มองดูดวงตาที่สุกใสของเขา เปล่งประกายเหมือนตื่นเต้น ต่างจากวินาทีก่อนราวกับเป็นคนละคน ฉู่เชียนหลีงงงวยไปสองวินาที ถามโดยไม่รู้ตัว“ทำอะไร?”เฟิงเย่เสวียนเผยอมุมปาก ใช้ภาษาปากพูดออกมาคำหนึ่งโดยไร้เสียง“รัก[footnoteRef:1]…” [1: ทำรัก ร่วมรัก] “!”พริบตานั้น ร่างกายฉู่เชียนหลีแข็งทื่อ ใบหน้าแดงก่ำ ในห้องยังมีคนตั้งมากมายเช่นนั้น ถูกเขาจ้องมอง รู้สึกเพียงเหมือนถูกมีดจี้ข้างหลัง เขินอายจนเกือบทนไม่ไหวด่าแม่XX!ภารกิจระดับชาติ!X!กลางวันแสกๆ เขายังบาดเจ็บเช่นนั้น ขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ กลับยังคิดจะ…“เชียนหลี นี่เจ้าเป็นฝ่ายเรียกร้องเองนะ ข้าสงเคราะห์เจ้า จดไว้ในบัญชีก่อน เจ้าพูดแล้วห้ามไม่รักษาคำพูดนะ” เฟิงเย่เสวียนมองนางอย่างลึกซึ้งท่าทางนั้น ไร้เดียงสาเพียงใด ก็วอนกระทืบเพียงนั้นน่าสงสารเพียงใด ก็หน้าเนื้อใจเสียเพียงนั้นเขาจงใจ!ฉู่เชียนหลีกำหมัด กัดฟันที่นางพูดเมื่อครู่คือ ‘อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ’ แต่ไม่ใช่ ‘อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ’ ความหมายของนางคือท่าออกกำลังกายชุดนี้ ‘อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ’ แต่ไม่ใช่คนสองคน ‘อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้อ
ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เขาไม่กล้าพูดส่งเดชเวลาเดียวกัน เขาไม่เชื่อ นายท่านวางแผนอย่างลับๆ มาตั้งนาน ตอนลงมือยังถูกเจ้ากรมคลังตลบหลังหนึ่งตลบ คนที่จัดการยากเช่นนี้ กลับถูกพระชายาฆ่าโดยเทพไม่รู้ผีไม่เห็น?เขาไม่เชื่อ!พระชายาจะร้ายกาจกว่านายท่านได้อย่างไร?คนร้ายต้องเป็นคนอื่นแน่นอน!ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม เจ้ากรมคลังตายแล้ว รัชทายาทไม่มีแหล่งทรัพยากรทางการเงิน แผนการที่วางไว้ชะงัก เป้าหมายของพวกเขาบรรลุผลแล้วรัชทายาทยิ่งตื่นตระหนก ก็ยิ่งเผยจุดอ่อนได้ง่ายครั้งนี้เฟิงเย่เสวียนจะไม่ใจอ่อนอีก!เฟิงเย่เสวียนค่อยๆ หรี่ตาลง ความเยือกเย็นปรากฏในแววตา มุมปากเย็นชาเล็กน้อย “อาศัยตอนที่เจ้าป่วย เอาชีวิตเจ้า!”จวนรัชทายาททหารยามสองคนเฝ้าประตู ยืดหลังตรง สายตามองไปข้างหน้า บนถนนที่ปูเต็มไปด้วยกระเบื้องหิน ร่างเพรียวบางที่มีเสน่ห์ร่างหนึ่งค่อยๆ เดินมาศีรษะสวมเครื่องเงิน ถักผมเปีย ข้อมือใส่กำไลเงิน สร้อยข้อเท้าเงิน เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของต่างถิ่น พร้อมกับจังหวะฝีเท้า เครื่องเงินกระทบกัน เกิดเสียงใสที่ดังชัดเจน ไพเราะเป็นพิเศษยกปลายเท้าเบาๆ เดินไปทางประตูใหญ่ของจวนรัชทายาท“หยุดอยู่ตรงนั้น!
