Share

บทที่ 12

หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ หลินหยางกับมู่หรงยิ่นมากินข้าวที่ร้านอาหารชั้นบนสุดของศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง

“คุณรู้ไหมว่าร้านอาหารร้านนี้เป็นของใคร?”

หลังจากนั่งในห้องส่วนตัว มู่หรงยิ่นก็เอ่ยถามขึ้น

“แน่นอนสิครับ ถึงอย่างไรเมื่อก่อนผมเป็นทายาทเศรษฐี เคยมากินข้าวที่นี่เหมือนกันนะรู้ไหม?”

หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

เถ้าแก่ของร้านอาหารร้านนี้คือลั่วหงอวี๋หนึ่งในสี่มหาปรมาจารย์แห่งเมืองลั่ว

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็เคยเจอลั่วหงอวี๋ตัวจริงไหม?”

หลินหยางส่ายหน้าพร้อมกล่าว “ว่ากันว่าปรมาจารย์ลั่วเป็นคนที่ประวัติความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดในบรรดาสี่มหาปรมาจารย์ แล้วก็เป็นคนที่เก็บตัวที่สุด น้อยคนมากที่จะเคยเจอตัวจริงของเธอ”

“มหาปรมาจารย์อีกสามคนถ้าไม่ก่อตั้งธุรกิจของตัวเอง เปิดสำนักรับลูกศิษย์ ก็เป็นข้าราชการ ที่ตำแหน่งสูงมาก มีแค่เธอ คาดไม่ถึงว่าจะเปิดร้านอาหาร ค้นคว้าวิจัยอาหารเลิศรส ที่จริงก็แปลกแหวกแนวอยู่หน่อย ๆ”

มู่หรงยิ่นกล่าวถามต่อ “แล้วคุณคิดว่าลั่วหงอวี๋อายุเท่าไหร่คะ?”

“ได้ยินชื่อ เหมือนกับว่าจะอายุไล่เลี่ยกับคุณและผม แต่ในเมื่อเขามีประวัติเก่าแก่ที่สุด คิดว่าจะต้องอายุประมาณห้าหกสิบปีแล้วละมั้ง?”

หลินหยางกล่าวอย่างวิเคราะห์

“ถ้าอย่างนั้นคุณผิดแล้ว ฉันโชคดีเคยเจอเธอครั้งหนึ่ง ดูเหมือนเธอจะอายุยี่สิบกว่า ๆได้นะ”

มู่หรงยิ่นกล่าวเสียงเบา

“เป็นไปไม่ได้มั้งครับ? ยุทธภพลือกันว่า มหาปรมาจารย์ล้วนเป็นคนเฒ่าคนแก่ทั้งนั้นไม่ใช่หรือครับ?”

หลินหยางไม่เชื่อ เขาอายุแค่นี้ได้เป็นปรมาจารย์ ทั้งหมดเป็นเพราะดวงดีได้กินยาลูกกลอนฮุ่นหยวนเบิกฟ้า ยากมากที่คนธรรมดาอายุยี่สิบกว่า ๆจะฝึกฝนจนได้เป็นปรมาจารย์

“คุณก็พูดอยู่ไม่ใช่หรือคะ? ว่านั่นเป็นเพียงข่าวลือ ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้! คนมากมายไม่เคยเจอเธอ อาศัยความรู้สึกในการคาดคะเน แล้วก็ลั่วหงอวี๋หน้าตาสะสวยมากเลยนะคะ”

มู่หรงยิ่นกล่าวอย่างติดตลก

หลินหยางยังคงกล่าวอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “สวยขนาดไหน? สวยกว่ามากกว่าคุณอีกหรือ?”

