“ทำไมเธอถึงช่วยฉัน?” ซาบริน่าถาม“ช่วยเธอเหรอ? ฮ่า ฮ่า!” มินดี้หัวเราะอย่างดูถูกและพูดขึ้น “ฉันจะช่วยเธอทำไม? ฉันจะบอกกับเธอตรง ๆ ก็ได้ เธอสวยกว่าผู้หญิงทั่ว ๆ ไป และมีกลิ่นอายราคาถูกที่มักดึงดูดผู้ชาย ท่านเซบาสเตียนจูบเธอต่อหน้าคนอื่น และลูกพี่ลูกน้องของฉันเริ่มที่จะพูดคุยกับเธอ ทั้งสองเป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถในการยั่วยวนผู้ชายในหมู่คนชนชั้นสูงพอตัว! ฉันขอให้เธอแสดงบทบาทนี้ เพื่อที่ลูกพี่ลูกน้องของฉัน ท่านเซบาสเตียน และคนอื่น ๆ จะได้เห็นว่าเธอเป็นคนแบบไหน เป็นคนชั้นต่ำที่น่าขยะแขยง ราคาถูก”ซาบริน่ามองมินดี้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เธอต้องการให้ซาบริน่าทำตัวโง่ ๆ ในงานเลี้ยง แต่สำหรับซาบริน่าแล้ว จะมีอะไรต้องกลัวหากได้เงินจากสิ่งนั้น“ได้สิ ฉันรับข้อเสนอนี้!” ซาบริน่าตอบอย่างเด็ดขาด“ก็แค่นั้น!” มินดี้ยิ้มออกมาซาบริน่าไม่ยิ้มกลับและหันหลังเดินจากไปโดยไม่ได้มองมาทางมินดี้อีก“เดี๋ยว” มินดี้ตะโกนจากด้านหลังอีกครั้งซาบริน่าหันไปมองเธออย่างงง ๆ“แล้วเธอจะไปลองชุดเมื่อไหร่?” มินดี้ถามอย่างร่าเริง“เวลาไหนก็ได้หลังเลิกงาน” ซาบริน่าตอบโดยไม่ลังเล ขณะค
“ฉันเป็นใครไม่เกี่ยวกับเธอหรอก สิ่งสำคัญคือฉันจะไม่ยอมให้ผู้หญิงแบบเธอเข้าใกล้หลานชายของฉันเด็ดขาด!” ท่านผู้อาวุโสชอว์มองซาบริน่าตั้งแต่ตัวจรดเท้าขณะที่บอกปัด หญิงสาวตรงหน้าเขาหน้าถอดสีจนซีดเผือด ชัดเจนได้ว่าเธอมีประสบการณ์กับผู้ชายมาพอตัว เครื่องสำอางบนใบหน้าของเธอไม่สามารถจะความต่ำทรามของเธอเอาไว้ได้ และรองพื้นหนาเตอะบนใบหน้าดูเหมือนจะกระเด็นหลุดออกมาทุกครั้งที่ซาบริน่าพูด ทั้งหมดทั้งมวลนั้นบวกกับชุดที่เธอสวมใส่อยู่ทำให้เธอดูเหมือนจะนิยายความหมดของคำว่าโสเภณีได้เป็นอย่างดี‘ผู้หญิงแบบนี้กล้าดียังไงมาล่อลวงผู้ชายจากตระกูลชอว์น่ะ?’ เขาคิด“โอ้ คุณปู่ชอว์ บังเอิญจังเลยนะคะ ทำไมคุณปู่ถึงมาที่นี่ได้?” มินดี้เอ่ยโดยใช้น้ำเสียงที่ประหลาดใจ ขณะที่แสร้งทำเป็นมองเห็นท่านผู้อาวุโสชอว์ในที่สุดเธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังซาบริน่าอย่างผู้ชนะ และภูมิใจเป็นอย่างมากที่สามารถสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงนี้ขึ้นมาได้มินดี้ให้ซาบริน่าแต่งตัวและแต่งหน้าแบบนั้น เธอวางแผนให้ท่านผู้อาวุโสชอว์มาที่นี่ในเวลานี้ เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ช่างต่ำต้อยยิ่งนักสำหรับท่านผู้อาวุโสชอว์มินดี้เป็นลูกสาวของป
