“เมื่อครู่หวงซานเหนียงบอกว่า ในบ้านของจูต้ากุ้ยบูชาจูเซียนที่เป็นเทพสุกรไม่ใช่เหรอ? แต่แล้วทำไมถึงเป็นพลังปีศาจล่ะ?” ฉันเอ่ยถามหลิวหลงถิง อย่างไรเสียหวงซานเหนียงบำเพ็ญฌาณมานานขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่จะแยกแยะเซียนกับปีศาจไม่ออก เธอบอกว่าผู้ที่เธอสนิทสนมด้วยนั้นล้วนเป็นเซียน แต่เทพสุกรนี่กลับไปสนิทสนมกับปีศาจตนหนึ่งเช่นนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย “สัตว์อย่างพวกเราบำเพ็ญฌาณเป็นเซียน มนุษย์โลกยังนับว่าปฏิบัติต่อเราอย่างสุภาพ ไม่เคยกระทำเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าบำเพ็ญฌาณมาแค่ไหน ก็เรียกอย่างเค
ส่วนพี่สาวที่เห็นจูต้ากุ้ยเข้าบ้านไปอัญเชิญเซียน ก็ตกใจจนเรียกให้พวกเรารีบไป จูต้ากุ้ยบูชาจูเซียนมาตนหนึ่งเก่งกาจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้จูต้ากุ้ยใช้กำลังอย่างป่าเถื่อนโดยไม่สนใจ กฎหมายและหลักการแห่งสวรรค์ มีคนเคยเชิญคนมาหาเรื่องเขาเหมือนกัน ทว่าเซียนของอีกฝ่าย ถูกจูต้ากุ้ยทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตคำพูดนี้ทำให้ฉันเป็นห่วงหลิวหลงถิงเล็กน้อย พลางถามหลิวหลงถิงทำไมปีศาจหมูทำร้ายเซียนตนอื่นจนตาย กลับไม่มีคนสนใจเลย? “โดยปกติคนที่บำเพ็ญฌาณมาสองพันกว่าปีอย่างเขานั้นจะไม่มีคนมาสนใจอีก บวกกับเขาฉางป๋าย ยุคสมั
บาดเจ็บจะตายอยู่แล้ว หลิวหลงถิงยังพูดจาล้อเล่นแบบนี้! ฉันโกรธจนยื่นมือไปตีที่หน้าอกของหลิวหลงถิงทีหนึ่งโดยไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย กำลังจะบอกให้เขาจริงจังกว่านี้หน่อยได้ไหม ทว่าเมื่อฉันตีไปแบบนั้น หลิวหลงถิงจึงขมวดคิ้วเป็นปมทันที พอหน้าอกถูกกระทบ เลือดสีแดงฉานก็พ่นออกมาจากปากเขา! ฉันก็เกลียดมือของตัวเองขึ้นอย่างเร็ว และมองหลิวหลงถิงอย่างตึงเครียด พร้อมบอกให้เขาทนไว้ก่อน ฉันจะไปเรียกรถพยาบาลให้! คราวนี้หลิวหลงถิงใกล้ลืมตาไม่ไหวแล้ว ส่ายหัวกับฉันเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก พาฉันไปพักผ่อนนิดหน่อยก็ดีขึ้น
ตอนที่ฉันกำลังกลัดกลุ้มใจอยู่นั้น แผนกต้อนรับของโรงแรมก็โทรมาหาฉันพร้อมบอกว่ามีคนต้องการพบฉัน เขาเป็นหมอที่หวงซานเหนียงแนะนำ พอได้ยิน ฉันตื่นเต้นจนอยากกระโดดโลดเต้นขึ้นมาเลย ว่าแล้วก็รีบให้พวกเขาขึ้นมา หวงซานเหนียงเป็นคนผูกอาฆาตและจดจำบุญคุณอย่างที่คาดไว้ หลิวหลงถิงช่วยคนไม่ผิดจริง ๆ พอฉันวางสายไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันเปิดประตูออก คนที่เข้ามาเป็นชายชราที่ผมขาวโพลน ข้างกายชายชรายังมีคนที่เหมือนชายชราอีกคนหนึ่ง ที่มีผมขาวโพลนเหมือนกัน “เจ้าเด็กผู้หญิงคนนี้ช่างไร้มารยาทเสียจริง
