ขณะที่เหลือระยะห่างจากหุบเขามรณะและทางออกประมาณสิบลี้ อู้เลี่ยสั่งให้กองทัพใหญ่หยุดชั่วคราว รอข่าวจากนายร้อยข้างหน้าเวลาเพียงไม่นาน นายร้อยส่งคนกลับมารายงาน “รายงานองค์ชายใหญ่ พวกเราพบทัพศัตรูที่ปากหุบเขา!”เมื่อได้ฟังคนกลับมารายงาน หัวใจของอู้เลี่ยพลันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากนั้นก็ถาม “ทัพศตรูมีกี่คน?”ผู้รายงาน “ไม่ถึงหนึ่งร้อย! กำลังต่อสู้กับกองกำลังของเรา”ไม่ถึงหนึ่งร้อย?อู้เลี่ยยินดีปรีดา ตะโกนลั่น “ถ่ายทอดคำสั่ง กองทัพทั้งหมดบุก!”นายกองจั่วต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเคร่ง “องค์ชายใหญ่ ทัพศัตรูเหมือนจะมีการเตรียมพร้อม พวกเราควรรอดูสถานการณ์ก่อนหรือไม่?” “ไม่จำเป็นต้องดูแล้ว!”อู้เลี่ยส่ายหน้าด้วยความมั่นใจ “คนเหล่านั้นคงประจำการอยู่ที่ปากหุบเขา พวกคนที่ขัดขวางไม่ให้นักโทษเหล่านั้นหนีไป! พวกเราจำเป็นต้องบุกออกไปทันที ห้ามพวกเขามีโอกาสกลับไปรายงาน!”อู้เลี่ยไม่สนใจคำเตือนของหัวนายกองจั่วต้า ออกคำสั่งกองทัพบุกอีกครั้ง!”ภายใต้คำสั่งของอู้เลี่ย กองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ยังปากหุบเขาตอนที่ส่วนหน้าของกองทัพใหญ่กำลังจะมุ่งออกจากปากหุบเขา หูของพวกเขาพลันได้ยินเสียงดังกึกก้องอ
“หุบเขาแห่งความตาย พวกเขากล้าใช้เส้นทางผ่านหุบเขาแห่งความตายได้เช่นไร?”เว่ยเหวินจงตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แทบจะไม่กล้าเชื่อทหารส่งสารเขารู้ดีถึงผลที่จะตามมาหากทหารเป่ยหวนบุกเข้าทางด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือแต่เขาไม่กล้าเชื่อ เป่ยหวนจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นึกไม่ถึงจะกล้าใช้เส้นทางผ่านสถานที่ต้องห้ามอย่างหุบเขามรณะมุ่งสู่ด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือเป่ยหวนบ้าไปแล้วกระมัง?พวกเขาไม่รู้หรือว่าหุบเขามรณะเป็นสถานที่เช่นไร?หากพบกับเทพลงทัณฑ์ กองทัพนับหมื่นของพวกเขาจะถูกทำลายอย่างเปล่าประโยชน์ตอนที่เว่ยเหวินจงกำลังสับสน ทหารส่งสารอีกคนหนึ่งก็กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามา“รายงานท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านอ๋องได้รีบส่งกองทัพไปสนับสนุนกองกำลังทหารของสู้ฉวีที่หุบเขามรณะแล้ว! ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยรายงานกับท่านแม่ทัพใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนมุ่งหน้าบุกจู่โจมกะทันหันที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า! ท่านอ๋องเกรงจะต้านทานไม่ไหว ขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ส่งกองกำลังไปสนับสนุน!”เว่ยเหวินจงสีหน้าเปลี่ยน “เจ้าบอกว่า เป่ยหวนมี...กองทัพสี่หมื่นคน?”“ขอรับ!”ทหารส่งสารตอบอย่างกระหืดกระหอบ “ท่านอ๋อง
