ศีรษะของหวังข่ายหันไปทางหลินเฟิงด้วยความอืดอาด เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ขาดน้ำมัน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าไอ้หมอนี่จะรู้จักกับหลินเฟิง และดูท่าทางที่เซียวคุนมีต่อหลินเฟิง จะมีความเคารพนบน้อมขนาดนี้เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่นะหลินเฟิงเอ่ยปากขึ้นช้า ๆ “วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวของผม เดิมทีฉลองวันเกิดกันอยู่ที่นี่”“ไอ้หมอนี่กลับอยากให้น้องสาวของผมไปดื่มเป็นเพื่อนเขา”“อะไรนะ?” เซียวคุนโมโหอย่างมากไม่ต้องสนว่าน้องสาวคนนี้จะใช่น้องแท้ ๆ หรือไม่เพียงแค่หลินเฟิงเอ่ยปากพูด งั้นก็คือน้องสาวแท้ ๆ ของหลินเฟิงกล้าให้น้องสาวของหลินเฟิงไปดื่มเป็นเพื่อนเขา หวังข่ายรนหายที่ตายเหรอ?ตัวเองเมื่อครู่ไม่ควรคุยกับหวังข่ายจริง ๆดวงตาของเขาจ้องมองไปที่หวังข่าย จากนั้นถีบไปที่ใบหน้าของเขา “แกมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วใช่ไหม?”“กล้าให้น้องสาวของคุณหลินไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนแก?”“ท่านเซียว ขอโทษครับ ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยผมขอความเมตตาหน่อยครับ…”หวังข่ายตัวสั่นไปหมด และตกใจจนตัวกระตุกตอนนี้เขารู้สึกกลัวจริง ๆเซียวคุนหันไปทางหลินเฟิง “คุณหลิน คุณจะจัดการไอ้หมอนี่อย่างไร?”หลินเฟิงสีหน้าเฉยเมย แล
หลินเสวี่ยฮุ่ยหันหลังมาช้า ๆ และมองไปทางชายสูงวัยด้วยความงุนงง เห็นเพียงแค่ชายสูงอายุจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองเธอรู้สึกลนลานมากยิ่งขึ้น ตัวเองคงไม่ได้เจอกับตาแก่โรคจิตเข้าหรอกนะ?จากนั้นก็กระชับคอเสื้อตรงหน้าอกเอาไว้ด้วยสัญชาตญาณหลินเฟิงได้ยินเสียงก็หันมองไป และเห็นชายสูงอายุทำแบบนี้ เขาก็ขมวดคิ้ว“คุณปู่ตระกูลหลิว คุณเป็นอะไรเหรอครับ?” เซียวคุนรีบเดินเข้ามาถามหลิวหยงหลี่เป็นถึงปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในเจียงโจว ตอนนี้สายตาจับจ้องไปที่สาวน้อยคนหนึ่ง หากแพร่งพรายออกไปจะไม่ดีนะหลิวหยงหลี่กลับไม่ได้สนใจเซียวคุนเขารีบเดินไปด้านข้างหลินเสวี่ยฮุ่ยแล้วถามขึ้น “แม่หนู หยกชิ้นนี้หนูได้มาจากไหนเหรอ?”หลินเสวี่ยฮุ่ยได้ยินแบบนั้นก็มองหยกตรงหน้าอกของตัวเองจากนั้นพูดขึ้น “นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เฟิงมอบให้ฉัน”พูดจบสายตาก็มองไปทางหลินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้างเซียวคุนก็พูดแนะนำ “คุณหลิน ผมแนะนำให้คุณได้รู้จักหน่อยครับ ท่านนี้คือคุณท่านรองของตระกูลหลิวเมืองเจียงโจว และก็เป็นปรมาจารย์ด้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของเจียงโจววันนี้เขาก็เพิ่งเจรจาธุรกิจใหญ่กับหลิวหย
