพวกคุณงั้นเหรอคะ?”

เวินเหลียงยังไม่ทันได้พูด ถังซือซือก็ก้าวขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหว ก่อนจะพูดอย่างเดือดดาลว่า “ผู้จัดการหวัง นี่มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องความจริงใจหรือเรื่องเหมาะสมไม่เหมาะสมเลย! การแต่งหน้าและทรงผมของคุณมิร่าไม่แมตช์กับธีมหลักของการถ่ายทำในวันนี้ แล้วจะเอาไปใช้ในโฆษณาได้ยังไง?”

หวังเหยียนยิ้มเล็กน้อย “คุณถังพูดมาแบบนี้ ตอนนี้ที่โฆษณาของแอมบาสเดอร์ต้องการไม่ใช่จำนวนแฟนคลับหรอกเหรอคะ? แรงดึงดูดของซืออี๋อยู่ตรงนี้นี่ไง ขอแค่สวยแฟนคลับก็จะสั่งออเดอร์ มันเกี่ยวกับทรงผมมากขนาดไหนกันเชียว?”

ถังซือซือยังอยากโต้กลับ แต่เวินเหลียงห้ามไว้ เธอพูดกับหวังเหยียนว่า “หัวหน้าหวังคะ ฉันหวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ สิ่งสำคัญของเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ในการร่วมมือของทั้งสองฝ่าย! ตามสัญญา ในการถ่ายทำโฆษณา คุณฉู่ควรให้ความร่วมมือกับทางเรา ยิ่งพวกคุณเปลี่ยนการแต่งหน้าและทรงผมโดยพลการ ก็ยิ่งต้องหารือกับเราก่อน”

จังหวะนี้เองจู่ ๆ ฉู่ซืออี๋ก็เดินหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “อาเหลียง ขอโทษจริง ๆ นะ ที่ลืมบอกเธอ แต่ว่าเมื่อวานฉันบอกเรื่องนี้กับอาเจิงแล้ว เขาเองก็ตอบตกลงด้วย”

เวินเหลียงฉงน

เธอเผยอปาก ราวกับกลืนทรายลงไปในลำคออย่างนั้น เสียงแหบแห้งจนพูดไม่ออก

ทันใดนั้นก็ไร้คำพูดไร้คำตอบอยู่เล็กน้อย

การต่อสู้ด้วยเหตุด้วยผลเมื่อครู่ ในสายตาของคนอื่นแล้วราวกับเป็นตัวตลกอย่างไรอย่างนั้น

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status