ระหว่างรัชทายาทกับอ๋องเฉิน ต้องเกิดการแย่งชิงแน่นอน ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ล้วนจะเกี่ยวโยงถึงจวนรัชทายาทกับจวนอ๋องเฉินและผู้คนมากมายถึงเวลาต้องเลือกแล้ว…คนฉลาดจะไม่เคยนั่งรอความตาย ไหลไปตามกระแส มีเพียงเป็นฝ่ายรุก จึงจะสามารถครอบครองสิทธิ์ในการเลือก!แววตาฉู่หงหลวนสั่นไหว กล่าวเสียงดังทันที “ไฉ่เตี๋ย ไฉ่เตี๋ย!”ตั้งแต่พระชายารองฉู่เข้าจวนรัชทายาท พระชายารัชทายาทก็ไม่เคยใช้ชีวิตอย่างสบายใจแม้แต่วันเดียว แค่นึกถึงนางจิ้งจอกนั่น ดึงดูดความสนใจทั้งหมดของรัชทายาทไป นางโมโหจนเจ็บหัวใจ ตับ ม้าม ปอด และไตหงุดหงิดชะมัด!ภายใต้การเดินตามของสาวใช้หกคน พระชายารัชทายาทก้าวเท้ายาวอย่างเร่งรีบ ตอนที่เดินผ่านเรือนหลังหนึ่ง บังเอิญได้ยินคำพูดที่ปลื้มปีติ“สวรรค์! จริงหรือ? นี่เป็นเรื่องจริงหรือ! คุณหนู ท่านจะเป็นพระชายารัชทายาทแล้ว!”ฝีเท้าพระชายารัชทายาทชะงัก สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบวิ่งไปหลบที่หน้าประตูเรือน พลางแอบดูภายในเรือน เป็นฉู่หงหลวนกับไฉ่เตี๋ยสาวใช้ข้างกายไฉ่เตี๋ยดีใจจนกระโดดโลดเต้น“เยี่ยมไปเลย! คุณหนู! ต่อไปท่านก็เป็นนายหญิงของจวนรัชทายาทแล้ว รัชทายาทโปรดปรานและรักท
“เจ้าไม่ชอบหรือ?” เขาถามอย่างตะลึงงัน และยังกางแขนออก ตั้งใจหมุนรอบตัวต่อหน้านางหนึ่งรอบ นี่เป็นชุดใหม่ของเขา ยังไม่เคยใส่เลยหมุนอีกรอบชมเขาหน่อยมันจะตายหรือ?หมุนอีกรอบเขารู้สึกว่าตนเองดูดีมาก มีราศีมาก หล่อเหลารวยเงิน มีสถานะ มีตำแหน่ง ขอแค่เป็นผู้หญิงไม่มีใครสามารถต้านทานเสน่ห์ของเขาหมุนอีกรอบ…อวิ๋นอิง “...”รู้สึกเพียงเขาเหมือนลูกข่าง หมุนไปหมุนมาอยู่ตรงนั้น ราวกับคนบ้าไม่ถูกเหตุใดนางต้องคุยกับคนบ้า?นางจะตั้งใจฝึกยุทธ์ เพิ่มศักยภาพของตนเอง พิสูจน์ความแข็งแกร่ง ตระหนักถึงคุณค่าตนเอง จึงจะ…สามารถแก้แค้นให้ท่านแม่นางเม้มมุมปากเล็กน้อย มองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาซับซ้อนเขาร่าเริงมาก จิตใจดีมาก น่ารักมาก แต่…พวกเขาไม่ใช่มนุษย์โลกเดียวกันนางกำกระบี่ในมือแน่น ข่มอะไรบางอย่างเงียบๆ แล้วปล่อยมืออย่างเงียบๆ หมุนกายเดินจากไป ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่พูดอะไรสักคำ“เอ๋?”“อวิ๋นอิง! อวิ๋นอิง รอข้าด้วย!”“เจ้าอย่าไปสิ พวกเรามาเล่นด้วยกันเถอะ! ข้ารู้สถานที่สนุกๆ เยอะเลย เจ้าต้องชอบแน่นอน!”“อวิ๋นอิง!”คนหนึ่งไป คนหนึ่งไล่ตามเขาไล่ตามเหมือนตั๊กแตน กระโดดซ้ายกระโดดขวารอ
เขากับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งหารือเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างในห้อง และยังให้นางฟังไม่ได้?เมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นเช่นนี้ฉู่เชียนหลีเงยหน้า สายตามองข้ามหานเฟิง จ้องประตูบานที่ปิดสนิท ถามโดยตรง“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”หานเฟิงชะงักเล็กน้อย รู้สึกว่าพระชายาอาจเข้าใจผิด เขารีบกล่าว“พระชายา นางเป็นแค่คนไม่สำคัญคนหนึ่ง! หารือเรื่องสำคัญกับนายท่าน นอกจากนี้ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ! ท่านอย่าคิดมาก นายท่านไม่ใช่คนเช่นนั้น!”ส่วนเนื้อหาที่หารือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน“พระชายา ท่านน่าจะเชื่อใจนายท่านกระมัง?” เขาทำหน้ายิ้มแย้มอย่างคาดหวัง ยิ้มจนเผยให้เห็นฟันขาวทั้งสองแถวฉู่เชียนหลีเหลือบมองท่าทางที่ยิ้มแย้มของเขา ทันใดนั้น แสร้งยิ้มเผยให้เห็นใบหน้ายิ้มที่ ‘เป็นมิตร’ ‘อ่อนโยน’ ‘หวานแหวว’“หานเฟิง นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า? เขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น ยังไม่ลืมที่จะจัดการเรื่องงาน หรือข้าจะโกรธ? หรือในสายตาเจ้า ข้าเป็นคนประเภทไม่มีเหตุผล?”ยิ้มแย้ม อ่อนโยนจนแทบสามารถบีบเค้นน้ำออกมาหานเฟิงได้ยินคำนี้ แอบถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่โกรธก็ดี…ตั้งแต่ครั้งก่อนหลังทำกระเป๋าเงินของเยว่เอ๋อร์สกปรก เยว่เอ๋อร์
เซียวจือฮว่าเม้มปาก ตอนที่สะบัดแขนเสื้อกำลังจะเดินจากไป มีเสียงหัวเราะที่อ่อนโยนของผู้หญิงดังขึ้นจากข้างหลัง“คิดว่าท่านนี้ก็คือเพื่อนตั้งแต่วัยเด็กของอ๋องเฉิน คุณหนูเซียวกระมัง?”ฝีเท้านางชะงัก หันกลับไปมองภายในห้อง มีหญิงงามวัฒนธรรมต่างถิ่นคนหนึ่งเดินออกมา รูปร่างเค้าโครงของนางชัดเจน อวัยวะสัมผัสทั้งห้าลึกล้ำ รูปร่างสูง แต่งตัวสะดุดตา ใบหน้าที่สวยงามนั่น ทำให้เห็นแค่ปราดเดียวก็ไม่สามารถลืมนางสวยกว่าฉู่เชียนหลีพันเท่า หมื่นเท่าจริงๆ นะผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวข้างกายอ๋องเฉิน หาใช่คนที่ฉู่เชียนหลีสามารถชนะหรือ?ครั้งหนึ่ง ฉู่เชียนหลีชนะนาง ตอนนี้ มีศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่งมา เกรงว่าอีกไม่นาน ฉู่เชียนหลีก็จะได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้แล้ว!เซียวจือฮว่าพลางวางแผนในใจ แค่คิดถึงภาพนั้น ก็รู้สึกหายแค้นแล้ว นางแอบหัวเราะอย่างเย็นชา บนใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่สง่างาม“เจ้าคือ…”“ข้าชื่ออูหนู มาจากเหมียวเจียงอันห่างไกล” ผู้หญิงคนนั้นเดินออกมา เครื่องเงินบนร่างกายกระทบกัน เสียงใสไพเราะดังชัดเจน เครื่องเงินอันประณีตสะท้อนแสงภายใต้ดวงอาทิตย์ ขับผิวที่เรียบเนียนของนางให้ขาวเหมือนหิมะ ไม่ต้องพูดถึงว่
