"อ๋า? รู้แล้วรู้แล้ว ข้าไม่ตะโกนแล้ว" ลู่ทงรีบกดเสียงลงจนเหมือนกับยุงทันทีเขาผิดไปแล้ว จะทำให้ลูกพี่หนิงตื่นขึ้นได้อย่างไร?ด้านนอกมีเสียงดาบกระบี่ ในห้อง เซียวหลันยวนกอดฟู่จาวหนิง มือข้างหนึ่งตบเบาเบาที่หลังของนางเหมือนกับกล่อมเด็กนอน กลัวว่านางจะนอนไม่สนิทเขาได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก บางทีก็ส่งสื่อเสียงไปให้กับชิงอี"มุมหน้าต่างชั้นสองฝั่งตะวันออกมีคนปีนเข้ามาแล้ว จัดการเสีย"ชิงอีพอได้ยินเสียงของท่านอ๋องก็ยังตกตะลึงไปพักหนึ่ง ไม่หรอกมั๊ง กำลังภายในของท่านอ๋องแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ? ได้ยินทั้งหมดเลย?แต่เขาก็ยังรีบตรงไปจัดการหลังจากถีบคนชุดดำคนนั้นจนตัวลอยไป เขาก็เข้าไปปกป้องโรงเตี๊ยมต่อ จุดไหนต้องไปก็วิ่งไป ถึงอย่างไรคืนนี้ใครก็ห้ามเข้าใกล้ห้องนั้นวันต่อมา ตอนที่ฟู่จาวหนิงตื่นข้างๆ ก็ไม่มีคนแล้วนางสะลึมสะลือหลังจากตั้งตัวได้ก็ยื่นมือมาลูบที่ว่างข้างๆ ยังอุ่นๆ อยู่เช่นนั้นนางก็ไม่ได้ฝัน เมื่อคืนนี้เซียวหลันยวนนอนอยู่ตรงนี้จริงๆ ยิ่งไปกว่นั้นเขายังเพิ่งจะลุกออกไปด้วยเมื่อคืนมีคนเข้ามาหรือ?ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นนั่ง ยืดตัวบิดขี้เกียจฮู่ว เมื่อคืนนี้เป็นการนอนดีที
เซียวหลันยวนเห็นฟู่จาวหนิง ก็ชะงักไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้หยุดและเดินตรงขึ้นชั้นบนไปชิงอีกลับเดินเข้ามา"พระชายา พวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว""ได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองแผ่นหลังเซียวหลันยวน ในใจก็จิ๊ขึ้นมาเสียงหนึ่งนางจำได้รางๆ ว่าเมื่อคืนมีคนกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหู และเหมือนมีตบนางเบาๆ กล่อมหลับด้วย วันนี้พอลุกขึ้นมา ใครบางคนก็เตรียมทำทีห่างเหินอีกแล้วหรือ?ขี้เกียจจะไปสนใจแล้ว"คุณหนู ของที่ซื้อเมื้อวานนี้ใส่ขึ้นรถเรียบร้อย ท่านเก็บของใช้ติดตัวท่านก็พอแล้ว" เฉินซานเอ่ยขึ้น"ได้"ฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็ไม่ได้มีของต้องเก็บมากนักเพียงไม่นานก็ลงมาตอนออกมานางเพิ่งจะเห็นลู่ทงกับเจิ้งหยาง ทั้งสองคนดูเหมือนกลัดกลุ้มอยู่หน่อยๆพวกเขาสองคนจะนั่งในรถม้าคันหนึ่ง รถม้าเป็นของจวนอ๋องเจวี้ยนคิดว่าตอนที่ทั้งสองคนมาคงจะขี่ม้า ไม่มีรถ"พวกเจ้าทำอะไรน่ะ?" ฟู่จาวหนิงเห็นลู่ทงเหมือนปีนขึ้นรถม้าไม่ไหว มือไม้อ่อนแรงจนแปลกประหลาด"ลูกพี่หนิง" ลู่ทงพอเห็นนางเข้ามา ก็ทำหน้าน่าสงสารเหมือนจะร้องไห้ "มียาอะไรที่ทำให้ข้ามีกำลังเหมือนมังกรเหมือนพยัคฆ์ไหม? เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ตอนนี้ทั้งตัวไม่มีแรงเลย"
