ควันพิษพร่ามัว ที่นี่วุ่นวายขึ้นมาทันที และเพียงไม่นาน เสียงเหล่านั้นก็ค่อยๆ เงียบลง ยังเห็นว่าคนเหล่านั้นทยอยกันล้มตุบลงไปบนพื้นองครักษ์ลับที่ซุ่มอยู่พอเห็นสถานการณ์ ก็รู้สึกว่าโอกาสมาถึงแล้ว ร้องขึ้นทันที "บุก"พวกเขาล้วนลุกขึ้นพุ่งไปที่หาดริมน้ำครั้งนี้เป้าหมายของพวกเขาคือสิ่งของเหล่านั้น ก็คือจะเอารถม้าไปให้หมด ดังนั้นพวกธนูพิษอะไรพวกนั้นจึงเลี่ยงออกจากรถกับม้าพวกขเาเองก็คลุมหน้าคลุมตา เพื่อเลี่ยงการสูดควันพิษยิ่งไปกว่านั้นยังรอให้ควันพิษสลายไปบ้างจึงพุ่งเข้าไปหลังจากเข้าไปแล้วก็เห็นว่าองครักษ์จวนอ๋องล้วนล้มระเนระนาดอยู่บนหาดริมน้ำ พวกเขาก็ลิงโลดขึ้นทันที"ควบม้า ดึงม้า รีบออกเดินทาง"หัวโจกองครักษ์ลับที่เพิ่งจะส่งคำสั่งออกไป จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสิ่งของอะไรบางอย่างลอยฟิ้วลงมา เป็นเสียงที่คล้ายกับควันพิษที่พวกเขาเพิ่งโยนลงมาเมื่อครู่มากเขาสัมผัสได้ว่าไม่ถูกต้องแล้ว จึงหันหน้ามองไปบนเนิน พอเงยตาขึ้นไปก็เห็นว่ากลางอากาศมีสิ่งของที่ดูคล้ายก้อนหญ้าที่ควันกำลังลุกขโมงหลายก้อนถูกโยนลงมา"ควันพิษ กลั้นหายใจ!"หัวโจกตกตะลึง ร้องขึ้นมาทันทีพวกเขาติดกับหรือ!แต่ว่าตำแหน่งเมื
"พระชายา หญ้าควันพิษพวกนี้ร้ายกาจจริงๆ คนพวกนี้ขนาดพันหน้าพันตา ก็ยังล้มลงในชั่วพริบตาเลย"ชิงอีเข้ามาพูดกับฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงเหลือบมองผ้าผันหน้าขององครักษ์ลับผาดหนึ่ง "ของพวกนี้กันควันพิษไม่อยู่หรอก ที่สูดได้ไปก็คงเข้าไปหมด พวกเจ้าหลังจากเก็บกวาดเสร็จก็มาให้ข้าดูหน่อยนะ ป้องกันไว้ก่อน"ดูว่าพวกเขาติดพิษจนบาดเจ็บบ้างหรือไม่ลูกกลอนแก้พิษเองก้ไม่ใช่จะรับประกันผลลัพธ์ได้ร้อยทั้งร้อย"ขอบคุณพระชายา"หลังจากจัดการคนเหล่านี้ทั้งหมด ฟู่จาวหนิงก็จับชีพจรให้กับพวกเขาเซียวหลันยวนกลับสั่งพวกเขาจัดการซ่อมแซมสะพานหินที่ขาดนี้ใหม่อีกครั้งฟู่จาวหนิงหลังจากตรวจอาการคนทั้งหมดแล้วก็คอยมองพวกเขาทำงานอยู่ข้างๆเซียวหลันยวนถึงแม้ตนเองจะไม่ได้ลงมือ แต่เขาก็ยังตรวจสอบพวกตอหินท่อนหินที่ล้มระเกะระกะ มองร่องรอยด้านบนที่ยังเหลืออยู่ แล้วทำสัญลักษณ์ว่าพวกมันต้องไปเสียบเข้ากับตำแหน่งไหนก่อน จากนั้นจึงสั่งให้พวกเขาวางสะพาน"แผ่นหินก้อนนี้น่าจะหักไปแล้ว ไปหาแผ่นอื่นมาแทนที่ แล้วก็ด้านใต้ตำแหน่งเดิมที่วางตอหินก็หลวมไปแล้ว ลงไปที่แม่น้ำแล้วไปทำพื้นให้เรียบ ย้ายตำแหน่งมันเสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่บน
