“ที่แท้ก็พี่หวังนี่เอง ยินดีที่ได้พบครับ” หลี่ว์เจิ้งหยางเข้าไปคำนับเล็กน้อยพวกนักเรียนเห็นหลี่ว์เจิ้งหยางออกหน้าก็ถอนหายใจอย่างแรงในทันทีในเมื่อเขาเป็นลูกเศรษฐีที่แท้จริง เคยเจอโลกภายนอกมาเยอะ มีเขาออกหน้าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้“แกแม่งเป็นใครวะ?” หวังข่ายมองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยสายตาเย็นชาหลี่ว์เจิ้งหยางแนะนำตัวด้วยความมั่นใจ “ผมคือหลี่ว์เจิ้งหยางนายน้อยตระกูลหลี่ว์”“เรื่องในวันนี้ เพื่อนของผมลงมือก่อน แต่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น”“เอาแบบนี้ ค่ารักษาพยาบาลของพี่ชายคนนี้ผมรับผิดชอบทั้งหมด แล้วก็ให้ค่าบำรุงร่างกายห้าหมื่นบาทกับพี่ชาย พี่หวังพี่คิดว่าอย่างไรครับ?”เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ เห็นแบบนี้ก็พยักหน้าติดต่อกันดูพี่หยางจัดการปัญหาสิ กระจ่างแจ้งถ้าหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาต้องยอมรับข้อเสนอนี้แน่นอนแต่หวังข่ายไม่ได้เห็นแก่เงินด้วยซ้ำเขายกมือขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของหลี่ว์เจิ้งหยางเสียงดัง “เพี๊ยะ” ชัดเจนและกังวานฝ่ามือนี้ตบจนหลี่ว์เจิ้งหยางงุนงงเล็กน้อยเขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองเปิดเผยสถานะแล้ว หวังข่ายคนนี้ยังจะกล้าตบเขาอีกแม้แต่เพื่อนร่วมห้องของเขาก็คาดคิดไม่ถ
ดวงตาทั้งสองข้างเลือนลาง เธอรู้สึกอึดอัดอย่างมากหวังข่ายรีบข่มขู่ นักศึกษากลุ่มนี้ยังจะกล้าต่อต้านตัวเองอีกที่ไหนกันล่ะ?เขายื่นมือออกไปจะถอดเสื้อคลุมของหลินเสวี่ยฮุ่ยต่อหน้าทุกคนมืออีกข้างหนึ่งของหลินเสวี่ยฮุยจับเสื้อคลุมไว้สุดแรง“คุณจะทำอะไรน่ะ?”ในตอนนี้เพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ไม่ปริปากพูดจา ถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าไปมีเพียงโจวเสี่ยวหางที่คว้าขวดเบียร์บนโต๊ะขึ้นมาโยนไปทางหวังข่ายเพล้งขวดเบียร์กระแทกศรีษะของหวังข่ายจนแตกศีรษะของหวังข่ายมีเลือดไหลออกมาทันที“แม่งเอ้ย…ฉันใจดีกับพวกแกเกินไปแล้ว” หวังข่ายมองดูรอยเลือดที่ไหลลงจากหน้าผากก็โกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่จากนั้นก็ชี้หน้าโจวเสี่ยวหาง “ผู้หญิงคนนี้ยกให้พวกนาย”พวกลูกสมุนได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกดีใจอย่างมาก จากนั้นก็พากันมุ่งหน้ามาทางโจวเสี่ยวหาง“พอแล้ว”ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงลุกขึ้นยืนช้า ๆ และตวาดเสียงดังก้องทั่วทั้งห้องส่วนตัวสายตาของทุกคนพากันมองไปทางหลินเฟิงสายตาเฉียบคมของหลินเฟิงจ้องมองหวังข่ายแล้วพูดขึ้น “ปล่อยคน และไสหัวออกไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตพวกนาย”“เชี่ย ยังมีคนกล้าทำเก่งต่อหน้าฉันอีกเหรอ?” หวังข่าย
หวังข่ายจ่อมีดพกไปที่ลำคอของหลินเสวี่ยฮุ่ย และมองหลินเฟิงอย่างระแวงหลินเสวี่ยฮุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอไม่คิดเลยว่าเธอที่เป็นแค่นักศึกษายากจนอยู่มาวันหนึ่งจะถูกจับเป็นตัวประกันตอนนี้เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนหลินเฟิงเห็นแบบนี้ ดวงตาที่เฉียบคมหรี่ตาลงและหยุดเดินหวังข่ายยิ้มมุมปาก “หึหึ ไอ้หนุ่ม ดูท่าความสัมพันธ์กับนังหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ”หลินเฟิงสีหน้าอึมครึมดวงตาแฝงไปด้วยความดุดัน “ฉันเกลียดที่คนอื่นข่มขู่ฉันที่สุด ตอนนี้ปล่อยเธอไปซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”“เชี่ย แกขู่ใครวะ?” หวังข่ายเห็นเขาแต่งกายไม่เหมือนกับบุคคลใหญ่โตอะไรต่อให้ตัวเองปล่อยให้เขาฆ่าจริง ๆ เขามีความกล้านั้นไหมล่ะ?“ไอ้หนุ่ม แกเจ๋งมากเหรอวะ? ถ้าหากอยากให้คนสวยคนนี้รอดชีวิต แกก็หักแขนข้างหนึ่งของแกซะ” หวังข่ายพูดข่มขู่เสียงเย็นชาหลินเฟิงสองมือกำหมัดแน่นหวังข่ายเห็นแบบนั้นมีดพกในมือก็ขยับเข้าใกล้หลินเสวี่ยฮุ่ยอีกสองสามเซนติเมตรหลินเสวี่ยฮุ่ยชูคอ เธอไม่กล้าขยับเขยื้อนซี้ซั้วแม้แต่นิด ถึงขั้นที่สามารถสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นเฉียบที่ส่งมาจากมีดพก“ไอ้หนุ่ม แม่งอย่าเล่นตุกติก เร็ว ๆ เลย ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอตายต่อห
