ลู่เจ๋ออยู่ในห้องหนังสืออยู่นานเขาหยิบแผ่นฟิลม์ที่หักแตกออกมา มองดูสักพักแล้วโยนมันลงในถังขยะ เขาทรุดตัวลงบนโซฟาแล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย กลับรู้สึกว่าแสงมันแสบตาเขาเลยเอามือมาบังความเจ็บปวดบนฝ่ามือของเขา ทำให้เขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาลงแรงหนักแค่ไหนนี่เขาตบหน้าเฉียวซุนไปจริง ๆ ...ลู่เจ๋อหลับตาลง สิ่งที่เขาเห็นต่อหน้ามีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนครั้งสุดท้ายของเฉียวซุน รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา...เธอมีภูมิหลังที่สูงส่ง ตระกูลเฉียวเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีจนโต ไม่เคยโดนตบตีเลยสักครั้ง เขาบอกว่ารักเธอแล้วก็ยังตบหน้าเธอ!ตอนนี้โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสายของเลขาฉิน “ประธานลู่ผมอยู่ชั้นล่างแล้ว ตอนนี้จะลงมาเลยไหมคะ?”เสียงของลู่เจ๋อเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ช่วยผมเลื่อนออกไปวันหนึ่ง”เลขาฉินไม่ได้คิดมาก “แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญรอแค่คุณลู่คนเดียวนะครับ!”เสียงของลู่เจ๋อเย็นชา ไม่มีอารมณ์ใดๆ “ผมบอกว่าเลื่อนออกวันหนึ่งยังไง!”หลังจากที่เขาวางสาย เลขาฉินชั้นล่างดูโทรศัพท์ของเขาแล้วถามคนรับใช้เขาเบาๆว่า “คุณลู่กับคุณนายทะเลาะกันหรอ?”เธอรู้สึกว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้!เพราะตอนนั้นที่พวกเขาแต่งงานก
ลู่เจ๋อนั่งอยู่ในรถ เขาเงยหน้าไปมองที่ชั้นสอง ถามเบาๆว่า “คุณนายอยู่บ้านไหม”คนรับใช้พูดๆหยุดๆว่า “ท่านย่าร่างกายไม่สบาย คุณนายเลยไปดูแลที่นั่น เธออยู่ที่นั่นหลายวันติดต่อกันแล้วค่ะ”สีหน้าของลู่เจ๋อเผยความอ่อนโยนขึ้นเขาให้คนรับใช้ยกกระเป๋าเดินทางขึ้นไปชั้นบน แล้วเขาก็ขับรถไปที่บ้านตระกูลเฉียว...ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่ลานจอดรถของบ้านตระกูลเฉียวลู่เจ๋อไม่ให้คนใช้ไปบอก เขาเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของคุณย่า ห้องนอนที่เงียบสงัด คุณย่าหลับตาเอนตัวพิงนอนอยู่บนหมอน ส่วนเฉียวซุนก็นอนอยู่บนเตียง... ดูเหมือนกำลังหลับอยู่ลู่เจ๋อไม่ได้ปลุกคุณย่าเขานั่งข้างเฉียวซุนแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเธอ เธอดูผอมลงมาก ใบหน้าที่เล็กอยู่แล้วของยังเล็กกว่ามือของเขาอีก...เฉียวซุนตื่นขึ้นมา มองไปที่ร่างที่ดูเหน็ดเหนื่อยของเขาโดยไม่พูดอะไรเธอไม่สุขไม่ทุกข์!เธอไม่ยอมถูกเขาสัมผัส เลยถอยหลังไปเล็กน้อย แต่ลู่เจ๋อก็จับหลังคอของเธอไม่ให้เธอหนี เสียงของเขาต่ำแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”น้ำเสียงของเฉียวซุนนิ่งมาก “ฉันจะไปล้างหน้าหน่อยค่ะ!”พูดจบเธอก็ผลักเขาออกไป ลุกขึ้นเด
