เฉียวอีตอบโดยไม่ต้องคิด: "ยกเว้นเรื่องนี้ ให้ฉันสัญญาอะไรกับคุณก็ได้ทั้งนั้นค่ะ"หลู้เหวินโจวบีบคางของเธอแล้วหัวเราะเบา ๆ :"แต่ฉันต้องการแค่สิ่งนี้เท่านั้น"“หลู้เหวินโจว แม้ว่าคุณจะคิดว่าฉันมีจุดประสงค์ที่เข้าหาคุณ แต่ฉันก็ดูแลคุณอย่างดีตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันไม่ได้เป็นหนี้คุณเลย คุณไม่มีเหตุผลที่จะไม่ปล่อยฉันไป”หลู้เหวินโจวมองดูดวงตาที่ดื้อรั้นของเฉียวอีกับปากเล็ก ๆ นั้นที่กำลังพูดพล่ามอยู่รวมทั้งร่องอกของเธอที่โผล่ออกมานั้นลูกกระเดือกของเขาก็อดไม่ได้ที่จะขยับเนื่องจากกลืนน้ำลายอยู่หลายครั้งเขากอดเฉียวอีมาไว้บนตัก วางคางลงบนไหล่ของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง: “งั้นบอกฉันมาอย่างละเอียดหน่อยสิ ว่าเธอดูแลฉันยังไงบ้าง?”เสียงอันน่าดึงดูดที่ทุ้มลึกของเขาทำให้หนังศีรษะของเฉียวอีชาไป และมือใหญ่ ๆ ของเขาก็ล้วงเข้าไปในเสื้อผ้าของเฉียวอีอย่างคิดไม่ซื่อเฉียวอีอยากจะผละตัวออก แต่หลู้เหวินโจวก็จับเธอเอาไว้แน่นด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงก้มหัวลงกัดไหล่ของเขาเธอใส่ความคับข้องใจและความไม่พอใจทั้งหมดไว้บนรอยกัดนี้และเธอจะปล่อยก็ต่อเมื่อได้รสเลือดในปากเฉียวอีมีน้ำตาไหล และเสียงของเธ
เฉียวอีเงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาของเขาเย็นชา และเป็นสีแดงเล็กน้อย"ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ ประธานหลู้จะจับฉันวางบนโต๊ะผ่าตัดและเอาเด็กออกหรือเปล่า?"ดวงตาของหลู้เหวินโจวมืดมนลงเล็กน้อย และเขาจ้องไปที่ใบหน้าซูบผอมของเฉียวอีเป็นเวลานานหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นว่า "เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมไม่บอกฉัน"เฉียวอีหัวเราะเยาะ: "ถ้าฉันบอกคุณก่อนหน้านี้หนึ่งวัน จากนั้นก็คงเอาเด็กออกเร็วกว่านี้หนึ่งวันใช่ไหม?"“เฉียวอี ตั้งใจฟังฉันหน่อยได้ไหม”หลู้เหวินโจวบีบคางของเธอเฉียวอีมองหลู้เหวินโจวด้วยตาสีแดงก่ำ "ประธานหลู้กำลังจะแต่งงานกับและมีลูกกับคนอื่นอยู่แล้ว แม้ว่าฉันจะมีลูก คุณจะยังสนใจด้วยเหรอ?"หลู้เหวินโจวมองดูใบหน้าที่ดื้อรั้นของเฉียวอีแล้วแอบกัดฟันกรอดไม่ว่าเฉียวอีจะดิ้นรนแค่ไหน เขาก็คว้าข้อมือของเธอแล้วเดินไปที่ห้องผ่าตัดสูติ-นรีเวชเฉียวอีอยากจะหลุดพ้น แต่เสียงที่ไม่ยอมให้ขัดจังหวะของหลู้เหวินโจวก็กลับดังเข้ามาในหู"ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวชที่ดีที่สุดให้กับเธอ"เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ใจที่แตกสลายของเฉียวอีก็เจ็บปวดยิ่งกว่าเดิมขณะที่ด้านหนึ่งหลู้เหวินโจวพาผ
