เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกระทืบของไอโนะ และเดินตรงไปที่วอร์ดกับเธอ“เจ้าตูดหมึก จะพาหนูไปไหน? กำลังขายหนูให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหรอ?” ไอโนะถามอย่างโกรธจัด แต่เธอรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตูดหมึกจะไม่ขายเธอหรอก“มีชายชราคนหนึ่งต้องการพบหนู” เซบาสเตียนพูดตามความจริงชายชราเหรอ? ไอโนะไม่อาจจะนึกถึงใครได้ เธอเดินตามเซบาสเตียนเข้าไปในวอร์ดวอร์ดนั้นหรูหรามาก และมีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญห้าคนอยู่ข้างใน ฌอน ฟอร์ด และโรส ควินตัน ก็อยู่ที่นั่นด้วย"พ่อครับ" เซบาสเตียนพูดออกมาเมื่อเขาเข้าไปเมื่อฌอนเห็นไอโนะ เขาก็ตกตะลึง โรสแสดงสีหน้าแสนรังเกียจบนใบหน้าทันตาเธอมีลูกสามคน แต่พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นและไม่ได้ทิ้งหลานไว้ให้เธอเลย กลับกลายเป็นลูกสาวของเจ้าเด็กนั่นที่ตอนนี้เป็นทายาทที่เหลืออยู่ของตระกูลฟอร์ด มันน่าขายหน้าอย่างไม่น่าเชื่อเซบาสเตียนเป็นลูกนอกสมรส และลูกสาวของเขาก็เป็นลูกนอกสมรสด้วยพริบตาเดียวที่ใบหน้าของโรสแสดงความดูถูกเหยียดหยาม แต่เซบาสเตียนก็ยังจับได้อย่างไรก็ตาม ฌอนกำลังมองไปที่ไอโนะ เขาเต็มไปด้วยความสุขและอารมณ์อันลึกซึ้งเด็กคนนั้นอายุห้าขวบแล้วเหรอ? ตอ
น้ำเสียงที่สงบของเซบาสเตียนไม่มีที่ว่างสำหรับการถกเถียง “สก๊อตต์”“นายไม่ได้ตั้งใจจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ใช่ไหม?” โรสถามริมฝีปากของเซบาสเตียนกระตุก “นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณคาดหวังใช่ไหม?”"นี่ลูก!" ใบหน้าของฌอนแดงก่ำด้วยความโกรธ “ทำไมลูกถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้?! ต่อให้พ่อไม่รู้จักลูกมากแค่ไหน แต่ลูกก็ยังเป็นคนตระกูลฟอร์ดอยู่นะ! ลูกยังเป็นผู้สืบทอดอาณาจักรฟอร์ดอยู่นะ! นี่ลูกจะไม่ให้ลูกสาวของตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลฟอร์ดเลยเหรอ!”“ลูกน่ะโหดร้ายเกินไปแล้วนะ!”เซบาสเตียนยิ้มอย่างเย็นชา ลูกสาวของเขา ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรเธอก็ยังจะเป็นลูกสาวของเซบาสเตียน แม้ว่าเธอจะใช้นามสกุลแม่มาทั้งชีวิต เธอก็จะสืบทอดฟอร์ดกรุ๊ปต่อไปในอนาคต! ด้วยเหตุนี้ไม่มีใครพูดกล้าพูดอะไรต่อ เซบาสเตียนไม่สนใจให้คำอธิบายใด ๆ แม้แต่เขาเองยังไม่ชอบนามสกุลฟอร์ดเลย นับประสาอะไรกับลูกสาวของเขาล่ะ? จากมุมมองของเขา มันจะดีกว่าถ้าเธอใช้นามสกุลแม่ของเธอ!ในเวลานั้น แม่เลี้ยงของเขาถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าจะเป็นตามข่าวลือ นายเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากเลยสินะ นายจับผู้หญิงคนนั้นกลับมาเพื่อลงโทษ ดีแล้ว ด้วยวิธีนี้เราสามารถให้คำอธิบายที่เห
