“สัญญาแล้วนะ ท่านจะช่วยข้าตีเขาคืน” เซี่ยเชียนฮวันใช้แขนเสื้อเช็ดหางตาตัวเอง“อืม”เสียงของเซียวเย่หลันเบามาก บางที แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ตระหนักว่า การตอบสนองนี้อ่อนโยนต่อผู้อื่นเพียงใดเงาเทียนสั่นไหวเซี่ยเชียนฮวันอาศัยแสงไฟสลัวๆ เริ่มรักษาบาดแผลของเซียวเย่หลันมีมีดอาบยาพิษทั้งหมดสี่เล่ม สามในสี่เจาะเข้าเนื้อไม่ลึก ส่วนเล่มสุดท้ายเจาะเข้าไปในแนวทแยงมุม เกือบทั้งหมดปักเข้าหน้าท้องของเซียวเย่หลันนางกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “อาวุธลับเหล่านี้มีหนาม สามในสี่สามารถดึงออกมาตรงๆ ได้ แต่จะเจ็บมาก ท่านสามารถทนได้หรือไม่”“ได้”เซียวเย่หลันตอบอย่างไม่ลังเลเซี่ยเชียนฮวันเม้มปาก ใช้มือกดเบาๆ แล้วดึงมีดอาบยาพิษทั้งสามออกมาทีละเล่ม!เลือดกระเซ็นไปบนพื้นอาวุธลับติดตะขอนั้นโหดร้ายที่สุด ถ้าถูกมันปักเข้าร่าง มันจะเกี่ยวเข้ากับเนื้อ บริเวณแผลจะหมุนและขยายออก เมื่อดึงออก เลือดและเนื้อจะหลุดติดมาด้วย ทำให้เกิดบาดแผลใหม่ที่รุนแรงยิ่งขึ้นยุคนี้ไม่มียาชา ทำได้เพียงใช้แรงดึงออกถ้าหากความอดทนของผู้บาดเจ็บไม่เพียงพอ พวกเขาอาจเจ็บปวดจนเกิดอาการช็อคขณะดึงอาวุธ และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากความเหนื
“เจ้ามีแผลเก่าที่ตรงนี้ได้อย่างไร?!”เซี่ยเชียนฮวันพบมันหลังจากใช้มีผ่าเสร็จนางนี่มันแย่มากนางไม่กล้าขยับมีดลึกลงไปอีก สุดท้ายก็กัดฟันแน่น เอื้อมมือเข้าไปหยิบมีดอาบยาพิษอันตรายออกมา จากนั้นก็เริ่มให้การรักษาแบบฉุกเฉินด้วยปลายนิ้วที่สั่นเทา!เลือดไหลมากขึ้นเรื่อยๆมีแนวโน้มเลือดเป็นจำนวนมากนี่คือภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดหลังการผ่าตัด“ทําไมท่านไม่บอกข้าเกี่ยวกับบาดแผลตรงนี้ นี่มันสำคัญมากรู้หรือไม่?! ไม่มียาชา ไม่มีผู้ช่วย นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบกับสภาพแวดล้อมในการผ่าตัดที่แย่ขนาดนี้ เดิมทีก็ไม่มั่นใจอยู่แล้ว แต่ท่าน ท่านก็ไม่รู้จักให้ความร่วมมือ!”แม้เซี่ยเชียนฮวันจะสติแตก แต่ไม่ส่งผลต่อการทำงานแต่อย่างใดนางเย็บแผลห้ามเลือดไปพลาง ขณะพูดไปด่าไปพลางเลือดสีแดงอุ่นร้อนไหลเจิ่งนองบนพื้น มันเปื้อนมือนางทั้งสองข้าง และย้อมชายกระโปรงของนาง กลิ่นคาวเลือดฉุนจมูกนั่น ทําให้นางอดไม่ได้ที่จะเกิดกรดไหลย้อนในกระเพาะอาหารขึ้นมา แต่เวลานี้นางทำได้เพียงระงับความรู้สึกอยากจะอาเจียนเท่านั้นนอกจากเหงื่อแล้ว ละอองน้ำในดวงตาก็ทำให้วิสัยทัศน์ของนางค่อยๆ พร่ามัว นางแทบจะพึ่งพาประสบการณ์แ
