หลินเฟิงกลอกตามองบนอย่างหมดคำพูดเล็กน้อย “ผมไม่ได้ทำอะไรลูกสาวคุณทั้งนั้น”จางกุ้ยหลานชี้นิ้วไปที่หลินเฟิงแล้วพูดว่า “ฉันขอเตือนนายไว้นะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกสาวของฉัน ฉันจะฟ้องนาย” “แม่ พอแล้ว เมื่อคืนหนูกับหลินเฟิงไม่ได้นอนห้องเดียวกัน” หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเดิมทีตนเองยังมีคำถามอีกมากมายที่อยากจะถามหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าแม่ของตนจะโผล่ออกมาในเวลานี้ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ตนก็ทำได้เพียงแค่แล้ว ๆ กันไป“เมื่อวานแกเมามากจนหมดสติไป ใครจะไปรู้ว่าไอ้หมอนี่จะฉวยโอกาสทำอะไรแกหรือเปล่า”จางกุ้ยหลานพูดอย่างไม่ลดราวาศอก “ไป ฉันจะพาแกไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”พูดจบ เธอก็กำลังจะฉุดลากลูกสาวตนเองออกไปหลี่ฮุ่ยหรานหมดคำจะพูดเล็กน้อย ร่างกายตนเองเกิดอะไรขึ้นมีหรือที่ตนจะไม่รู้หลังจากออกจากโรงแรม จางกุ้ยหลานก็เอ่ยว่า “ต่อไปแกติดต่อนายหลินเฟิงคนนั้นให้มันน้อย ๆ หน่อย” “มันจะเกิดผลกระทบไม่ดี ถ้าหวางเส้าหลงมาเห็นเข้า”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างโมโหว่า “หนูกับหวางเส้าหลงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น ถ้าเขามาเห็นแล้วมันจะยังไง?”สำหรับคำพูดของหลินเฟิง เธอคิดว่าดูน่าเชื่อถือกว่ามากไม
เธอกังวลเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างเขาสองคนโจวเฉินเป็นคนของเธอ และเธอได้รู้เกี่ยวกับความสามารถของหลินเฟิงทั้งหมดจากโจวเฉินแต่แรกแล้วแล้วก็คิดไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มนี่ที่ดูธรรมดาจืดชืดจะมีความสามารถแบบนี้ด้วย“แล้วแม่ยังมีอะไรที่ต้องกังวลอีกไหม?” ถังหว่านเอียงศีรษะถาม“ดูเหมือนสิ่งที่ฉันเคยพูดกับแกก่อนหน้านี้ คงไม่เข้าหูแกสักคำเลยสินะ” หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดเพราะหวังให้เธอได้ดี“แม่ ตอนนี้หนูก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว บางเรื่องหนูก็รู้ขอบเขตน่า” น้ำเสียงของถังหว่านค่อย ๆ กระด้างขึ้นพอเห็นบรรยากาศแปลก ๆ ภายในห้อง หลินเฟิงก็ลูบจมูกแล้วพูดอย่างอึดอัด “ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวก่อนนะ”“หยุด” หลินเสวี่ยเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาหลินเฟิงค่อย ๆ หมุนตัวกลับมา “คุณน้ายังมีธุระอะไรอีกไหมครับ?” “ฉันมีบางเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อย” หลินเสวี่ยเยี่ยนวางกาแฟในมือลงแล้วพูดช่วงสองสามวันนี้ เธอเองก็ได้สืบภูมิหลังของหลินเฟิงอย่างชัดเจนแล้วด้วยเด็กหนุ่มนี่อาจไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ตนคิดก็ได้ แต่ก็ยังพอให้โอกาสเขาอีกสักครั้งได้“คุณน้า ถ้ามีอะไรจะพูด ก็พูดมาได้ ไม่เป็นไรครับ” “ได้ยินมาว