ได้ฟังคำเว่ยเหวินจง แม่ทัพนายกองพากันพยักหน้าใช่แล้ว!เรื่องเร่งด่วน คือต้องป้องกันหม่าอี้!อีกทั้ง จำเป็นต้องป้องกันหม่าอี้!มิฉะนั้น ภายภาคหน้าของกองทหารมณฆลทางเหนือคือความพ่ายแพ้ย่อยยับ“สามารถโยกย้ายทหารม้าสองหมื่นจากป้อมเมืองสุยหนิง เร่งไปสนับสนุนหุบเขามรณะ!”เวลานี้ มีคนเสนอแนะอีกครั้ง“ไม่ได้!เว่ยเหวินจงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “ทหารและม้าของเมืองแนวหน้า ห้ามขยับเด็ดขาด! เป่ยหวนเพิ่มกำลังคนที่เมืองชายแดนกู้ไม่น้อย ทันทีที่กำลังทหารแนวหน้าว่างเปล่า เป็นไปได้สูงว่าเป่ยหวนจะฉวยโอกาสแย่งชิงสองป้อมเมืองแนวหน้า!”คนผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยปากเตือนอีกครั้ง “แต่หากไม่ส่งกำลังสนับสนุนไปหุบเขามรณะ ชีวิตองค์ชายหกก็ไม่อาจรักษาไว้ได้! ถึงเวลานั้นฝ่าบาทไล่เรียงไถ่ถาม...”“เลิกพูดได้แล้ว!”เว่ยเหวินจงตัดบทเขา กดฟันกล่าว “ซั่วฟางมีทหารชาวนาหนึ่งแสนกว่าคน หากไม่ได้จริงๆ องค์ชายกสามารถถอยมาป้องกันเมืองซั่วฟาง! หากองค์ชายหกมีอันต้องสูญเสีย ฝ่าบาทไล่เรียงไถ่ถาม ข้าจะรับผิดชอบเพียงผู้เดียว!”สิ้นเสียงของเว่ยเหวินจง เรื่องนี้ก็ถือว่าตัดสินได้แล้วเว่ยเหวินจงทำเช่นนั้น ก็สามารถเข้าใจได้
หากหยุนเจิงรู้ว่าศัตรูมีน้อยเพียงนี้ ควาเป็นไปได้มากกว่าครึ่งคงใช้โอกาสนี้ฝึกทหารหยุนเจิงสามารถซุ่มโจมตีเป่ยหวนอีกครั้ง คาดการณ์ศัตรูล่วงหน้า ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำได้ทุกครั้งต่อให้หยุนเจิงเทพเพียงใด นั่นก็ต้องดูว่าเป่ยหวนให้เขาโอกาสเขาหรือไม่!หากเป่ยหวนยกทัพใหญ่มาซึ่งๆ หน้า แผนการใดก็ล้วนไร้สาระ!ถึงเวลานั้น สุดท้ายก็ยังต้องสู้กันประชิดตัว!ในใจตู้กุยหยวนรู้ดี อย่ามองว่าพวกเขารบชนะหลายครั้ง ปลิดชีพชาวเป่ยหวนไปไม่น้อย แต่กำลังรบซึ่งๆ หน้าของกองทัพพวกเขาไม่แข็งแกร่ง!หากต่อสู้กับเผชิญหน้ากับทหารม้าเป่ยหวน พวกเขาเหล่านี้ไม่อาจสู้กับทหารม้าหนึ่งหมื่นของเป่ยหวนได้เมื่อได้ฟังคำของตู้กุยหยวน อวี๋ซื่อจงอดไม่ได้ที่จะตกสู่ห้วงความคิด“พี่ใหญ่ตู้พูดมีเหตุผลนัก!”อวี๋ซื่อจงพยักหน้า “จริงอยู่ที่ว่าครั้งนี้ข้าไม่ได้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์”ตู้กุยหยวนพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวใบหน้าเคร่งขรึม “พวกเราโชคดี พบกับองค์ชาย! องค์ชายคิดแทนพวกเรา พวกเราก็ต้องคิดแทนองค์ชายเช่นกัน!”“อื้ม!”อวี๋ซื่อจงพยักหน้าอย่างจริงใจ ขณะเดียวกันก็ถามด้วยความสงสัย “พี่ใหญ่ตู้ ท่านรู้หรือไม่ว่าความเคลื่