อีกสามคนในห้องตกตะลึงเพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้น หมอที่ดูแลเฮนรี่เข้ามาที่นั่นเพื่อตรวจร่างกาย ข้างหลังเขาเป็นหมอ พยาบาล และคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ดูเด็กกว่า เมื่อมาถึงที่ประตู ทุกคนก็ตกตะลึงตลอดสามสิบวินาทีที่ไม่มีใครพูดอะไรคนแรกที่ตอบสนองคือนายแพทย์หัวหน้าทีม "ตายแล้ว! อาการของนายท่านอาวุโสไม่คงที่และไม่ควรถูกรบกวนในขณะนี้! เด็กคนนี้มาจากไหน? เธอเป็นเด็กที่เกเรและซุกซนมาก และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสั่งสอน! ใครก็ได้เอาเด็กคนนั้นออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”ตามที่หมอรู้มา ครอบครัวฟอร์ดไม่มีลูกเล็กขนาดนี้เธอไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฟอร์ดหรือครอบครัวคอนเนอร์ได้ถูกต้องแล้ว เด็กคนนั้นไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กับนายท่านอาวุโสเฮนรี่ด้วยซ้ำขณะกำลังจะไล่เด็กออกไปเอง หมอก็ได้ยินเสียงหัวเราะของนายท่านอาวุโสเฮนรี่ “ฮ่าฮ่าฮ่า อ่า เหลนสาวตัวน้อยของฉัน หนูจะดึงจมูกทวดออกเหรอ มันเจ็บนะ ปล่อยเถอะลูก เดี๋ยวปล่อยแล้ว คุณทวดจะให้ของอร่อยกินนะ และทวดนี่แหละจะเป็นคนต่อว่าคนพวกนี้ให้เอง หนูมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะต้องขอโทษหนู ตกลงไหม?”มือของไอโนะยังคงอยู่ที่รูจมูกของนายท่านอาวุโส “คุณคนแก่ พูดจริงนะ?”“เ
เซบาสเตียนมองไปยังนายท่านอาวุโสเฮนรี่อย่างสงบ ในขณะที่เขาเริ่มพูด “ผมเป็นพ่อของเธอ ผมจะตัดสินใจเองว่าเธอควรใช้นามสกุลอะไร คุณปู่เพียงแค่อยากเห็นเธอไม่ใช่เหรอ? ก็ได้พบเธอแล้วไง และเธอก็ควรจะกลับไปที่โรงเรียนอนุบาลได้แล้ว”จากนั้นเซบาสเตียนก็หันความสนใจไปที่เด็กน้อย “ไอโนะ ไปกันเถอะ หนูควรจะอยู่ที่ในโรงเรียนได้แล้วนะ”ในทางกลับกัน ไอโนะหันหน้าหนีจากเซบาสเตียน เห็นได้ชัดว่าเจ้าหญิงน้อยไม่อยากตามเขาไปทุกที่ทำไมเขาต้องพูดไม่ดีเรื่องแม่เธอด้วย?ใบหน้าของเซบาสเตียนนิ่งเฉย “ฉันยังไม่ได้ขอโทษหนูเหรอ? หนูไม่เคยทำอะไรผิดเลยรึไง?”ไอโนะไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร แม้เธอเป็นเด็กที่ฉลาดมาก แต่ไม่มีทางที่จะเถียงชนะเซบาสเตียนได้ อย่างไร เขาก็ได้ขอโทษเธอแล้วเธอลังเลที่จะไปกับเซบาสเตียน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรในเรื่องนี้เช่นกันไอโนะไม่ได้พูดอะไรกับเซบาสเตียนตลอดการเดินทาง เมื่อพวกเขามาถึงโรงเรียนอนุบาล เซบาสเตียนกำลังจะจับมือเธอและพาเธอไปหาครู แต่ไอโนะวิ่งเข้าไปในโรงเรียนคนเดียวแต่หลังจากนั้นไม่นาน ไอโนะก็กลับออกมา"มีอะไรเหรอ?" เซบาสเตียนถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ตอนเย็นที่หนูเลิกเรียน หนูไม่อยากเจอคุ
ระหว่างทางกลับบ้าน คิงส์ตันจดจ่อกับการขับรถในขณะที่เซบาสเตียนยังคงนิ่งเงียบมันทำให้ไอโนะอยากคุยกับเขามากขึ้น เธออยากถามเขาว่าชายและหญิงที่เธอพบเมื่อเช้านี้เป็นใคร เช่นเดียวกับชายชราที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไรก็ตาม เมื่อสังเกตเห็นว่าเจ้าตูดหมึกไม่พูดอะไรเลย ไอโนะจึงตัดสินใจจะไม่ถามเซบาสเตียนหลุดเข้าไปอยู่ในความคิดของตนเองตอนสิบเอ็ดโมง เขาเสร็จสิ้นการประชุมที่บริษัท เซบาสเตียนได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเขา"พ่อ? ว่าไงครับ?" เซบาสเตียนถามอย่างใจเย็น“เซบาสเตียน นายทิ้งเด็กคนนั้นไปไม่ได้นะ!” ฌอนพูดจากปลายสายเซบาสเตียนยิ้มเยาะให้กับสิ่งนั้น “เธอเป็นลูกของผมเอง ทำไมพ่อถึงคิดว่าจะต้องมาช่วยตัดสินใจไม่ว่าผมจะเก็บเธอไว้หรือไม่ล่ะครับ?”น้ำเสียงของฌอนเปลี่ยนไปอย่างอ่อนโยน “เซบาสเตียน! พ่อรู้ว่าคำพูดของพ่อมันไม่ได้มีผลกับลูกมากนัก แต่ให้พ่อบอกอะไรบางอย่างให้ฟังนะ จากประสบการณ์ของพ่อเอง พ่อเป็นคนที่ทำให้ลูกและแม่ของลูกผิดหวังเมื่อหลายปีก่อน พ่อปล่อยให้ทั้งสองคนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานาน”“แต่ พ่อก็ต้องรับมือกับปัญหามากมายเหมือนกันนะ“ครอบครัวฟอร์ดมีขนาดใหญ่ขนาดนั้น มันต้อง
ขณะถอดรองเท้า เซบาสเตียนถามว่า “มีอะไร?”ไอโนะปล่อยมือเซบาสเตียนและวิ่งเข้าไปหาอ้อมแขนของซาบริน่า ไอโนะเริ่มเล่าให้ซาบริน่าฟังอย่างตื่นเต้นว่า “แม่คะ วันนี้หนูเจอชายชราสองคนกับหญิงชราอีกคนหนึ่ง หญิงชราคนนั้นดุเล็กน้อย และชายชราที่ตัวเล็กกว่าก็ดุเหมือนกัน แต่ชายชราที่อยู่บนเตียงกลับไม่เป็นแบบนั้น หนูเอาชนะเขาได้!”ซาบริน่ารู้ได้ทันทีว่าไอโนะกำลังพูดถึงใครเธอมองไปที่เซบาสเตียนอย่างงงงวย “คุณพาไอโนะไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยม...ปู่มาเหรอ?”เซบาสเตียนไม่ตอบ แต่เขาถามซาบริน่าอย่างใจเย็นว่า “เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ?”ซาบริน่ากัดริมฝีปากของเธอและถามอย่างระมัดระวัง “คุณยอมรับไอโนะเป็นลูกสาวของคุณแล้วใช่ไหม?”ใช่!เธอไม่ได้โง่!เซบาสเตียนมองดูซาบริน่าต่อไป “เธออยากจะคุยกับฉันเรื่องอะไร?”หลังจากเอ่ยถาม เซบาสเตียนก็พาไอโนะไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือ และให้เธอนั่งที่โต๊ะอาหารป้าลูอิสผู้ที่ดูแลอาหารค่ำได้นำอาหารหลากหลายมาไว้บนโต๊ะเธอไม่เพียงแต่ทำอาหารเก่งเท่านั้น แต่ยังมีน้ำใจในการเตรียมอาหารด้วย เมื่อเธอรู้ว่าจะมีเด็กมาทานอาหารกับพวกเขา เธอจึงตั้งใจเตรียมข้าวโพดหวานเป็นอาหารอีกจานหนึ่ง