“ถ้าคุณถามแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็คิดว่าฉันสวยกว่าอยู่แล้ว ฉันน่ะ เป็นสาวสวยอันดับหนึ่งในใต้หล้าเลยนะ”

มู่หรงยิ่นยืดอกขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทางภาคภูมิใจ

“ผมเห็นด้วย”

หลินหยางกล่าวคล้อยตาม

แต่มู่หรงยิ่นกลับเขยิบเข้ามาใกล้ กะพริบตาปริบ ๆพร้อมกล่าวถาม “คุณหมายความว่า ฉันสวยกว่าฉินโม่หนงแม่บุญธรรมของคุณหรือคะ?”

“เอ่อ...คือ...”

หลินหยางพูดไม่ออกทันที รู้สึกเขินอาย!

“เธอเป็นศัตรูของคุณไม่ใช่หรือคะ?” มู่หรงยิ่นแสร้งกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ศัตรูก็ส่วนศัตรู มันไม่เกี่ยวกับความสวยนี่นา”

หลินหยางเหงื่อแตกพลั่ก ฉินโม่หนงกับมู่หรงยิ่นราวกับจิวยี่กับขงเบ้ง ยากจะบอกว่าอะไรดีกว่ากัน

แต่เป็นเพราะฉินโม่หนงอายุมากกว่ามู่หรงยิ่นอยู่หน่อย กลับทำให้อารมณ์และเสน่ห์ของเธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ทำให้ยิ่งน่าดึงดูดมากกว่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยโกหก ช่วยปลอบให้ดีใจหน่อยไม่ได้หรือคะ?”

มู่หรงยิ่นเบะปาก แสร้งทำเป็นโกรธ

“เอ่อ...คือ...ก็ได้ครับ...” หลินหยางกล่าวอย่างลังเล

“ช่างเถอะค่ะ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด”

มู่หรงยิ่นเบือนหน้าหนี แต่ก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว กล่าวถาม “พวกผู้ชายชอบผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่อย่างฉินโม่หนงมากกว่าใช่ไหมคะ?”

“ซี้ด...เอ่อ...คือ...”

หลินหยางเขินอายอีกครั้ง

“พวกเราสั่งอาหารก่อนดีกว่า ผมรู้สึกหิวนิด ๆแล้ว”

หลินหยางรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะบทสนทนานี้ใกล้จะดำเนินต่อไปไม่ได้แล้ว คำถามที่มู่หรงยิ่นถามยากเกินไปแล้ว!

หลังจากกินข้าวเสร็จ เจียงจั่วเฟิงขับรถมารับมู่หรงยิ่นกลับบ้าน

มู่หรงยิ่นนำกุญแจรถของเธอให้หลินหยาง

“รถคันนี้ของฉันคุณเอาไปใช้ก่อน มีรถก็จะสะดวกหน่อย อีกอย่าง วันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดพ่อของฉัน จะจัดงานเลี้ยงวันเกิด ยังไงก็ขอเชิญคุณหลินให้เกียรติเข้าร่วมด้วยนะคะ”

“ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันเถอะครับ ผมไม่ค่อยชอบงานเลี้ยงแบบนี้” หลินหยางไม่ได้รับปากในทันที

“ฉินโม่หนงกับหลิ่วเฉิงจื้อก็น่าจะมาด้วย คุณไม่อยากจะฉีกหน้าพวกเขาหรือคะ?”

มู่หรงยิ่นกล่าวปลุกปั่น

“ได้ครับ ผมจะไปร่วมงานตรงเวลา”

หลินหยางรับปาก คิดในใจว่าถึงเวลาที่จะแสดงไพ่ให้หลิ่วเฉิงจื้อกับฉินโม่หนงดูแล้ว

หลินหยางขับรถคันหรูของมู่หรงยิ่นออกจากศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง ไม่ได้กลับไปยังหมู่บ้านตี้เหา แต่กลับมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของฉินโม่หนง

เมื่อนึกถึงพฤติกรรมต่าง ๆของฉินโม่หนง ใส่ร้ายว่าเขาเสพยาเล่นการพนัน หลินหยางยากที่จะสงบสติอารมณ์ และเพลิงโทสะในใจลง จะต้องไปจัดการเธอสักยกอีกครั้ง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status