ทันทีที่ดวงตาของเซบาสเตียนจะจับจ้องไปยังพิมพ์เขียวซึ่งวาดด้วยมือที่ดูเกือบสมบูรณ์แบบ สายตาคู่นั้นก็สะดุดเข้ากับความประณีตของรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งแฝงอยู่ในทุกตัวอักษรสิ่งที่อยู่ในมือของเขาคล้ายกับชิ้นงานที่เขาพบนอกห้องของซาบริน่าเมื่อสองสามวันก่อน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือแบบร่างที่เขาพบไม่ได้ลงรายละเอียดเหมือนฉบับนี้ และมีการแก้ไขเล็กน้อยเพื่อทำให้สมบูรณ์ขึ้น“ใครเป็นคนนำสิ่งนี้มา?” เซบาสเตียนหันไปถามผู้ช่วยข้างกาย“เอ่อ ผู้ช่วยของผู้อำนวยการคอเนอร์ กรุ๊ป คุณ… คุณสก๊อตต์ค่ะ”“พาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้!” เซบาสเตียนสั่งทันที“ค่ะ ผู้อำนวยการฟอร์ด”ผู้ช่วยพาเซบาสเตียนออกจากห้องประชุมและอธิบายตลอดทาง “ผู้อำนวยการฟอร์ด คุณสก๊อตต์รออยู่ที่แผนกต้อนรับ ดังนั้นคุณน่าจะพบเธอได้ในทันทีค่ะ”“อืม” เซบาสเตียนตอบขณะที่นั่งรออยู่ตรงบริเวณแผนกต้อนรับ ซาบริน่าตกใจเมื่อได้ยินเสียงของเซบาสเตียน 'ทำไมถึงเป็นเขา?' เธอครุ่นคิด เนื่องจากเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เธอไม่ต้องการเจอกับเซบาสเตียนในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามแต่ หนทางสุดท้ายที่เธอจะเลือกก็คือเข้าไปยุ่งเก
“ยายบ้านนอกนั่นทำงานได้เร็วกว่าผู้ช่วยหัวหงอกหัวดำพวกนั้นด้วยซ้ำนะ เธอยังดูเด็กอยู่เลยและก็ดูเชื่อง ๆ ด้วย จนถึงตอนนี้ เคยเห็นเธอปริปากพูดอะไรออกมาสักคำแล้วเหรอยัง เธอแค่วิ่งไปตรงนู้นทีตรงนี้ทีเพื่อซื้อข้าวกลางวัน ชานม ของว่างและของกินให้เรา ไม่ดีเหรอไง?”“ขอพูดอะไรหน่อยนะ ใบหน้าของนางก็ดูทรงเสน่ห์ไม่เบาเลย คิดว่าซาบริน่าดูสวยกว่าพวกเราสองคนไหม?”“สวยกะผีน่ะสิ! ไม่เห็นเหรอไงว่านางใส่ชุดอะไรมาทำงาน? ชุดเดียวกันสามวันติดเลยนะเธอ พนันได้เลยว่าเสื้อผ้าของนางอ่ะราคาไม่เกินห้าสิบดอลลาร์ด้วยซ้ำ!”“ฮิ ฮิ ชู่ว! เธอมาแล้ว”คนในสำนักงานหยุดนินทาทันทีที่เห็นซาบริน่าเดินเข้ามา ซาบริน่าได้ยินทุกคำ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจไม่มีอะไรสำคัญสำหรับเธอ นอกจากมีงานทำและได้เงิน เธอจัดข้าวของและนิ่งเงียบไปตลอดทั้งวัน เธอออกจากสำนักงานทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน และมุ่งหน้าไปที่ห้องผู้ป่วยของเกรซเพื่อดูแลเธอหัวใจของซาบริน่าเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อเห็นเกรซเริ่มผอมบางลงทุกวัน ความสัมพันธ์ระหว่างเซบาสเตียนกับเธออาจขึ้นอยู่กับสัญญา แต่เธอคิดจริง ๆ ว่าป้าเกรซเป็นครอบครัวเดียวที่เธอมีอยู่บนโลกใบนี้เมื่อได้เห็นแสงสว
ไนเจลเดินไปหาซาบริน่าและเอ่ยขึ้น “ซาบริน่า หูตาไวอย่างกับสายสืบเชียวนะ คุณรู้ได้ยังไงว่าคนรวยจะมารวมตัวกันที่นี่?”ซาบริน่าไม่ได้สนใจคำถากถางจากเขา แต่กลับยิ้มและเอ่ยถาม “ท่านไนเจลค่ะ จำได้ว่าเจอคุณครั้งสุดท้ายคือเมื่อสองสามวันก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เจอคุณเลย ที่ผ่านมาคุณได้มาที่สำนักงานบ้างรึเปล่าคะ?”“คุณคิดถึงผมเหรอ?” ไนเจลถาม“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ… ”“อ้าว แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?” น้ำเสียงของไนเจลค่อย ๆ แผ่วลงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความดูถูกเหยียดหยาม “ผมไม่ได้ไปที่สำนักงานเพราะยุ่งกับการจัดงานเลี้ยงล่องเรือนี่แหละ งานนี้จะเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งบรรดาแขกเหรื่อที่มีหน้ามีตาในสังคมในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ จะเดินทางมาเข้าร่วม แน่นอนว่าผมต้องรับหน้าดูแลรายละเอียดต่าง ๆ ของงานอย่างจริงจังด้วยตัวเอง ”ซาบริน่าประหลาดใจเล็กน้อยและพูดขึ้น “ฉัน… ฉันไม่ตามคุณมาที่นี่เสียหน่อย”“ไม่เหรอ?” ไนเจลส่งยิ้มไปให้เธอ ในขณะที่เขามองดูซาบริน่าที่สวมเสื้อผ้าราคาถูก“อย่าบอกนะว่าวันนี้คุณมาที่นี่เพราะท่านชอว์น่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็รู้สึกแย่นะที่จะต้องบอกคุณว่าท่านชอว์ถูกคุณปู่ ผู้อาวุโสของตระกูลชอว์กักบริเ
