Share

บทที่ 18

เวินหนี่เห็นว่าลู่เซินยังอยู่ใกล้ ๆ กลัวว่าเขาจะได้ยินเข้า แล้วสถานการณ์จะกระอักกระอ่วน จึงบอกให้ถังเยาหยุดพูดไร้สาระ

ถังเยาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อฟังและไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น

ลู่เซินทักทายผู้อื่นอย่างสุภาพพอเป็นพิธี และกลับมาหาเวินหนี่

ถังเยาเอ่ยทัก “คุณลู่ คุณเป็นแขกที่หาตัวได้ยากนะคะ”

ลู่เซินตอบ “นิทรรศการของคุณถังประสบความสำเร็จมาก ผมคิดว่ามันจะต้องมีอิทธิพลมากแน่ ๆ ครับ”

“งานอดิเรกของนักวิชาการเทียบไม่ได้กับคุณลู่เลยค่ะ” ถังเยาสะกิดเวินหนี่ “ฉันได้ยินมาว่าพวกคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากัน งั้นคุณช่วยไปส่งเวินหนี่หน่อยได้ไหมคะ ตอนบ่ายเธอต้องกลับบริษัทน่ะค่ะ”

จู่ ๆ เวินหนี่ก็ถูกดันออกไป เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย และก่อนที่จะได้พูดอะไร ลู่เซินก็ตอบกลับทันที “ได้สิครับ ผมไม่ได้มีธุระอะไร เดี๋ยวผมจะไปส่งเธอให้เอง”

ถังเยาขยิบตาให้เวินหนี่และพูดขึ้นอย่างสุภาพ “รบกวนด้วยนะคะ”

เธอผลักเวินหนี่ไปข้าง ๆ ลู่เซิน “เพื่อนร่วมชั้นเก่าคงอยากลำลึกความหลังกัน พวกคุณค่อย ๆ คุยกันไปก็แล้วกันค่ะ ฉันขอไม่ไปส่งก็แล้วกันนะคะ”

เธออยากให้พวกเขามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น

เวินหนี่มองไปที่ถังเยาด้วยคำพูดมากมายที่ติดอยู่ที่ปาก เนื่องจากลู่เซินอยู่ด้วย เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ ถังเยาก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เวินหนี่มองไปที่ลู่เซิน แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากันแต่ก็ไม่ได้เจอกันมานานมาก แล้วจะให้ลำลึกความหลังกันอย่างไรล่ะ “อย่าไปฟังถังเยาเลย ถ้านายยุ่งก็ไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปส่งฉันก็ได้”

เธอยังไม่ลืมว่าเย่หนานโจวต้องการให้เธอกลับบริษัทพร้อมกันกับเขา

ลู่เซินพูดขึ้นว่า “แค่ไปส่งเธอเอง ไม่เห็นเป็นอะไร อีกอย่างฉันก็อยากจะพูดคุยกับเธอด้วย”

เวินหนี่ตกตะลึง “หา?”

ลู่เซินยิ้มและพูดต่อว่า “อย่าเข้าใจผิดสิ ฉันอยู่ต่างประเทศมานาน เลยไม่ค่อยมีเพื่อนในประเทศเท่าไหร่ แล้วฉันก็ดีใจมากที่ได้เจอเธอนะ”

เวินหนี่ทัดผมตัวเองอย่างไม่รู้ตัว และเดินไปพร้อมกันกับเขา “เมื่อกี้ฉันเพิ่งอ่านข่าวนาย นายมีอิทธิพลมากในประเทศ M คิดไม่ถึงเลยว่านายจะทำได้ดีขนาดนี้”

“ฉันก็แค่คนธรรมดาที่โชคดีก็เท่านั้นเอง” ลู่เซินตอบ

“นายถ่อมตัวเกินไปแล้ว”

ลู่เซินหันหน้าไปมองเวินหนี่อีกครั้ง “โชคดีผสมกับความพยายามน่ะ แต่เวินหนี่ เธอยังคงเหมือนเดิมเลยนะ ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด”

