เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันต้องขอบคุณเธอจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาคงไม่สามารถจับหลี่ฮุ่ยหรานได้อย่างง่ายดาย ฮ่าฮ่าฮ่า!หวังเส้าหรงนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับและกำลังจะขับรถออกไปทันใดนั้น หลินเฟิงก็เปิดประตูรถออกด้วยมือเดียวทันใดนั้นเธอก็เอื้อมมือเข้าไปดึงกุญแจรถของเขาออกมาหวังเส้าหรงตกตะลึง และเมื่อเขาเห็นว่าคนที่มาคือหลินเฟิง เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น“คนแซ่หลิน แกไม่มีอะไรทำเหรอ ถึงหาเรื่องใส่ตัวอยู่ได้?”“แกจะพาหลี่ฮุ่ยหรานไปไหน?” หลินเฟิงถามด้วยสีหน้าเย็นชาหวังเส้าหรงด่า "จะไปที่ไหนมันเกี่ยวอะไรกับแก?"หลินเฟิงเหลือบมองหลี่ฮุ่ยหรานที่เบาะหลังเห็นมือทั้งสองของเธอคว้าบางอย่างอยู่ในอากาศ ขาของเธอหนีบแน่นและคงเตะอย่างดุเดือดปากพูดไม่หยุดไม่ได้ยินสิ่งที่พูดอย่างชัดเจนสภาพนี้คืออาการเมาอะไรบางอย่างอย่างเห็นได้ชัดหลินเฟิงโกรธมาก เมื่อเห็นว่าหลี่ฮุ่ยหรานต้องถูกวางยาหนึ่งหมัดชกเข้าไปที่ใบหน้าของหวังเส้าหรง“แกกล้าดียังไงมาวางยาหลี่ฮุ่ยหราน?”หากหลี่ฮุ่ยหรานอยู่ในสภาพที่มีสติดีและเต็มใจติดตามหวังเส้าหรง เขาจะไม่พูดอะไรเลยแต่วิธีการอันน่ารังเกียจนี้ทำให้หลินเฟิงขยะแขยงอย่างยิ่ง
หวางเส้าหลงทำหน้างุนงง กุมศีรษะร้องขอความเมตตาอย่างต่อเนื่อง “อ๊าก...... พอแล้ว หยุดกระทืบเถอะพี่เตาปา”พี่เตาปาไม่สะใจจึงกระหน่ำเท้าอีกสองสามครั้ง หันหลังกลับและวิ่งไปหาหลินเฟิง“คุณหลิน ต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับไอ้เด็กบ้านี่”พี่เตาปารีบแสดงความบริสุทธิ์ถึงความสัมพันธ์ของตนกับหวางเส้าหลงอย่างรีบร้อน กลัวว่าหลินเฟิงจะเข้าใจผิด คิดว่าตนกับหวางเส้าหลงเป็นพวกเดียวกัน“พี่เตาปา พี่......นี่พี่ทำอะไรเนี่ย?”หวางเส้าหลงมีเลือดออกปากออกจมูก มองเขาอย่างไม่เข้าใจสุด ๆ“ไอ้เด็กนี่เป็นแค่ไอ้เด็กหน้าอ่อนของตระกูลถัง พี่ไม่เห็นต้องกลัวเขาขนาดนี้เลย” “หุบปาก”พี่เตาปาตะคอกด้วยความโกรธพุ่งตัวตรงไปหาหวางเส้าหลง เสยเท้าเตะเขาล้มลงไปกองกับพื้นกระชากคอเสื้อของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า “ถ้ามึงอยากตายก็ไสหัวไปตายที่อื่นซะ อย่ามาลากกูไปเดือดร้อนด้วย” “เดี๋ยวสิ......พี่เป็นถึงเจ้าพ่อที่รวมซีเฉิงให้เป็นหนึ่งเดียวไม่ใช่เหรอ......” หวางเส้าหลงเอ่ยอย่างสงสัยพี่เตาปาหัวเราะอย่างขุ่นเคือง “กูทำให้ไนต์คลับทั้งหมดในเขตซีเฉิงเป็นหนึ่งเดียวกัน” “แต่มึงรู้ไหมว่าใครเป็นคนฆ่า
เธอไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเอาเปรียบหลินเฟิงหลินเฟิงพูดไม่ออก แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้นั่งตำแหน่งคนขับ แล้วขับรถตรงไปที่โรงแรมเทียนอวี่ไปถึงส่วนของห้องพักหลินเฟิงอุ้มหลี่ฮุ่ยหรานตรงไปที่ห้องของตนถังหว่านที่ประคองจางกุ้ยหลานอยู่ข้างหลังพูดว่า “นี่ แล้วคนนี้จะเอายังไง?”หลินเฟิงพูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “คุณไปจัดการห้องพักให้เธอก่อน แล้วกลับมาพาผมไปถอนพิษให้เธอ”ถังหว่านเบ้ปาก “ยังจะคิดแยกฉันออกไปอีก? ฝันไปเถอะ”เธอมองไปรอบ ๆ และพูดกับพนักงานบริการตรงโถงทางเดินว่า “น้องคนนั้น มานี่หน่อย”“คุณผู้หญิง มีอะไรให้รับใช้ครับ?” พนักงานบริการรีบเดินเข้ามาอยู่ข้างถังหว่านในทันที และถามอย่างสุภาพถังหว่านไม่พูดพร่ำทำเพลง ล้วงธนบัตรจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋ายัดให้พนักงานบริการไปตรง ๆ“ไปเปิดห้องให้ที จัดการเธอให้เรียบร้อย เงินพวกนี้เป็นของนายทั้งหมด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะมาเอาเรื่องกับนาย”พนักงานบริการเบิกตากว้างดูรอบ ๆ ทำงานมาก็นาน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนที่ยอมจ่ายมากมายขนาดนี้รีบพยักหน้ารับ “คุณผู้หญิงสบายใจได้ครับ ผมรับรองว่าจะดูแลผู้หญิงคนนี้อย่างดี”พูดจบก็รับตัวจางกุ้ย
ห้องพักข้าง ๆ กัน พนักงานบริการวางจางกุ้ยหลานลงบนเตียงเขาที่กำลังจะออกห้องไปแล้วก็มีมือใหญ่คู่หนึ่งกอดตนไว้แน่นด้านหลังมีเสียงหายใจดังห้าวลอยมา“สุดหล่อ......มา......มานี่มา”พนักงานบริการหันศีรษะกลับไป เห็นใบหน้าแก่ ๆ ของจางกุ้ยหลานในวัยสี่สิบปีเศษด้วยท่าทางยั่วยวนแม้ว่าตนจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะหื่นกระหายกินไม่เลือกแบบนั้นหรอกนะถ้าเป็นคนสวยเมื่อกี้ ตนก็อาจจะไม่ลังเลเลยสักนิดแต่ยัยแก่นี่......พอก้มมองดูธนบัตรในมือ ไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงคนนั้นจะให้เงินตนมากมายขนาดนี้ที่แท้ก็มีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่สินะระหว่างศีลธรรมกับเงินทอง ผู้ชายมันก็ลังเลพอ ๆ กันจนท้ายที่สุดพนักงานบริการก็กัดฟันข่มไว้ “แม่งเอ๊ย อดทนไว้เพื่อเงินแล้วกัน”เขาวางศักดิ์ศรีสุดท้ายลง หมุนร่างกลับไปและกระโจนใส่…….หลินเฟิงและถังหว่านรีบพุ่งไปที่ห้องข้าง ๆ อย่างไวพอยืนอยู่หน้าประตู ทั้งสองก็ได้ยินเสียงร้องที่สุขสมของจางกุ้ยหลานเสียแล้วถังหว่านถูนิ้วไปมาแล้วพูดว่า “ดูเหมือนจะสายไปแล้วล่ะ...... คุณจะเข้าไปไหม?”หลินเฟิงตบหน้าผาก พูดอย่างหมดแรงว่า “ช่างมันเถอะ”เขาเดินกลับห้องไปอย่างเงียบ
