“เอ่อ...นี่เป็นเพราะอะไรครับ?” หลินฝานงุนงงเล็กน้อยในทันที เขาไม่เข้าใจเหตุผลหลินเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “แฟนสาวของคุณคนนี้...ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับคุณ”หลินฝานได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วทันที “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรครับ?”“หลินเฟิง ครอบครัวของพวกเราในตอนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับคุณ คุณอย่ามายุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเรา”ในสายตาของเขา แฟนของเขาพูดโน้มน้าวเก่ง รู้จักปรับตัว และไม่เคยรังเกียจที่เขายากจนหลินเฟิงเป็นคนนอก มีสิทธิอะไรมาชี้นำหวงเสี่ยวม่าน?แต่ที่เขาไม่รู้ก็คือ ข้อเสียของหวงเสี่ยวม่านเพียงหนึ่งเดียวก็คือชอบสวมเขาให้เขาหลินเฟิงได้ยินก็พูดไม่ออกชั่วขณะหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ยังพูดเตือนขึ้นมา “อันที่จริงผมไม่ได้อยากยุ่งเรื่องครอบครัวของคุณ”“เพียงแต่แค่เตือนคุณไว้ก็เท่านั้น”“พอแล้ว นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณกลับไปได้แล้ว” หลินฝานก็ไม่ได้ไว้หน้าเขา และไล่เขาไปในทันทีในตอนนั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยก็กลับมาจากด้านนอกพอดีเห็นพี่ชายของตัวเองตะโกนเสียงดังใส่หลินเฟิง เธอจึงรีบเข้ามาถาม “พี่ นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“ไม่มีอะไร”หลินฝานตวาดใส่หลินเฟิง “ต่อไป
“เสี่ยวม่าน เสื้อผ้าของคุณเกิดอะไรขึ้น?” หลินฝานสังเกตเห็นคอเสื้อของแฟนสาวของเขาเปิดออกกว้างหวงเสี่ยวม่านหยุดชะงัก และก้มหน้าดู จากนั้นก็รีบจับคอเสื้อไว้มิดชิดแล้วพูดขึ้น “อ่อ...ฉันไม่รู้ว่ากระดุมหลุดไปตอนไหน”เมื่อครู่ที่ห้องน้ำทั้งสองคนรีบร้อนเกินไป กระดุมจึงถูกกระชากหลุดหลินฝานรู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย ในตอนที่อยากจะจี้ถามต่อพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “ใครคือญาติของจ้าวเฉียวอวิ๋นคะ?”หลินฝานรีบเดินเข้าไปพูด “ผมครับ ผมคือลูกชายของจ้าวเฉียวอวิ๋น”“ตอนนี้แม่ของคุณสามารถย้ายไปที่ห้องพักพิเศษได้แล้วค่ะ” พยาบาลพูดหลินฝานไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก ในเมื่อเมื่อครู่นี้เซี่ยสือซินพูดเอาไว้แล้วเขาพยักหน้าติดต่อกันแล้วพูดขึ้น “งั้นพวกเราต้องไปจ่ายเงินที่ไหนครับ?”“จ่ายเงินอะไรคะ?”พยาบาลชะงักแล้วพูด “ห้องพักพิเศษห้องนี้ผู้อำนวยการหวังเป็นคนอนุญาตพิเศษ พวกคุณรีบตามฉันมาเถอะค่ะ”“ผู้อำนวยการหวัง? ใช่ผู้อำนวยการหวังท่านนั้นของโรงพยาบาลเจียงโจวเหรอครับ?” หลินฝานถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“แน่นอน ไม่อย่างนั้นยังจะเป็นใครได้อีกคะ?” พยาบาลพูดครอบครัวของหลินฝานมองไปทางเซี่ยสือซินหวงเสี่ยว