ถังหว่านพูดอย่างจริงจังว่า "สำหรับเรื่องนี้ ฉันต้องขอโทษนายด้วยจริงๆ""หวังว่านายจะไม่ถือสาอะไรนะ หลังจากนี้อีกหนึ่งปี ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะโอนหุ้นของบริษัทเภสัชกรรมเจียงโจวให้กับนายอย่างแน่นอน"หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเห็นร่องรอยของความสับสนและหมดหนทางในดวงตาของถังหว่าน"ดูเหมือนเธอจะไม่เชื่อว่าฉันสามารถเอาชนะตระกูลหรงได้"ถังหว่านถอนหายใจ "อย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย ต่อให้จะสิบปีนายก็ทำไม่ได้หรอก""ตระกูลหรงน่ากลัวกว่าที่นายคิดเอาไว้มากนะ"นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่ทะลักออกมาหลินเฟิงยิ้มๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมา ‘น่ากลัวกว่าที่นายคิดเอาไว้มากนะ’ อย่างนั้นเหรอ?หลังจากบอกลาถังหว่านแล้ว หลินเฟิงก็ลุกขึ้นและกลับไปที่โรงแรมทันทีและทันทีที่เดินออกจากประตูไป เขาก็จามออกมาอย่างแรงสองทีหลินเฟิงสาปแช่ง "ให้ตายเถอะ ไอ้สารเลวคนไหนมาด่าลับหลังฉันแบบนี้?"ในเวลาเดียวกันที่โรงพยาบาลเมืองเจียงโจวหวางเส้าหลงถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งตัว และนอนเงียบๆ อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเมื่อวานเขาถูกทุบตีอย่างหนักหน่วงจนกระทั่งถึงตอนดึก เขาถึงฟื้นขึ้นมาได้และรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว
หวางเส้าหลงตกตะลึง จากนั้นก็กลืนน้ำลาย แล้วพูดว่า "ที่แท้ก็เป็นคุณชายเฉินนั่นเอง ต้องขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ""ที่พาตัวนายมา ก็เพราะอยากจะถามอะไรนายสักสองสามข้อน่ะ" เฉินเฟยอวี่เล่นมีดสั้นที่อยู่ในมือหวางเส้าหลงรีบพูดขึ้นมาว่า "เชิญคุณชายเฉินถามมาได้เลยครับ ผมยินดีบอกคุณทุกอย่าง""คนที่ชื่อหลินเฟิงนั่นฆ่าพี่น้องของเรา ฉันมาที่นี่เพื่อล้างแค้นโดยเฉพาะ"เฉินเฟยอวี่พูดอย่างสงบ "นายบอกฉันมาดีๆว่า หลินเฟิงนั่นเป็นใคร อยู่ที่ไหน บอกทุกอย่างให้ละเอียด""หากกล้าที่จะพูดโกหก..."เฉินเฟยอวี่เหลือบมองไปที่โต๊ะและเสียง "ปัง" ก็ได้ดังขึ้นมาแค่การกระแทกเพียงครั้งเดียวก็ทำให้โต๊ะหักเป็นสองท่อนได้แล้วหวางเส้าหลงตกใจจนตัวสั่น แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยความสุขเขากำลังคิดหนักว่าจะจัดการกับหลินเฟิงอย่างไรดี นี่มันเหมือนกับการอยากนอนหลับ และมีคนเอาหมอนมาให้อย่างไงอย่างงั้น"คุณชายเฉินวางใจได้ ผมไม่มีอะไรปิดบังอย่างแน่นอน""หลินเฟิงคนนี้เคยเป็นอดีตสามีของหลี่ฮุ่ยหราน ไม่เท่าไหร่เลยครับ แค่มีทักษะอยู่บ้างก็แค่นั้น หลังจากที่หย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว เขาก็ไปปีนป่ายกับคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอีก…""ส่วน
