Share

บทที่ 17 งานเลี้ยงต้อนรับ

“แต่งงานเพื่อธุรกิจ ขอแค่ไม่ก้าวก่ายกัน แต่งไปก็ไม่ผิดอะไร” ฮั่วจิ้นเฉิงกล่าวตามตรง

“มันก็จริง แต่ฉันทำไม่ได้”

“ภรรยาในอุดมคติของฉันจะต้องเป็นผู้หญิงสวยสะดุดตาที่ทำให้หลงรักตั้งแต่แรกเห็น เธอจะต้องสวยไร้ที่ติมีสเน่ห์ควบคู่ไปกับการมีทัศนคติที่ดี ผู้หญิงแบบนี้แหละที่ฉันต้องการ”

ฉีอวิ๋นเทียนโบกมือ “นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก”

เมื่อเห็นกริยานี้ของเพื่อนซี้ ฮั่วจิ้นเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับมาคุยเรื่องงานนิทรรศการต่อ

“แล้วเรื่องนี้แก้ไขได้ไหม?”

ฉีอวิ๋นเทียนตบหน้าอก “ตระกูลฉีร่วมจัดนิทรรศการกับบริษัทตี้จิงในครั้งนี้ ฉันจะโทรคุยกับเขาเอง หลีหานต้องรักษาหน้าฉันแน่”

ขณะเขาพูดก็หยิบมือถือกดหมายเลขโทรออก

แต่ทว่าเสียงรอสายดังสิบกว่าวินาทีแล้วก็ยังไม่มีคนรับ ฉีอวิ๋นเทียนไม่เชื่อพลางกดโทรใหม่อีกรอบ

คราวนี้…อีกฝ่ายตัดสายตรง ๆ ชัดเจนว่าไม่อยากเสวนาเพียงใด

หลังถูกตัดสายโทรศัพท์ ใบหน้าหน้าฉีอวิ๋นเทียนก็เดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด ในใจรู้สึกขายหน้าอย่างยิ่ง

ไม่บ่อยนักที่เพื่อนสนิทจะขอให้ตนช่วยทำธุระ แต่ตกปากรับคำแล้วกลับต้องมาเสียหน้า

เขาลูบจมูกอยู่สักพัก รู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง “เขายุ่งอยู่ล่ะมั้ง ฉันขอเลี้ยงต้อนรับนายก่อนแล้วกัน เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยทีหลัง”

ฮั่วจิ้นเฉิงออกห้องทำงานตามฉีอวิ๋นเทียนไป

ในใจรู้ว่าเจออุปสรรคเข้าให้แล้ว

ความเป็นไปได้ที่ฉีอวิ๋นเทียนจะจัดการสำเร็จมีเพียงน้อยนิด และดูเหมือนว่าจะทำได้แค่เข้าทางหลีเกอเสียแล้ว

อีกด้านหนึ่ง

ณ ภายในร้านตัดชุดชั้นนำ สำหรับลูกค้าคนพิเศษ

หลีหานนั่งบนโซฟาหนังแท้จากอิตาลี กลิ่นอายของความเย่อหยิ่งทะนงตนของชนชั้นสูงแผ่กระจายรอบตัว

หลังปฏิเสธสายเรียกเข้า เขาก็เงยหน้าขึ้นมองหลีเกอที่กำลังถูกดีไซเนอร์วัดขนาดตัว “ฮั่วจิ้นเฉิงมาดูไบแล้ว เขามาหาฉีอวิ๋นเทียนให้ขอร้องฉันแทนเขา”

ขณะเขาพูดประโยคนี้ก็สังเกตสีหน้าหลีเกอไปด้วย เนื่องจากกังวลว่าน้องสาวจะยังปลงไม่ตก

แต่ใบหน้าหลีเกอกลับไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ เธอเอี้ยวตัวเล็กน้อยให้ดีไซเนอร์วัดรอบเอวต่อ “พี่ใหญ่ ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เองเถอะ”

พูดจบเธอก็มองไปที่กระจก

ความเป็นสง่าราศีของเธอในกระจกฟื้นคืนดังเดิม นัยน์ตาดูสดใสมั่นใจ ต่างจากรูปลักษณ์ลูกหมาตกน้ำตอนอยู่บ้านตระกูลฮั่วโดยสิ้นเชิง

คนที่เปล่งประกายแบบนี้สิถึงจะสมเป็นเธอ ปล่อยผู้ชายเลว ๆ ตกนรกไปเสีย!

“ที่รัก ฉันคิดถึงเธอแทบบ้าแน่ะ!”

เงาร่างเริงร่าพุ่งตัวเข้าหาหลีเกอ พลางสวมกอดเธอแน่น ไม่ยอมคลายเป็นเวลานาน

เมื่อหลีเกอได้ยินก็รู้ว่าคือเพื่อนซี้อย่างเจี่ยงอีอี เสียงสะอื้นดังขึ้นฉับพลันพลางดวงตาเปียกชื้น

“ฉันก็ด้วย!”

เจี่ยงอีอีปล่อยหลีเกอ “ยายคนใจร้าย ไม่ติดต่อฉันตั้งสามปี แถมเรื่องหย่ายังปล่อยให้ฉันรู้จากปากพี่สามของเธออีก ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนเธออยู่รึเปล่า?!”

ขอบตาหลีเกอร้อนผ่าว “เธอจะเป็นเพื่อนซี้ฉันตลอดไป”

“ฉันแค่รู้สึกอายน่ะ” เธอผงะครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเตือนฉันปากเปียกปากแฉะ แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอหวังดีเลยทะเลาะกับเธอ ตอนนี้หย่าแล้ว…ก็เลยไม่มีหน้าไปเจอเธอ”

ตอนนั้นเธอเลือกแต่งเข้าตระกูลฮั่ว ด่วนรับปากทิ้งกิจการร้านดีไซเนอร์ไปเป็นเลขาตระกูลฮั่ว เจี่ยงอีอีไม่ใช่ไม่เคยเตือนเธอว่าฮั่วจิ้นเฉิงไม่เหมาะกับเธอ และเธอควรคิดให้รอบคอบกว่านี้

แต่เธอบุ่มบ่าม เมินความเห็นของเจี่ยงอีอี ปิดกิจการดังกล่าวที่ทั้งสองร่วมกันก่อตั้งโดยไม่ปรึกษาเธอ

ความฝันที่มีร่วมกันกลับโดนเพื่อนสนิทย่ำยี เพราะความโกรธ เจี่ยงอีอีจึงเดินทางไปฝรั่งเศส ทั้งสองตัดขาดการติดต่อกัน

เจี่ยงอีอีคว้ามือของหลีเกอมาอย่างกลัดกลุ้มและเคืองขุ่น “คนที่ควรอับอายคือฮั่วจิ้นเฉิงคนตาไร้แวว คนโง่คนนั้น!”

“ที่รัก ในเมื่อกลับมาแล้ว ต่อไปไม่ว่าใครก็รังแกเธอไม่ได้!”

“ถ้าใครรังแกเธอ ฉันจะฆ่าเขา!”

หลีเกอน้ำตาปริ่ม แล้วสองเพื่อนรักก็หัวเราะให้กัน

“เธอไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ” เจี่ยงอีอีหยิบกระดาษชำระช่วยเธอซับน้ำตา “คืนนี้เตรียมฉลองให้เธอกันเถอะ! ฉลองที่เธอพ้นจากผู้ชายเลว ๆ แล้วเริ่มต้นใหม่กัน!”

“ดี!”

หลีเกอมองพี่ใหญ่ซึ่งกำลังรอเธอร้องไห้อยู่อย่างอดทนไม่ห่าง เธอกระชับมือเจี่ยงอีอีอีกครั้ง

เธอตระหนักได้ว่าตัวเองโง่จนน่าตกใจ ทิ้งคนที่รักตัวเองมากมายเพื่อผู้ชายเลือดเย็นคนเดียว

ครอบครัวและมิตรภาพ…ล้วนล้ำค่ากว่าความรักลวงตาไร้แก่นสารนั่นเสียอีก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status