ท่านผู้อาวุโสชอว์ยืนสั่นด้วยความโกรธและพูดไม่ออก จนกระทั่งซาบริน่าเข้าไปในห้องลองเสื้อ ในที่สุดเขาก็พูดอย่างโกรธจัด “ฉันจะให้มาร์คัสตัดความสัมพันธ์กับเธอทั้งหมด! อย่าคิดที่จะได้เงินจากเขาเลย!” จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินจากไปมินดี้เดินไปหาซาบริน่าด้วยรอยยิ้มเสแสร้งและอธิบาย “ขอโทษนะซาบริน่า ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมคุณปู่ถึงมาที่นี่ได้ บางทีพวกคนใช้อาจปากสว่างบอกเขาก็ได้ สองวันก่อน พอข่าวว่าน้องมาร์คัสเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งแววเข้าหู คุณปู่โกรธเป็นฝืนเป็นไฟเชียวล่ะ ดังนั้นเขาจึงมักคอยเป็นหูเป็นตาตอนที่น้องมาร์คัสกับฉันออกไปไหนมาไหนน่ะ....” คำอธิบายของเธอเต็มไปด้วยความย้อนแย้ง แต่ซาบริน่าไม่ตอบสนองเธอมองมินดี้อย่างเรียบเฉยพลางพูดขึ้น “ฉันไม่สนเรื่องนั้นหรอก สิ่งที่ฉันสนใจ คือการได้ทำงานที่งานเลี้ยงบนเรือสำราญในวันนั้น แล้วฉันก็ได้เงินหนึ่งหมื่นดอลลาร์”เธอแค่ว่าในสายตาของพวกลูกท่านหลานเธอทั้งหลาย เธอก็เป็นแค่เรื่องตลกฆ่าเวลาเพียงเท่านั้นผู้นำตระกูลเหล่านี้อาจมองว่าการประณามเธออาจเป็นสิทธิที่ติดตัวพวกเขามาตั้งแต่เกิดเลยก็
ทันทีที่ดวงตาของเซบาสเตียนจะจับจ้องไปยังพิมพ์เขียวซึ่งวาดด้วยมือที่ดูเกือบสมบูรณ์แบบ สายตาคู่นั้นก็สะดุดเข้ากับความประณีตของรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งแฝงอยู่ในทุกตัวอักษรสิ่งที่อยู่ในมือของเขาคล้ายกับชิ้นงานที่เขาพบนอกห้องของซาบริน่าเมื่อสองสามวันก่อน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือแบบร่างที่เขาพบไม่ได้ลงรายละเอียดเหมือนฉบับนี้ และมีการแก้ไขเล็กน้อยเพื่อทำให้สมบูรณ์ขึ้น“ใครเป็นคนนำสิ่งนี้มา?” เซบาสเตียนหันไปถามผู้ช่วยข้างกาย“เอ่อ ผู้ช่วยของผู้อำนวยการคอเนอร์ กรุ๊ป คุณ… คุณสก๊อตต์ค่ะ”“พาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้!” เซบาสเตียนสั่งทันที“ค่ะ ผู้อำนวยการฟอร์ด”ผู้ช่วยพาเซบาสเตียนออกจากห้องประชุมและอธิบายตลอดทาง “ผู้อำนวยการฟอร์ด คุณสก๊อตต์รออยู่ที่แผนกต้อนรับ ดังนั้นคุณน่าจะพบเธอได้ในทันทีค่ะ”“อืม” เซบาสเตียนตอบขณะที่นั่งรออยู่ตรงบริเวณแผนกต้อนรับ ซาบริน่าตกใจเมื่อได้ยินเสียงของเซบาสเตียน 'ทำไมถึงเป็นเขา?' เธอครุ่นคิด เนื่องจากเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เธอไม่ต้องการเจอกับเซบาสเตียนในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามแต่ หนทางสุดท้ายที่เธอจะเลือกก็คือเข้าไปยุ่งเก
