“ท่านแม่! ท่านแม่!”“อย่าแตะต้องท่านแม่ข้า!”เด็กทั้งสองพยายามหยุดพวกเขา แต่กลับถูกองค์รักษ์จับตัว และโยนทิ้งไปพวกเขาทำตามคำสั่งของเซียวหมิงเซียน ลากออกไปเปาอิ๋งหันออกไปอย่างไรก็ตาม เปาอิ๋งหันตัวใหญ่เกินไป ไขมันบนร่างสั่นกระเพื่อมเพราะการดิ้นรนไม่หยุด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาเล็กน้อยที่จะลากนางออกไปตอนนี้เองเสียงของเซี่ยเชียนฮวันก็ดังมาจากฝูงชน “หยุดมือ”ทุกคนต่างมองด้วยความตกใจก่อนที่เซี่ยเชียนฮวันซึ่งสวมชุดกระโปรงสีเขียวจะเดินออกมา ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ข้าสั่งให้พวกเจ้าปล่อยผู้หญิงคนนั้นซะ”“นี่...”เหล่าองค์รักษ์ต่างมองหน้ากัน โดยไม่รู้จะทำอย่างไรดีคนหนึ่งคือพระชายา ส่วนอีกคนก็คือองค์หญิง พวกเขาควรจะฟังใครดี?เซียวหมิงเซียนถลึงตามองด้วยความโมโห “เซี่ยเชียนฮวัน! เจ้าต่อต้านข้าอีกครั้งแล้วนะ!”“ข้าเพียงทนดูต่อไปไม่ไหว ท่านอาศัยตำแหน่งองค์หญิงรังแกประชาชน คิดจะทุบตีผู้หญิงอ่อนแอไร้ความผิดจนตาย นับว่าทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้าแล้ว”แม้ว่า เมื่อพิจารณารูปร่างของเปาอิ๋งหันแล้ว หากจะบอกว่านางคือผู้หญิงที่อ่อนแอ...ก็ดูเหมือนจะฝืนใจไปหน่อยเซียวหมิงเซียนยิ้มเย็น
“ท่านหมอเทวดาได้โปรดช่วยพวกเราพาท่านพ่อกลับมาด้วยเถอะ!”“ได้โปรดเถิด ได้โปรดเถิดพระชายา...”เด็กน้อยคุกเข่าตามเปาอิ๋งหันอย่างรู้ความ และโขกศีรษะให้เซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกลำบากใจมาก “อย่าทำเช่นนี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพ่อแบบนั้นกลับมา เขายังคงโลภมากในเกียรติยศและความมั่งคั่ง จนไม่รู้จักเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองด้วยซ้ำ แม้ว่าเขาจะกลับมาหาเจ้า แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องดี”นางพูดจบ พวกเด็กๆ ก็พากันร้องไห้หนักกว่าเดิมพวกเขาไม่เข้าใจหลักการสำคัญเหล่านั้น พวกเขารู้แค่ว่าพ่อของพวกเขาถูกผู้หญิงนิสัยไม่ดีลักพาตัวไป และพวกเขาคิดว่า พวกเขาแค่ต้องหาทางเอาท่านพ่อกลับคืนมาเปาอิ๋งหันอ้าแขนกอดลูกของตัวเอง พลางกล่าวอ้อนวอนว่า “เขาทำผิดพลาดมากมาย แต่เมื่อก่อนเขาปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี ข้าคิดว่าเพราะเขามีชีวิตที่ยากลำบากมานานกว่า 20 ปี จึงถูกความมั่งคั่งหรูหราล่อลวง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้”“พระชายาเป็นพี่สะใภ้ขององค์หญิง ท่านสามารถโน้มน้าวองค์หญิงได้หรือไม่ ให้นางหาราชบุตรเขยคนใหม่ คืนซือเสียงให้พวกเรา? ข้าสามารถไม่มีสามีได้ แต่ลูกไม่สามารถขาดบิดาได้!”เมื่อเห็นท่าทาง
เจ็บ...เมื่อเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้น นางก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังใช้แรงบังคับกดมือทั้งสองข้างของนางไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ แถมยังฉายแววรังสีอำมหิตออกมาชัดเจน ราวกับพญามัจจุราชในนรกก็ไม่ปาน!“ไอ้คนสารเลว ปล่อยข้านะ!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจมาก นางพยายามต่อต้านสุดแรง โดยการใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบไปที่หลังของชายผู้นั้นไม่หยุดแต่นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางช่างไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังที่จะต่อต้านเขาได้เลยสักนิด!นี่มัน...ถูกวางยาอย่างนั้นเหรอ?“อย่าดิ้น”ชายผู้นั้นกัดฟัน ใช้มือบีบไปที่ลำคอเรียวระหงของหญิงสาว เขาออกแรงบีบลงมาอย่างเต็มที่ จนเส้นเอ็นปูดบวมขึ้นมาที่หลังมือของเขาเลยทีเดียว ราวกับอยากจะบีบคอนางให้สิ้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้น!เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจงใจจุดธูปหอมกระตุ้นกำหนัดไว้ในห้อง เพื่อดึงดูดให้ข้ามาหา ตอนนี้เจ้าก็สมใจแล้วหนิ ยังจะมีหน้ามาด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวอีกหรือ”“ข้าเปล่านะ...อ๊า!”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเผือดลงทันที นางยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แค่จับมือกับผู้ชายนางก็ไม่เคย แต่ผู้ชายสารเลวคนนี้นี่มัน...!“แก ไปตายซะ...” ตอนนี้เซี่ยเชี