ตอนที่เข้าใกล้เมืองหลวง คนรอบๆ ก็เพิ่มมากขึ้น แล้วยังมีบางส่วนที่เข้ามาสำรวจ รู้ว่าคงปิดบังอ๋องเจวี้ยนไม่ได้ จึงไม่มีปิดบังอำพรางแต่อย่างใดกระทั่งมีบางส่วนกล้าเข้ามาทักทายอีกด้วย"อ๋องเจวี้ยนไปที่ไหนมาหรือจึงเพิ่งกลับเมืองหลวง? ออกจากเมืองหลวงไปเป็นเดือนเลย"เซียวหลันยวนได้ยินคำทักทายที่ด้านในรถม้า แต่ก็นิ่งงันไม่ส่งเสียง"ใครน่ะ?" ฟู่จาวหนิงถามเขาเสียงต่ำ"ฟังจากเสียง คงเป็นลูกชายคนโตของบ้านหวางเก๋อเหล่า" เซียวหลันยวนเอ่ยตอบเสียงต่ำฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำว่าหวางเก๋อเหล่า ในความทรงจำจู่ๆ ก็มีเรื่องหนึ่งแล่นออกมาหวางเก๋อเหล่าเป็นตาแก่ตัณหากลับคนหนึ่งนี่นายิ่งไปกว่านั้นเจ้าของร่างเดิมยังเคยเจอด้วย คุณหนูฟู่ตอนนั้นได้ยินว่าเซียวเหยียนจิ่งไปที่วัดบนเขาแห่งหนึ่ง จึงคิดจะตามไป แล้วยังคิดว่าที่วัดนั่นเผาธูปได้แม่นยำอีกด้วย จึงหวังว่าพระพุทธเจ้าจะช่วยปกป้องท่านปู่ให้หายวันหายคืนแต่ว่านางก็ถูกพวกคุณชายที่ตามเซียวเหยียนจิ่งไปพวกนั้นหลอกเอา พอไปได้ครึ่งทางเจอกับคนหลายคนนางจึงถามดู พอรู้ว่าถูกหลอกก็เตรียมจะหมุนตัวกลับตอนนั้นฝนก็ตกลงมาด้านหลังมีรถม้าขับเข้ามา คนบนรถม้าบอกให้นางติดรถไ
"เจ้าพูดไร้สาระ! ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้นเสียหน่อย!"หวางต้าหลางพอได้ยินคำพูดฟู่จาวหนิงก็โมโหร้อนรนขึ้นมาแม้เขาที่เข้ามาสืบหาที่พักของอ๋องเจวี้ยนก็ดูจะมีเจตนาไม่ดีอยู่บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ว่าการเดินทางของอ๋องเจวี้ยนครั้งนี้น่าจะทำให้องค์จักรพรรดิระแวงมากขึ้นไปแล้วพ่อของเขาก็เคยวิเคราะห์ที่บ้านมาแล้ว บอกว่าองค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้พยายามจะรักษาความสัมพันธ์พี่น้องกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ จึงแสดงออกถึงความใจกว้างและใจดีของเขา แต่หลังจากอ๋องเจวี้ยนเดินทางครั้งนี้ก็น่าจะรักษาไว้ไม่อยู่แล้วองค์จักรพรรดิเองก็อยากรู้ว่าไท่ซ่างหวงทิ้งอะไรไว้ให้กับอ๋องเจวี้ยน และก็อยากรู้มากว่าอ๋องเจวี้ยนไปที่ไหนมากันแน่ใครที่สืบเรื่องนี้ออกมาได้ กระทั่งเป็นการสร้างปัญหาให้กับอ๋องเจวี้ยน ก็ถือว่าเป็น "ขุนนางภักดี" ต่อองค์จักรพรรดิแล้วถึงอย่างไรก็ต้องทำให้องค์จักรพรรดิเบิกบานได้แน่นอนแล้วไม่ใช่หรือ หวางต้าหลางพอเห็นรถม้าของอ๋องเจวี้ยนจึงพุ่งเข้ามาทันทีแต่ตอนนี้เขาก็ถามอะไรออกมาไม่ได้เลย กระทั่งเสียงของอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่ได้ยิน เขาก็ถูกฟู่จาวหนิงหยามหมิ่นเสียแล้ว"เจ้าไม่ได้พูดหรอก แต่ท่าทีของเจ้ามันเป็นเ
ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา "มองความแตกต่างออกหรือยัง? ที่พวกเราตีเจ้า กับที่เจ้าล้มลงไปเอง ว่ามีตรงไหนที่ไม่เหมือนกัน?"คนในเพิงน้ำชาข้างๆ ก็หัวเราะขึ้นมาพวกเขาเห็นตั้งแต่ต้นจนจบ เดิมทีก็มีคนที่อยากจะทำอะไรโง่ๆ อย่างการเข้าไปพูดคุยกับอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน แต่พอเห็นจุดลงเอยเช่นนี้ของหวางต้าหลาง พวกเขาก็หดคอกลับไปดูแล้วนี่แค่พระชายาอ๋องเจวี้ยนคนเดียวก็ยังไม่น่าเข้าไปหาเรื่องด้วยอ๋องเจวี้ยนยังไม่ส่งเสียงด้วยซ้ำ"ข้าเองก็เพิ่งจะเคยเห็นคนที่เข้ามาขอให้เอาหินซัดไปที่ขาด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกเหมือนกัน" ในรถม้ามีเสียงหัวเราะของฟู่จาวหนิงลอดออกมา "ไป๋หู่ พวกเราใจกว้างพอ คนเขาขอมารอบหนึ่ง พวกเราจัดให้สักสองรอบได้""ขอรับ"หวางต้าหลางรีบปีนตัวขึ้นมา ลนลานขึ้นแล้ว "ข้าจะไปขอความเป็นธรรมจากองค์จักรพรรดิ พวกเจ้าจะใช้ตัวตนฐานะของราชวงศ์มารังแกข้าไม่ได้! อ๊า!"เพิ่งพูดจบ ไป๋หู่ก็ซัดหินอีกก้อนออกมา เขาล้มลงไปบนพื้นหนักๆ อีกครั้ง ครั้งนี้กระแทกจนฟันหน้าหลวมหน่อยๆ แล้ว เจ็บจนเขาหน้ามืดคนใช้บ้านตระกูลหวางรีบวิ่งเข้ามา ประคองตัวเขาขึ้น"ไป พวกเราไป" หวางต้าหลางรีบคว้ามือคนช้า ให้พวกเขาประคองตนเอ
รถม้าของจวนอ๋องเจวี้ยนเดินหน้าต่อเข้าไปในเมืองหลวงผ่านถนนยาวอย่างเอิกเกริก ควบตรงไปยังจวนอ๋องเจวี้ยนอ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงแล้ว!ข่าวนี้เพียงไม่นานก็ลือไปทั่วทั้งเมืองในวังหลวง องค์จักรพรรดิไม่ได้ลับการตอบกลับจากองครักษ์ลับมาโดยตลอด พอได้ยินว่าอ๋องเจวี้ยนเดินทางกลับมาจวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว ก็โมโหจนแทบลมจับเขาส่งคนไล่ไปตามทางเพื่อออกหาองครักษ์ลับเหล่านั้นทันที ผลคือวันที่สองจึงพบพวกเขาบนหาดริมน้ำข้างทางคนเหล่านี้บางคนก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ก็จับไข้ตัวร้อน มึนๆ งงๆ แค่แรงจะแก้มัดก็ยังไม่มีเป็นถึงองครักษ์ลับของจักรพรรดิ นอนอยู่ที่หาดริมน้ำเหมือนคนพิการถึงสองวันเต็ม! เกือบจะสามวัน!ถ้าไม่ใช่ข้างทางมีแม้น้ำ พวกเขายังพอคลานไปกินน้ำกันได้ ไม่เช่นนั้นคงกระหายน้ำตายกันหมดแล้วข่าวนี้ส่งมาถึงในหูองค์จักรพรรดิ ภาพตรงหน้าเขากลับไปหมด เซนั่งลงบนเก้าอี้ ริมฝีปากสั่นระริก ไม่พูดไม่จาไปครึ่งวันองครักษ์ลับเหล่านั้นแม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่ปราณชี่ก็บาดเจ็บหนัก ยังไม่รู้ว่าต้องพักฟื้นนานเท่าไรจะจึงกลับมาใช้ได้อีกหรือก็คือในช่วงนี้เขาขาดลูกมืออย่างจริงจังแล้วเว้นเสียแต่เขาจะส่งราชองครักษ์ออ