ในรถที่มืดมิด ทั้งสองหายใจเร็วขึ้นเฉียวซุนยังคงนั่งอยู่ตักของเขา ผิวขาวของเธอดูนุ่มนวลและละเอียดอ่อนเมื่ออยู่บนกางเกงขายาวสีเทาของเขา...ถุงน่องบาง ๆ ที่เขาถอดออกแล้วแขวนไว้บนข้อเท้าเรียวยาวทำให้ดูน่าค้นหาหลังจากนั้นไม่นาน ลู่เจ๋อก็ได้สติกลับมา...เขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว!เขาตั้งตารออยู่นาน บางที อาจจะเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็ได้แต่ในขณะนี้ ตัวเขาไม่มีความกล้าแม้แต่จะกอดเธอด้วยซ้ำ เขาจำได้ เมื่อเดือนที่แล้วเธอมีเรื่องที่อยากจะบอกเขา เขาก็รีบวิ่งไปต่างประเทศเลยไม่ได้ให้เธอพูด พวกเขาทะเลาะกันเพราะไป๋เซียวเซียว ......สุดท้าย เขาก็ตบเฉียวซุนเฉียวซุนท้องอยู่แล้วยังถูกเขาตบ!ลูกกระเดือกของลู่เจ๋อก็สั่นเล็กน้อย เขาใช้นิ้วเรียวลูบใบหน้าของเธอ มันเรียบเนียนไม่มีรอยแผลเป็น แต่เขายังคงถามอีกครั้งด้วยเสียงแหบห้าว “ยังเจ็บอยู่ไหม”เฉียวซุนไม่ตอบแต่พูดอย่างใจเย็น “คุณให้ฉันกลับไปนั่งเถอะ” ลู่เจ๋อหรี่ตาลงเล็กน้อยเขาจับจ้องมอง แต่เห็นได้ชัดว่าเฉียวซุนไม่อยากให้เขามอง เธอหันหน้าไปทางด้านข้างแล้วพูดอีกรอบว่า “ปล่อยฉันลง”ลู่เจ๋อวางมือไปที่เธอหลังคอของเธอแล้วกดให้เธออิงเข้ากับหัวไหล่ของเขา
คนรับใช้หยุดพูดติดๆขัดๆ “คุณท่านกับคุณย่าไม่รู้ว่าคุณหญิงท้อง! คุณผู้ชายต้องบอกข่าวนี้ให้พวกท่านทราบ ไม่อย่างนั้นคุณท่านจะยุยงคุณกับคุณหลี่! เธอลืมไปแล้วว่าคุณผู้ชายเป็นคนที่มีภรรยาแล้ว แล้วอีกไม่นานจะเป็นพ่อคนแล้วอีกด้วย!”ลู่เจ๋ออารมณ์ดีขึ้น เขาพูดอย่างเย็นชา “ฉันรู้แล้ว!”เขาดับบุหรี่จากนั้นกำลังจะขึ้นไปชั้นบน ก็เห็นลูกบอลตุ๊กตาหิมะสีขาววิ่งลงบันไดไป นั่นมันเจ้าเซี่ยลี่ตัวน้อย... เซี่ยลี่ตัวน้อยไม่ได้เจอหน้าลู่เจ๋อนาน หมาเจ้าตัวเล็กคิดถึงเขามาก มันเห่าเขาอยู่หลายครั้งลู่เจ๋อก้มตัวไปอุ้มมันขึ้นมาแล้วขึ้นไปชั้นสองด้วยกันเขาอาบน้ำให้เจ้าเซี่ยลี่ตัวน้อย เป่าขนจนสะอาดหมดจดแล้วเอากลับไปที่ห้องนอนเฉียวซุนอาบน้ำแล้วเธอสวมชุดนอนผ้าไหมเอนตัวที่หัวเตียงเพื่ออ่าน 《คู่มือตั้งครรภ์》เธออ่านมันอย่างใจจดจ่อโดยไม่ได้สังเกตเห็นว่าลู่เจ๋อเดินเข้าไปในห้องนอนลู่เจ๋อยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อแล้วมองดูภรรยาด้วยสีหน้านิ่งๆ เขารู้สึกว่าเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปใช่ เธอค่อนข้างเย็นชาแต่ดูเหมือนว่าเธอยังเย็นชาไม่พอ อย่างน้อยยังสนใจเขาบ้าง!ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มไหนคนเขียนว่า ผู้หญิงที่เลิกพยายาม แสด