ฟู่จาวหนิงมองเขา ดูประหลาดใจหน่อยๆ "อ๋องเจวี้ยนที่สูงส่งทำไมจึงยอมมานั่งรถม้าร่วมกับข้าแล้วกัน?"เซียวหลันยวนฟังการประชดประชันนี้ไม่ออกเสียที่ไหน"มีเรื่องหนึ่งอยากบอกกับเจ้า" เขาเดิมทียังมีอีกครึ่งประโยค อยากบอกว่าเมื่อคืนนี้ยังพูดไม่ทันจบเจ้าก็หลับไปเสียแล้ว แต่รู้สึกว่าถ้าเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืนนางจะรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปเดิมทีก็คิดจะเลี่ยงการเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่แล้วเมื่อคืนนี้ถือว่าเขาวิ่งไปห้องนางเพื่อขอนอนด้วย พูดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกตนเองไร้ยางอายอยู่เหมือนกัน หนังหน้าก็ดูจะหนาเกินไปหน่อย"ท่านว่ามาเถิด"ฟู่จาวหนิงได้ยินน้ำเสียงเขาก้เลยต้องตั้งใจฟังขึ้นมา รู้สึกว่าเขากำลังจะพูดเรื่องเป็นทางการ"เรื่องเกี่ยวกับตระกูลลู่และตระกูลเจิ้ง""นี่ท่านไปตรวจสอบว่าใครคิดจะสังหารลู่ทงเจิ้งหยางให้กับพวกเขาหรือ?""เจ้าอาจจะไม่รู้ ว่าตระกูลของพวกเขาทั้งสองคนเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเจ้าด้วย"เซียวหลันยวนเล่าเรื่องที่ตรวจสอบมาได้ให้นางฟัง"ดังนั้น ที่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินสามารถออกจากเมืองหลวงได้อย่างราบรื่น หลบเลี่ยงการไล่จับของคนในที่ว่าการได้ ก็เพราะสองตระกูลของพวกเขาช่วยเหลือเ
ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครั้งนี้กังวลขึ้นมาหน่อยๆ แล้วจริงๆ"แล้วท่านไม่กลัวว่า พวกเขาเป็นไปได้ว่าจะถูกหลอกให้เข้าลัทธิเทพทำลายล้าง? ถ้าหากพวกเขาเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้า ที่มู่เหรินหลีพูดมา ที่บอกว่าลัทธิเทพทำลายล้างวางยาพิษ ประโยคนี้ก็ถือว่าพูดไม่ผิด"เขานวดหน้าผาก พอคิดถึงสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินอาจจะเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง ก็รุ้สึกว่าสมองจู่ๆ ก็ปวดขึ้นมานางตอนนี้เองก็รังเกียจลัทธิเทพทำลายล้าง เจอกับพวกสาวกลัทธิเทพทำลายล้างไปหลายคน แล้วพวกเขาก็ยังวางยาพิษที่ทั้งมากทั้งโหดร้ายกับจงเจี้ยนอีก ล้วนทำให้นางรู้สึกว่ากลุ่มสำนักนี้ทำให้คนรังเกียจเสียเหลือเกินถ้าหากพ่อแม่นางเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง แค่คิดก็รู้สึกเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเอามากๆ แล้ว"ข้าไม่ใช่ว่าเคยวิเคราะห์กับเจ้าแล้วหรือไร?""วิเคราะห์อะไรหรือ?""พ่อของเจ้า ไม่ใช่คนโง่พรรค์นั้น ไม่ใช่คนที่จะถูกคนอื่นหลอกล่อได้ง่ายๆ สำหรับเขาแล้ว ตอนนั้นที่เข้าร่วมกับลัทธิเทพทำลายล้างอะไรนั่นก็ยังไม่เท่ากับการเข้าร่วมราชสำนักเป็นข้าราชการเลย ตอนนั้นพวกเขาคุณความดีที่ปกป้ององค์จักรพรรดิ บวกกับความสามารถที่ยอดเยี่ยมเกินใครของเข
