Share

บทที่ 16

ตอนบ่ายขณะที่ทั้งสองคนออกมาจากบ้านใหญ่แล้ว

ระหว่างอยู่บนรถเวินเหลียงก็พูดขึ้น “คุณคงดูท่าทีของคุณปู่ออก เขาไม่สนับสนุนให้เราหย่ากัน หลังจากนี้คุณคิดจะทำยังไงคะ?”

ฟู่เจิงมองไปนอกหน้าต่าง พลันถอนหายใจ “เราเอาใบสำคัญการหย่ามาก่อนก็ได้ ปิดคุณปู่เอาไว้ แล้วหลังจากนั้นค่อย ๆ บอกเขา”

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เขาก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้อยู่ดี ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิด

แม้คุณปู่จะพูดจารุนแรงกับเขา แม้จะต้องปิดบังคุณปู่ ต่อต้านคุณปู่ก็ตาม

เวินเหลียงหายใจอย่างหนัก ทุกลมหายใจราวกับถูกมีดแทง

เธอก้มหน้าแล้วส่ายหัวเงียบ ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “โอเคค่ะ จะไปเอาใบสำคัญการหย่าเมื่อไรเหรอคะ?”

ฟู่เจิงเลื่อนดูกำหนดการในโทรศัพท์ “หลายวันนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง วันจันทร์หน้าก็แล้วกัน”

“ได้ค่ะ”

เห็นเวินเหลียงตอบอย่างไม่ลังเล ฟู่เจิงก็เม้มริมฝีปากแล้วมองเธอสองสามที

หากวิจารณ์อย่างไม่มีอคติ เวินเหลียงหน้าตาสะสวยเป็นอย่างมาก

หางตาดอกท้อเชิดขึ้น ดวงตาคมชัด บางครั้งก็ดูอ่อนโยนบางครั้งก็ดูดุเดือด ตอนที่ดูอ่อนโยนจะมีเสน่ห์แสนตรึงใจอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนจมดิ่งลงไปอยู่ในนั้น ทว่าตอนที่ดูดุเดือดกลับมีความคมพอที่สามารถตัดทองจนขาดได้ ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาได้เลย

เธอมีใบหน้ารูปไข่ห่านที่ได้มาตรฐาน เค้าโครงเรียบงดงาม จมูกเล็กโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเล็กและอวบอิ่ม พอยิ้มขึ้นมาตรงริมฝีปากก็มีลักยิ้มเล็ก ๆ สองรูบุ๋ม ดูน่ารักเพิ่มขึ้นมาสองสามส่วน

เรือนร่างของเวินเหลียงอรชรอ้อนแอ้นงดงาม เธอควบคุมตัวเองเก่งมาก ๆ เธอจะสละเวลาสองสามวันต่อสัปดาห์ เพื่อออกกำลังกายเล่นโยคะหลังเลิกงาน

เรื่องนี้ฟู่เจิงรู้ดีกว่าใคร

ในสามปีที่ใช้ชีวิตอยู่กินกันฉันสามีภรรยา ทำเอาฟู่เจิงอยากจะเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง

ครั้นหลับตา ฟู่เจิงก็หวนนึกถึงอารมณ์วาบหวิวเสียวซ่านประเภทนั้นขึ้นมา

นอกจากสภาพรูปร่างภายนอกพวกนี้แล้ว ความสามารถของเธอก็นับว่าดีเลิศจนน่าชื่นชม ขณะเรียนมหาวิทยาลัยเธอได้รับทุนการศึกษาของประเทศและทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยมาด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยม กระทั่งยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันภาษาอังกฤษระดับประเทศ จนได้รับโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศจากทุนรัฐบาล ตอนทำงานก็ยังจัดการได้เรียบร้อยสุด ๆ ทำให้เอ็มคิวพัฒนาเกินความคาดหมายของเขา

ลองถามดูสิว่ามีผู้ชายคนไหนไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้บ้าง?

หลังจากหย่าก็ไม่รู้เลยว่าจะตกไปอยู่ในมือของใคร?

ทันใดนั้นฟู่เจิงก็ถามขึ้นอย่างกับถูกผียุแยง “เธอมีคนที่ชอบหรือเปล่า?”

ในใจของเวินเหลียงเต้นรัว เธอมองฟู่เจิง “มีค่ะ”

ก็คนที่อยู่ตรงหน้านี่ยังไงล่ะ เธอชอบมาเป็นสิบปีแล้ว

ตอนนั้นเธอสูญเสียพ่อไปไม่นาน เพิ่งเข้ามาตระกูลฟู่ จึงกลัวจนตัวสั่น

เมื่อหวนนึกถึงฉากนั้นขึ้นมา เวินเหลียงยังเห็นภาพนั้นปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

สาวน้อยคนนั้นเธอมีปมด้อย อ่อนไหวง่ายและขี้ขลาด

ต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่น มองโลกในแง่ร้ายสุดขีด ทว่าในวินาทีนี้จู่ ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งบุกเข้ามาในชีวิตของเธอ บนดินจิตวิญญาณอันมืดสงบของเธอ เขาเป็นดั่งแสงตะวันที่สาดส่องความอบอุ่นและความพร่างพราวเข้ามา ต่อจากนั้นความรู้สึกนี้ก็หยั่งรากลึก

ไม่มีวินาทีไหนเลย ที่เธอจะไม่พยายามไล่ตามฝีเท้าของคนคนนั้น หวังเพียงแค่ให้ได้เข้าใกล้คนคนนั้นมากขึ้น และได้เคียงคู่กับเขาในสักวัน

ทว่าในใจของชายหนุ่มมีเจ้าของอยู่แล้ว เขาไม่เคยหยุดเพื่อเธอเลย ถึงเธอจะได้เขามาครอบครอง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องสูญเสียไป

บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดเอาไว้ กำหนดเอาไว้ว่าเธอต้องอยู่เพียงลำพัง

เมื่อฟู่เจิงได้ยินดังนั้นในใจของเขาก็เกิดความระส่ำระส่ายขึ้นมาอย่างหนึ่ง

ที่เธอรีบร้อนจะหย่าขนาดนั้น คงอยากไปคบกับคนที่เธอชอบใจจะขาดอยู่แล้วสิท่า?

“เขาก็คงจะชอบเธอเหมือนกันใช่ไหม?”

ไม่รู้ทำไม ฟู่เจิงอยากได้ยินคำตอบของคำถามข้อนี้เป็นอย่างมาก

เวินเหลียงส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่ค่ะ เขาไม่ชอบฉัน เขามีคนที่ชอบ และชอบมานานหลายปีแล้วด้วย”

ฟู่เจิงยิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ “ในเมื่อเขาไม่ชอบเธอ แล้วทำไมเธอยังชอบเขาอยู่อีกล่ะ?”

เวินเหลียงหัวเราะเยาะตัวเองทีหนึ่ง “ทำไมถึงมีคำว่าทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ?”

ฟู่เจิงอึ้งไปเล็กน้อย นัยน์ตาประกายแววขึงขังอยู่สองสามส่วน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status