ความผิดร้ายแรง ถูกตีตราไว้บนศีรษะฉู่หงหลวนทันทีสาวใช้ไฉ่เตี๋ยรีบวิ่งเข้ามากล่าวอธิบาย “พระชายารัชทายาท ไม่ใช่เช่นนี้นะเจ้าคะ! เมื่อครู่คุณหนูของบ่าวไม่ได้แตะต้ององค์หญิงซือเอ๋อร์เลย นางล้มเอง…”“ข้ากำลังพูด เจ้ามีสิทธิ์พูดแทรกตั้งแต่เมื่อไร!”“อ๊า!”พระชายารัชทายาทเหวี่ยงหลังมือออกไปอย่างแรง ตบจนไฉ่เตี๋ยเซไปชนโต๊ะพลิกคว่ำ จาน อาหาร ชุดน้ำชาและอื่นๆ ตกกระจายเกลื่อนพื้นเฟิงเจิ้งซือหลบอยู่ในอ้อมกอดของมารดา ดวงตาที่เบิกกว้างกะพริบปริบๆ มองไปทางฉู่หงหลวนอย่างมีเจตนาร้ายยื่นมือออกไปชี้“ท่านแม่ นางตีข้า ข้าจะบอกเสด็จปู่ จะเอาชีวิตสุนัขนาง!”ฉู่หงหลวนเม้มมุมปาก “ข้าไม่ได้ทำ”นางไม่ยอมรับ “เมื่อครู่เข้าไม่ได้แตะ…”เพียะ!พระชายารัชทายาทเหวี่ยงฝ่ามือออกไปโดยตรง “บังอาจ!”“ความหมายของเจ้าคือ เด็กห้าขวบโกหกหรือ?” นางกล่าวด้วยความโกรธ “ซือเอ๋อร์เป็นองค์หญิง สถานะสูงศักดิ์ แม้เจ้าเป็นลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ แต่ก็เป็นแค่ข้าราชบริพาร เป็นสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งของราชวงศ์เท่านั้น เจ้าใจกล้ายิ่งนัก!”เสียงที่โกรธเคืองและดุร้ายดังขึ้นเรื่อยๆชี้ชัดความผิดร้ายแรงโดยตรงฉู่หงหลวนถ
“ซือเอ๋อร์ พวกเราไป!”พระชายารัชทายาทหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกจากแขนเสื้อ พลางเช็ดสองมือ หลังจากเช็ดจนสะอาดแล้ว โยนใส่หน้าฉู่หงหลวน จับมือเล็กๆ ของเฟิงเจิ้งซือคนทั้งกลุ่มจากไป“คุณหนู!”ในที่สุดไฉ่เตี๋ยที่ถูกจับกดไว้ก็ได้รับอิสรภาพ นางกระโจนเข้ามาพร้อมกับเสียงร้องไห้“คุณหนู ท่านเลือดออกแล้ว…ว้าย…เลือดเยอะมาก…พระชายารัชทายาททำเกินไปแล้ว! นางรังแกท่านเช่นนี้ได้อย่างไร!”“รัชทายาทรักท่านเช่นนั้น นางกล้า…”ใบหน้า มือ เสื้อผ้าของฉู่หงหลวน แทบไม่มีที่ใดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สะบักสะบอมมากนางอดทนต่อความเจ็บปวดทั่วร่าง ใช้มือที่เปื้อนเลือด เก็บหนังสือปลดขึ้นอย่างสั่นเทา เปิดออกข้างในมีตราประทับส่วนตัวของรัชทายาท หนังสือปลดฉบับนี้มีผลหากรัชทายาทสู้อ๋องเฉินไม่ได้ ถึงเวลา นางอาศัยหนังสือปลดฉบับนี้ สามารถเลี่ยงความสัมพันธ์กับจวนรัชทายาทหากรัชทายาทชนะอ๋องเฉิน อาศัยความรักที่รัชทายาทมีต่อนาง และเรื่องที่นางได้รับบาดเจ็บ สามารถแว้งไปกัดพระชายารัชทายาท ไม่แน่อาจสามารถทำให้รัชทายาทปลดพระชายารัชทายาท แต่งตั้งนางแทนไม่ว่าจะรุกหรือรับก็ทำได้นางพับหนังสือปลด ใส่เข้าไปในอกอย่างระมัดระวั