"องค์จักรพรรดิ แคว้นหนานฉือกู่ครั้งนี้บอกว่าส่งองค์หญิงเข้ามาอภิเษกเพื่อสันติ ส่วนเป้าหมายนั้น น่าจะรอให้องค์หญิงมาถึงเมืองหลวงก่อนแล้วค่อยเอ่ยกับองค์จักรพรรดิด้วยตนเอง""องค์หญิง?"องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว "องค์หญิงของสถานที่นั่น คงไม่ได้หน้าตาน่าเกลียดหรอกกระมัง?"ก่อนหน้านี้องค์จักรพรรดิเคยเห็นภาพของแคว้นหนานฉือกู่จากไท่ซ่างหวงมาแล้ว คนหนานฉือบนภาพล้วนหน้าตากน่าเกลียดหยาบกร้านดังนั้นตั้งแต่ตอนนั้น เขาจึงมีภาพจำเช่นนี้มาโดยตลอด รู้สึกว่าคนหนานฉือล้วนน่าเกลียดกันหมดสิบปีก่อนพวกเขาเคยเอ่ยถึงเรื่องการอภิเษกเพื่อสันติไปแล้ว พอเขาได้ยินก็สั่นเทา ปฏิเสธไปทันที ตอนนี้คนจากหนานฉือมาอีกแล้วหรือ?"องค์จักรพรรดิ" กงกงเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "นี่อาจจะเป็นโอกาสก็ได้ ถ้าหากองค์หญิงต้องตาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาเล่า?"ได้ยินว่าอ๋องเจวี้ยนดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงในวัยหนุ่มมาก สมัยก่อนคนของแคว้นหนานฉือก็เคยชมเคยหน้าตาของไท่ซ่างหวง แล้วองค์หญิงอะไรนั่นครั้งนี้ จะต้องตามกับอ๋องเจวี้ยนขึ้นมาหรือเปล่า?ดวงตาองค์จักรพรรดิเป็นประกาย"คนของหนานฉือทั้งป่าเถื่อนและดื้อรั้น ถ้าหากองค์หญิงคนนั้นต้องตาอ๋องเจวี้ยน จะต้องยื
ผู้เฒ่าฟู่พอเห็นฟู่จาวหนิงปลอดภัยกลับมา ก็ผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงสองสาวใช้นั้นชอบหลอกข้า บอกว่าพวกเจ้าจะคอยส่งจดหมายกลับมา พูดเอาไว้เสียดิบดี ตอนแรกเองข้าก็เชื่อไปแล้วด้วย"ผู้เฒ่าฟู่เอ่ยกับฟู่จาวหนิง และเพราะคิดว่าเป็นจริง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลร้อนใจนัก เพราะสองสามวันก็จะส่งจดหมายกลับมาที พูดเอาไว้ดิบดีแล้ว จึงไม่มีเรื่องอะไรแต่เมื่อวานตอนค่ำๆ หลังจากเขากินข้าวเสร็จแล้วถูกเสี่ยวเฟยประคองออกไปเดินย่อยในลานบ้าน แล้วไปได้ยินพวกผู้ดูแลกำลังคุยกัน พูดดูแลนั่นถอนใจโล่งออกมาเฮือกใหญ่ผู้ดูแลบอกว่า ดีเหลือเกิน ท่านอ๋องกับพระชายาในที่สุดก็กลับมาแล้ว หายไปไม่มีข่าวตั้งนมนาน ทำเอาพวกเรากังวลกันไปหมด คนใช้ทั้งจวนอ๋องล้วนกลุ้มกันเหมือนผ่านไปแรมปีตอนนั้นผู้เฒ่าฟู่จึงเพิ่งรู้ ว่าที่แท้เฝิ่นซิงกับหงจั๋วพวกนางมาหลอกเขา"เมื่อวานเพิ่งจะรู้ว่ามาหลอกข้า" ผู้เฒ่าฟู่ตำหนิขึ้นมา ถลึงตามองหงจั๋วกับเฝิ่นซิงสองสาวใช้คารวะให้เขา จากนั้นก็คารวะกับฟู่จาวหนิง"ท่านผู้เฒ่าโปรดให้อภัยด้วย พระชายาโปรดให้อภัยด้วย"ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ โบกไม้โบกมือให้พวกนาง จากนั้นก็ประคองท่านผู้เฒ่า "ท่านปู