อันชิงเชื่อมั่นในตัวฟู่จาวหนิง ไม่ใช่แค่เชื่อมั่นในการเป็นคนของนาง แต่ยังเชื่อมั่นในวิชาแพทย์นาง และยังเชื่อในสายตาของนางด้วยดังนั้นเรื่องนี้นางจึงนึกไว้หลายวันแล้ว ฟู่จาวหนิงก็กลับมาเมืองหลวงพอดี นางดีใจมาก ทันเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นนางก็คงอยากจะจะประวิงเวลาการพบหน้ากับคุณชายติงคนนี้ต่อไปเป็นแน่"ตอนไหนล่ะ?""พรุ่งนี้ตอนเที่ยง พี่ชายบอกว่าคุณชายติงจะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารชิงเว่ย ถึงตอนนั้นให้ข้าเองก็ไปด้วย ที่นั่นมีห้องรับรองที่มีฉากบังลมกั้นเอาไว้ให้"อันเหนียนเองก็รักน้องสาวคนนี้มาก ไม่อยากให้นางต้องแต่งงานโดยไม่รู้อะไรของอีกฝ่ายเลย อยากให้นางไปเห็นด้วยตนเอง ชอบไม่ชอบแล้วค่อยว่ากันฟู่จาวหนิงมองนางแล้วยิ้มขึ้น "สกุลติงหรือ?""ใช่ ฐานะบ้านของเขาก็ถือว่าดีอยู่ แต่ในบ้านไม่มีคนเป็นข้าราชการ เปิดร้านอยู่หลาย ร้านที่ใหญ่ที่สุดเป็นร้านหนังสือ พี่ชายบอกว่าคุณชายติงเขียนหนังสือละครแล้ววางขาย ได้รับความนิยมในหมู่ปัญญาชนในเมืองหลวงด้วย""พี่ชายบอกว่า พวกเราจะไม่ร้องขอให้อีกฝ่ายต้องเป็นข้าราชการ ยังต้องดูที่บุคลิกประจำตัวเขาอีก"คำพูดเหล่านี้อันชิงไม่ได้พูดกับใครเลย พอเจอฟู่จาวหนิงก
ฟู่จาวหนิงหยิบขนมที่ซื้อมาจากเมืองชิงเหยาส่งให้กับนางหลังจากอันชิงออกไป นางเดิมทียังคิดว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเซียวหลันยวนเสียหน่อย แต่ก็ไม่มีความคิดนั้นแล้ว จึงกลับไปยังเรือนเจียนเจีย เข้าไปสกัดยาต่อในห้องเภสัชเซียวหลันยวนหลังจากกลับมาก็นอนถึงสองวันเต็มร่างกายของเขาไม่ไหวแล้วจริงๆ ตลอดทางแม้จะมียาของฟู่จาวหนิงอยู่ แต่พอกลับถึงจวนอ๋อง ฉับพลันก็สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าในส่วนลึกรู้ว่าในวังถัดจากนี้จะต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เขาก็เลยนอนไถึงสองวันเต็ม พักผ่อนให้ดี สะสมพลังจนเต็มเปี่ยมเพียงแต่พอได้ยินรายงานจากชิงอี บอกว่าอันชิงตอนบ่ายมาหาฟู่จาวหนิง แล้วยังนำจดหมายที่อันเหนียนเขียนมาให้ด้วย เซียวหลันยวนจึงนอนต่อไม่ได้แล้ว"อันเหนียนเขียนจดหมายให้ข้าไหม"ชิงอีส่ายหัว "ไม่มีขอรับ ผู้ตรวจการอันเพียงแค่ให้นางมาส่ง บอกเรื่องที่เขาได้รับคำสั่งให้ติดตามหวางต้าหลางไปต้อนรับองค์หญิงหนานฉือ"แค่ประโยคเดียว"เขาเขียนให้ข้าแค่ประโยคเดียว แต่กลับเขียนจดหมายให้ฟู่จาวหนิงอีกหรือ?"เซียวหลันยวนหน้าดำทมึน"ท่านอ๋อง ไม่เช่นนั้นลองไปถามพระชายาดู ว่าผู้ตรวจการอันเขียนอะไรมาให้ดีไหม?" ชิง