จะว่าไปก็ใช่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะปิดบังอะไรนางเขาหันหน้าเข้ามาหา ถอนหายใจ"สิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่ ไม่มีเหตุผลตรงไหนเลย""ตรงไหนที่ไม่มีเหตุผล?""ตงฉิง ต่อให้พ่อของเจ้าจะเคยได้ยิน แต่ก็ควรจะรู้ว่าการขุดตงฉิงขึ้นมาให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"ก็ไม่ง่ายจริงๆ"ต่อให้เขารู้ว่ามีแผนที่แบบกระจายกับแผนผังป้องกันเมืองอยู่ก็เถอะ ก็น่าจะรู้ว่าตงฉิงนี้ ลัทธิเทพทำลายล้างถือดีอะไรจะมายึดครองมัน? ตงฉิงต่อให้ถูกขุดออกมาจริงๆ แคว้นเจา ต้าชื่อ กระทั่งแคว้นอื่นๆ พวกชนเผ่าที่กล้าหาญบางส่วน อย่างเช่นเผ่าเฮ่อเหลียน คนเหล่านี้จะมองลัทธิเทพทำลายล้างพวกนอกรีตชั่วร้ายมายึดครองตงฉิงอย่างอหังการไปได้หรือ?"พอได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าถูกต้อง"ฟู่จิ้นเชินไม่น่าจะใช้คนที่สายตาตื้นเขิน เขาไม่มีทางเชื่อ"มีเพียงพวกโง่เขลา พวกที่เอาแต่คิดว่าจะได้ประโยชน์โดยไม่ต้องลงแรง หรือพวกที่โลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถึงจะถูกการโม้เหม็นแบบนี้ทำให้หวั่นไหว"ดังนั้น การวิเคราะห์เช่นนี้ สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินไม่มีทางเข้าร่วมลัทธิเทพทำลายล้าง เรื่องที่วางยาพิษในครั้งนั้น เป็น
นี่เกือบจะถึงเมืองหลวงอยู่แล้วคนที่อยู่ด้านหลังอาจจะคิดว่าถ้าตามไปเช่นนี้จนกลับถึงเมืองหลวง พอของถูกนำไปไว้ในจวนอ๋องเจวี้ยนจะยิ่งลงมือยาก คิดว่าคงจะเตรียมตัวชิงของกันที่นี่ส่วนว่ามันจะเป็นอะไร แย่งชิงมาก่อนเดี๋ยวก็รู้เองดังนั้นอีกฝ่ายกระทั่งรถม้าก็จะไม่ทิ้งไว้ให้พวกเขา จะต้องเอาไปทั้งหมดแน่นอนตอนที่พวกเขาคิดหาวิธีรับมือที่นี่ ชายหนุ่มที่ใบหน้าถูกรมด้วยควันจนดำคนหนึ่งก็โซซัดโซเซเข้ามาในเมืองหลวงเขาตรงไปยังจวนพระสัสสุระ พุ่งไปยังประตูหลัง ยื่นมือตบไปสองทีเรี่ยวแรงก็หมดแล้วล้มลงมีคนเข้ามาเปิดประตู พอเห็นคนผู้นี้ ก็รีบมองซ้ายขวาไปรอบๆ แล้วแบกคนเข้าไปเพียงไม่นาน พระสัสสุระก็รีบมาอยู่ด้านหน้าคนผู้นี้ พอเห็นสภาพเขาก็ตกตะลึงหน้าถอดสี"เจี๋ยเอ๋อร์! นี่เจ้าเกิดอะไรขึ้น?"ตอนนี้เขาไม่ใช่ว่าควรอยู่ที่หมู่บ้านกุยเซี่ยวหรือ?ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?เสื้อผ้าบนตัวถูกเผาจนรุ่งริ่งไปบ้าง ผมเผ้าก็ไหม้จนม้วนหยิก คิ้วครึ่งหนึ่งถูกเผาไปไม่เหลือ ใบหน้าเองก็ดำมะเมี่ยมนี่มันลูกชายของเขาเองนี่นา พอเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็จำแทบไม่ได้"ท่านพ่อ หมู่บ้านกุยเซี่ยว ถูกทำลายแล้ว!""เจ้าว่าอะไรนะ?" พ