ทุกคนนิ่งไปอยู่นาน สุดท้ายก็ได้สติกลับมาอย่างยากเย็น“ห๊า?”หวังชี่มองหยุนเจิงด้วยความมึนงง ถามด้วยความอึ้ง “ท่านอ๋อง จะรายงานเช่นนี้จริงหรือ?”“จำเป็นต้องรายงานเช่นนี้!หยุนเจิงยิ้มมองหวังชี่ “มิฉะนั้น ทหารม้าลูกน้องของเจ้าจะย้ายมาให้ข้าได้เช่นไร? เจ้าวางใจ หลุมซ่อนทหารข้าล้วนขุดไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว! ให้พวกเขาไปหลบในหลุมซ่อนทหารได้อย่างสบายใจ ข้าจะให้พวกเขากินดื่ม แล้วก็ให้เบี้ยหวัดพวกเขา!”เมื่อได้ฟังคำของหยุนเจิง ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างห้ามไม่อยู่ พากันมองหยุนเจิงด้วยความตกตะลึงหลุมซ่อนทหารของเขา เตรียมไว้เพื่อทหารม้าลูกน้องของหวังชี่?เขาคิดแผนการฮุบทหารม้าของหวังชี่ตั้งแต่เมื่อใด?เขามองการณ์ไกลไปแล้วกระมัง?หยุนเจิงไม่สนใจอาการตกตะลึงของทุกคน จากนั้นก็ออกคำสั่งต่อไปสั่งทหารม้าของหวังชี่ออกเดินทางข้ามคืน รีบเร่งเดินทางไปยังหลุมซ่อนทหารอีกอย่าง ทหารม้าห้าพันที่พวกเขาบอกว่าถูกหิมะกลืนกินไป ก็ต้องซ่อนไว้ชั่วคราวเช่นกันเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ต่อให้เว่ยเหวินจงไม่มาด้วยตัวเอง ก็ต้องส่งคนมาตรวจสอบอยู่ดีหากความลับถูกเปิดเผย เช่นนั้นก็ไม่ดีแล้วอีกอย่าง คนเหล่านั้นที
ยามนี้ เวลานี้!ก่อนหน้านี้ เป่ยหวนคงไม่ยินยอมเสียหายมากเกินไป ถึงเอาแต่ไม่ยอมบุกมาซึ่งๆ หน้าแต่ตอนนี้ ความเสียหายของเป่ยหวนมหาศาลแล้ว!อีกทั้ง เส้นทางลอบโจมตีทั้งหมดของพวกเขาถูกปิดกั้นหากไม่โจมตีจากข้างหน้าอีก กองทัพใหญ่สี่หมื่นคนเป่ยหวนก็เท่ากับตายสูญเปล่าแล้ว!รอถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า กองทัพใหญ่ต้าเฉียนบุกเข้าไปในพื้นที่ เป่ยหวนม้าผอมขาดแคลนผู้คน จะเอาสิ่งใดขัดขวาง?เป่ยหวนจำเป็นต้องเอาชนะกองทหารมณฆลทางเหนือ จึงสามารถทำให้ต้าเฉียนไม่กล้าเคลื่อนทัพบุกในต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นี่จะทำให้เป่ยหวนมีโอกาสอันมีค่าในการหายใจ!เวลาที่เหลือให้เป่ยหวน มีไม่มากแล้ว!หากเขาเป็นประมุของเป่ยหวน เขาจะรับสมัครคนหนุ่มชั่วคราว บุกโจมตีโดยไม่สนสิ่งใดเลย!ไม่มีเสบียงอาหาร แม้ว่าต้องฆ่าม้าศึกเป็นอาหาร การรบครั้งนี้จำเป็นต้องทำทันทีที่เป่ยหวนเคลื่อนทัพบุกโจมตี ใครยังมีจิตใจมาสนใจเขา!ผลักเขาไปข้างหลัง ก่อเรื่องให้พวกเขาอยู่ข้างหลัง ไม่เป็นประโยชน์กับต้าเฉียน! เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์ของหยุนเจิง เสิ่นลั่วเยี่ยนและเมี่ยวอินอดพยักหน้าไม่ได้ตอนนี้เป่ยหวนนอกจากบุกมาซึ่งหน้าแล้ว ดูเหมือนไม่ใช่วิธีที