"เจ้าไม่ใช่สาวใช้ของข้าเหรอ เหตุใดจึงฟังคำสั่งของผู้ชายคนนั้นทุกเรื่อง ไม่ฟังข้า"เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ชิงถีอย่างเย็นชาที่เจ้าของร่างเดิมวางยาใส่เซียวเย่หลัน ก็เพราะว่าฟังตามคำแนะนำของนางนี่แหละไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กนี่ถูกใครบงการมากันแน่ ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนายตัวเองชิงถีก้มหัวอย่างนอบน้อม "นายท่าน ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาของท่านอ๋อง คงเทียบกับตอนอยู่จวนโหวไม่ได้แล้ว หากไม่ระมัดระวังในทุกสิ่ง คงจักนำพาความโชคร้ายมาให้ตัวเองได้""ได้ ข้าไม่ออกไป แต่ว่าเจ้าต้องไปสืบแทนข้าว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เซี่ยเชียนฮวันโบกมือไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะเพียงแค่ ตอนนี้ในร่างกายของเธอยังมีพิษที่ยังจำกัดไม่หมด ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ต้องหาทางกำจัดพิษก่อน จากนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะออกจากที่นี่ยังไง"เช่นนั้นพระชายาพักผ่อนก่อนนะเพคะ" ชิงถีตอบรับคำหนึ่งก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเชียนฮวันนั่งลง รินชาให้ตัวเองจอกหนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่ผลพุทราเปรี้ยวในจานผลไม้แปลกจังทำไมจู่ๆ นางถึงอยากกินของเปรี้ยวมากๆ ขึ้นมาได้นะแถมยังเป็นความอยากที่ควบคุมไม่ได้จนอยากจะกระโจนเข้าไปอีกหรือว่าหลั
"ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านพี่เพิ่งจะปรนนิบัติท่านอ๋องเสร็จก็ถูกท่านอ๋องสั่งกักบริเวณแล้วอย่างนั้นเหรอ"ซูอวี้เออร์ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สีหน้าแสดงเห็นการเยาะเย้ยชัดเจนนางลูบเครื่องประดับศีรษะทีหนึ่งก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาช้าๆ "ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจเลย ท่านอ๋องก็เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวณเช่นนี้แหละ ผู้หญิงทั่วไปรับมือนิสัยของเขาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ อีกหน่อยต่อไปเดี๋ยวเจ้าก็จะค่อยๆ ชินไปเอง"ในคำพูดนั้น นางพูดราวกับตัวเองเป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ไม่ได้เห็นพระชายาตัวจริงอยู่ในสายตาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูอวี้เออร์พูดจบเซี่ยเชียนฮวันก็จะต้องเริ่มตีโพยตีพายอย่างโมโห พอเรื่องวุ่นวายไปถึงเบื้องหน้าท่านอ๋องก็จะถูกสั่งลงโทษหนักๆ อีกรอบแต่วันนี้ไม่รู้ทำไม ปฏิกริยาตอบสนองของพระชายาผู้ไม่เป็นที่โปรดปราณคนนี้ถึงได้เรียบเฉยนัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยซะอย่างนั้น"ท่านพี่?" ซูอวี้เออร์เรียกหยั่งเชิงไปอีกรอบเซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบ แต่หันหน้าไปถามชิงถีแทน "แปลกจัง ข้าไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีพี่น้องตั้งแต่เมื่อไร ชิงถี เจ้าว่าข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันหรือไม่"ชิงถีตอบอย่างลังเล "มะ...ไม่เหมือนเพค
"ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่สนใจว่าเขาจะโกรธข้าหรือไม่ ขอแค่เขาไม่ต้องมาหาข้าก็พอ รบกวนเจ้าช่วยเฝ้าเขาไว้ด้วยแล้วกัน ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากจะเห็นใบหน้าบูดบึ้งนั้นอีก"ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเพียงต้องการให้ซูอวี้เออร์รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางรู้สึกท้องไส้ปั่นปวน แทบจะกลั้นอ๊วกเอาไว้ไม่อยู่แล้วไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ชายที่เป็นราวกับฝันร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของนาง!ซูอวี้เออร์เงยหน้าขึ้นมา ทำราวกับเพิ่งจะเห็นเซียวเย่หลัน รีบลุกขึ้นคารวะทันที "ท่านอ๋อง""? ? ?"เซี่ยเชียนฮวันเด้งตัวขึ้นทันทีราวกับหนังยาง หน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี หันหัวมามองด้านหลังไอ้ผู้ชายชาติหมาคนนี้นี่ทำไมเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงคงเพราะทำเรื่องผิดต่อศีลธรรมในใจไว้มาก ดังนั้นจึงได้เดินราวกับเป็นโจรเช่นนี้!เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองเซี่ยเชียนฮวันด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามว่า "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ""ที่แท้ท่านอ๋องก็หูตึงนี่เอง เช่นนั้นข้าจะพูดใหม่อีกรอบ ขอเจ้าอย่าปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก หน้าตาไม่ดีข้าเสียตาจะดู" เซี่ยเชียนฮวันยกริมฝีปากขึ้นพูดอย่างเหน็บแนมเซียวเย่หลัน "......"ผู้หญิง
จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกหดหู่มากก็ดี ตายไปแบบนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกที อาจจะกลับไปอยู่ในห้องวิจัยที่คุ้นเคยแล้วก็ได้ถึงตอนนั้นนางอยากจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักกี่ห่อก็สามารถกินได้ไม่ต้องมาทนรองรับอารมณ์ผู้ชายเส็งเคร็งคนนี้อีก...เซี่ยเชียนฮวันหลับตาลง ต่อให้สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจะทำให้นางยังจับมือเซียวเย่หลันแน่นอยู่ก็ตาม"ท่านอ๋อง เป็นเช่นนี้ต่อไป พระชายาจะตายได้นะเพคะ" ซูอวี้เออร์ยืนนิ่งอยู่สักพัก เมื่อเห็นเซี่ยเชียนฮวันถูกทรมานจนพอใจแล้ว จึงได้พูดเตือนสติขึ้นเสียงเบาๆเซียวเย่หลันจ้องไปที่ใบหน้าขาวซีดของเซี่ยเชียนฮวันอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดก็ยอมคลายมือออกทีละนิ้วเขาไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงสกปรกคนนี้ไปตลอดกาลแต่อันติ้งโหวกับราชวงศ์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน หากว่าบุตรสาวคนโตของบ้านนั้นถูกสังหารในจวนอ๋อง ฮ่องเต้จะต้องสืบหาความอย่างแน่นอน!"วันนี้เห็นแก่หน้าของอวี้เออร์ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"เซียวเย่หลันยังคงโมโหไม่หาย เขาผลักเซี่ยเชียนฮวันแรงๆ หนึ่งที มองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของนางอย่างเย็นชา ลำคอขาวสะอาดมีร่องรอยนิ้วมือสีช้ำน่ากลัว นาง
"ข้าหิวแล้ว ไปยกของกินมา" เซี่ยเชียนฮวันพูดอย่างเย็นชาเนื่องจากกรดไหลย้อน ทำให้น้ำเสียงที่นางพูดค่อนข้างแหบ ฟังแล้วไม่มีความอ่อนโยนที่เป็นเสน่ห์ของผู้หญิงเลยสักนิดชิงถีเบ้ปากอย่างไม่สนใจ "พระชายา ไม่มีใครมาส่งข้าว ท่านก็กินขนมไปก่อนนะเพคะ"นางคิดไปถึงอาหารที่คนจากตำหนักแม่นางซูส่งมาให้กินเมื่อตอนพลบค่ำ นั่นเรียกว่าอาหารชั้นเลิศเลยทีเดียว ต่อให้พระสนมในวังก็ไม่แน่ว่าจะได้กินของดีขนาดนี้!ดีนะที่ยอมทิ้งทางมืดแล้วหันไปหาทางสว่าง ได้รับใช้แม่นางซู ไม่เช่นนั้นในตำหนักใหญ่จวนอ๋องนี้ จะมีที่ไหนให้อยู่อีกเซี่ยเชียนฮวันเหลือบไปมองชิงถีอย่างเนือยๆ เพื่อที่จะมองความคิดในจิตใจผ่านสายตาของเด็กคนนี้ให้ชัดเจนนางไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร เพียงแค่พยายามจะลุกลงจากเตียง นางคลุมเสื้อนอกสีม่วงอีกตัวให้ตัวเองก่อนจะเดินกะเผลกๆ มานั่งที่ข้างโต๊ะ"พระชายา ต้องการให้ช่วยเรียกท่านหมอให้หรือไม่เพคะ" ชิงถีเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันใบหน้าซีดขาวจริงๆ ก็เลยถามออกมา"ไม่ต้อง"เซี่ยเชียนฮวันหยิบขนมดอกสาลี่ที่ทั้งเย็นทั้งแข็งบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะเอาเข้าปาก อย่างไรมันก็ช่วยทำให้อิ่มท้องได้ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องไห้