Share

บทที่ 17

เมื่อเริ่มถ่ายทำโฆษณาอย่างเป็นทางการ เวินเหลียงมาถึงสตูดิโอก่อนเวลา เธอให้พนักงานที่เป็นลูกน้องจัดการสถานที่

ไม่นานช่างภาพและช่างแต่งหน้าก็มาถึงตามลำดับ ทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นพาร์ตเนอร์เก่าของเวินเหลียง ร่วมงานกันมาหลายปี เวินเหลียงเอ่ยมาคำเดียว พวกเขาก็เข้าใจทันทีว่าเวินเหลียงต้องการผลลัพธ์แบบไหน

สถานที่จัดแต่งจนใกล้จะเสร็จ เวินเหลียงเหลือบดูนาฬิกาทีหนึ่ง จวนจะเก้าโมงแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด แต่ก็ยังไร้วี่แววของฉู่ซืออี๋และทีมของเธอ

ผู้ช่วยมาเร่งเร้าไปรอบหนึ่งแล้ว

จูฝานช่างภาพขยับกล้องถ่ายรูปในมือเล่นไปมา พลางถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฉู่ซืออี๋นี่ช่างวางมาดใหญ่โตจริง ๆ”

ถังซือซือช่างแต่งหน้าหัวเราะเยาะ แล้วพูดขึ้นว่า “ทำยังไงได้ ใครใช้ให้เขากลับมาจากเมืองนอกล่ะ? เขาอยากเล่นตัวแล้วพวกเราจะทำอะไรได้? จะไปไล่เขาออกได้ยังไง? อย่าว่าแต่พวกเราเลย ขนาดเวินเหลียงยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ”

ใครไม่รู้บ้างว่าแอมบาสเดอร์คนนี้ประธานฟู่เป็นคนเลือกมาเอง

นอกเหนือเวลานี้เวินเหลียงในฐานะผู้จัดการแบรนด์ของเอ็มคิว ย่อมมีอำนาจในการสั่งเปลี่ยนคน แต่ว่าฉู่ซืออี๋คนนี้เธอเปลี่ยนไม่ได้

ถึงเธอจะเล่นตัว พวกเขาก็ต้องรับให้ได้

เวินเหลียงเปิดโทรศัพท์แล้วเลื่อนไปยังเบอร์โทรของหวังเหยียน จากนั้นก็กดโทรออก

โทรติดแล้ว มีเสียงรอสายดังขึ้นมาจากปลายสาย

จากนั้นก็มีเสียงตู๊ด ๆ ๆ ดังขึ้นมา

ถูกตัดสายไป

ถังซือซืออึ้ง อดไม่ได้ที่จะเดือดดาลขึ้นมา “พวกเขา...พวกเขาทำเกินไปแล้ว อาศัยว่ามีประธานฟู่คอยหนุนหลัง ก็เลยไม่เห็นหัวคุณเลยนะ”

รออยู่หลายนาทีก็ไม่มีส่งข้อความมาอธิบาย หรือส่งข้อความทางไลน์มาเลย

เวินเหลียงต่อสายอีกครั้ง

หลังโทรติด

ปลายสายก็ตัดสายอีกครั้ง

ต่อสายอีกสองสามครั้ง ก็ยังไม่รับสายดังเดิม

เวินเหลียงเก็บโทรศัพท์ แล้วพูดกับจูฝานและถังซือซือว่า “ฉันเดาว่าอย่างช้าที่สุดพวกเขาคงมากันตอนเที่ยง พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ต้องการพวกคุณเมื่อไร ฉันจะแจ้งพวกคุณเอง”

ทำงานมาตั้งหลายปี ลูกค้าที่เวินเหลียงเคยติดต่อก็มีไม่น้อย หวังเหยียนมีแผนอะไร เธอรู้แจ้งแจ่มชัดตั้งแต่เจรจาความร่วมมือในวันนั้นแล้ว

ถังซือซือหัวเราะเสียงเย็น “ทำงานมาก็หลายปี ฉันเพิ่งจะเคยเจอคนที่เล่นตัวหนักขนาดนี้ ไปชุบตัวอยู่เมืองนอกมาตั้งหลายปี จนถึงตอนนี้ทั้งในและต่างประเทศก็ไม่เห็นเคยได้รางวัลดี ๆ อะไร ผลงานทำรายได้สูงสุดก็ไม่มี ไม่รู้ว่ายังเอาอะไรมาเล่นตัวอีก?”

“ไม่ต้องโมโหไป ไว้วันหน้าฉันจะเลี้ยงข้าวพวกคุณก็แล้วกัน ลำบากแล้วนะ” เวินเหลียงเอ่ย

“งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะ”

จูฝานและถังซือซือบอกลาเวินเหลียง ออกจากสตูดิโอไปก่อน

ทว่าเวินเหลียงยังไม่ออกไป เธอให้ผู้ช่วยเอาโน้ตบุ๊กมาให้ และทำงานอยู่ในห้องพัก

มีเสียงดังโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านนอก เวินเหลียงดึงสมาธิออกมาจากงาน มองนาฬิกาข้อมือทีหนึ่ง เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว

เธอเดาถูกอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ

ในขณะนี้เองผู้ช่วยก็มาเคาะประตู “ผู้อำนวยการเวินคะ พวกคุณฉู่เขามาแล้วค่ะ”