“แม่หนูคิดว่าอย่างไร?” หลิวหยงหลี่สายตาคาดหวังมองไปทางหลินเสวี่ยฮุ่ยหลินเสวี่ยฮุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความลังเล “นี่...นี่เป็นของขวัญที่พี่หลินเฟิงมอบให้ฉัน ฉัน...ไม่คิดที่จะขายค่ะ”ถึงแม้จี้หยกชิ้นนี้มูลค่าสิบล้าน แต่เพียงแค่ขายทิ้งเธอก็จะร่ำรวยได้ภายในค่ำคืนแต่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงไม่คิดที่จะขายทิ้ง ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไปถ้าหากขายทิ้ง หลินเฟิงจะมองตัวเองอย่างไร?ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตหลิวหยงหลี่ได้ยินคำพูดนี้ก็ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเสียดายอย่างมาก “น่าเสียดาย น่าเสียดาย ในเมื่อแม่หนูคนนี้ไม่คิดที่จะขาย ฉันก็ไม่สามารถฝืนบังคับได้ ทำได้แค่พูดว่าจี้หยกชิ้นนี้ไม่มีบุญวาสนากับฉัน”เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ จากนั้นเขาหันหน้ามองไปทางหลินเฟิง“ไม่ทราบว่าสหายน้อยหลินมีช่องทางไหนที่จะสามารถซื้อจี้หยกที่ปรมาจารย์อู๋เป็นคนแกะสลักเองได้บ้างไหมครับ?”“ถ้าหากมีช่องทางสามารถแนะนำให้ผมหน่อยได้ไหม สหายน้อยวางใจได้ เงินก้อนนี้รวมถึงคุณด้วยแน่นอน”เซียวคุนยิ้มพูด “คุณท่านรองหลิวชอบเครื่อง
หลินฝานลูบศีรษะของน้องสาวเบา ๆ “วางใจเถอะน้อง แม่ไม่มีทางเป็นอะไร”“พี่ลงทะเบียนคิวผู้เชี่ยวชาญให้กับแม่แล้ว”ผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มจัดพูดขึ้น “นี่เป็นโรคคนแก่ จะต่อคิวผู้เชี่ยวชาญอะไรอีก?”“สิ้นเปลืองเงินจริง ๆ”หลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตากวาดมองไปทางผู้หญิงคนนั้นเมื่อมองไปเขาก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเล็กน้อยในทันทีนี่เป็นพนักงานขายดีเด่นคนนั้นที่เจอในโชว์รูมรถ ตอนที่เขาจะซื้อรถครั้งที่แล้วไม่ใช่เหรอ?เพียงแต่ว่าตอนนั้นเธอดูถูกเขากับจางเจียหนิง“คนนี้คือ?”หลินฝานถึงได้พูดแนะนำ “ผมแนะนำหน่อยครับ คนนี้คือหวงเสี่ยวม่านแฟนของผม”“คนนี้คือหลินเฟิง เพื่อนของผมครับ”หวงเสี่ยวม่านเหลือบมองหลินเฟิงแล้วชะงักทันที “คุณเองเหรอ?”“คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเจอกันอีกแล้ว” หลินเฟิงสีหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงราบเรียบ“เอ่อ...พวกคุณรู้จักกันเหรอ?” หลินฝานถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยหวงเสี่ยวม่านรีบลุกขึ้นพูด “รู้จักค่ะ รู้จักแน่นอน ครั้งที่แล้วหลินเฟิงยังไปซื้อรถที่ฉันอยู่เลย”“พี่เฟิง พี่ไม่บอกแต่แรกว่าพี่เป็นเพื่อนของหลินฝาน ตอนนั้นฉันยังสามารถลดราคาให้พี่ได้อีกนะ”หวงเ