ครั้งนี้ส่งคนไปตั้งหลายกลุ่ม สองกลุ่มแรกภารกิจลอบสังหารอ๋องเจวี้ยนก็ล้มเหลว ตายหมด อีกกลุ่มที่ไปยังเมืองชิงเหยาก็ยังไม่กลับมา เขาก็รอข่าวคราวอยู่ตลอดที่เหลือทั้งหมดก็อยู่ที่หมู่บ้านกุยเซี่ยว"ไม่ ไม่มีเหลือแล้ว ที่ตายก็ตายไป พิการก็พิการไป ที่ถูกพาไปก็ถูกพาไป""ยังมีถูกพาไปด้วยหรือ?"พระสัสสุระโกรธจัด ถลึงตาโตไม่อยากเชื่อหูของตนเองทำไมยังมีถูกพาไปอีกกัน?"คนที่พิการ ถูกคนพวกนั้นแบกไปแล้ว พวกเรา พวกเราเองก็ชิงกลับมาไม่ได้ ข้าแกล้งตายหนีออกมาทางอุโมงค์ลับ แต่กว่าจะเอาตัวรอดมาได้ก็ไม่ง่ายเลย"อุโมงค์ลับเส้นนั้นมีเพียงพวกของพวกเขาที่รู้"คนเหล่านั้นถ้าถูกส่งไปเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิ เจ้าคิดว่าฮองเฮาจะทำอย่างไรกัน!"พระสัสสุระหน้ามืดไปแล้วเขารู้สึกว่าตนเองใกล้จะไม่ไหวแล้วตอนแรกออกคำสั่งปลิดชีวิตไว้ ถ้าหากมีวันหนึ่ง คนทั้งหมดต้องกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ใครก็ห้ามมีชีวิตอยู่เพื่อถูกจับกุมทั้งนั้น จะให้มีความเสี่ยงเปิดโปงฮองเฮาไม่ได้ผลคือตอนนี้กลับถูกพาไปตั้งหลายคน?"ท่านพ่อ พวกท่าน พวกท่านคงไม่ พวกเขาคงจะไม่พูดถึงฮองเฮาหรอกใช่ไหม?""เจ้าไสหัวไปเลย!"พระสัสสุระยกเท้าถีบเขาเพราะโม
เซียวเหยียนจิ่งตอนนี้มีความใส่ใจแปลกๆ ต่อตัวฟู่จาวหนิงเดิมทีเขาคิดว่าตนเองคงจะไม่สนใจฟู่จาวหนิง แต่ก็เหมือนผีผลักอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้เขากลับสนใจตัวฟู่จาวหนิงมากขึ้นเรื่อยๆ!ยิ่งไปกว่านั้นเขายังส่งคนหลายคนออกไปเป็นพิเศษ ให้คอยจับตาดูฟู่จาวหนิง คอยฟังว่าวันนี้นางไปไหน เจออะไร ทำอะไรบ้างแต่น่าเสียดาย แค่ไม่นานนัก ฟู่จาวหนิงก็ออกไปนอกเมืองกับอ๋องเจวี้ยนเสียแล้วและไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงมีอะไรน่าพาไปกัน นางทำอะไรได้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟู่เองก็ยังพักอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนด้วยอ๋องเจวี้ยนเกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ของฟู่จาวหนิงแล้ว เห็นปู่ของนางเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือ?เขาเดิมทียังคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ออกเรือนอย่างลวกๆ กับอ๋องเจวี้ยน จะใช้ชีวิตได้น่าเวทนาเสียอีกนางก็เป็นแค่คนไม่ได้เรื่องที่มีดีแค่สวย ก่อนหน้านี้ตอนที่เอาแต่มาไล่ตามเขา เขากระทั่งรู้สึกขายหน้าเสียด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรนางวันวันก็เอาแต่ใส่เสื้อเก่าๆ ที่ไม่เข้ากับตนเอง หน้าตาขมุกขมอม ทำเอาคนไม่คิดจะไปสนใจหน้าตาของนางเขายังเคยพรรณนาตัวนางกับเพื่อนของเขา บอกว่าฟู่จาวหนิงก็เป็นแค่ไก่ภูเขาตัวหนึ่งผลคือ