“โอเค ฉันรู้แล้ว”

เวินเหลียงปิดโน้ตบุ๊ก บิดขี้เกียจทีหนึ่ง ก่อนจะยัดโน้ตบุ๊กใส่เข้าไปในกระเป๋าอย่างไม่รีบไม่ร้อน แล้วหิ้วโน้ตบุ๊กเดินออกไปจากห้องพัก

เมื่อเห็นเวินเหลียง หวังเหยียนก็ฉีกยิ้มออกมาบนดวงหน้า เธอเดินเข้ามาหาและเอ่ยขึ้นว่า “ผู้อำนวยการเวิน ขอโทษด้วยจริง ๆ นะคะ เมื่อเช้าจู่ ๆ ที่บริษัทก็มีประชุมเลยเสียเวลา ตอนนั้นโทรศัพท์ของฉันอยู่ที่ผู้ช่วย เจ้าหมอนี่ก็ดันตัดสายทิ้งซะงั้น แถมยังไม่รู้จักบอกให้ฉันตอบกลับข้อความอีก กลับไปฉันจะสั่งสอนเขาแน่นอน หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ”

ถึงปากเธอจะพูดออกมาแบบนี้ ทว่าบนหน้าเธอกลับไร้ซึ่งเจตนาของการขอโทษ

“อาเหลียงขอโทษนะ วันนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นนิดหน่อยจริง ๆ ปล่อยให้เธอรออยู่ตั้งนาน” ฉู่ซืออี๋เอ่ย

เวินเหลียงหัวเราะ ก่อนจะพูดตอบว่า “ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ฉันกำลังจะกลับพอดี”

หวังเหยียนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นว่า “ผู้อำนวยการเวินกลับไปอย่างสบายใจเถอะค่ะ ไม่ต้องคอยดูอยู่ที่นี่ตลอดเวลาหรอก พนักงานคนอื่นก็อยู่”

เวินเหลียงยิ้มเล็กน้อย “ความหมายของฉันคือวันนี้ไม่ถ่ายแล้วต่างหากค่ะ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังเหยียนชะงักไป สีหน้าของเธอดูเย็นชาขึ้นมา “ผู้อำนวยการเวิน นี่มันหมายความว่ายังไง?”

“ก็หมายความตามนั้นแหละค่ะ”

“คุณจะแกล้งพวกเราใช่ไหม? ไม่ถ่ายทำไมไม่บอกพวกเราล่วงหน้า ให้พวกเรามาเสียเที่ยว”

“เกิดเรื่องกะทันหันขึ้นน่ะค่ะ ช่างแต่งหน้ากับช่างภาพก็ไม่อยู่ เมื่อเช้าฉันอยากจะโทรแจ้งหัวหน้าหวัง แต่ใครจะไปรู้ว่าโทรหลายต่อหลายสายแล้วก็ไม่ยอมรับสายสักที ทำไมหัวหน้าหวังถึงตัดสายฉันทิ้งล่ะคะ? ผู้ช่วยของคุณต้องเป็นคนทำแน่ เพราะงั้นฉันว่าผู้ช่วยของคุณต่างหากที่ไม่มีความรับผิดชอบ แม้แต่แจ้งข้อความกับคุณ เขายังไม่แจ้งเลย เพราะงั้นฉันเลยตั้งใจรอพวกคุณอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ พวกคุณมาแล้วจะได้ไม่ไม่เจอใคร”

เมื่อได้ยินเวินเหลียงพูดแบบนั้น หน้าของหวังเหยียนและฉู่ซืออี๋ก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ

“ตอนนี้ก็แจ้งพวกคุณเรียบร้อยแล้ว ฉันยังมีธุระอื่นอีก ขอตัวกลับก่อนนะคะ การถ่ายทำของพรุ่งนี้ หวังว่าทั้งสองคนจะไม่มาสายนะคะ”

เวินเหลียงยิ้มเล็กน้อย พูดจบก็ถือโน้ตบุ๊กสาวเท้าก้าวออกไป

หวังเหยียนและฉู่ซืออี๋ยืนมองเงาด้านหลังของเวินเหลียงที่เดินจากไปอยู่ที่เดิม โกรธจนหน้าคล้ำดำเขียว

“เก่งจริงนะ! ไม่นึกเลยว่านังนั่นจะมีแผนแบบนี้”

ฉู่ซืออี๋ยิ้ม “ฉันบอกแล้วไง แผนนี้น่ะใช้กับนังนั่นไม่ได้ผลหรอก เธอคิดดูสิ ผู้หญิงที่สามารถอ่อยอาเจิงมาอยู่ในมือได้หลังจากฉันไป จะเป็นคนธรรมดา ๆ ได้เหรอ?”

“แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี?”

หวังเหยียนรู้ดี วันนี้ใช้เหตุผลมาสายไปแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เอาไปใช้อีกนั่นมันก็ไม่ใช่แล้ว

ฉู่ซืออี๋เขย่าโทรศัพท์ “ฉันจะโทรหาอาเจิง”

เวินเหลียงเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง คนธรรมดา ๆ ทำอะไรเธอไม่ได้ คนที่ทำให้เธอเจ็บได้ก็มีแต่คนที่เธอชอบเท่านั้น ซึ่งก็คือฟู่เจิง

...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status