หลินเฟิงเห็นท่าทางหลงระเริงของเธอแบบนี้ เขาก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “ถ้าหากเธอคบหากับหลินฝานดี ๆ ฉันสามารถทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปดีขึ้นได้”“อย่างน้อยก็มีสภาพดีกว่าตอนนี้อีก”“ถ้าหากในหัวของเธอคิดแต่จะใช้ร่างกายเพื่อได้ดิบได้ดี งั้นฉันขอเตือนเธอว่าอยู่ห่างจากหลินฝานหน่อย”หวงเสี่ยวม่านชะงักคิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่จะหลอกล่อยากขนาดนี้ตัวเองเป็นฝ่ายพลีกายแต่เขากลับมองข้ามไปได้“นายแสร้งทำเป็นคนดีมีศีลธรรมอะไรกัน อย่างไรซะเรื่องนี้นายไม่พูด ฉันไม่พูด ใครจะไปรู้ได้?”หลินเฟิงเห็นท่าทางไม่รู้จักสำนึกผิดของเธอจึงพูดเสียงเย็นชา “ไสหัวไป”“ห๊ะ?”หวงเสี่ยวม่านคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะกล้าไล่ตัวเองให้ไสหัวไปในตอนนั้นเอง หลินฝานก็ตามมาที่นี่หวงเสี่ยวม่านเห็นแบบนี้ก็ขยับออกจากข้างกายของหลินเฟิง“เสี่ยวม่าน เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พี่เซี่ยมาถึงแล้ว”หวงเสี่ยวม่านได้ยิน ความโมโหบนใบหน้าก็หายลับไปและเปลี่ยนไปดีอกดีใจ “พี่เซี่ยมาแล้วเหรอ อยู่ที่ไหนเหรอ?”พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องบันไดหลินเฟิงเห็นแบบนั้นก็เดินตามออกไปเมื่อกลับไปถึงห้องพักผู้ป่วยใหม่อีกครั้ง ถึงได้พบว่าในห้องมีชายวัยก
เขาพูดด้วยสีหน้าอ่อนน้อมถ่อมตน “ฮัลโหล หัวหน้าหวัง ตอนนี้โรงพยาบาลเจียงโจวยังมีห้องพักพิเศษอีกไหมครับ?”“อะไรนะ? ห้องสุดท้ายเพิ่งถูกจอง? เอ่อ...หัวหน้าหวังหาวิธีช่วยหน่อยได้ไหมครับ?”เขายังพูดไม่จบ ในโทรศัพท์ก็มีเสียงตัดสายดังขึ้นเซี่ยสือซินมองดูโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปและพูดด่าทอ “แม่งเอ้ย ฉันให้ผลประโยชน์กับแกมากขนาดนั้น เปล่าประโยชน์จริง ๆ”ในตอนนั้นเองหวงเสี่ยวม่านก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ“พี่เซี่ย”เซี่ยสือซินหันหลังไปทันทีและรีบพูดขึ้น “อ้าว เสี่ยวม่านนี่เอง มีอะไรเหรอ?”“พี่เซี่ย ห้องพักพิเศษนั้นจัดการได้ง่ายไหม?”หวงเสี่ยวม่านถามด้วยความสงสัยเซี่ยสือซินรีบตบหน้าอกแล้วพูดขึ้น “ก็แค่ห้องพักพิเศษห้องเดียวเอง จะไม่ง่ายได้อย่างไรกันล่ะ?”หวงเสี่ยวม่านยิ้มมุมปาก จากนั้นเดินเข้าไปแนบชิดร่างกายของเซี่ยสือซินในทันทีและยิ้มบาง “พี่เซี่ยมีวิธีมากมายจริง ๆ”“เสี่ยวม่านเธอมีอะไรอยากจะพูดกับฉันหรือเปล่า?” เซี่ยสือซินจ้องมองหวงเสี่ยวม่านด้วยใบหน้าหื่นกามดวงตาคู่สวยกลอกไปมา และยิ้มพูด “ตรงนี้คนเยอะ ไม่สู้พวกเราเปลี่ยนที่กันดีกว่า”เธอพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องกั้นในห้องน้ำเซี่ยสือซิน