“เฉียวอี เพียงเพราะเธออารมณ์เสียที่ฉันเมินเธอ เธอก็เลยเอาลูกของฉันออกเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอจะใจร้ายได้ขนาดนี้!”เฉียวอีจ้องมองเขาด้วยดวงตาสีแดงเข้ม: "ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ใช่คนที่ฆ่าเด็ก แต่เป็นคุณ!""ตัวอักษรสีดำบนกระดาษขาวมันเขียนเอาไว้อยู่ เธอยังจะเล่นลิ้นอยู่อีก!"“ถ้า ฉันบอกว่ามีคนดัดแปลงเวชระเบียน คุณจะเชื่อหรือเปล่าล่ะ?”จู่ ๆ หลู้เหวินโจวก็ยิ้มเยาะ "โรงพยาบาลนี้เป็นของตระกูลหลู้ เมื่อเคสถูกป้อนลงในฐานข้อมูล มันก็จะถูกล็อค และแม้แต่ฉันเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ถ้าเธออยากโกหก ก็ต้องทำร่างล่วงหน้า!"เขาปล่อยมือใหญ่แล้วจ้องมองไปที่รอยสีแดงบนคอสีขาวราวกับหิมะของเฉียวอี พร้อมกับรู้สึกเจ็บแปลบในใจเฉียวอีดูซีดเซียวและจ้องมองไปที่หลู้เหวินโจวนี่ก็คือชายที่เธอรักมาเจ็ดปี และดูแลมาสามปีไม่ว่าในตอนไหน เขาก็ไม่มีวันเชื่อในคำพูดของเธอเลยเฉียวอียิ้มเศร้าเล็กน้อยความเกลียดชังในดวงตาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ“หลู้เหวินโจว คุณควรดีใจไม่ใช่เหรอ? ดีใจที่ฉันไม่ได้ใช้ลูกมาบังคับให้คุณแต่งงานกับฉัน”“เธอยังกล้าคิดอีก! แม้ว่าจะมีลูกจริง ๆ ฉันก็จะไม่แต่
พูดจบ เธอก็คว้าข้อมือของซ่งชิงหยาซ่งชิงหยารู้สึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วร่างกายของเธอในทันที“เฉียวอี มือฉันยังไม่หายดี ถ้าเธอกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะให้เธอแบกรับผลที่จะตามมา!”เสียงเยาะเย้ยอันเย็นชาดังออกมาจากลำคอของเฉียวอี: "ซ่งชิงหยา เธอไม่รู้เหรอว่าคนที่ไม่มีอะไรจะเสียเสมือนดั่งคนที่เดินด้วยเท้าเปล่านั้นไม่กลัวคนที่สวมรองเท้า เธอใส่ร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าฉันไม่ชำระบัญชีนี้กับเธอ มันจะคู่ควรกับเธอได้อย่างไร?เธอกล่าวหาว่าฉันทำให้มือของเธอบาดเจ็บ และขัดขวางไม่ให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันเปียโนอย่างผิด ๆ ไม่ใช่เหรอ?งั้นดีเลย ฉันจะสนองความปรารถนาของเธอ และทำให้เธอได้รู้ว่าการบาดเจ็บนั้นมันหมายความว่าอย่างไร!"พูดจบ เธอก็ได้ยินเสียง ‘กร๊อบ’ ที่คมชัด ขณะที่เธอใช้กำลังอยู่และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่แสบหูของซ่งชิงหยา“โอ๊ย ๆ เฉียวอี มือฉันหักจริง ๆ แล้วนะ เธอรู้ไหมว่ามือฉันนั้นมีค่าเท่าไหร่ ต่อให้เธอล้มละลายไปก็ยังจ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“งั้นพอดีเลย ฉันไม่เคยวางแผนที่จะจ่ายเงินเลย!”พูดจบ ก็ออกแรงอีกครั้ง และมีเสียงหักชัดเจนมาจากอีกนิ้วหนึ่งซ่งชิงหยาไม่เคยเผชิญกับการถูกทารุณก
