ห้องทรงพระอักษรฮ่องเต้กำลังเล่นกับไข่มุกที่เพิ่งได้รับบรรณาการจากตงไหล ขณะฟังรายงานจากหน่วยองค์รักษ์อวี่หลิน ซึ่งรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวงอย่างใจเย็น“เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ ซืออวี้สวี่จึงขอให้ข้าประทานนามใหม่ให้แก่เขา ที่แท้ก็เพื่อปกปิดที่ตัวเองมีลูกและภรรยาอยู่ในจิ้งโจว”ตอนแรกเขาก็นึกว่าจอหงวนผู้นี้มีความกตัญญูต่อราชวงศ์เขามองพลาดไปสินะ“ประชาชนคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร?” ฮ่องเต้ถาม“ทูลฝ่าบาท คนส่วนใหญ่ในเมืองหลวงล้วนคิดว่าราชบุตรเขยนั้นโหดเหี้ยมไร้น้ำใจ บางคนถึงกับแต่งเพลงกล่อมเด็กขึ้นมา เพื่อล้อเลียนองค์หญิงแปดที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด…”องค์รักษ์อวี่หลินเห็นว่าสีหน้าของฮ่องเต้เปลี่ยนไปไม่น่าดู จึงรีบพูดเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณพระชายาจ้านอ๋องเมื่อวานนี้ ที่ออกหน้าพูดอย่างมีเหตุผล ผู้คนจึงคิดว่ามีเพียงองค์หญิงแปดและราชบุตรเขย ที่ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องเลวร้ายนี้ ไม่มีใครพูดโจมตีราชวงศ์เลย”“จริงหรือ? สะใภ้เจ็ดพูดว่าอะไร?”“ตอนนั้นพระชายากล่าวว่า...”องค์รักษ์อวี่หลินทวนคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันซ้ำอีกครั้งหลังจากฟังแล้ว สีหน้าตึงเค
ในห้องโถงเซียวหมิงเซียนยืนอยู่ใกล้ประตูแล้วมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้ารำคาญเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าซืออวี้สวี่สงบกว่ามาก โดยนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ“อวี้สวี่ จะเป็นอย่างไรถ้าหากเซี่ยเชียนฮวันปฏิเสธที่จะออกมาพบกับเราล่ะ? แผนการทั้งหมดของเราจะพังทลาย” เซียวหมิงเซียนกระซิบซืออวี้สวี่ส่ายหน้า “ในความคิดของข้า พระชายาจ้านอ๋องมีนิสัยจมูกยาว เกรงว่าเพื่ออิ๋งหันแล้ว นางคงออกมาพบพวกเรา”“หยุดเรียกชื่อนังนั่นต่อหน้าข้าได้แล้ว!”เซียวหมิงเซียนหันมาถลึงตาใส่ซืออวี้สวี่ซืออวี้สวี่ปิดปากเงียบอย่างจนใจผ่านไปสักพัก เซี่ยเชียนฮวันก็เข้ามา“วันที่สองของงานแต่งงาน เหตุใดพวกท่านสองคนไม่ใช้เวลาดีๆ ในจวนองค์หญิง แต่กลับวิ่งมาหาข้าที่จวนจ้านอ๋องแทนล่ะ”นางนั่งลงอย่างเกียจคร้าน ดูเหนื่อยล้าโดยไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาขึ้นเมื่อเซียวหมิงเซียนเห็นเซี่ยเชียนฮวันก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของนางได้ จึงตะโกนออกมาว่า “การที่ข้ามาพบเจ้าก็เป็นการให้หน้าเจ้าแล้ว เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าอย่าไร้ยางอายนัก!”“องค์หญิงอย่าใจร้อน ลืมธุระของเราแล้วหรือ”ซืออวี้สวี่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและคว้าเซียวหมิงเซียนไว้ ใช้สายตาห้า
“เจ้าต้องการมอบสถานะให้นางเปา?”คำพูดเหล่านี้ ทำให้เซี่ยเชียนฮวันประหลาดใจซืออวี้สวี่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“องค์หญิงแปดทรงเห็นด้วย?” นางหันไปมองเซียวหมิงเซียนเซียวหมิงเซียนแสดงสีหน้าไม่อดทน “ก็แค่อนุภรรยาคนหนึ่งจะเป็นไรไป!”“แล้วลูกสองคนของนางเปาล่ะ?”“ข้าจะรับไว้ดูแล และเป็นแม่ใหญ่ของพวกเขา!”“พูดเช่นนี้แล้ว องค์หญิงทรงพระทัยกว้างขวางมาก”“ไร้สาระ”เซียวหมิงเซียนพ่นจมูกอย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเซี่ยเชียนฮวันดูละเอียดอ่อนเล็กน้อยองค์หญิงเกเรคนนี้ซึ่งทุบตีและด่าเด็กสองคนไปเมื่อวาน มาวันนี้กลับมีทัศนคติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่จะตกลงรับพวกเขาเข้ามาเท่านั้น แต่ยังขอให้พวกเขายอมรับนางเป็นแม่ใหญ่อีกด้วยซืออวี้สวี่ใช้อะไรโน้มน้าวนาง?ด้วยนิสัยใจแคบของเซียวหมิงเซียน แค่ไม่ตัดสินใจจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นก็นับว่าดีมากแล้ว แต่จะรับพวกเขาเข้าไปอยู่ในจวนองค์หญิงนั้นเป็นไปได้หรือเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกทะแม่งๆ!“เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล รบกวนพระชายาเรียกนางเปามา เพื่อให้พวกข้าได้พูดคุยสักหน่อย ถือว่าเห็นแก่เด็กสองคน” น้ำเสียงของซืออวี้สวี่ดูจริงใจมากเซี่ยเชียนฮวันหรี