“เอ่อ...นี่เป็นเพราะอะไรครับ?” หลินฝานงุนงงเล็กน้อยในทันที เขาไม่เข้าใจเหตุผลหลินเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “แฟนสาวของคุณคนนี้...ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับคุณ”หลินฝานได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วทันที “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ?”“หลินเฟิง ครอบครัวของพวกเราในตอนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคุณ คุณอย่ามายุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเรา”ในสายตาของเขา แฟนของเขาพูดโน้มน้าวเก่ง รู้จักปรับตัว และไม่เคยรังเกียจที่เขายากจนหลินเฟิงเป็นคนนอก มีสิทธิอะไรมาชี้นำหวงเสี่ยวม่าน?แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือ ข้อเสียของหวงเสี่ยวม่านเพียงหนึ่งเดียวก็คือชอบสวมเขาให้เขาหลินเฟิงได้ยินก็พูดไม่ออกชั่วขณะหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ยังพูดเตือนขึ้นมา “อันที่จริงผมไม่ได้อยากยุ่งเรื่องครอบครัวของคุณ”“เพียงแต่แค่เตือนคุณไว้ก็เท่านั้น”“พอแล้ว นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณกลับไปได้แล้ว” หลินฝานก็ไม่ได้ไว้หน้าเขา และไล่เขาไปในทันทีในตอนนั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยก็กลับมาจากด้านนอกพอดีเห็นพี่ชายของตัวเองตะโกนเสียงดังใส่หลินเฟิง เธอจึงรีบเข้ามาถาม “พี่ นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“ไม่มีอะไร”หลินฝานตวาดใส่หลินเฟิง “ต่อไป
“เสี่ยวม่าน เสื้อผ้าของคุณเกิดอะไรขึ้น?” หลินฝานสังเกตเห็นคอเสื้อของแฟนสาวของเขาเปิดออกกว้างหวงเสี่ยวม่านหยุดชะงัก และก้มหน้าดู จากนั้นก็รีบจับคอเสื้อไว้มิดชิดแล้วพูดขึ้น “อ่อ...ฉันไม่รู้ว่ากระดุมหลุดไปตอนไหน”เมื่อครู่ที่ห้องน้ำทั้งสองคนรีบร้อนเกินไป กระดุมจึงถูกกระชากหลุดหลินฝานรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย ในตอนที่อยากจะจี้ถามต่อพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “ใครคือญาติของจ้าวเฉียวอวิ๋นคะ?”หลินฝานรีบเดินเข้าไปพูด “ผมครับ ผมคือลูกชายของจ้าวเฉียวอวิ๋น”“ตอนนี้แม่ของคุณสามารถย้ายไปที่ห้องพักพิเศษได้แล้วค่ะ” พยาบาลพูดหลินฝานไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก ในเมื่อเมื่อครู่นี้เซี่ยสือซินพูดเอาไว้แล้วเขาพยักหน้าติดต่อกันแล้วพูดขึ้น “งั้นพวกเราต้องไปจ่ายเงินที่ไหนครับ?”“จ่ายเงินอะไรคะ?”พยาบาลชะงักแล้วพูด “ห้องพักพิเศษห้องนี้ผู้อำนวยการหวังเป็นคนอนุญาตพิเศษ พวกคุณรีบตามฉันมาเถอะค่ะ”“ผู้อำนวยการหวัง? ใช่ผู้อำนวยการหวังท่านนั้นของโรงพยาบาลเจียงโจวเหรอครับ?” หลินฝานถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“แน่นอน ไม่อย่างนั้นยังจะเป็นใครได้อีกคะ?” พยาบาลพูดครอบครัวของหลินฝานมองไปทางเซี่ยสือซินหวงเสี่ยว