ซ่งชิงหยาหลั่งน้ำตามือที่บาดเจ็บข้างนั้นถูกยกขึ้นต่อหน้าต่อตาของหลู้เหวินโจวเธอรีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา และรีบกลับมา เพียงเพื่อจะจับเฉียวอีแต่กลับไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะมาเห็นฉากนี้เข้าพี่เหวินโจวรู้ว่าเฉียวอีเอาลูกออกไปแล้ว แต่เขาก็ยังใจดีกับเธอมาก ความคิดมุมานะที่เขาจะออกมาจากเธอให้ได้ ล้มเหลวลงอีกครั้งหรือเปล่า?ซ่งชิงหยาร้องไห้และโน้มตัวไปหาหลู้เหวินโจวแต่ก่อนที่เธอจะได้เข้าใกล้ หลู้เหวินโจวก็ดึงเฉียวอีและถอยออกไปเขามองไปที่ซ่งชิงหยาอย่างเย็นชา และพูดโดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ อยู่ในน้ำเสียง“เธออยู่กับฉันตลอด แล้วจะไปทำร้ายเธอได้ตอนไหนกัน?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งชิงหยาก็ตกใจทันทีเธอมองหลู้เหวินโจวอย่างเหลือเชื่อ และพูดทั้งน้ำตาว่า: "เมื่อกี้ในตอนที่เฉียวอีอยู่ในห้องน้ำ เธอทำร้ายฉันค่ะ พี่เหวินโจว ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะคะ หากพี่ไม่เชื่อฉันก็ดูคลิปวิดีโอได้เลยค่ะ"หลู้เหวินโจวพูดกับบริกรข้าง ๆ : "ไปเอาวิดีโอออกมาให้ฉันดูสิ"สิบนาทีต่อมา ผู้จัดการบาร์ก็เข้ามาขอโทษ: "ประธานหลู้ กล้องในห้องน้ำนั้นเสียครับ บันทึกอะไรไว้ไม่ได้เลย"ซ่งชิงหยากำลังจะระเบิดด้วยความโกร
หลู้เหวินโจวมองเธอด้วยใบหน้าที่มืดมน และน้ำเสียงของเขาก็ดูไม่เป็นมิตรเลย“ให้โอกาสเธอแล้วแต่เธอไม่ต้องการมัน และตอนนี้มานึกเสียดายแล้ว และยังมาจับตาดูคุณย่าของฉันเลยเหรอ?”เฉียวอีไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเธอหันไปมองหญิงชราที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า: "นี่คือหลานชายที่คุณพูดถึงเหรอคะ?"หญิงชรายิ้มแล้วพยักหน้า: "ใช่แล้ว พวกเธอรู้จักกันด้วยเหรอ? งั้นก็ดีเลย มีรากฐานของความสัมพันธ์อยู่ ทั้งสองจะได้ไม่อึดอัดกัน"เฉียวอียิ้มเยาะ: "ขอโทษนะคะ คุณย่า ในเมื่อครอบครัวของคุณมารับคุณ ฉันยังมีอย่างอื่นที่ต้องไปทำต่อ ขอตัวก่อนนะคะ"ทันทีที่เฉียวอียืนขึ้น ข้อมือของเธอก็ถูกหลู้เหวินโจวคว้าเอาไว้“ชนคนแล้ว แล้วจะไปแบบนี้เนี่ยนะ?”เฉียวอียิ้มอย่างเย็นชา: "ประธานหลู้ลืมไปแล้วเหรอว่ารถของฉันมีกล้องอยู่ ถ้าจะจัดกลุ่มมาต้มตุ๋นว่าฉันชนคน มันใช้ไม่ได้ผลหรอก!"เธอหันไปอย่างไร้ความปราณีหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของหลู้เหวินโจวดังขึ้นมา“เฉียวอี ทำไมเธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเล่นเกมกับฉันด้วยล่ะ ตราบใดที่เธอยอมรับคำขอของฉัน ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยสำหรับตระกูลเฉียว”
เฉินจัวรีบตอบขึ้นมาทันที: "เลขาเฉียวอยู่ที่ห้องทำงานของคุณ มาได้ครึ่งชั่วโมงแล้วครับ"หน้าอกของลู่เหวินโจวไม่รู้ว่าโดนอะไรกระแทกเสียงก็เข้มขึ้นเล็กน้อย:"เลื่อนการเดินทางที่เหลือออกไป"หลังจากพูดจบ เขาก็เดินอย่างรวดเร็วไปยังห้องทำงานด้วยขาอันยาวของเขาประตูห้องทำงานถูกผลักให้เปิดออก และสิ่งที่เห็นคือร่างที่คุ้นเคยอยู่หน้าหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานหญิงสาวสวมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างเรียบง่ายเสื้อยืดสีดำ และกระโปรงลำลองสีเขียวเข้มผมของเธอถูกมัดมวยแบบหลวมๆเผยคอเรียวยาวราวกับ หิมะต้นขาเรียวสีขาวนวลทั้งสองข้างลู่เหวินโจวเพียงชำเลืองมอง ราวกับว่ามีที่ไหนสักแห่งในร่างกายของเขาถูกไฟไหม้เขาระงับอารมณ์ในหัวใจของเขาเขาเดินไปหาเฉียวอีอย่างไม่ตั้งใจเสียงทุ้มลึกและมีเสน่ห์"คิดออกแล้วเหรอ?"เฉียวอีค่อยๆหันกลับมามองลู่เหวินโจวอย่างไม่แยแสใบหน้าที่ละเอียดอ่อนนั้นดูเหมือนจะมีน้ำตาที่ไม่ได้เช็ดคงเหลืออยู่ดวงตาสีน้ำตาลที่แวววาวยังคงเต็มไปด้วยความชื้นแต่มีความตั้งใจที่จะรีบเร่งไปยังลานประหารนักโทษเสียงของเฉียวอีแหบแห้ง:"ลู่เหวินโจว"เธอพูดเบาๆกัดริมฝีปากที่สั่นเทาของเธอแน่น
เมื่อเฉียวอีมาถึงสถานีตำรวจ หานจืออี้ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องสอบสวนพร้อมกับกุญแจมือเขามองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ตรงข้ามเขาด้วยใบหน้าที่สงบ ปากยังคงแก้ตัวให้ตัวเองไม่หงยุด โดยไม่มีที่ท่าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยเฉียวอีเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และถามอย่างสุภาพว่า“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนเธอ เกิดอะไรขึ้นคะ?”ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตอบหานจืออี้ก็รีบพูดว่า"หลังจากที่แกหายตัวไปเมื่อวานนี้เหยียนซิงเฉิงก็ไปหาพ่อของเขาเพื่อช่วยแก และเหลือฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นฉันเดาว่าแกต้องไปหาไอ้เลวนั่น รู้สึกไม่สบายใจก็เลยไปดื่มเหล้าที่ผับฉันบังเอิญเห็นซ่งชิงหย่าที่นั่นด้วยในเวลานั้นเธอกำลังพูดถึงลุงเฉียวอย่างมีความสุข แต่แกไม่เห็นสีหน้ายินดีของเธอฉันอดไม่ได้ที่จะด่าเธอสองสามคำ แต่ฉันก็ด่าเธอได้ไม่กี่คำ สรุปคือวันนี้ตอนเช้า พวกเขาพาฉันมาที่นี่ และบอกว่ารถของซ่งชิงหย่าถูกทุบและพวกเขาสงสัยว่าเป็นฉันอธิบายยังไงเขาก็ไม่ฟัง"เมื่อเขาได้ยินชื่อซ่งชิงหย่า เฉียวอีก็กำหมัดแน่นเธอไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่าซ่งชิงหย่าใช้วิธีใส่ร้ายป้ายสี เช่นเดียวกับวิธีที่ใช้กับเธอดวงตาที่สวยงามของเธอกลายเป็นเย็นชาทันทีเสียง