“ยายบ้านนอกนั่นทำงานได้เร็วกว่าผู้ช่วยหัวหงอกหัวดำพวกนั้นด้วยซ้ำนะ เธอยังดูเด็กอยู่เลยและก็ดูเชื่อง ๆ ด้วย จนถึงตอนนี้ เคยเห็นเธอปริปากพูดอะไรออกมาสักคำแล้วเหรอยัง เธอแค่วิ่งไปตรงนู้นทีตรงนี้ทีเพื่อซื้อข้าวกลางวัน ชานม ของว่างและของกินให้เรา ไม่ดีเหรอไง?”“ขอพูดอะไรหน่อยนะ ใบหน้าของนางก็ดูทรงเสน่ห์ไม่เบาเลย คิดว่าซาบริน่าดูสวยกว่าพวกเราสองคนไหม?”“สวยกะผีน่ะสิ! ไม่เห็นเหรอไงว่านางใส่ชุดอะไรมาทำงาน? ชุดเดียวกันสามวันติดเลยนะเธอ พนันได้เลยว่าเสื้อผ้าของนางอ่ะราคาไม่เกินห้าสิบดอลลาร์ด้วยซ้ำ!”“ฮิ ฮิ ชู่ว! เธอมาแล้ว”คนในสำนักงานหยุดนินทาทันทีที่เห็นซาบริน่าเดินเข้ามา ซาบริน่าได้ยินทุกคำ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเธอ นอกจากมีงานทำและได้เงิน เธอจัดข้าวของและนิ่งเงียบไปตลอดทั้งวัน เธอออกจากสำนักงานทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน และมุ่งหน้าไปที่ห้องผู้ป่วยของเกรซเพื่อดูแลเธอหัวใจของซาบริน่าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อเห็นเกรซเริ่มผอมบางลงทุกวัน ความสัมพันธ์ระหว่างเซบาสเตียนกับเธออาจขึ้นอยู่กับสัญญา แต่เธอคิดจริง ๆ ว่าป้าเกรซเป็นครอบครัวเดียวที่เธอมีอยู่บนโลกใบนี้เมื่อได้เห็นแสงสว
ไนเจลเดินไปหาซาบริน่าและเอ่ยขึ้น “ซาบริน่า หูตาไวอย่างกับสายสืบเชียวนะ คุณรู้ได้ยังไงว่าคนรวยจะมารวมตัวกันที่นี่?”ซาบริน่าไม่ได้สนใจคำถากถางจากเขา แต่กลับยิ้มและเอ่ยถาม “ท่านไนเจลค่ะ จำได้ว่าเจอคุณครั้งสุดท้ายคือเมื่อสองสามวันก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เจอคุณเลย ที่ผ่านมาคุณได้มาที่สำนักงานบ้างรึเปล่าคะ?”“คุณคิดถึงผมเหรอ?” ไนเจลถาม“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ… ”“อ้าว แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?” น้ำเสียงของไนเจลค่อย ๆ แผ่วลงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความดูถูกเหยียดหยาม “ผมไม่ได้ไปที่สำนักงานเพราะยุ่งกับการจัดงานเลี้ยงล่องเรือนี่แหละ งานนี้จะเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งบรรดาแขกเหรื่อที่มีหน้ามีตาในสังคมในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ จะเดินทางมาเข้าร่วม แน่นอนว่าผมต้องรับหน้าดูแลรายละเอียดต่าง ๆ ของงานอย่างจริงจังด้วยตัวเอง ”ซาบริน่าประหลาดใจเล็กน้อยและพูดขึ้น “ฉัน… ฉันไม่ตามคุณมาที่นี่เสียหน่อย”“ไม่เหรอ?” ไนเจลส่งยิ้มไปให้เธอ ในขณะที่เขามองดูซาบริน่าที่สวมเสื้อผ้าราคาถูก“อย่าบอกนะว่าวันนี้คุณมาที่นี่เพราะท่านชอว์น่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็รู้สึกแย่นะที่จะต้องบอกคุณว่าท่านชอว์ถูกคุณปู่ ผู้อาวุโสของตระกูลชอว์กักบริเ