เซียวเย่หลันจ้องนางเขม็งแม้ใบหน้านางจะไร้เดียงสา แต่เขารู้ว่านางไม่ได้พูดความจริงเซี่ยเชียนฮวันรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อยนางเบิกตาโตและเปลี่ยนเรื่อง “จริงสิ เหตุใดท่านถึงอยู่ใกล้ข้าเช่นนี้ล่ะ? หรือคิดจะฉวยโอกาสตอนที่ข้ากำลังเหนื่อยเอาเปรียบข้า?”“ลุกขึ้นมาดูว่าใครเอาเปรียบใคร” เซียวเย่หลันเลิกสนใจนางเซี่ยเชียนฮวันก็ตอบสนองทันทีหัวเล็กๆ ของนางซบที่ไหล่ของเซียวเย่หลัน มือขวากอดแขนของเขาแน่น อาจจะใช้เป็นหมอนหลังจากที่นางหลับไปขาทั้งสองข้างกางเป็นเลขแปดพาดไปที่ขาของเขา ท่าทางดูไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันฉายแววรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย “ท่านอนจะดูดีหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะควบคุมได้ ใครบอกให้ท่านเป็นลมข้างๆ ข้าล่ะ ขนาดตบไปหลายทีก็ไม่ตื่น”“เจ้าตบข้า?”“ใช่ หรืออาจจะไม่ ข้าลืมไปแล้ว”“ลุกไป”“ได้ๆ”เซี่ยเชียนฮวันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วอันที่จริงแล้วการได้พิงร่างของชายผู้นี้ค่อนข้างสบายมาก บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อของเขาค่อนข้างแข็งแรง จึงทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนถูกปกป้องความรู้สึกปลอดภัยนี้ทําให้นางนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน และยังได้ฝันดีที่ห่างหายไปนานอีก
ต้องบอกว่าฉากในตอนนี้ เหมือนเหตุการณ์ฆาตกรรมที่ชั่วร้าย มากกว่าเป็นการผ่าตัดช่วยชีวิตคนเซี่ยเชียนฮวันลูบหว่างคิ้วเบาๆ “เสี่ยวตง เจ้าใจเย็นๆ ก่อนนะ”“ถึงแม้ว่าท่านอ๋องจะเลือดเย็นและโหดเหี้ยม มักฟังคำให้ร้ายอยู่บ่อยๆ และไม่มีความรับผิดชอบในฐานะของสามี วันทั้งวันเอาแต่หาเรื่องชวนทะเลาะ แต่ถึงกระนั้น พระชายาก็ไม่ควรทำเรื่องน่ากลัวด้วยความโกรธเช่นนี้”เสี่ยวตงทรุดลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัวสมองเต็มไปด้วยจินตนาการมากมายเซียวเย่หลัน “......”ภาพลักษณ์ของเขาในใจของคนหอหลันเซียงเป็นเช่นนี้หรือ?เซี่ยเชียนฮวันกุมขมับ “น่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ แค่เลือดออกเยอะเกินไปก็เท่านั้น ล้างน้ำออกทีหลังก็สะอาดแล้ว”“พระชายา พระองค์อยากให้บ่าวช่วยทำลายศพหรือไม่??”เสี่ยวตงตกอยู่ในภวังค์สีหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออกครอบครัวนางติดตามรับใช้เซียวเย่หลันมาหลายปี แต่ในยามปกติพระชายาก็ปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยชีวิตพี่ชายของนางเอาไว้ ตอนนี้นางควรช่วยปกปิดเรื่องที่พระชายาฆ่าคนหรือไม่ เซี่ยเชียนฮวันพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนเบะปากตอบกลับไปว่า “อ่าใช่ๆ ต้องรีบทำลายศพทันที ลากชายผู้นี้ไปที่