“ต้องให้มาด้วยเหรอ? พวกเราไม่ได้เรียกเขาสักหน่อย” หลินฝานสีหน้าเย็นชาอยากจะไล่หลินเฟิงกลับไปหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกเก้กังอย่างมาก“เอาล่ะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ผมกลับไปก็ได้” หลินเฟิงเห็นท่าทางยืนหยัดของเขา จึงไม่ได้พูดอะไรอีกจากนั้นก็หันหลังเดินจากไปหลินเสวี่ยฮุ่ยเห็นแบบนั้นก็รีบตามออกมา“พี่หลินเฟิง เรื่องวันนี้ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ”หลินเสวี่ยฮุ่ยรีบตามหลินเฟิงไป “พี่ชายของฉันเป็นเพราะกังวลเรื่องอาการป่วยของคุณแม่ วันนี้พูดจาแย่ไปหน่อย พี่อย่าเก็บไปใส่ใจเด็ดขาดนะคะ”หลินเฟิงยิ้มแล้วลูบศรีษะของเธอจากนั้นก็พูดขึ้น “วางใจเถอะ ผมไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น”“คุณรีบกลับไปเถอะ”“มีเรื่องอะไรติดต่อผมได้ทันที”หลินเสวี่ยฮุ่ยจ้องมองหลินเฟิงอย่างละเอียด มองดูรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนของเขา คิดว่าเขาไม่ได้โกรธจริง ๆ ถึงได้พยักหน้าและกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยหลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตูโรงพยาบาล ก็เจอกับจางเจียหนิงที่ขับรถมาในมือของเธอยังถือของบำรุงมากมาย“คุณจาง คุณมาได้อย่างไรครับ?” หลินเฟิงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยจางเจียหนิงรีบพูดอธิบาย “คุณบอกว่าญาติของคุณป่วยไม่ใช่เหรอคะ? ฉันถึงได
“หัวหน้าหวัง วันนี้รบกวนคุณจริง ๆ ครับ”เซี่ยสือซินพูดด้วยความซาบซึ้ง “วันนี้ถ้าไม่ได้คุณ คุณแม่ของพนักงานของผมก็คงต้องเบียดกันอยู่ที่ห้องผู้ป่วยทั่วไปแล้ว”“หลินฝาน รีบมาสิ ฉันแนะนำให้นายรู้จักหน่อย ท่านนี้ก็คือหัวหน้าหวัง”หลินฝานรีบเดินเข้ามา และจับมือกับหัวหน้าหวังด้วยความตื่นเต้น “หัวหน้าหวังผมชื่อหลินฝาน เป็นพนักงานของเถ้าแก่เซี่ย วันนี้รบกวนคุณมากจริง ๆ ครับ”หวังเหว่ยเพียงแค่ตบไหล่ของเขาแล้วพยักหน้าพูด “เจ้าหนุ่ม ดูแลแม่ของนายให้ดี ๆ แต่เรื่องวันนี้ไม่ใช่ฉันเป็นคนช่วยเหลือ”“ห้องพักพิเศษมีเพียงแค่ห้องเดียว เก็บเตรียมเอาไว้สำหรับบุคคลใหญ่โตที่เกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน ให้พวกคุณอยู่ที่นี่ได้เป็นการอนุญาตจากผู้อำนวยการหวังทั้งนั้น”เซี่ยสือซินยังคิดว่าหวังเหว่ยเพียงแค่ถ่อมตัวเท่านั้นจึงพูดขึ้นทันที “หัวหน้าหวังถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ พวกเรามีสิทธิได้พูดคุยกับผู้อำนวยการหวังที่ไหนกันล่ะครับ”“ในนี้ยังต้องพึ่งพาคุณอยู่ดีครับ”หวังเหว่ยกลอกตา รู้สึกว่าสมองของเซี่ยสือซินไม่ค่อยดีเท่าไหร่“คุณคิดมากไปแล้ว ผมก็ไม่มีสิทธ์คุยกับผู้อำนวยหวังเช่นกัน”“ห๊ะ?” เซี่ยสือซินชะงัก ไม่ใช่เขาเป