ซาบริน่านั่งอยู่คนเดียวในห้องพักที่ด้านล่าง และตรวจดูกองชุดคอสตูมที่อยู่ตรงหน้า แต่ละชุดและทุกชิ้นทำจากผ้าราคาถูก ซึ่งมีราคาถูกกว่าที่ซื้อได้จากตลาดนัดตอนกลางคืนเสียอีก และที่สำคัญที่สุด ชุดคอสตูมพวกนี้มีผ้าปกปิดน้อยชิ้นมาก จนซาบริน่าสามารถจินตนาการได้ว่าเธอจะโดนดูถูกขนาดไหนถ้าใส่ชุดพวกนี้เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเลือกชุดนักเรียนที่ค่อนข้างดูปกปิดเนื้อหนังของเธอได้มากที่สุดเมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว ช่างแต่งหน้าก็ช่วยเธอแต่งหน้าซึ่งเป็นการแต่งหน้าที่ดูไม่ได้มากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะแต่งออกมาได้ ก่อนที่ซาบริน่าจะออกไปพร้อมกับถาดรองและพบว่ามินดี้กำลังรออยู่มินดี้สำรวจดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพูด “โอ้ มาในลุคเด็กสาวใส ๆ อย่างนั้นเหรอ? คิดให้ดี ๆ นะ ภาพลักษณ์ไร้เดียงสาไม่ช่วยให้เธอได้เงินเยอะขึ้นหรอกนะ” มินดี้จับมือของซาบริน่าและพาเธอไปยังกลุ่มคนจากตระกูลที่ร่ำรวยพร้อมแก้วไวน์ในมือ“เอาล่ะ ฟังทางนี้! ฉันขอเสนอนักแสดงพาร์ทไทม์ที่ฉันจ้างให้มาเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับทุกคน นี่คือคุณสก๊อตต์ คุณสก๊อตต์คนนี้เป็นมืออาชีพในแวดวงนี้เลยเชียวละ ดังนั้นเชิญสั่งเธอให้แต่งตัวตามที่พ
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังมองเซบาสเตียน สีหน้าของเธอค่อย ๆ เปลี่ยนไป ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่มา นั่นเพราะการล่องเรือสำราญนี้เต็มไปด้วยเด็กที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดอยู่แล้วชุดสูทของเซบาสเตียนปกคลุมบนร่างกายของซาบริน่า ขณะที่เขาดึงเธอเข้าไปกอด จ้องมองไปที่คนอื่น ๆ ด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตรเรือสำราญที่อึกทึกก็พลันเงียบไปในทันทีไม่มีใครบนเรือสำราญลำนั้นที่ไม่กลัวเซบาสเตียนเลยหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินชื่อของเซบาสเตียน และน้อยคนที่จะกลัวเขา อย่างไรก็ตาม ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เซบาสเตียนได้เข้าครอบครองตระกูลฟอร์ดทั้งหมดโดยยึดตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในกลุ่มฟอร์ด ราวกับว่าเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ เหตุการณ์ที่สำคัญของเรื่องราวนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของของกลุ่มบริษัททั้งหมดอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีสัญญาณของความวุ่นวายหรือความระส่ำระสายภายในบริษัทเลยนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกล และการเตรียมความพร้อมที่ไม่ธรร