หลี่ฮุ่ยหรานทำหน้าบึ้งตึงแล้วพูดว่า “โทษนะ ฉันไม่ชินกับการนอนร่วมเตียงเดียวกันกับคนอื่น” “โธ่ ๆ ๆ......”ถังหว่านทำปากมุ่ยแล้วพูดว่า “ดูรักนวลสงวนตัวมากนะเนี่ย งั้นที่เธอแต่งงานกับหลินเฟิงมาตั้งสามปี คงจะไม่ได้แยกกันนอนหรอกใช่ไหม?”พูดจบ เธอก็นึกบางอย่างขึ้นได้ในทันที“แสดงว่าหลินเฟิงก็ยังเป็นผู้ชายบริสุทธิ์อยู่สินะ?” “งั้นฉันก็คงเจอสมบัติล้ำค่าจริง ๆ แล้วสิเนี่ย”หลังจากหลี่ฮุ่ยหรานฟังคำพูดของถังหว่านแล้วรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อย กัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “เธอคิดมากไปแล้ว” “หลินเฟิงกับฉันนอนด้วยกันตั้งนานแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานรูปคาง ทำหน้าเย้ายวนแล้วพูดว่า “เขาก็ไม่เลวนะ ถ้าเธอมีเวลาก็ลิ้มลองดูสักหน่อยสิ”มุมปากของถังหว่านกระตุกเล็กน้อย สีหน้าที่ดูเย็นชาก็หายวับในทันที ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร มีประสบการณ์มาแล้วก็ยิ่งดี ฉันไม่ค่อยชอบคนที่ไม่เป็นงานด้วยสิ”การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตานั้น ยังคงถูกตาทั้งสองของหลี่ฮุ่ยหรานจับจ้องเอาไว้ แม้ว่าจะไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างตนและหลินเฟิงแต่เมื่อเห็นถังหว่านถูกบีบให้พ่ายแพ้ สีหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานก็ยังคงดูภูมิใจอยู่มาก“งั
หลินเฟิงกลอกตามองบนอย่างหมดคำพูดเล็กน้อย “ผมไม่ได้ทำอะไรลูกสาวคุณทั้งนั้น”จางกุ้ยหลานชี้นิ้วไปที่หลินเฟิงแล้วพูดว่า “ฉันขอเตือนนายไว้นะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกสาวของฉัน ฉันจะฟ้องนาย” “แม่ พอแล้ว เมื่อคืนหนูกับหลินเฟิงไม่ได้นอนห้องเดียวกัน” หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเดิมทีตนเองยังมีคำถามอีกมากมายที่อยากจะถามหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าแม่ของตนจะโผล่ออกมาในเวลานี้ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ตนก็ทำได้เพียงแค่แล้ว ๆ กันไป“เมื่อวานแกเมามากจนหมดสติไป ใครจะไปรู้ว่าไอ้หมอนี่จะฉวยโอกาสทำอะไรแกหรือเปล่า”จางกุ้ยหลานพูดอย่างไม่ลดราวาศอก “ไป ฉันจะพาแกไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”พูดจบ เธอก็กำลังจะฉุดลากลูกสาวตนเองออกไปหลี่ฮุ่ยหรานหมดคำจะพูดเล็กน้อย ร่างกายตนเองเกิดอะไรขึ้นมีหรือที่ตนจะไม่รู้หลังจากออกจากโรงแรม จางกุ้ยหลานก็เอ่ยว่า “ต่อไปแกติดต่อนายหลินเฟิงคนนั้นให้มันน้อย ๆ หน่อย” “มันจะเกิดผลกระทบไม่ดี ถ้าหวางเส้าหลงมาเห็นเข้า”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างโมโหว่า “หนูกับหวางเส้าหลงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น ถ้าเขามาเห็นแล้วมันจะยังไง?”สำหรับคำพูดของหลินเฟิง เธอคิดว่าดูน่าเชื่อถือกว่ามากไม
เธอกังวลเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนโจวเฉินเป็นคนของเธอ และเธอได้รู้เกี่ยวกับความสามารถของหลินเฟิงทั้งหมดจากโจวเฉินแต่แรกแล้วแล้วก็คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มนี่ที่ดูธรรมดาจืดชืดจะมีความสามารถแบบนี้ด้วย“แล้วแม่ยังมีอะไรที่ต้องกังวลอีกไหม?” ถังหว่านเอียงศีรษะถาม“ดูเหมือนสิ่งที่ฉันเคยพูดกับแกก่อนหน้านี้ คงไม่เข้าหูแกสักคำเลยสินะ” หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดเพราะหวังให้เธอได้ดี“แม่ ตอนนี้หนูก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว บางเรื่องหนูก็รู้ขอบเขตน่า” น้ำเสียงของถังหว่านค่อย ๆ กระด้างขึ้นพอเห็นบรรยากาศแปลก ๆ ภายในห้อง หลินเฟิงก็ลูบจมูกแล้วพูดอย่างอึดอัด “ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวก่อนนะ”“หยุด” หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลินเฟิงค่อย ๆ หมุนตัวกลับมา “คุณน้ายังมีธุระอะไรอีกไหมครับ?” “ฉันมีบางเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อย” หลินเสวี่ยเยี่ยนวางกาแฟในมือลงแล้วพูดช่วงสองสามวันนี้ เธอเองก็ได้สืบภูมิหลังของหลินเฟิงอย่างชัดเจนแล้วด้วยเด็กหนุ่มนี่อาจไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ตนคิดก็ได้ แต่ก็ยังพอให้โอกาสเขาอีกสักครั้งได้“คุณน้า ถ้ามีอะไรจะพูด ก็พูดมาได้ ไม่เป็นไรครับ” “ได้ยินมาว
ถังหว่านพูดอย่างจริงจังว่า "สำหรับเรื่องนี้ ฉันต้องขอโทษนายด้วยจริงๆ""หวังว่านายจะไม่ถือสาอะไรนะ หลังจากนี้อีกหนึ่งปี ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะโอนหุ้นของบริษัทเภสัชกรรมเจียงโจวให้กับนายอย่างแน่นอน"หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเห็นร่องรอยของความสับสนและหมดหนทางในดวงตาของถังหว่าน"ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อว่าฉันสามารถเอาชนะตระกูลหรงได้"ถังหว่านถอนหายใจ "อย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย ต่อให้จะสิบปีนายก็ทำไม่ได้หรอก""ตระกูลหรงน่ากลัวกว่าที่นายคิดเอาไว้มากนะ"นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ทะลักออกมาหลินเฟิงยิ้มๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมา ‘น่ากลัวกว่าที่นายคิดเอาไว้มากนะ’ อย่างนั้นเหรอ?หลังจากบอกลาถังหว่านแล้ว หลินเฟิงก็ลุกขึ้นและกลับไปที่โรงแรมทันทีและทันทีที่เดินออกจากประตูไป เขาก็จามออกมาอย่างแรงสองทีหลินเฟิงสาปแช่ง "ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวคนไหนมาด่าลับหลังฉันแบบนี้?"ในเวลาเดียวกันที่โรงพยาบาลเมืองเจียงโจวหวางเส้าหลงถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งตัว และนอนเงียบๆ อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเมื่อวานเขาถูกทุบตีอย่างหนักหน่วงจนกระทั่งถึงตอนดึก เขาถึงฟื้นขึ้นมาได้และรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว