“อย่างน้อยก็เลี้ยง…” ไนเจลมองดูร้านอาหารเล็ก ๆ รอบตัว ทั้งมืดและมีควัน ไม่ก็มีกลุ่มคนงานทั่วไปกำลังกินข้าวกล่องอยู่ข้างนอกเขาบีบจมูกของเขา เขาจะจัดให้เต็มที่หากเขาต้องการได้เจ้าลูกเจี๊ยบที่เป็นคนยับยั้งใจตัวเองได้แบบนี้!“ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยเธอควรซื้อกล่องอาหารกลางวันราคา 10 ดอลลาร์ให้ฉันใช่ไหมล่ะ?”“ก็ได้” ซาบริน่าตอบทันทีทั้งสองซื้อกล่องอาหารกลางวันแบบที่มีผักสองแบบและเนื้อสัตว์ส่วนหนึ่งซาบริน่าอิ่มจากแซนวิชเห็ดสองอันที่เธอกิน เธอนั่งตรงข้ามไนเจลและจ้องมองเขาขณะที่เขากินอาหารความรู้สึกนี้ช่างน่าอึดอัดใจยิ่งนักมันน่าอึดอัดใจมากกว่าเดิมเพราะซาบริน่าซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามไนเจลมีสีหน้าเรียบเฉยเป็นอย่างมาก ขณะที่เขากินกล่องอาหารกลางวันที่ไร้รสเหมือนขี้ผึ้ง ไนเจลอยากจะเอื้อมมืออย่างมั่วซั่วไปลูบแก้มเล็ก ๆ ที่เย็นชาและไร้ที่พึ่งเหล่านั้นทางที่ดีที่สุดคือดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและทำตามทางของเขากับเธอเขาไม่เชื่อว่าเธอจะยังเย็นชาและอดกลั้นได้อย่างไรก็ตาม ไนเจลเป็นนักล่าที่ดี เมื่อพูดถึงการดูแลเหยื่อ เขาอดทนมาได้โดยตลอดหลังรับประทานอาหารเสร็จ เมื่อซาบริน่าต้องการจะจ่าย เธ
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง! ออกไปจากที่นี่!” ซาบริน่าโกรธจัด ไม่สำคัญหรอกว่าเจดและเซลีนจะคุกคามและดูถูกเธออย่างไร แต่พวกเขามาที่วอร์ดเพื่อคุกคามเกรซที่ป่วยหนักซาบริน่าหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาทุบใส่เจดอย่างไรก็ตาม เกรซเรียกเธอว่า “แซบบี้…”ซาบริน่าหันกลับมามองที่เกรซ “แม่ อย่ากลัวไปเลย ฉันจะทุบตีและไล่พวกมันออกไปทันที”“แซบบี้ ฉันส่งคนไปเรียกพวกเขาให้มา” เกรซบอกซาบริน่ารู้สึกสับสนเมื่อซาบริน่าหันกลับมา เธอเห็นทั้งเจดและเซลีนกำลังมองมาที่เกรซ นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลด้วยใบหน้าตื่นตระหนก“แม่? แม่…พาพวกเขามาที่นี่เหรอ?” ซาบริน่ามองที่เกรซอย่างไม่เชื่อใบหน้าของเกรซซีด แต่เธอมีอำนาจที่ไม่มีใครกล้าไม่เชื่อฟัง “เจด ซัลลิแวน เซลีน ลินน์!”“คุณผู้หญิงฟอร์ด…” เจดมองดูเกรซอย่างประหม่าราวกับว่าเธอได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเกรซเล่าอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "แม้ว่าฉันจะไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลฟอร์ดอย่างถูกต้องตามกฎหมายในชาตินี้ แต่การได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฟอร์ดและเลี้ยงดูลูกชายของฉัน โดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ที่ซุกซ่อนเอาไว้เลย เธอคิดว่าฉันกับลูกชายจะอยู่รอดได้จนถึงตอนนี้หรือไม่?“ซาบริ