เซบาสเตียนรีบพัดข้าวโพดให้ไอโนะ เมื่อรู้สึกว่าข้าวโพดเย็นพอแล้ว เขาก็ค่อย ๆ ตักเข้าปากของเธอ เมื่อเจ้าหญิงน้อยลิ้มรสข้าวโพด ความสุขก็กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ“หนูอยากกินน้ำผลไม้” ไอโนะสั่งซาบริน่ารีบไปหยิบน้ำส้มคั้นสดให้ไอโนะทันที"ข้าวโพด!" ไอโนะมองเซบาสเตียนอย่างไร้เดียงสาเซบาสเตียนป้อนข้าวโพดเข้าปากของไอโนะโดยไม่รอช้าย้อนกลับไป ตอนที่เขาไม่มีสถานะทางสังคมและใช้ชีวิตอย่างล่องลอย เซบาสเตียนไม่เคยรับใช้ใครแบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเชื่อฟังใครบางคนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและรับใช้เด็กหญิงอายุน้อยกว่าห้าขวบขณะมองไปที่ไอโนะที่กำลังทานอาหารอย่างมีความสุข ความรักใคร่ก็ท่วมท้นหัวใจเขาซาบริน่าขมวดคิ้วและแสร้งทำเป็นดุไอโนะ แต่สุดท้ายก็ซ่อนรอยยิ้มของเธอไว้ไม่ได้ “ไอโนะ! หนูทำแบบนี้ไม่ได้! เราอาจจะมาจากเมืองเล็ก ๆ ก็จริง แต่แม่เคยมั่นใจเสมอนะว่าหนูได้รับอาหารเพียงพอแล้ว ทำไมหนูถึงกินเหมือนคนบ้านนอกแบบนี้ล่ะ?“หนูดูน่าเกลียดมากเลยนะที่กินแบบไม่สนใจโลกขนาดนี้“พ่อหนูไม่ได้คิดว่าหนูน่าเกลียด ใช่ไหมคะ?” ไอโนะหันไปมองเซบาสเตียนทั้งที่ยังเคี้ยวไม่หยุดปาก ไม่มีอะไรสามารถทำให้เธออารมณ์
ก่อนจะถามคำถามนี้ ซาบริน่าก็รู้อยู่แล้วว่าเซบาสเตียนไม่น่าจะเห็นด้วยกับคำขอนี้ เธอยิ้มเยาะตัวเอง “ฉันก็แค่พูดเล่น ๆ ”แต่สถาปัตยกรรมคือความหลงใหลในชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ และเป็นทักษะที่เธอใช้ในการทำมาหากิน ไม่ใช่เรื่องตลกอย่างแน่นอนอย่างไรเสีย ถ้าเซบาสเตียนไม่ตกลง เธอก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้วชายผู้นั้นไม่มองเธออีกเลย และเดินไปที่ห้องของเล่น ซาบริน่ายืนอยู่นอกห้อง สายตาของเธอยังคงมองเขาอยู่ไอโนะยังคงเล่นบ้านของเล่นไม้ของตนเองอยู่“รหัสผ่านคืออะไร บอกมาก่อนถึงจะเข้าได้?” ไอโนะถามเซบาสเตียนเซบาสเตียนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันไม่รู้ หนูบอกฉันได้ไหม?”ไอโนะดูจริงจังเช่นกัน “รหัสผ่านคือสามห้าหนึ่งสองเจ็ดแปดแปด”เซบาสเตียนทวนตัวเลขซ้ำไอโนะเอ่ยอย่างมีความสุข “นั่นคือคำตอบที่ถูกต้อง คุณเข้ามาได้!”ชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างระมัดระวังซาบริน่าตกตะลึงเมื่อเห็นทุกอย่างนี้เธอรู้จักเซบาสเตียนที่เลือดเย็นและโหดเหี้ยมคนเดิมรึเปล่า?ในขณะเดียวกัน เซบาสเตียนก้มตัวลงและตอนนี้กำลังพยายามเข้าไปในบ้านไม้หลังเล็ก ๆ แต่เขาสามารถเข้าไปได้เพียงครึ่งขา และแล้วมันก็พังลงมา“พ่อจ๋าใจร้าย!” ไอโ