ซาบริน่านั่งอยู่คนเดียวในห้องพักที่ด้านล่าง และตรวจดูกองชุดคอสตูมที่อยู่ตรงหน้า แต่ละชุดและทุกชิ้นทำจากผ้าราคาถูก ซึ่งมีราคาถูกกว่าที่ซื้อได้จากตลาดนัดตอนกลางคืนเสียอีก และที่สำคัญที่สุด ชุดคอสตูมพวกนี้มีผ้าปกปิดน้อยชิ้นมาก จนซาบริน่าสามารถจินตนาการได้ว่าเธอจะโดนดูถูกขนาดไหนถ้าใส่ชุดพวกนี้เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเลือกชุดนักเรียนที่ค่อนข้างดูปกปิดเนื้อหนังของเธอได้มากที่สุดเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว ช่างแต่งหน้าก็ช่วยเธอแต่งหน้าซึ่งเป็นการแต่งหน้าที่ดูไม่ได้มากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะแต่งออกมาได้ ก่อนที่ซาบริน่าจะออกไปพร้อมกับถาดรองและพบว่ามินดี้กำลังรออยู่มินดี้สำรวจดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูด “โอ้ มาในลุคเด็กสาวใส ๆ อย่างนั้นเหรอ? คิดให้ดี ๆ นะ ภาพลักษณ์ไร้เดียงสาไม่ช่วยให้เธอได้เงินเยอะขึ้นหรอกนะ” มินดี้จับมือของซาบริน่าและพาเธอไปยังกลุ่มคนจากตระกูลที่ร่ำรวยพร้อมแก้วไวน์ในมือ“เอาล่ะ ฟังทางนี้! ฉันขอเสนอนักแสดงพาร์ทไทม์ที่ฉันจ้างให้มาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับทุกคน นี่คือคุณสก๊อตต์ คุณสก๊อตต์คนนี้เป็นมืออาชีพในแวดวงนี้เลยเชียวละ ดังนั้นเชิญสั่งเธอให้แต่งตัวตามที่พ
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังมองเซบาสเตียน สีหน้าของเธอค่อย ๆ เปลี่ยนไป ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่มา นั่นเพราะการล่องเรือสำราญนี้เต็มไปด้วยเด็กที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดอยู่แล้วชุดสูทของเซบาสเตียนปกคลุมบนร่างกายของซาบริน่า ขณะที่เขาดึงเธอเข้าไปกอด จ้องมองไปที่คนอื่น ๆ ด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรเรือสำราญที่อึกทึกก็พลันเงียบไปในทันทีไม่มีใครบนเรือสำราญลำนั้นที่ไม่กลัวเซบาสเตียนเลยหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อของเซบาสเตียน และน้อยคนที่จะกลัวเขา อย่างไรก็ตาม ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เซบาสเตียนได้เข้าครอบครองตระกูลฟอร์ดทั้งหมดโดยยึดตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มฟอร์ด ราวกับว่าเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เหตุการณ์ที่สำคัญของเรื่องราวนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของของกลุ่มบริษัททั้งหมดอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีสัญญาณของความวุ่นวายหรือความระส่ำระสายภายในบริษัทเลยนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกล และการเตรียมความพร้อมที่ไม่ธรร