เจ็บ...เมื่อเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้น นางก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังใช้แรงบังคับกดมือทั้งสองข้างของนางไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ แถมยังฉายแววรังสีอำมหิตออกมาชัดเจน ราวกับพญามัจจุราชในนรกก็ไม่ปาน!“ไอ้คนสารเลว ปล่อยข้านะ!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจมาก นางพยายามต่อต้านสุดแรง โดยการใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบไปที่หลังของชายผู้นั้นไม่หยุดแต่นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางช่างไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังที่จะต่อต้านเขาได้เลยสักนิด!นี่มัน...ถูกวางยาอย่างนั้นเหรอ?“อย่าดิ้น”ชายผู้นั้นกัดฟัน ใช้มือบีบไปที่ลำคอเรียวระหงของหญิงสาว เขาออกแรงบีบลงมาอย่างเต็มที่ จนเส้นเอ็นปูดบวมขึ้นมาที่หลังมือของเขาเลยทีเดียว ราวกับอยากจะบีบคอนางให้สิ้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้น!เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจงใจจุดธูปหอมกระตุ้นกำหนัดไว้ในห้อง เพื่อดึงดูดให้ข้ามาหา ตอนนี้เจ้าก็สมใจแล้วหนิ ยังจะมีหน้ามาด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวอีกหรือ”“ข้าเปล่านะ...อ๊า!”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเผือดลงทันที นางยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แค่จับมือกับผู้ชายนางก็ไม่เคย แต่ผู้ชายสารเลวคนนี้นี่มัน...!“แก ไปตายซะ...” ตอนนี้เซี่ยเชี
"เจ้าไม่ใช่สาวใช้ของข้าเหรอ เหตุใดจึงฟังคำสั่งของผู้ชายคนนั้นทุกเรื่อง ไม่ฟังข้า"เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ชิงถีอย่างเย็นชาที่เจ้าของร่างเดิมวางยาใส่เซียวเย่หลัน ก็เพราะว่าฟังตามคำแนะนำของนางนี่แหละไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กนี่ถูกใครบงการมากันแน่ ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนายตัวเองชิงถีก้มหัวอย่างนอบน้อม "นายท่าน ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาของท่านอ๋อง คงเทียบกับตอนอยู่จวนโหวไม่ได้แล้ว หากไม่ระมัดระวังในทุกสิ่ง คงจักนำพาความโชคร้ายมาให้ตัวเองได้""ได้ ข้าไม่ออกไป แต่ว่าเจ้าต้องไปสืบแทนข้าว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เซี่ยเชียนฮวันโบกมือไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะเพียงแค่ ตอนนี้ในร่างกายของเธอยังมีพิษที่ยังจำกัดไม่หมด ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ต้องหาทางกำจัดพิษก่อน จากนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะออกจากที่นี่ยังไง"เช่นนั้นพระชายาพักผ่อนก่อนนะเพคะ" ชิงถีตอบรับคำหนึ่งก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเชียนฮวันนั่งลง รินชาให้ตัวเองจอกหนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่ผลพุทราเปรี้ยวในจานผลไม้แปลกจังทำไมจู่ๆ นางถึงอยากกินของเปรี้ยวมากๆ ขึ้นมาได้นะแถมยังเป็นความอยากที่ควบคุมไม่ได้จนอยากจะกระโจนเข้าไปอีกหรือว่าหลั
"ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านพี่เพิ่งจะปรนนิบัติท่านอ๋องเสร็จก็ถูกท่านอ๋องสั่งกักบริเวณแล้วอย่างนั้นเหรอ"ซูอวี้เออร์ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สีหน้าแสดงเห็นการเยาะเย้ยชัดเจนนางลูบเครื่องประดับศีรษะทีหนึ่งก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาช้าๆ "ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจเลย ท่านอ๋องก็เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวณเช่นนี้แหละ ผู้หญิงทั่วไปรับมือนิสัยของเขาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ อีกหน่อยต่อไปเดี๋ยวเจ้าก็จะค่อยๆ ชินไปเอง"ในคำพูดนั้น นางพูดราวกับตัวเองเป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ไม่ได้เห็นพระชายาตัวจริงอยู่ในสายตาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูอวี้เออร์พูดจบเซี่ยเชียนฮวันก็จะต้องเริ่มตีโพยตีพายอย่างโมโห พอเรื่องวุ่นวายไปถึงเบื้องหน้าท่านอ๋องก็จะถูกสั่งลงโทษหนักๆ อีกรอบแต่วันนี้ไม่รู้ทำไม ปฏิกริยาตอบสนองของพระชายาผู้ไม่เป็นที่โปรดปราณคนนี้ถึงได้เรียบเฉยนัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยซะอย่างนั้น"ท่านพี่?" ซูอวี้เออร์เรียกหยั่งเชิงไปอีกรอบเซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบ แต่หันหน้าไปถามชิงถีแทน "แปลกจัง ข้าไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีพี่น้องตั้งแต่เมื่อไร ชิงถี เจ้าว่าข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันหรือไม่"ชิงถีตอบอย่างลังเล "มะ...ไม่เหมือนเพค
"ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่สนใจว่าเขาจะโกรธข้าหรือไม่ ขอแค่เขาไม่ต้องมาหาข้าก็พอ รบกวนเจ้าช่วยเฝ้าเขาไว้ด้วยแล้วกัน ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากจะเห็นใบหน้าบูดบึ้งนั้นอีก"ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเพียงต้องการให้ซูอวี้เออร์รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางรู้สึกท้องไส้ปั่นปวน แทบจะกลั้นอ๊วกเอาไว้ไม่อยู่แล้วไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ชายที่เป็นราวกับฝันร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของนาง!ซูอวี้เออร์เงยหน้าขึ้นมา ทำราวกับเพิ่งจะเห็นเซียวเย่หลัน รีบลุกขึ้นคารวะทันที "ท่านอ๋อง""? ? ?"เซี่ยเชียนฮวันเด้งตัวขึ้นทันทีราวกับหนังยาง หน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี หันหัวมามองด้านหลังไอ้ผู้ชายชาติหมาคนนี้นี่ทำไมเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงคงเพราะทำเรื่องผิดต่อศีลธรรมในใจไว้มาก ดังนั้นจึงได้เดินราวกับเป็นโจรเช่นนี้!เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองเซี่ยเชียนฮวันด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามว่า "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ""ที่แท้ท่านอ๋องก็หูตึงนี่เอง เช่นนั้นข้าจะพูดใหม่อีกรอบ ขอเจ้าอย่าปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก หน้าตาไม่ดีข้าเสียตาจะดู" เซี่ยเชียนฮวันยกริมฝีปากขึ้นพูดอย่างเหน็บแนมเซียวเย่หลัน "......"ผู้หญิง
จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกหดหู่มากก็ดี ตายไปแบบนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกที อาจจะกลับไปอยู่ในห้องวิจัยที่คุ้นเคยแล้วก็ได้ถึงตอนนั้นนางอยากจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักกี่ห่อก็สามารถกินได้ไม่ต้องมาทนรองรับอารมณ์ผู้ชายเส็งเคร็งคนนี้อีก...เซี่ยเชียนฮวันหลับตาลง ต่อให้สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจะทำให้นางยังจับมือเซียวเย่หลันแน่นอยู่ก็ตาม"ท่านอ๋อง เป็นเช่นนี้ต่อไป พระชายาจะตายได้นะเพคะ" ซูอวี้เออร์ยืนนิ่งอยู่สักพัก เมื่อเห็นเซี่ยเชียนฮวันถูกทรมานจนพอใจแล้ว จึงได้พูดเตือนสติขึ้นเสียงเบาๆเซียวเย่หลันจ้องไปที่ใบหน้าขาวซีดของเซี่ยเชียนฮวันอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดก็ยอมคลายมือออกทีละนิ้วเขาไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงสกปรกคนนี้ไปตลอดกาลแต่อันติ้งโหวกับราชวงศ์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน หากว่าบุตรสาวคนโตของบ้านนั้นถูกสังหารในจวนอ๋อง ฮ่องเต้จะต้องสืบหาความอย่างแน่นอน!"วันนี้เห็นแก่หน้าของอวี้เออร์ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"เซียวเย่หลันยังคงโมโหไม่หาย เขาผลักเซี่ยเชียนฮวันแรงๆ หนึ่งที มองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของนางอย่างเย็นชา ลำคอขาวสะอาดมีร่องรอยนิ้วมือสีช้ำน่ากลัว นาง