“ห๊ะ?” หลินเสวี่ยฮุ่ยชะงักทันทีเธอกับหลินเฟิงเป็นเพียงแค่เพื่อนกันทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นน้องสาวแท้ ๆ อะไรนะ!จางเจียหนิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่จ้องมองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างละเอียดแล้วพยักหน้า“เป็นคนที่มีเค้าโครงความสวยจริง ๆ”“เอาล่ะ พวกคุณออกไปก่อนเถอะ ฉันกับผู้อำนวยการหวังจะขอศึกษาอาการป่วยของคุณแม่พวกคุณสักหน่อย”จางเจียหนิงเอ่ยปาก พวกเขาก็พยักหน้ากันติด ๆในเมื่อยังมีผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเจียงโจวอยู่ด้วยทุกคนก็ออกจากห้องพักหลินเสวี่ยฮุ่ยพูด “พี่ใหญ่ ฉันบอกแล้ว เมื่อครู่ไม่ควรจะไล่หลินเฟิงออกไป ครั้งหน้าเจอกับหลินเฟิงอีกครั้งพี่ควรจะอธิบายอย่างไร?”หลินฝานสีหน้าเก้กังถึงแม้ในใจจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เมื่อนึกได้ว่าเขาใส่ร้ายป้ายสีแฟนสาวของตัวเองก็โมโหขึ้นมาไม่ใช่แค่เรื่องเดียว“แล้วจะอย่างไรล่ะ? หรือว่าพวกเราตระกูลหลินไม่มีเขาแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วเหรอ?”“อีกอย่างต่อไปเธอก็ไปมาหาสู่กับหลินเฟิงให้น้อย ๆ หน่อย ฉันดูแล้วไอ้หมอนี่ก็แค่อยากได้ร่างกายของเธอ”หลินเฟิงคนนี้ความสามารถเก่งกาจ แถมยังมีเส้นสายทำไมต้องต้องดีกับครอบครัวของเขาขนาดนี้ด้วย?วันนี้ก็ยั
หลินฝานพูดอย่างคลุมเครือ “ให้ฉันพูดนะไอ้หมอนี่ต้องชอบเสวี่ยฮุ่ยแน่ ๆ”“ดังนั้นถึงได้กระตือรือร้นแบบนี้”หลินเสวี่ยฮุ่ยใบหน้าน้อย ๆ แดงก่ำ “พี่ใหญ่ พี่อย่าพูดแบบนี้ ต่อให้เขาชอบฉันจริง ๆ เขาก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรไม่ดีสักหน่อย”“ทำไมพี่ต้องไม่ชอบเขาขนาดนี้ด้วยนะ?”หลินฝานโบกมือแล้วพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “โอ้ย น้องสาว เธอกับหลินเฟิงฐานะไม่เท่าเทียมกัน เธอไม่เห็นผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่ข้างกายของเขาเหรอ?”“คนไหนบ้างที่เป็นบุคคลธรรมดารับมือได้ง่าย เธอคิดว่าเขาชอบเธอจริง ๆ เหรอ อ้าปากปิดปากก็เรียกน้องสาว รอให้เขาเล่นจนพอ ก็จะถีบหัวส่ง”หลินเสวี่ยฮุ่ยพูดไม่ออกชั่วขณะ ในใจรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในเมื่อพี่ชายของตัวเองพูดความจริง ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของหลินเฟิงแต่ละคนไม่ธรรมดาจริง ๆจ้าวเฉียวอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึก ๆ และครุ่นคิดถึงคำพูดของลูกชายอย่างละเอียดมีจุดหนึ่งที่เธอไม่เห็นด้วยอย่างมากเพราะว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายของหลินเฟิงสวยระดับชาติจริง ๆ ลูกสาวของตัวเองเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่อีกฝ่ายก็ยังเปลืองแรงมาเอาใจครอบครัวของเธอหรือว่า...เขาก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของเสวี่ยฮุ่ยจริง ๆ?หลินเสวี่ยฮุ่ยเป็น
หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มบางเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่ายาปรับประสานพลังของตระกูลถังจะแซงหน้ายาบำรุงสตรีของตระกูลเซี่ยง”“ครั้งนี้พวกเราจะต้องเอาสิทธิการเป็นตัวแทนของยาปรับประสานพลังมาให้ได้”แน่นอนว่า ถ้าหากสามารถเอาสูตรยาของยาปรับประสานพลังมาได้ก็คงจะดีอย่างมากจางซินที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า “คุณชายหลี่ว์ ถ้าหากได้สิทธิการเป็นตัวแทนของยาปรับประสานพลังมาได้ คุณอย่าลืมหุ้นส่วนส่วนนั้นของฉันนะคะ”สองวันมานี้หลี่ว์เจิ้งหยางกับจางซินคลุกคลีอยู่ด้วยกันด้วยความสามารถโน้มน้าวผู้หญิงของหลี่ว์เจิ้งหยาง จางซินก็ถูกเกลี้ยกล่อมให้คล้อยตามด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำและก็กู้เงินมาลงทุนให้เขาห้าสิบล้านบาทหลี่ว์เจิ้งหยางโอบเอวของจางซินเอาไว้แล้วยิ้มบาง “นั่นแน่นอนอยู่แล้ว เธอมีหัวการค้ามากกว่าพี่สาวของเธอเยอะเลย”จางซินถูกชมจนลำพองใจอย่างมาก “ชิ ถ้าฉันมีธุรกิจของครอบครัว หลี่ฮุ่ยหรานจะเอาอะไรมาเทียบกับฉัน”หลี่ว์เจิ้งหยางยิ้มบาง ผู้หญิงคนนี้เห็นตัวเองเป็นบุคคลสำคัญไปซะแล้วถึงแม้ในใจจะดูถูก แต่ปากก็ยังพูดว่า “เอาล่ะ พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ งานสิทธิการเป็นตัวแทนจะเริ่มต้นขึ้
กัวฮ่าวยิ้มบางหลี่ว์เจิ้งหยางก็พูดแนะนำอีก “ผู้จัดการกัว ท่านนี้ก็คือจางซิน ลูกพี่ลูกน้องของประธานบริษัทหลี่ซื่อกรุ๊ปที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้”“อ่อ...ที่แท้ก็คุณจางนี่เอง”กัวฮ่าวมองไปทางหลี่ว์เจิ้งหยางแล้วพูดด้วยความสนใจ “คุณชายหลี่ว์มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามไปทั่วจริง ๆ นะครับ”“เดินไปที่ไหนก็มีสาวสวยคอยอยู่เคียงข้าง!”“ฮ่าฮ่าฮ่า...ผู้จัดการกัวพูดคุยได้ขำจริง ๆ ครับ”หลี่ว์เจิ้งหยางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ถามขึ้นทันที “ผู้จัดการกัวสิทธิ์การเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลังในครั้งนี้...”เมื่อพูดถึงเรื่องเป็นการเป็นงาน กัวฮ่าวสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันทีเขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณชายหลี่ว์ ครั้งนี้คนที่มาเข้าร่วมการเป็นตัวแทนยาปรับประสานพลัง ต่างเป็นตระกูลใหญ่โตของภาคกลาง การแข่งขันของคุณไม่น้อยเลย”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบพูดขึ้น “จุดนี้ผมรู้อยู่แล้วครับ”“เพียงแต่เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมเชื่อว่าผู้จัดการกัวยังมีวิธีอยู่”“อีกอย่างครั้งนี้ยังมีหลี่ซื่อกรุ๊ปเข้าร่วมด้วย คุณจางก็เลื่อมใสคุณมานานมากแล้ว”ในตอนนี้กัวฮ่าวยิ้มมุมปาก แล้วตบบ่าของเขา “วางใจเถอะ ในเมื่อผมรับปากเรื่องของคุ