จางกุ้ยหลานรีบมองไปที่หวางเส้าหลง พร้อมกับพูดขอร้องว่า "คุณชายหวางคะ คุณชายรีบพูดอธิบายแทนเราหน่อยสิคะ การตายของหลอเฟนหู่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลยนะคะ""คุณชายเป็นคนฆ่าหลอเฟนหู่ไม่ใช่หรือคะ?"หลี่เหวินเชาก็พูดขึ้นมาว่า "จริงด้วยครับคุณชายหวาง คุณยังรู้จักคนในจวนผู้ว่าราชการไม่ใช่เหรอ? พวกเขามีอะไรที่น่ากลัวขนาดนั้น?""ฮ่าฮ่าฮ่า......"ในเมื่อเรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว หวางเส้าหลงก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไปและเขาก็หัวเราะเสียงดัง พร้อมกับพูดว่า "บอกว่าตระกูลหลี่ปัญหาอ่อน พวกคุณก็ยังไม่เชื่อ""ถ้าฉันสามารถเรียกคนของจวนผู้ว่าราชการมาได้ งั้นเจียงโจวก็เป็นอาณาเขตของฉันทั้งหมดแล้วล่ะ""อะไรนะ? คุณไม่ได้เป็นคนเรียกคนของจวนผู้ว่าราชการมาหรอกเหรอ?"จางกุ้ยหลานตกตะลึง เพราะเธอคิดเสมอว่าหวางเส้าหลงเป็นคนสำคัญในจวนผู้ว่าราชการและนั่นก็เป็นสาเหตุที่หลอเฟนหู่ถูกตัดสิน"ในเมื่อคุณไม่ได้เรียกมา แล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ?"หวางเส้าหลงสาปแช่ง "ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร?"หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว "หวางเส้าหลง แล้วยาอมตะเลือดราชันย์ที่คุณให้คุณปู่ของฉันเป็นของแท้หรือเปล่า?""นั่นเป็นเพียงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ
เสียงกรีดร้องและเสียงร่ำไห้ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องทำงานจางกุ้ยหลานยิ่งทนไม่ไหว และรีบเบนหน้าหนีไปทางอื่นหลี่ฮุ่ยหรานเหงื่อไหลท่วมตัว และหายใจอย่างหนักหน่วงดวงตาที่เดิมทีใสราวกับหยดน้ำ ในขณะนี้กลับถูกม่านหมอกมาปกคลุมเอาไว้และใบหน้าที่เธอแสนจะภาคภูมิใจนี้ก็ได้สลายหายไปตลอดกาล"จะพูดหรือไม่พูด?" เฉินเฟยอวี่ไม่ได้ออมมือหรือสงสารเธอเลยแม้แต่น้อยและมีดพกก็ถูกวางแนบแก้มอีกข้างของเธออีกครั้งแต่ทว่าในครั้งนี้ ดวงตาของหลี่ฮุ่ยหรานไร้ซึ่งความรู้สึก และมันดูว่างเปล่าเป็นอย่างมากและปราศจากสีสันใดๆเฉินเฟยอวี่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่า หัวใจของผู้หญิงคนนี้ได้ตายไปเสียแล้วไม่ว่าเขาจะถามสักเท่าไหร่ เธอก็ไม่ตอบอะไรกลับมาทั้งนั้นจากนั้นเขาจึงหันไปหาจางกุ้ยหลานที่ขี้ขลาดตาขาวอีกครั้ง"คุณชาย...คุณชายเฉินคะ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ..."เฉินเฟยอวี่วางมีดพกไปที่แก้มของเธออย่างชำนาญ"ยังเป็นคำถามเดิม ฉันไม่อยากจะถามซ้ำเป็นครั้งที่สอง"ตัวของจางกุ้ยหลานสั่นสะท้านราวกับตะแกรงร่อนและเธอก็กลัวจนของเหลวเหล่านั้นทะลักออกมาเต็มพื้นเฉินเฟยอวี่กำลังจะลงมือแต่จางกุ้ยหลานก็ได้ตะโกนอย่างสุดกำลังว่า "