“ตบหน้าลูกสาวของหล่อนซะ หล่อนจะหยุดมือได้ก็ต่อเมื่อฉันบอกให้หยุด หากหล่อนไม่เต็มใจที่จะตบหรือถ้าตบไม่แรงพอ ฉันจะให้ชายร่างใหญ่และดุร้ายสองคนใช้ส้นรองเท้าตบลูกสาวหล่อนหนึ่งร้อยแทน”เจดตกตะลึง “คุณผู้หญิงฟอร์ด อะไรนะ...คุณพูดว่าอะไรนะคะ?”เซลีนยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก จนเธอเดินโซซัดโซเซและล้มลงกับพื้นด้วยน้ำตานองหน้าเกรซไม่ต้องการพูดซ้ำหลายหน จึงได้ถามเจดไปว่า “หล่อนจะทำ หรือให้ฉันหาคนอื่นมาทำแทน”“ฉันเอง! ฉันจะทำเอง ฉันจะทำเองค่ะ!” เจดคลานมาที่ด้านหน้าของเซลีน เธอยกมือขึ้นตบหน้าของเซลีนอย่างแรง“แม่คะ…” เซลีนร้องไห้ขณะที่มองดูแม่ของเธอ“ดีกว่าผู้ชายสองคนตบลูกด้วยส้นรองเท้านะ” เจดยกมือขึ้นตบอีกครั้ง ตบไปที่แก้มขวาของเซลีนเจดตบอย่างแรงราวกับว่าเธอกลัวว่าเกรซจะไม่พอใจเซลีนปล่อยเสียงคร่ำครวญขณะที่เธอถูกตบ แต่เธอไม่กล้าแม้แต่ขอความเมตตาเจดยังคงตบต่อไปจนมือทั้งสองข้างของเธอบวม และเธอก็หอบอย่างหนักจากความเหนื่อยล้า ในทางกลับกัน ใบหน้าของเซลีนก็บวมเหมือนลูกโป่งขนาดใหญ่สองลูกแล้ว และแก้มทั้งสองของเธอก็เปลี่ยนเป็นแดงราวกับตับหมูเซลีนดูเหมือนหมูอ้วนซาบริน่าไม่มีความสงสารต่อเธอเลยเ
คิงส์ตันไม่ได้รับสัญญาณการโต้ตอบจากเซบาสเตียนเลย และไม่มีเสียงใดให้ได้ยินหลังจากผ่านไปนาน“ท่านเซบาสเตียน ท่านเซบาสเตียนครับ?” คิงส์ตันเรียกอีกด้านหนึ่ง เสียงของเซบาสเตียนเย็นชามาก “อ้อ”คิงส์ตันพูดไปว่า “นายน้อยเซบาสเตียน คุณมีคำสั่งอะไรอีกไหมครับ?”“สองสามวันนี้ฉันจะยุ่ง วันมะรืนนี้ อย่าลืมไปรับเซลีน และรอฉันที่ด้านนอกคฤหาสน์ฟอร์ดหลังเก่า” เซบาสเตียนต้องการใช้เซลีน ช่วยกันพวกผู้อาวุโสต่าง ๆ ที่เชิญมาในนามเขา “รับทราบครับ นายน้อยเซบาสเตียน ผมจะวางสายแล้วนะครับ” คิงส์ตันกล่าวอย่างสุภาพ“อีกเรื่อง” เซบาสเตียนเรียกคิงส์ตันทันที“ตามเธอไป” น้ำเสียงของเซบาสเตียนมีความโกรธเล็กน้อยคิงส์ตันเอ่ยถาม “ตามใครครับ?” ทันทีที่เขาพูด เขาก็ตบหัวตัวเองและพูดขึ้น “รับทราบครับ นายน้อยเซบาสเตียน ผมจะตามคุณสก๊อตต์ไปทันที!”หลังจากที่วางสาย คิงส์ตันก็ขับรถตามซาบริน่าไป อย่างไรก็ตาม การสะกดรอยตามซาบริน่าเป็นเรื่องง่ายดายมาก หลังจากที่ออกจากตึกผู้ป่วยของเกรซ ซาบริน่าไปยังร้านเบเกอรี่และซื้อขนมปังก้อนใหญ่สองก้อน เธอกินซาลาเปาระหว่างรอรถประจำทาง หลังจากรถประจำทางมาถึง เธอขึ้นรถและตรงไปยังบ้านของเซบา
รถของไนเจลมาจอดตรงหน้าซาบริน่าอย่างไม่เป็นที่สังเกต “ซาบริน่า ขึ้นมาสิ ผมกำลังจะกลับบ้านอยู่พอดี ให้ผมไปส่งไหม?” ซาบริน่ามองดูเนื้อตัวที่เกรอะกรังและคลุกฝุ่นของเธอ แล้วส่ายหน้าพร้อมยิ้ม “ไม่ค่ะ ฉันรอรถประจำทางดีกว่า”“มันดึกมากแล้ว ไม่น่ามีรถประจำทางอีกแล้วล่ะ หรือบางทีรถประจำทางอาจจอดเสียอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้ ดังนั้นคุณคงจะกลับบ้านไม่ได้เว้นแต่จะเรียกแท็กซี่แทนนะ” ไนเจลพูดอย่างใจดีเรียกแท็กซี่?เธอแทบจะถังแตกอยู่แล้ว“ขึ้นมาเถอะ” ไนเจลเปิดประตูให้ซาบริน่าด้วยตนเอง และซาบริน่าก็เข้ามาโดยไม่ลังเลอีกต่อไป“จะไปไหน?” ไนเจลถามเบา ๆ“โรงพยาบาลฮาร์โมนี่ค่ะ” ซาบริน่าพูดสั้น กระชับเพียงสองคำ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกไนเจลมองดูซาบริน่าสองสามครั้งตลอดการเดินทาง เธอมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ และไม่ได้เริ่มบทสนทนาใด ๆ กับไนเจล จนกว่าเธอจะลงจากรถอย่างไรก็ตาม ไนเจลไม่กังวลเลยยิ่งเกมนี้ยืดเยื้อโดยใช้เวลานานเท่าไร ก็ยิ่งคุ้มค่าที่จะตั้งตารอมากขึ้นเท่านั้นรถหยุดลง เมื่อถึงเวลาต้องลงจากรถ ไนเจลเดินลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูรถให้ซาบริน่า ซาบริน่าเหนื่อยจากวันที่ยาวนาน และขาของเธอก็ชาเ
“ท่านเซบาสเตียน…” เซลีนอยากจะร้องไห้แต่ไม่กล้า เพราะทำให้ใบหน้าของเธอดูน่าเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก “ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน และสถานะทางสังคมของคุณก็เหนือกว่าฉันมาก ฉันจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก”เซลีนหันหลังเดินออกไปเซบาสเตียนคว้าแขนเธอไว้โดยไม่ได้คาดคิดเขารู้สึกเบื่อหน่ายเซลีนมากขึ้นอย่างไรก็ตาม เขายังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ เซลีนเคยช่วยชีวิตเขาด้วยร่างกายของเธอ จึงทำให้เขากลืนความขยะแขยงทั้งหมดที่เขามี และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้น้ำเสียงของเขาอ่อนลงแทน “หน้าเธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”เซลีนมีน้ำตาสองสายไหลลงมาด้วยความคับข้องใจและส่ายหัว“พูดสิ!” เซบาสเตียนพูดอย่างหมดความอดทน“แม่… แม่ตบฉัน” เซลีนพูดอย่างตรงไปตรงมา“หืม?”เซลีนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “แม่… แม่ของคุณส่งคนมาพาแม่กับฉันไป เธอบอกว่าเธอต้องการ… ล้างแค้นให้ลูกสะใภ้ เธอจึงขอให้แม่ของฉัน… ตบหน้าฉัน ถ้าแม่ไม่ตบฉัน แม่ของคุณจะ… ขอให้ผู้ชายสองคนเอาส้นรองเท้ามาตบหน้าฉัน คนละร้อยครั้ง”เซบาสเตียนพูดไม่ออกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม่ของเขาถูกใส่ร้ายป้ายสีนับครั้งไม่ถ้วนตอนที่ยังอยู่ในตระกูลฟอร์ด ในตอนแรกแม่ของเ