“เมื่อกี้หากไม่ใช่เธอ ฉันต้องเจ็บหลายเดือนแน่นอน อยากให้ฉันตอบแทนไหม? ตอนนี้ได้เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย”ตอนนี้หลิวหลงถิงกำลังมีไข้ ไม่เพียงแค่ร่างกายร้อนจี๋ แม้แต่ตอนที่เขาพูดกับฉัน ลมหายใจที่ออกมาจากปาก ก็แผ่ความร้อนมาที่คอของฉันจนร้อนผ่าว เดิมทีฉันอยากผลักเขาออก ทว่าเป็นครั้งแรกที่หลิวหลงถิงบอกต้องการตอบแทนฉัน ฉันคิดว่าบ้านเขาร่ำรวยขนาดนี้ เขาต้องมีเงินอย่างแน่นอน เลยขมวดคิ้ว แสร้งทำท่าทีเอาอกเอาใจ พร้อมเอ่ยถาม “ตอนนี้นายเป็นไข้ จะตอบแทนฉันยังไงล่ะ?”“การตอบแทนนี้ ต้องตอนที่ฉันเป็นไข้ถึงจะตอบแท
เซียนไม่ใช่เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาที่จะยกให้กันได้แบบนี้ อีกอย่างร่างที่แท้จริงของเหล่าป๋าย ฉันก็ยังมองไม่ออกว่าคืออะไร ทำไมคุณปู่ถึงวางใจมอบชายชราที่มีระดับสูงส่งขนาดนี้ ให้ฉัน? ฉันเงียบไปพักหนึ่ง คาดว่าคุณปู่เดาได้ว่าฉันกังวลเรื่องอะไร จึงเอ่ยกับฉัน “สาวน้อยอย่ากดดันไปเลย อันที่จริงด้วยนิสัยของเหล่าป๋าย เขาเป็นคนพูดจาด้วยง่าย เขาดีทุกอย่าง เว้นเสียแต่นิสัยเสีย นิดหน่อย เธอไม่ต้องกังวลว่าจะควบคุมเหล่าป๋ายไม่อยู่ เธอเป็นคนเก่ง เพียงแค่พึ่งอยู่ในขั้นต้น จากนี้กองทัพเทพของเซียนเธอทรงอำนาจ
“หลิวหลงถิงนายลืมพรางตัวหรือเปล่า?” ฉันหันไปถามหลิวหลงถิง แต่ว่าก็ไม่ถูกต้องนะ เซียนก็ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุหรือฝึกวิชาพรางตัว ว่ากันตามเหตุตามผลแล้ว หลิวหลงถิงเป็นเซียน เซียนกับตัวเขาเองก็เป็นร่างเดียวกัน ไม่มีเหตุสัมพันธ์กับการบำเพ็ญฌาณของตัวเอง มนุษย์มองไม่เห็นเซียน ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่คนเดียวที่มองเห็นเขาได้ ไม่ว่าใครก็มองเขาเห็นหลิวหลงถิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่รู้สึกได้ว่าเขาไม่สบายใจเล็กน้อย พลางบอกฉันให้กลับกัน มองเห็นแล้วก็มองเห็นไป ฉันเดินตามหลังหลิวหลงถิงกลับโรงแรม แต่ว่าระหว่างทา
ตอนที่ฉันไปสถานีรถ ย่าหลี่ที่อยู่ใต้ตึกตามคุณย่าไปส่งฉันด้วยกัน ระหว่างทางที่ไปส่ง ยังถามฉันว่าช่วงนี้มีแฟนหรือเปล่า ช่วงนี้เห็นฉันกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่บ่อย ๆ ดูสนิทสนมกัน ผู้ชายคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ทั้งบอกว่าฉันตาดี ฉันยิ้มแห้งให้ กำลังอธิบายว่านั่นคือเซียนของฉัน หลิวหลงถิงออกมาจากบ้านก็ตรงมาถือสัมภาระของฉัน พอเห็นฉันยังคุยกับย่าหลี่ จึงรีบบอกให้ฉันเลิกคุยได้แล้ว เดี๋ยวจะไปสาย ฉันเดินตามหลิวหลงถิง แล้วเอ่ยลาคุณย่า คุณย่าบอกกับย่าหลี่ที่ยิ้มแฉ่งอยู่ข้างหลังว่า ผู้ชายคนนี้คือเซียนที่ช่วยก