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋อง จะต้องปิดบังเซียวหลันยวนไว้ไมไ่ด้นางเดิมทีก็คิดจะบอกเรื่องนี้กับเขา"ถูกต้อง"นางยื่นจดหมายส่งให้เขาดูส่วนชีพจรเขา ก็ดูอ่อนแอลงไปพอควร เลือดลมย่ำแย่ทั้งคู่ แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ดีมาตลอดอยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ถือว่าเลวร้ายลงเซียวหลันยวนรับจดหมายไปมองผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปต้าชื่อหรือ?""ใช่ ควรจะไปเสียรอบหนึ่ง"เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว"ตอนไหนล่ะ?""อีกสองสามวันกระมัง จัดการแก้พิษให้ท่านก่อน อย่างน้อยต้องรอให้ท่านอาบน้ำยาสักสองสามวันก่อน ส่วนพิษที่เหลืออยู่ ต้องไปหาเอ็นมังกรหยกต่อ"เซียวหลันยวนได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็หวานชื่นอย่างประหลาดในใจนางเขายังอยู่อันดับแรกอยู่ใช่ไหม? แม้กระทั่งออกไปก็ยังจะเพื่อไปหายาให้เขา"ข้าจะไปกับเจ้าด้วย""ไม่ได้" ฟู่จาวหนิงปฏิเสธขึ้นอย่างไม่คิด"เจ้าไปคนเดียวข้าไม่วางใจ"นี่ไปไกลถึงต้าชื่อเลยนะ มีเรื่องอะไรขึ้นมาจะตามไปไม่ทัน ยิ่งกว่านั้นห่างกันตั้งนานขนาดนี้ แค่คิด เซียวหลันยวนก็รู้สึกใจร้อนรนขึ้นเสียแล้ว"หลังจากท่านเริ่มอาบยาจะหยุดกลางคันไม่ได้ ทุกวันต้องอาบยาำนี้ แต่บ้านตระกูลเสิ่นทางนั้นต้องการให
ทำท่าเหมือนไม่เชื่อใจนางขึ้นมาอีกแล้ว?เซียวหลันยวนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะมีช่วงที่สับสนเช่นนี้"ท่านเหนื่อยมากในเส้นทางนี้ แล้วก่อนหน้าก็ยังบาดเจ็บหนักอีก ส่งผลกระทบไปถึงรากฐาน คืนนี้เริ่มอาบน้ำยาเลยเถอะ ตอนค่ำก็กินน้อยหน่อย เอาแค่ครึ่งอิ่มก็พอ""ได้""ถ้านอนหลับได้ก็นอนให้มากหน่อย ไม่ใช่สิ่งที่ผิด""ได้"นางพูดอะไร เขาก็ขานรับว่าได้หมด ท่าท่าว่าง่ายเชื่อฟังจนทำเอาฟู่จาวหนิงโกรธต่อไม่ได้เลย"เช่นนั้น ท่านก็พักผ่อนอีกหน่อยเถอะ ข้าจะไปจัดการยาให้" นางยืนขึ้นมาเตรียมตัวจะออกไปเซียวหลันยวนเองก็ยังทนไม่ไหวอยู่ดี "แม่นางอันเองก็มาหาเจ้าหรือ?""โอ้ ใช่ นางมีเรื่องให้ข้าช่วย พรุ่งนี้ตอนกลางวันข้าต้องออกไปรอบหนึ่ง""แม่นางอันต้องการให้เจ้าช่วยหรือ?""ใช่แล้ว" จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร?ฟู่จาวหนิงคิดออกแล้ว เขาน่าจะรู้เรื่องที่องค์หญิงหนานฉือมาที่แคว้นเจากระมัง? แต่ว่าเขาเองก็ยังไม่ได้เตรียมจะบอกนางกระมังเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของเมืองหลวงแคว้นเจาเลย แต่เขาไม่คิดจะเอามาพูดดีดีกับนางหน่อยหรือ? รู้สึกว่านางไม่มีความจำเป็นต้องรู้เรื่องเหล่านี้หรือ?"อันเหนียนตอนนี้ออกจากเม