อพาร์ทเมนต์ของเฉียวซุนเสิ่นชิงรู้ว่าเธอจะมา ตอนเช้าจึงไปซื้อกระดูกข้อหมูกับหน่อไม้สดที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หั่นเป็นชิ้นต้มซุปเพื่อการบำรุงร่างกายของเธอเฉียวซุนที่กำลังล้างผลไม้อยู่ เสิ่นชิงเห็นเข้าเลยตะโกน “คนกำลังท้องกำลังไส้ ไปนั่งพักผ่อนให้สบายๆเถอะ! ฉันล้างให้คุณเองโอเคไหม"เฉียวซุนยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “ลูกแค่อายุสามเดือน ไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก!”พอพูดถึงลูก เสิ่นชิงก็ชะงักไปครู่หนึ่งเธอยื่นแอปเปิลให้เฉียวซุน เธอลังเลก่อนที่จะถามว่า “คุณวางแผนอย่างไร ครั้งที่แล้วฉันได้ยินหลินเซียวพูดถึง ว่าคุณกำลังจะเปิดร้านในเมืองเซียง นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ”เฉียวซุนกัดแอปเปิ้ลที่มีรสเปรี้ยวหวานจากนั้นไม่นานเธอก็พูดเบาๆว่า “ฉันมีแผนนี้! ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งในเมืองเซียงที่คุณนายหลี่แนะนำดูน่าเชื่อถือ... เมื่อพี่ชายของฉันออกมาเราจะย้ายไปปักหลักที่เมืองเซียง ฉันได้ยื่นขอพาสปอร์ตที่นั่นไว้”เรื่องเธอกับลู่เจ๋อ เสิ่นชิงก็เดาว่า “แต่ลู่เจ๋อเขา...ไม่มีทางไปใช้ชีวิตที่เมืองเซียง”เฉียวซุนตอบอืมคำเดียวเสียงของเธอเบาลง “ใช่ เขาจะไม่ไป!”……ตอนเย็นลู่เจ๋อเลิกงานก็ตั้งใจมารับเฉียวซุนเขาได้รับการต้อ
ลู่เจ๋อจับพวงมาลัยแน่น!แต่ใบหน้าของเขากลับนิ่งมาก “ลองคิดเรื่องการไปใช้ชีวิตที่นั่นดู! แต่เรื่องการทำงานก็เพลาๆลงก่อน ก่อนท้องและหลังจากคลอดจะค่อนข้างลำบาก... คุณนายลู่ ฉันไม่อยากให้คุณทำงานหนักเกินไป”เฉียวซุนก็ยิ้มเบา ๆในตอนกลางคืน ลู่เจ๋อเครียงานที่ห้องหนังสือเฉียวซุนอาบน้ำเสร็จ เธอก็นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งทาครีมบำรุงผิว หลังทาเสร็จเธอก็ค่อยๆ เปิดลิ้นชักที่มีเอกสารสำคัญของเธอ...คุณฟานช่วยเธอจึงได้ยื่นขอถิ่นที่อยู่ถาวรในเมืองเซียงรอได้รับพาสปอร์ตแล้วเธอกับลูกก็จะไปตั้งถิ่นฐานในเมืองเซียง ไม่กลับเมืองเมือง B อีกเลยเธอตัดสินใจแบบนี้โดยพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เธอรู้ว่าลู่เจ๋อคงยังจะไม่ปล่อยเธอไปในตอนนี้ เธอจึงวางแผนได้แค่วางแผน... ใช้นามของลูกในการแลกกันอยู่ เวลาผ่านไปนานลู่เจ๋อคงจะรู้สึกเหงา เขาคงจะเที่ยวคลับเหมือนแต่ก่อน คงใช้ความอ่อนโยนกับผู้หญิงหลายคนอีกไม่กี่ปีเขาอาจจะอยากเริ่มต้นมีครอบครัวอีกครั้งเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตูเฉียวซุนเก็บเอกสารออกไปแล้วปิดลิ้นชัก จากนั้นเธอก็กำลังจะลุกขึ้นยืน ลู่เจ๋ออยู่ข้างๆ เธอแล้วเขาโน้มตัวไปข้างหน้ากอดเธอจากด้านหล