ซาบริน่าดึงมือของเธอกลับมา แล้วตอบกลับเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไร้ชีวิตชีวา “ฉันแค่ต้องการหารายได้พิเศษ”“ชิ คิดว่ากำลังตีหน้าซื่อใส่ใครกัน?!” พนักงานบริการหัวเราะเยาะ และเหวี่ยงมือของซาบริน่าออกไปซาบริน่าเซและล้มลงซาบริน่าเงยหน้าขึ้น และเห็นเซบาสเตียนยืนอยู่ไม่ไกลเซบาสเตียนกำลังมองมาที่เธอ และมีใบหน้าที่ไร้อารมณ์ แต่ซาบริน่ารู้สึกได้ว่าเขาไม่พอใจไม่พอใจมากเธอลดความเร็วของฝีเท้าลง และค่อย ๆ เดินหลบกลุ่มพนักงานบริการจากด้านหลัง จากนั้นก็เข้ามาหาเซบาสเตียนอย่างเงียบ ๆ เธอกำลังจะอธิบายบางอย่าง แต่เซบาสเตียนบีบคางของเธอซาบริน่าตัวสั่นด้วยความกลัวเซบาสเตียนเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อประคองเธอทันที และเขาก้มลงจูบซาบริน่าโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใด ๆ จูบของเขามีกลิ่นอายของความบ้าคลั่งและความปราถนาของตน แต่ก็ยังมีความผสมผสานระหว่างการหยอกล้อและการลงโทษด้วยซาบริน่ารู้สึกอับอายอย่างมาก เธอดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหลุดพ้นแล้วรีบวิ่งหนีไปรถสองคันจอดอยู่ไม่ไกลไนเจลพูดคุยกับเซย์นในรถ “ลูกเจี๊ยบตัวนี้ ทำให้ฉันมีอาการหนาวสั่นมาสองสามวันแล้ว และฉันคิดว่าเธอยังไม่รู้อะไรด้วยซ้ำ ฉันไม่ไ
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นมองเซบาสเตียนทันทีเซบาสเตียนถือผลตรวจการตั้งครรภ์ไว้ในมือ นอกจากนี้ นั้นยังเป็นใบแสดงผลการตรวจการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธออีกด้วย เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋าตลอด แต่เมื่อถูกเซลีนลักพาตัวไปในภายหลัง เซลีนก็หยิบแผ่นนั้นออกไปหลังจากนั้น เธอได้รับการช่วยเหลือจากเซบาสเตียน และคิดว่าเธอทำผลตรวจนี้หายไปแล้วเธอไม่เคยคาดคิดว่ามันจะอยู่ในมือของเซบาสเตียน“คุณ… ทำไมคุณถึงมีผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉันได้?” แก้มของซาบริน่าร้อนผ่าวทันที เธอรู้สึกอับอายจากการที่คนอื่นล้วงล้ำเรื่องส่วนตัวของเธอวันนี้เธอต้องอับอายต่อหน้าเซบาสเตียนมากพอแล้วอยู่ดี ๆ เขาก็พุ่งตัวเข้ามาจูบเธอกลางวันแสก ๆเขายังถือและโบกผลตรวจการตั้งครรภ์ของเธออยู่ตรงหน้า ซาบริน่ารู้สึกว่าเธอกำลังมองหน้ารอยแตกสักแห่งแล้วแทรกตัวหนีออกจากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไรก็ตาม ท่าทีของเซบาสเตียนนั้นเย็นชามากจนทำให้หัวใจของซาบริน่าหดตัวเป็นลูกบอลเธอกลัวเขาเล็กน้อยเธอเห็นด้วยตาของเธอเองว่าเขาจัดการกับพวกอันธพาลที่เคยลักพาตัวเธอไปอย่างไร“ได้โปรด… ได้โปรดคืน… ผล… ผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉันมาด้วยค่ะ” ซาบริน่ากระพริบขนตาที่โค้งมนเพื