"ข้าแค่หมายถ้าสมมติว่า"ฟู่จาวหนิงเกือบถูกเสียงนั้นของเขาทำให้ไปต่อไม่ได้เสียแล้ว"เรื่องที่ไม่มีวี่แววแบบนี้จะสมมติมาทำไมกัน?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขาฟู่จาวหนิงชะงักจะว่าไปก็จริงถ้ายังไล่ตามต่อไปก็จะหมายถึงนางปล่อยวางไม่ลงเรื่องราวยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ"องค์จักรพรรดิตอนนี้ยังไม่ได้เรียกท่านเข้าวัง เขาจะต้องรู้เรื่องที่องครักษ์ลับเหล่านั้นหลับไปสองวันที่หาดริมน้ำแล้ว ถ้าในใจท่านคิดไว้แล้วก็ดี ข้าจะไปเตรียมยาก่อนนะ"ฟู่จาวหนิงเตรียมจะเดินออกไปอีก"แม่นางอัน" ส่งจดหมายอะไรของพี่ชายมาให้หรือ?"อะไรหรือ?""ไม่มีอะไร พรุ่งนี้เจ้าไปก็พาคนไปด้วยล่ะ""ได้"พอเห็นฟู่จาวหนิงออกไป ประตูก็ถูกปิดลง เซียวหลันยวนถอนหายใจฮู่ รู้สึกว่าในใจเปรี้ยวฝาดชิงอีเดินเข้ามาแล้วเขาเพิ่งจะได้ยินบทสนทนาของท่านอ๋องกับพระชายา ตอนนี้พอเห็นท่าทางท่านอ๋องดูกลัดกลุ้ม ก็อดถามขึ้นไม่ได้ "ท่านอ๋อง ท่านไม่ใช่อยากถามพระชายาหรือ บนจดหมายของผู้ตรวจการอันเขียนอะไรไว้?"แล้วทำไมไม่ถามออกไปตรงๆ ล่ะ? ทำเอาเขาร้อนรนจะแย่แล้วเซียวหลันยวนเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "เจ้าจะไปรู้อะไร?"เขาไม่รู้หรอก ท่านอ๋องไม่ใช่ว่ากำ
ถ้าใบหน้าของท่านอ๋องไม่ดีขึ้นมา ไม่ใช่ว่าทั้งชีวิตคงไม่ได้พบปะผู้คนอีกหรือ? วันคืนเช่นนั้นคงจะยากลำบากเอามากๆอันที่จริง องค์จักรพรรดิถ้ามองเห็นใบหน้าของท่านอ๋อง ก็น่าจะวางใจกับตัวเขาได้แล้ว คนที่ใบหน้าพิกลพิการเป็นจักรพรรดิไม่ได้หรอก เช่นนี้ก็อธิบายได้ว่าท่านอ๋องไม่ใส่ใจกับตำแหน่งนั้นแล้วแต่ว่าพอเขากลับมาคิดก็ยังรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถึงตอนนั้นองค์จักรพรรดิอาจจะใช้เหตุผลนี้ ทำให้เขาส่งของในมือทั้งหมดออกไปก็ได้ถึงอย่างไรถ้าแค่ไม่เชื่อใจไม่ชอบ ถ้าไม่เอาของทั้งหมดกลับไปก็คงวางใจลงมาไม่ได้ฟู่จาวหนิงเตรียมกลับเรือนเจียนเจีย ระหว่างทางก้ถูกคนสองคนขวางเอาไว้"พระชายา"ฟู่จาวหนิงยืนนิ่ง มองสองคนนี้อยู่พักหนึ่งจึงจำพวกนางได้นี่เกือบจะมองไม่ออกเสียแล้วไป๋ซวงกับจินเสวี่ยนั่นเองตอนที่เพิ่งเจอกับสองสาวใช้นี้ เสื้อผ้าดูหรูหรา หน้าตางามสง่า ผิวละเอียดละเมียดละไม ดูเหมือนเป็นคุณหนูจากครอบครัวคนชั้นสูงอย่างไรอย่างนั้นแล้วตอนนั้นสีหน้าพวกนางก็หยิ่งทะนง สายตาที่มองมาก็สูงส่งเหลือประมาณ ถ้าไม่รู้ยังคิดว่าพวกนางเป็นคุณหนูชั้นสูงไปเสียแล้วแต่ตอนนี้ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยดูสวมชุดสาวใช้เรียบง่ายข