หยุนเจิงแบ่งกำลังแปดคนเป็นสี่กลุ่ม สองคนหนึ่งกลุ่มคนสี่กลุ่ม แบ่งกันไปสร้างหิมะถล่มบนภูเขาตามสถานที่ต่างๆหนึ่งกลุ่มที่กลับมาคือนักรบภูตสามและห้าพวกเขาอยู่สร้างหิมะถล่มบริเวณปากหุบเขามรณะ ใกล้กับที่พวกเขาตั้งค่ายพักแรม จึงกลับมาถึงเร็วที่สุดนักรบภูตห้าได้รับบาดเจ็บเหตุผลสำคัญคือตอนที่จุดชนวนห่อดินปืนประมาทกับอานุภาพของห่อดินปืนมากเกินไป วิ่งออกมาช้าเกินไป จึงได้รับบาดเจ็บจากแรงสะเทือนนักรบภูตสามยังอยู่ดี แค่เหนื่อยเกินไป ริมฝีปากมีรอยแห้งแตกหยุนเจิงสั่งให้หมอทหารรักษาอาการบาดเจ็บของนักรบภูตห้า จากนั้นก็สั่งให้คนนำน้ำแกงมาให้นักรบภูตสามหลายวันนี้พวกเขาล้วนอาศัยอาหารแห้งประทังชีวิต ตอนนี้คงอยากกินน้ำแกงร้อนๆหลังจากจัดหาที่พักให้นักรบภูตสามและห้าแล้ว หยุนเจิงสั่งตู้กุยหยวน “สั่งให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทุกคนระมัดระวัง ต้องป้องกันไม่ให้เข้าใจผิดทำร้ายคนของตัวเอง อย่าให้โอกาสคนเป่ยหวนมีโชคเช่นกัน!”เป่ยหวนนึกไม่ถึงว่าจะมีเป็นหลักหมื่นคน!ต่อให้ทั้งหมดถูกหิมะกลบฝังแล้ว ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนดวงแข็งเวลานี้แล้ว ไม่อาจประมาทจนเกิดความผิดพลาดคืนแห่งความเงียบงันเวลาฟ้าสว่าง ม
ชัยชนะเช่นนี้ ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว!ไม่นาน ทุกคนอาจต้องเผชิญกับสงครามนองเลือดแล้ว!……กลางดึก เมืองติ้งเป่ยแม้จะเป็นเวลากลางดึกแล้ว เว่ยเหวินจงยังคงหลับตาไม่ลงส่งกองทัพไปสนับสนุนที่หุบเขามรณะทางนั้น คงไม่ทันกาลแล้วเวลาผ่านไปหนึ่งวันแล้ว คนที่ส่งไปตรวจสอบสถาณการณ์ที่หุบเขามรณะก็ยังไม่กลับมาในใจเขารู้ดี หากทหารชั้นยอดสี่หมื่นของเป่ยหวนยึดครองสู้ฉวีและซั่วฟางได้ กองทหารมณฑลทางเหนือก็ต้องเผชิญกับสงครามนองเลือดรุนแรงหัวของผู้บัญชาการกองทหารมณฑลทางเหนืออย่างเขา ล้วนไม่อาจรักษาไว้ได้ตลอดเวลา!ตอนที่เว่ยเหวินจงกำลังนั่งไม่ติด ทหารคนสนิทคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งเข้ามา “รายงาน! ท่านแม่ทัพใหญ่ คนของพวกเรากลับมาแล้ว และยังพาทหารส่งสารกลับมาด้วยสองนาย!”เว่ยเหวินจงตั่วสั่นไปทั้งร่าง ร้อนใจกล่าว “เร็ว มาเข้ามา!”ไม่นาน หน่วยสอดแนมที่เว่ยเหวินจงส่งไปวิ่งเหยาะเข้ามาพร้อมกับทหารส่งสารสองคนเห็นด้านหลังทหารส่งสารทั้งสองคนปักธงแดงเอาไว้ เว่ยเหวินจงอดไม่ได้ที่จะชะงักเล็กน้อยปักธงสีแดง?เหตุใดจึงเป็นธงสีแดง?หรือว่า กองกำลังรักษาการของสู้ฉวีบวกกับกองกำลังของหยุนเจิง สามารถเอาชนะทหารชั้นยอดสี่ห