“ท่านนี่มันน่าเบื่อเสียจริง ทำอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้ หากข้าถูกจับติดคุกไปจริงๆ ท่านจะมีความสุขใช่ไหม”เซี่ยเชียนฮวันลูบข้อมือตัวเองเซียวเย่หลันร้องหึออกมา “เมื่อครู่เจ้าไม่ได้พูดหรือว่าจะส่งข้าเข้าเตาเผาแล้วจุดไฟเผาเสีย? ถือว่าเจ๊ากันไป อีกอย่าง อย่าปล่อยให้ข้านอนที่พื้น พื้นมันเย็น”“รีบพาท่านอ๋องของเจ้าออกไปเสีย อย่าอยู่เกะกะสายตาของข้า รบกวนข้าจ่ายยา”เซี่ยเชียนฮวันสั่งเย่ซิ่นหลังจากดมกลิ่นและชิม นางก็เข้าใจส่วนประกอบส่วนใหญ่ของยาพิษแล้วตอนนี้ได้เวลาจดจ่ออยู่กับการทำยาแก้พิษให้ชายแกล้งตายผู้นี้แล้วเย่ซิ่นตรงเข้าไปประคองเซียวเย่หลัน พลางกระซิบถามว่า “ท่านอ๋อง ในเมื่อมิใช่ฝีมือของพระชายา แต่ที่นี่ไม่มีใครอีก เหตุใดท่านจึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้”“นักฆ่า”เซียวเย่หลันตอบเสียงเย็นชาเย่ซิ่นพลันตกใจ “มีนักฆ่าในหอหลันเซียง.....”แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก แม้ว่าจวนอ๋องจะแข็งแกร่งดุจถังเหล็ก แต่หอหลันเซียงที่พระชายาอยู่นั้น กลับเป็นสถานที่ที่เวรยามหละหลวมมากที่สุดอาจกล่าวได้ว่าไม่มีการป้องกันอะไรเลย“จะให้ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งคนมาปกป้องพระชายาให้มากขึ้นหรือไม่” เย่ซิ่นถามคร่าวๆ
ตกดึกเซี่ยเชียนฮวันปรุงยาแก้พิษให้เซียวเย่หลันดื่มนางตั้งใจเพิ่มสมุนไพรจีนที่มีรสขมเป็นพิเศษเข้าไปบางส่วนคาดไม่ถึงว่า เซียวเย่หลันจะดื่มโดยไม่ขมวดคิ้ว ราวกับดื่มน้ำเปล่าบางครั้งนางก็สงสัยว่าผู้ชายคนนี้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์จริงๆ หรือไม่ ตอนเกิดมาเลยสูญเสียอารมณ์ความรู้สึกเฉกเช่นคนปกติทั่วไปนางนั่งลงบนเก้าอี้เล็กข้างเตียง เท้าคางถาม “เซียวเย่หลัน ท่านแม่ของท่านเป็นคนแบบไหน?”“ถามทำไม”“ก็ถามเฉยๆ”สิ่งสำคัญคือนางต้องหลักฐานยืนยันการคาดเดาในใจของนางลองดูว่าชายผู้นี้สืบทอดยีนกลายพันธุ์หรือไม่เซียวเย่หลันวางถ้วยยา ขมวดคิ้วอย่างเย็นชา “นางเป็นสนมในวังหลังคนหนึ่งที่ไม่เป็นที่โปรดปราน นั่นคือทั้งหมด”“อ้อ”เซี่ยเชียนฮวันเห็นว่าเขาไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ จึงไม่ได้ถามต่อมีข่าวลือเกี่ยวกับมารดาของเซียวเย่หลันน้อยมากแต่เฉิงกุ้ยเฟยกลับมีชื่อเสียงฉาวโฉ่มาก ว่ากันว่าการแท้งบุตรหลายครั้งในวังหลังล้วนมีความเกี่ยวข้องกับนาง และนางสนมหลายคนที่เกี่ยวข้องด้วยก็ล้วนแต่เป็นบุตรสาวของขุนนางคนสำคัญอาจกล่าวได้ว่า เมื่อพูดถึงการแท้ง เฉิงกุ้ยเฟยก็ไม่กลัวใครนินทาฮ่องเต้ทุ่มเทจิตใจในการอบรมร