ฟู่จาวหนิงให้คนส่งข้อความถึงเซียวหลันยวน บอกถึงความต้องการของจินเสวี่ยและไป๋ซวงนางอย่างไรก็ได้ไม่นานนัก เซียวหลันยวนก็ให้ชิงอีกมาอธิบายกับนายโดยเฉพาะ"พระชายา ท่านอ๋องรับปากว่าจะส่งจินเสวี่ยกับไป๋ซวงไปยังยอดเขาโยวชิงแล้ว"ชิงอีอธิบายว่า "อันที่จริงสาวใช้สองคนนี้ก็ไม่ชอบยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด เพราะที่นั่นมันวิเวกวังเวงและน่าเบื่อ พวกนางอยู่ที่นั่นก็วนไปวนมาอยู่กับท่านอ๋อง ดังนั้นพวกนางต่อให้กลับไปที่ยอดเขาโยวชิงก็คงไม่มีความสุขนัก สำหรับพวกนางก็น่าอึดอัดเช่นกัน""แต่พวกนางอยากจะไปกันเอง"ชิงอีชะงักไป "พวกนางอาจจะเห็นว่าครั้งนี้ท่านอ๋องพาท่านออกไปเป็นเวลานาน คงมองออกแล้ว ว่าข้างกายท่านอ๋องคงไม่จำเป็นต้องมีพวกนางอีกแล้ว"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาพูดก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว"เซียวหลันยวนในเมื่อรับปากแล้ว ก็ว่าไปตามนั้นนั่นล่ะ""พระชายาถ้ารุ้สึกว่าสาวใช้ในจวนไม่เพียงพอ ก็สามารถเพิ่มคนได้""ไม่ต้อง ข้าไม่เอา"ฟู่จาวหนิงส่ายหน้ารอจนชิงอีออกไป หงจั๋วจึงเอ่ยกับฟู่จาวหนิงว่า "พระชายา ไป๋ซวงกับจินเสวี่ยแบบนี้คงจะปล่อยวางแล้วจริงๆ""พวกนางอยู่ในจวนอ๋องคงลำบากยิ่งกว่า" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้นมาเช่นกั
นางได้ยินเสียงปลดผ้าด้านหลัง ใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวเล็กน้อยใจก็เต้นเร็วขึ้นแต่ว่าฟู่จาวหนิงก็บอกตนเองหลายรอบ ว่านางมาแก้พิษให้เขา จะว่อกแว่กไม่ได้ นางเป็นหมอ เขาเป็นผู้ป่วย นี่ไม่ใช่เรื่องปกติหรอกหรือ"เสร็จแล้ว"เซียวหลันยวนแช่ตัวลงไปในน้ำยา รู้ว่าฟู่จาวหนิงเองก็พูดถูกต้อง น้ำยาเป็นสีดำ มองภาพในน้ำได้ไม่ชัด เขาโผล่ออกมาแค่ช่วงไหล่แต่จะมากน้อยก็ยังตึงเครียดอยู่บ้างเพียงแต่เขาก็รู้ทันที ว่าภาพฝันอะไรนั่นมันไม่มีอยู่เลยน้ำยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว รูปขุมขนทั้งตัวของเขาล้วนถูกเปิดออก จากนั้นในน้ำก้เหมือนมีเข็มนับพันนับหมื่นเล่มแทงเข้าไปในทุกส่วนของร่างกายเขา ความเจ็บยุบยิบล้อมตัวเขาเข้ามาในพริบตา"เฮ่อ"เซียวหลันยวนร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ จากนั้นจึงกัดฟันไว้ฟู่จาวหนิงหมุนตัวกลับมา เดินมาอยู่ข้างหลังเขา"รู้สึกเจ็บมากใช่ไหม? นี่เป็นเรื่องปกติ ทนเอาหน่อยนะ" นางเห็นหน้าผากเขามีเหงื่อซึม จึงหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดให้เขา"รอจนท่านรู้สึกว่ารับไหวกับความเจ็บปวดนี้แล้วก็บอกข้า ตอนนั้นข้าจะฝังเข็มให้ ผลลัพธ์จะดีมากที่สุด"ตอนนี้เซียวหลันยวนเจ็บปวดจนพูดไม่ออก ทำได้แค่พยักหน้าเขาพยายามจะอดท