ประตูของห้องพักถูกเปิดออกมาอย่างเงียบๆชายชุดดำสองคนเดินย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบสภาพแวดล้อมที่สลัว ทำให้ทั้งสองหรี่ตาลงเล็กน้อย"ปัง"และในเวลานี้ เสียงดังสนั่นก็ได้กระแทกเข้ามาที่ใบหูหลินเฟิงแตะไปที่ตัวของหนึ่งในชายชุดดำโดยที่แรงกระแทกนั้น มันหนักหน่วงราวกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ส่วนชายชุดดำที่อยู่ข้างหลังก็หยุดชะงัก และรู้สึกว่ากระดูกสันหลังของตัวเองต้องหักแล้วแน่ๆและชายคนนั้นก็หมดสติไปอย่างสิ้นเชิง"แม่งเอ๊ย"ชายชุดดำอีกคนตะคอกออกมาด้วยความโกรธจากนั้นก็ดึงมีดเหล็กออกมาทันทีและพุ่งไปที่แหล่งกำเนิดเสียงอย่างรวดเร็วโดยที่ความรวดเร็วของคนคนนี้ สามารถเกิดเป็นกระแสลมได้ใบหูของหลินเฟิงขยับเล็กน้อย และเขาก็ตัดสินทิศทางการโจมตีของคู่ต่อสู้ทันทีตามเสียงลมใบมีดแหลมคมแฉลบไปด้านข้างเพียงเล็กน้อย และพอที่จะเคลื่อนผ่านเส้นผมของเขาได้จากนั้นเขาก็กำหมัดเอาไว้แน่น และชกออกไปเหมือนปืนใหญ่ถูกดีดออกจากลำกล้อง"ปัง"จู่ๆ ชายชุดดำนั้นก็ลอยออกไปทันทีเลือดสดๆได้ถูกพ่นออกมา และหน้าอกของเขาก็ยุบเป็นหลุมอย่างกะทันหันแล้วก็ลอยไปกระทบกับกำแพงอย่างแรง"แก......"ชายชุดดำเพียงคนเดีย
หลังจากหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขาก็โทรหาฮั่นสือทันทีในไดนาสตี้บาร์ ฮั่นสือซึ่งอยู่ในห้องน้ำก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินเฟิงเช่นกันเขาลังเลอยู่อย่างนั้น และไม่รู้ว่าควรจะรับสายหรือไม่รับสายดีหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รับสายโทรศัพท์ในที่สุดเขากระซิบว่า "ฮัลโหล? คุณหลิน"หลินเฟิงถามออกไปแบบตรงๆว่า "หลี่ฮุ่ยหราน อยู่ที่ไดนาสตี้บาร์หรือเปล่า?""คือว่า..."ฮั่นสือตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คุณชายสี่ของตระกูลเฉินส่งคนไปจัดการหลินเฟิงแล้วไม่ใช่เหรอ?ดูเหมือนว่ามันจะล้มเหลวเสียแล้วนะหลังจากที่หลินเฟิงถามคำถามนี้ เขาก็คงต้องเลือกข้างเสียแล้วเขาควรจะยืนอยู่ข้างเฉินเฟยอวี่หรือหลินเฟิงดี?เขายังไม่ได้ตัดสินใจ คิดเพียงว่าจะอยู่ตรงกลางอย่างมั่วๆแบบนี้ต่อไป ใครชนะ เขาก็จะอยู่ข้างคนนั้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดเป็นเวลานาน หลินเฟิงจึงพูดอย่างเฉยเมยว่า "นายแค่ตอบฉันมาว่าใช่หรือไม่ใช่""หากข่าวนั้นเป็นจริง ฉันไปถึงแล้ว สามารถไว้ชีวิตนายได้ และนายจะยังคงรับผิดชอบต่ออุตสาหกรรมในเขตซีเฉิงต่อไป"ประโยคนี้ดูเหมือนจะโดนใจฮั่นสือเอาเสียมากๆหากอยู่กับเฉินเฟยอวี่ เขาจะเป็นได้เพียงผู้ติดตาม และเ