หลีชิงเฉิงได้รับเชิญเข้าไปในห้องโถงดอกไม้ตอนที่คนรับใช้มาเสิร์ฟชา ก็เดินอย่างฝีเท้าเบาๆ ตอนที่เขิญให้เธอดื่มชาก็ยังเบามากๆ หลีชิงเฉิงก็คิดในใจว่าเพราะว่าคุณนายตั้งท้อง ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวังเป็นพิเศษเธอไม่เคยคิดว่าเฉียวซุนจะท้อง!ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดีไม่ใช่หรอ ทำไมพึ่งแต่งงานใหม่เฉียวซุนก็ตั้งท้องหละ?ฝนที่ข้างนอกยังตกหนักสาดลงมาที่พื้น...ทำให้คนรู้สึกไม่ดีตอนนี้ประตูห้องโถงดอกไม้เล็กๆ ก็ถูกผลักให้เปิดออก หลีชิงเฉิงก็เงยหน้าขึ้นมาเจอลู่เจ๋อเขาอยู่ที่ประตู เหมือนจะไม่ได้ตั้งใจเดินเข้ามาใบหน้าของเขาไม่ได้มีความโรแมนติกเหมือนเดิมอีกต่อไป ดวงตาของเขาก็เหมือนจะไม่มีความรักใคร่ซ่อนอยู่ เขาเหมือนจะเป็นพ่อบ้านที่จะเป็นสามีและพ่อที่ดี!ลู่เจ๋อล็อกประตูจากข้างใน น่าจะไม่อยากให้ใครหรือให้คนรับใช้ได้ยินแล้วเรื่องที่คุยกันไปถึงหูของเฉียวซุน...หลีชิงเฉิงรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้งในหัวใจของเธอเธอละทิ้งความเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนแล้วถามไปตรงๆว่า “ลู่เจ๋อคุณใส่ใจเธอขนาดนี้ แค่เพราะเธอท้องหรอ ถ้าเธอไม่ได้ท้องเรื่องของพวกเรา...คงเป็นไปได้ใช่ไหม?” “เปล่าเลย”ลู่เจ๋อหยิบบุหรี่สีขาวเห
เธอพูดว่า "ฉันเชื่อคุณ!"ลู่เจ๋อสัมผัสใบหน้าของเธอเบา ๆ อดไม่ได้ที่จะสัมผัสติ่งหูอันอ่อนนุ่มของเธอ เฉียวซุนไวต่อความรู้สึกมาก เขาชอบกัดตรงนั้นเบา ๆ ตอนทำร้ายเธอทุกครั้ง เธอก็โอบเขาอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลลู่เจ๋อระงับความอยากเป็นเวลานานเมื่อนึกถึงเสน่ห์เหล่านั้นในเวลานี้ เสียงของเขาก็แหบแห้งเล็กน้อยตอนเปิดปากพูด "ผมจะเอารถไปให้คุณ และคุณให้คนรับใช้ขึ้นไปเอาเสื้อคลุมชั้นบน ข้างนอกอากาศค่อนข้างหนาว"เขายืนขึ้นและจากไป เฉียวซุนมองดูแผ่นหลังของเขาลู่เจ๋อมักแต่งตัวดีเสมอในเวลานี้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาเข้ม และชุดสูททำด้วยมือ แค่มองแผ่นหลังก็ทำให้เขาดูสูงส่งมาก... ไม่แปลกใจเลยที่เด็กสาวหลายคนหลงใหลเขาเฉียวซุนก้มศีรษะลง และลูบท้องส่วนล่างเบา ๆเธอคิดจริงๆ ว่าการเสแสร้งรักกับลู่เจ๋อนั้น จริงๆไม่ใช่เรื่องยากเลยคนรับใช้ลงมาจากชั้นบนในมือของเธอมีผ้าคลุมไหล่ที่เฉียวซุนสวมบ่อยๆ เธอสวมมันให้เฉียวซุน แล้วพูดเบาๆว่า "ข้างนอกพื้นลื่น คุณนายสวมรองเท้ากันลื่นอีกคู่ ต้องระวังเป็นพิเศษถ้าท้องอยู่"เฉียวซุนยิ้มเบา ๆ-ก่อนหน้า เฉียวซุนไม่เคยตั้งการ์ดที่โรงพยาบาลลู่ซื่อ แต่ลู่เจ๋อย้ายเธอมาท