เวินหนี่เงยหน้าขึ้น “จริงเหรอ? ไม่แปลกใจเลยที่นายจะจำฉันได้ในทันที”

เธอไม่รู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านเธอมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

แต่เธอคิดว่าก็คงมีเปลี่ยนไปบ้าง

เมื่อคนเราสูงขึ้น ก็จะดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วนหน้าตาก็ไม่อ่อนเยาว์เหมือนแต่ก่อน

ลู่เซินมองไปที่เวินหนี่ มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เวินหนี่ในความทรงจำของเขาก็เป็นแบบนี้ ผมสีดำยาว เธอเป็นคนเงียบไม่ค่อยชอบพูด แต่ผลการเรียนของเธอดีมาก

เธอมักจะเดินถือหนังสือไปบนถนน และชอบก้มหน้า

บางครั้งเวลาไปชนใครเข้า เธอก็จะตกใจและพูดขอโทษขึ้นก่อนทันที

เธอชอบทัดผมไปด้านหลัง เผยให้เห็นต้นคอสีขาว

ใบหน้าด้านข้างของเธอนั้นก็ยังสวยมาก

เธอไม่ใช่คนที่จะเข้าใกล้ได้ง่าย เธอมักจะเฉยเมย แต่เขารู้ว่าเธอมีจิตใจดี และมักจะให้อาหารแมวจรจัดอยู่เสมอ

เขารู้ด้วยว่าเธอไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เวลาโศกเศร้าเธอจะแอบซ่อนตัวร้องไห้อยู่ในมุมเพียงลำพัง

ความห่างเหินคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของเธอ

เมื่อได้พบเธอ ลู่เซินก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในตอนนั้นอีกครั้ง เขานั่งอยู่แถวหลังเฝ้ามองหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกลจากเขาแต่ก็เอื้อมไม่ถึง

ลู่เซินถอนความคิด และถามขึ้นว่า “หลายปีที่ผ่านมาเธอเป็นยังไงบ้าง?”

เวินหนี่ครุ่นคิด และตระหนักได้ว่าลู่เซินดูเหมือนจะไปต่างประเทศตอนที่กำลังจะจบชั้นมัธยมต้น

ในปีนั้นเธอประสบปัญหาอันใหญ่หลวง

โชคดีที่เธอได้รับการช่วยเหลือ

เธอสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่ต้องการ และได้เรียนมหาวิทยาลัย

ชีวิตดูเหมือนจะเรียบง่ายและมั่นคง ไม่ได้ขึ้นลงอะไรมากมาย

“ก็ดีนะ…”

เวินหนี่จมอยู่ในความคิด และตระหนักได้ว่าชีวิตเธอไม่ได้มีเรื่องอะไรที่น่าตื่นเต้นมากนัก

โรงจอดรถใต้ดิน

มีรถแล่นผ่านไปด้วยความเร็วสูง ลู่เซินเห็นว่าเวินหนี่ใจลอยและกำลังจะโดนชน เขาจึงจับแขนเธอ แล้วพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ ระวัง”

แรงดึงทำให้เวินหนี่ถลาไปอยู่ในอ้อมแขนของลู่เซิน และจมูกของเธอก็ชนเข้ากับหน้าอกของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ลู่เซินปกป้องเธอด้วยสองมือของเขา แต่เขาก็ยังคงเป็นสุภาพบุรุษ และไม่ได้สัมผัสบริเวณที่ไม่ควรสัมผัส เขาแค่เบี่ยงตัวไปด้านนอกเพื่อป้องกันไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บ

เย่หนานโจวที่กำลังลงลิฟต์มาถึงลานจอดรถใต้ดินบังเอิญได้ยินเสียงเรียกชื่อ “เวินหนี่” ขึ้นมาพอดี เขาจึงมองหาที่มาของเสียง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status