“ไนเจล ช่วยพวกเราด้วย!”“ในตอนนี้ มีแต่คุณเท่านั้นที่สามารถพูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องของคุณได้”“ฉันขอร้องล่ะไนเจล ถ้าคุณเต็มใจที่จะช่วยฉัน ฉันจะยอมยกรถสปอร์ตรุ่นโปรดใหม่ล่าสุดให้...โดยไม่มีเงื่อนไขเลยก็ได้!”ไนเจลยังคงยิ้มขณะตอบ “พูดแบบนั้นเองนะ!”“เออสิ!”“เอาล่ะ ฉันจะให้คำมั่นสัญญากับพวกคุณทั้งหมด มันจะต้องไม่เป็นไร! พวกคุณจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน ลูกพี่ลูกน้องของฉันจะไม่ขัดขวางครอบครัวที่มีอิทธิพลของพวกคุณเพียงเพราะผู้หญิงที่ดูเหมือนขอทานแบบนั้นอย่างแน่นอน เขายุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องของตัวเองมาก เขาจะมีเวลามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกคุณทุกคนได้ยังไง?”“แค่เล่นต่อกันไปเลย… ทุกคน ขอให้สนุกนะ”“ก็ดี ถ้าไนเจลพูดแบบนั้น ฉันได้สบายใจมากขึ้น”“ให้ไนเจลเป็นผู้จัดงานหลักในกิจกรรมต่อไป แบบนี้ เราจะได้เล่นสนุกจนหนำใจไปเลย”“ขอบคุณนะ ไนเจล!”“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่!” ไนเจลยิ้มอย่างมีเลศนัยแม้ว่าการล่องเรือจะหรูหราและยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้พวกเขาขาดใครบางคน เช่นซาบริน่าที่พวกเขาสามารถเล่นด้วยเพื่อความบันเทิงได้ ยิ่งไปกว่านั้น การมาของเซบาสเตียนทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก และพวกเขาไม่รู้สึกสนุกอีกต่อ
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นขณะที่เธอจ้องไปที่เซบาสเตียน ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรถึงอย่างนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหินจนดูเหมือนเย็นชา “คุณฟอร์ดคะ คุณกำลังพยายามจะพูดอะไรกันแน่? แผนการของฉัน แผนการที่ฉันวางไว้ใช้กับคุณ คุณยังไม่รู้อีกรึไง? ในเมื่อคุณเป็นคนเปิดโปงฉันเอง แล้วยังจะมาถามอะไรฉันอีก?”“ดูเหมือนเธอจะลืมสิ่งที่ฉันเคยเตือนเธอไปแล้ว” เสียงของชายผู้นั้นดูโหดร้ายน้อยกว่าเมื่อก่อน“ฉันไม่ได้ลืม” ซาบริน่าก้มศีรษะลง ยิ้มจาง ๆ เป็นการตอบรับเซบาสเตียนเตือนเธอว่าอย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นในขณะที่เธอยังคงมีความสัมพันธ์ในชีวิตสมรสกับเขา แม้จะไม่มีคำเตือนของเขา แต่เธอจะไปคบกับใครได้ล่ะ?ในบรรดาชายหญิงบนเรือสำราญ ไม่มีใครมองว่าเธอเป็นมนุษย์ แม้แต่ไนเจลที่ปฏิบัติต่อเธออย่างเหมาะสม ก็มีสายตาที่ดูเหมือนเขากำลังเล่นตลกกับเธอในสายตาของพวกเขา เธอเป็นแค่เรื่องตลกที่น่าสมเพช“ฉันแค่อยากจะหาเงินแค่นั้นเอง น่าเสียดายที่เงินกำลังจะลอยเข้ามาหา แต่ฉันถูกคุณมาขัดจังหวะ”ซาบริน่าพูดตามความจริง แต่ไม่มีเสียงบ่นใด ๆ ในน้ำเสียงของเธอ กลับดูเหมือนว่าเธอกำลังอธิบายตัวเองอยู่มีเพียงความรู้สึกหมดหนทาง
เหลือเพียงเซบาสเตียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นวันต่อมาซาบริน่าตื่นนอนแต่เช้าตามปกติ และกำลังเตรียมที่จะออกไปหลังจากล้างหน้า อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้มีโอกาสเดินออกไป เธอก็ได้ยินเสียงทุ้มดังมาจากข้างหลังเธอ“เดี๋ยวก่อน”ซาบริน่าหันกลับไปหาเซบาสเตียนที่สวมสูทและรองเท้าหนัง กำลังถือกระเป๋าเอกสาร ซาบริน่ามองเขาด้วยความสับสน“เช้านี้เราไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลกัน” เซบาสเตียนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลซาบริน่าพูดไม่ออกเธอเดินตามหลังเซบาสเตียนไปอย่างเชื่องช้า เดินออกมาจากลิฟต์และเห็นรถของคิงส์ตันจอดอยู่บริเวณทางเข้าซาบริน่าเดินผ่านหน้ารถโดยไม่ตั้งใจจะลดความเร็วลง ขณะที่เธอเกือบจะผ่านประตูไปแล้ว เซบาสเตียนก็คว้าแขนของเธอไว้ซาบริน่าตัวสั่นด้วยความประหลาดใจ“ขึ้นไปสิ” เขาพูดอย่างใจเย็นขณะเปิดประตูรถ โบกมือให้เธอเข้าไปก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้ตัวเอง และเคลื่อนตัวเข้าไปนั่งข้างเธอการกระทำที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นทำให้ซาบริน่ารู้สึกผิดปกติเธอคุ้นเคยกับการที่เขาปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา เธอไม่คาดคิดว่าพฤติกรรมจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เซบาสเตียนดูเหมือนจะไม่ได้หงุดหงิดอะไร