เขามองหลินเฟิงด้วยความหวาดกลัว ความเร็วของไอ้หมอนี่จะเร็วเกินไปหน่อยไหม?เมื่อเห็นว่าการหลบหนีไร้ความหวัง เขาจึงร้องขอความเมตตาในทันที “พี่ชายท่านนี้ ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วยนะครับ…”“วันนี้เป็นความผิดของผมทั้งหมด ผมขอโทษ ผมจะชดใช้เงินให้…”“ฉันเคยให้โอกาสนายแล้ว น่าเสียดายที่นายไม่ทะนุถนอมเอง” หลินเฟิงเดินไปข้างกายเขาช้า ๆ แล้วพูดขึ้นเสียงเย็นชา“คณจะฆ่าผมตรงนี้ไม่ได้นะ เนี่ย ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด…คุณจะติดคุกนะครับ” หวังข่ายอดกลั้นความเจ็บปวดบนร่างกาย และพูดขึ้นด้วยความยากลำบากหลินเฟิงได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงทางเดินเลนส์กล้องหันไปทางพวกเขาทั้งสองคนพอดี“ฮ่าฮ่า….ผมพูดได้มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ?” หวังข่ายถอนหายใจออกมายาว ๆดูท่าไอ้หมอนี่ยังค่อนข้างกลัวกฎหมายอยู่ขณะเดียวกันหลินเสวี่ยฮุ่ยและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้โง่รออยู่ในห้องส่วนตัวแต่วิ่งตามออกมาหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่น ๆ ก็ตามมาอยู่ด้านหลังของเธอ“พี่เฟิง…”หลินเฟิงเหลือบเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ย เขาไม่ได้กลัวกล้องวงจรปิด แต่ไม่อยากฆ่าคนต่อหน้าหลินเสวี่ยฮุ่ย“พี่เฟิง พี่ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเขาแล้ว พวกเร
ศีรษะของหวังข่ายหันไปทางหลินเฟิงด้วยความอืดอาด เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ขาดน้ำมัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หมอนี่จะรู้จักกับหลินเฟิง และดูท่าทางที่เซียวคุนมีต่อหลินเฟิง จะมีความเคารพนบน้อมขนาดนี้เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่นะหลินเฟิงเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวของผม เดิมทีฉลองวันเกิดกันอยู่ที่นี่”“ไอ้หมอนี่กลับอยากให้น้องสาวของผมไปดื่มเป็นเพื่อนเขา”“อะไรนะ?” เซียวคุนโมโหอย่างมากไม่ต้องสนว่าน้องสาวคนนี้จะใช่น้องแท้ ๆ หรือไม่เพียงแค่หลินเฟิงเอ่ยปากพูด งั้นก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของหลินเฟิงกล้าให้น้องสาวของหลินเฟิงไปดื่มเป็นเพื่อนเขา หวังข่ายรนหายที่ตายเหรอ?ตัวเองเมื่อครู่ไม่ควรคุยกับหวังข่ายจริง ๆดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หวังข่าย จากนั้นถีบไปที่ใบหน้าของเขา “แกมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วใช่ไหม?”“กล้าให้น้องสาวของคุณหลินไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแก?”“ท่านเซียว ขอโทษครับ ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยผมขอความเมตตาหน่อยครับ…”หวังข่ายตัวสั่นไปหมด และตกใจจนตัวกระตุกตอนนี้เขารู้สึกกลัวจริง ๆเซียวคุนหันไปทางหลินเฟิง “คุณหลิน คุณจะจัดการไอ้หมอนี่อย่างไร?”หลินเฟิงสีหน้าเฉยเมย แล
หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหลังมาช้า ๆ และมองไปทางชายสูงวัยด้วยความงุนงง เห็นเพียงแค่ชายสูงอายุจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองเธอรู้สึกลนลานมากยิ่งขึ้น ตัวเองคงไม่ได้เจอกับตาแก่โรคจิตเข้าหรอกนะ?จากนั้นก็กระชับคอเสื้อตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงได้ยินเสียงก็หันมองไป และเห็นชายสูงอายุทำแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว“คุณปู่ตระกูลหลิว คุณเป็นอะไรเหรอครับ?” เซียวคุนรีบเดินเข้ามาถามหลิวหยงหลี่เป็นถึงปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในเจียงโจว ตอนนี้สายตาจับจ้องไปที่สาวน้อยคนหนึ่ง หากแพร่งพรายออกไปจะไม่ดีนะหลิวหยงหลี่กลับไม่ได้สนใจเซียวคุนเขารีบเดินไปด้านข้างหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วถามขึ้น “แม่หนู หยกชิ้นนี้หนูได้มาจากไหนเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินแบบนั้นก็มองหยกตรงหน้าอกของตัวเองจากนั้นพูดขึ้น “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เฟิงมอบให้ฉัน”พูดจบสายตาก็มองไปทางหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเซียวคุนก็พูดแนะนำ “คุณหลิน ผมแนะนำให้คุณได้รู้จักหน่อยครับ ท่านนี้คือคุณท่านรองของตระกูลหลิวเมืองเจียงโจว และก็เป็นปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของเจียงโจววันนี้เขาก็เพิ่งเจรจาธุรกิจใหญ่กับหลิวหย
“แม่หนูคิดว่าอย่างไร?” หลิวหยงหลี่สายตาคาดหวังมองไปทางหลินเสวี่ยฮุ่ยหลินเสวี่ยฮุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความลังเล “นี่...นี่เป็นของขวัญที่พี่หลินเฟิงมอบให้ฉัน ฉัน...ไม่คิดที่จะขายค่ะ”ถึงแม้จี้หยกชิ้นนี้มูลค่าสิบล้าน แต่เพียงแค่ขายทิ้งเธอก็จะร่ำรวยได้ภายในค่ำคืนแต่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงไม่คิดที่จะขายทิ้ง ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไปถ้าหากขายทิ้ง หลินเฟิงจะมองตัวเองอย่างไร?ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตหลิวหยงหลี่ได้ยินคำพูดนี้ก็ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างมาก “น่าเสียดาย น่าเสียดาย ในเมื่อแม่หนูคนนี้ไม่คิดที่จะขาย ฉันก็ไม่สามารถฝืนบังคับได้ ทำได้แค่พูดว่าจี้หยกชิ้นนี้ไม่มีบุญวาสนากับฉัน”เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ จากนั้นเขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“ไม่ทราบว่าสหายน้อยหลินมีช่องทางไหนที่จะสามารถซื้อจี้หยกที่ปรมาจารย์อู๋เป็นคนแกะสลักเองได้บ้างไหมครับ?”“ถ้าหากมีช่องทางสามารถแนะนำให้ผมหน่อยได้ไหม สหายน้อยวางใจได้ เงินก้อนนี้รวมถึงคุณด้วยแน่นอน”เซียวคุนยิ้มพูด “คุณท่านรองหลิวชอบเครื่อง
หลินฝานลูบศีรษะของน้องสาวเบา ๆ “วางใจเถอะน้อง แม่ไม่มีทางเป็นอะไร”“พี่ลงทะเบียนคิวผู้เชี่ยวชาญให้กับแม่แล้ว”ผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มจัดพูดขึ้น “นี่เป็นโรคคนแก่ จะต่อคิวผู้เชี่ยวชาญอะไรอีก?”“สิ้นเปลืองเงินจริง ๆ”หลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตากวาดมองไปทางผู้หญิงคนนั้นเมื่อมองไปเขาก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเล็กน้อยในทันทีนี่เป็นพนักงานขายดีเด่นคนนั้นที่เจอในโชว์รูมรถ ตอนที่เขาจะซื้อรถครั้งที่แล้วไม่ใช่เหรอ?เพียงแต่ว่าตอนนั้นเธอดูถูกเขากับจางเจียหนิง“คนนี้คือ?”หลินฝานถึงได้พูดแนะนำ “ผมแนะนำหน่อยครับ คนนี้คือหวงเสี่ยวม่านแฟนของผม”“คนนี้คือหลินเฟิง เพื่อนของผมครับ”หวงเสี่ยวม่านเหลือบมองหลินเฟิงแล้วชะงักทันที “คุณเองเหรอ?”“คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเจอกันอีกแล้ว” หลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงราบเรียบ“เอ่อ...พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” หลินฝานถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยหวงเสี่ยวม่านรีบลุกขึ้นพูด “รู้จักค่ะ รู้จักแน่นอน ครั้งที่แล้วหลินเฟิงยังไปซื้อรถที่ฉันอยู่เลย”“พี่เฟิง พี่ไม่บอกแต่แรกว่าพี่เป็นเพื่อนของหลินฝาน ตอนนั้นฉันยังสามารถลดราคาให้พี่ได้อีกนะ”หวงเ