เซี่ยเชียนฮวันได้แต่นึกอยู่ในใจเป็นจริงดังนั้น นับแต่โบราณมา การมีชู้ถือเป็นสิ่งที่ชายไม่อาจรับได้ต่อให้เซียวเย่หลันไม่ชื่นชอบนาง ก็ไม่สามารถทำใจได้หากภรรยาของตนมีชายอื่นนางพลิกตัวกลับมา "ถ้าอย่างนั้น ท่านก็จงพยายามเข้าเถิด รีบจับชู้ให้ได้ในเร็ววัน ข้าเองก็อยากจะเห็นว่าหน้าของพ่อลูกข้าเป็นเช่นไร”หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก เซียวเย่หลันจึงเอ่ยถามขึ้นว่า "มือสังหารผู้บุกมาเมื่อคืนนี้ เจ้าไม่รู้จักจริงหรือ?" "ข้าไม่รู้จัก" เซี่ยเชียนฮวันรู้สึกว่าคำถามนี้ช่างไร้เหตุผลเสียจริงเขายังสงสัยอยู่อีกหรือว่าชายที่คลุมหน้าไว้คนนั้นคือชู้ของนาง?ต่อให้สมองผิดปกติก็น่าจะมีขีดจำกัดบ้างเซียวเย่หลันกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มว่า “มือสังหารที่บุกเข้ามาในจวนอ๋องมิได้ต้องการชีวิตข้า บางทีอาจมีสิ่งที่ต้องการ ข้าเดาว่าเขาจะยังกลับมาอีก”เซี่ยเชียนฮวันได้ยินดังนั้น แววตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยดีที่ทั้งสองไม่ได้นอนหันหน้าเข้าหากันเซียวเย่หลันไม่เห็นถึงความผิดปกติของเซี่ยเชียนฮวัน เขากล่าวต่อไปว่า “ที่ข้าอยู่รักษาแผล ณ หอหลันเซียง ก็เพื่อรอให้เหยื่อติดกับดัก”“แต่เขาจับข้าเป็นตัวประกัน ทั้งยังปาล
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ต่างก็พากันทำหน้าไม่ถูกทุกคนรู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันไม่เป็นที่รักของจ้านอ๋อง ต่อให้เป็นในประชุมราชวงศ์ จ้านอ๋องก็ไม่เคยไว้หน้าพ่อตาคนนี้เลยแต่ในวันนี้ถึงอย่างไรก็เป็นวันเกิดของอันติ้งโหวคำบางคำเก็บไว้ในใจก็เพียงพอแล้ว หากเอ่ยออกมาคงจะเป็นการไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายจนเกินไป"จะมาหรือไม่ข้านั้นหาได้ใส่ใจ ข้าไม่ได้ขาดแคลนของขวัญจากเขา" อันติ้งโหวส่งเสียงหึ ๆ ออกมา"อันตั้งโหวใจกว้างดีนักหนา หาได้เหมือนข้า เมื่องานครั้งก่อนครอบครัวของอีกฝ่ายนำโสมพันปีมาให้ขาตั้งหลายกล่องใหญ่ ข้าไม่รู้จะมอบของขวัญใดกลับคืนไปให้ดี บัดนี้ยังรู้สึกปวดหัวนัก" สตรีที่เอ่ยคำเยาะเย้ยมาเมื่อครู่เริ่มโอ้อวดเซี่ยเชียนฮวันฟังน้ำเสียงแหลมคมของนางก็ได้รู้ว่านางเป็นใครเป็นน้าของนางนั่นเองเป็นน้องสาวแท้ ๆ อันติ้งโหวฮูหยินนางไม่แม้แต่จะหันไปเหลือบมองดู ได้แต่กล่าวเบา ๆ ว่า "แม้ว่าจวนฉางหย่วนป๋อจะไม่ได้นับว่าเป็นตระกูลใหญ่โต แต่การเห็นโสมไม่กี่ลังเป็นของล้ำค่า บางทีท่านน้าควรต้องพิจารณาตนเองสักเล็กน้อย หากไม่มีความชำนาญในการดูแลบ้านเรือน ก็ให้ท่านน้าคนอื่นเข้ามาช่วยดูแลเถิด ตัวท่านเองจะได้ไม่ย