Share

บทที่ 17

ชายคนนั้นสอดมือลงในกระเป๋าเสื้อและจ้องมองเวินหนี่ด้วยสายตาอ่อนโยนครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ลู่เซิน พวกเราอยู่ห้องเดียวกันทั้งตอนประถมและมัธยมต้น”

เวินหนี่จมอยู่ในความคิดเป็นเวลานาน

จากภาพจำของเธอ ลู่เซินนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ตอนนั้นเขาเป็นเด็กอ้วนตัวเล็ก ๆ และนั่งอยู่แถวหลังเงียบ ๆ ทุกภาคเรียน

เธอไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเขามากนัก

เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่มีผลการเรียนดีที่สุดมาโดยตลอด เธอทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการการศึกษาในชั้นเรียน และมากสุดก็แค่พูดคุยกันสองสามคำตอนเก็บการบ้านเท่านั้น

คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะกลายเป็นคนที่หล่อเหลาขนาดนี้

“ลู่เซิน?” ริมฝีปากของเวินหนี่โค้งขึ้นเล็กน้อย “ทำไมนายถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ล่ะ? ฉันจำนายไม่ได้เลย”

“ใช่น่ะสิ ฉันเปลี่ยนไปมาก ไม่แปลกที่เธอจะจำไม่ได้” ลู่เซินมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “เพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็จำฉันไม่ได้ แต่ฉันจำเธอได้นะ”

เวินหนี่มีความสุขมากที่ได้พบเพื่อนร่วมชั้นเก่า

หลังจากที่เธอเริ่มทำงาน เธอก็ไม่ค่อยได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นเลย เพราะทุกครั้งมัวแต่ยุ่งกับการทำงาน

ชีวิตของเธอนั้นซ้ำซากจำเจ มีแค่งานและครอบครัว นอกเหนือจากเพื่อนร่วมงานแล้ว เธอก็มีถังเยาเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น

เมื่อคิดเช่นนี้ ชีวิตของเธอก็ดูค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะเวลาส่วนใหญ่เธอมอบให้กับเย่หนานโจวไปจนหมด

“หลังจากเรียนจบมอต้นนายไปอยู่ที่ไหน? ดูเหมือนว่าฉันจะไม่เคยได้ยินข่าวของนายเลย” เวินหนี่พูดคุยกับเขา

“ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศน่ะ” ลู่เซินตอบเธอ “เพิ่งกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“อย่างนี้นี่เอง” เวินหนี่เห็นว่าชุดสูทของเขาเปื้อนเป็นวงใหญ่จึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ถอดเสื้อออกสิ ฉันจะเอาไปซักให้นายเอง”

“ไม่เป็นไรจริง ๆ”

เวินหนี่พูดขึ้น “ได้เจอเพื่อเก่าทั้งที แต่กลับให้ของขวัญนายชิ้นใหญ่แบบนี้ ฉันรู้สึกผิดมากจริง ๆ ไว้ฉันซักเสร็จแล้วจะคืนให้กับนายนะ”

เธอยืนกรานแบบนั้น ลู่เซินจึงหยุดปฏิเสธ “ก็ได้”

เขาถอดเสื้อสูทออกแล้วมอบให้กับเวินหนี่

โชคดีที่เสื้อด้านในไม่เปียกมันจึงดูไม่ได้ร้ายแรงมากนัก

เวินหนี่หยิบถุงของขวัญมาและเก็บสูทลงไปทันที

“ประธานลู่” จู่ ๆ ก็มีคนเข้ามาทักทายเขาและกล่าวสวัสดีอย่างเป็นมิตร “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณกลับมาแล้วเหรอ? ทำไมถึงไม่แจ้งให้ผมทราบเลย ผมจะได้หาโอกาสไปเยี่ยมคุณ”

“รอฉันก่อนนะ ฉันขอทักทายกับคนอื่นแป๊บนึง” ลู่เซินพูดกับเวินหนี่

เวินหนี่ขานตอบ “อิ้ม” เธอเห็นว่าคนที่เข้ามาทักเขาอย่างเป็นมิตรนั้นคือผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง ดูเหมือนว่าภูมิหลังของลู่เซินคนนี้จะไม่ธรรมดาเลย

เธอแอบหาข้อมูลอย่างเงียบ ๆ และพบว่ามันน่าทึ่งมากจริง ๆ

เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในประเทศ M ด้วยระดับปริญญาเอกสองใบคือ ด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ตั้งแต่อายุยังน้อย

เขาเริ่มต้นจากศูนย์ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยและเริ่มก่อตั้งบริษัททางการเงินในประเทศ M ซึ่งมีการแข่งขันที่สูงมาก ก่อนจะกลายมาเป็นลู่เซินอย่างทุกวันนี้

แต่จุดโฟกัสของเธอนั้นน้อยเกินไป เธอมุ่งความสนใจไปที่เด็กอ้วนตัวน้อยในโรงเรียนมัธยมต้น ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กอ้วนอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเจ้านายใหญ่

ขณะที่เวินหนี่กำลังครุ่นคิด ถังเยาก็กระแทกไหล่ของเธอเบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ลู่เซิน เธอรู้จักเขาด้วยเหรอ?”

เวินหนี่ตอบ “เพื่อนร่วมชั้นเก่าน่ะ”

“เธอนี่ไม่เลวเลยนะ ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากับลู่เซินด้วย” ถังเยายิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้น “เธอรู้ไหมว่าเขาทรงพลังมาก เป็นเจ้าของบริษัทจดทะเบียนตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเริ่มต้นจากศูนย์ แถมยังทำงานด้านการเงินด้วย คนที่ทำงานด้านการเงินล้วนแล้วแต่หาเงินเก่งกันทุกคน ดีกว่าเย่หนานโจวเป็นร้อยเท่า ฉันว่าโชคชะตาของเธอกับเขามาถึงแล้วล่ะ”

เวินหนี่เตือนขึ้น “เขากับฉันเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเก่ากัน เธอย่ามาจับคู่มั่ว ๆ เขาไม่ได้คิดกับฉันแบบนั้นซะหน่อย”

“ไม่คิดอะไรกัน ฉันเห็นว่าเขาน่ะคิดชัด ๆ” ถังเยาพูดอย่างหนักแน่น “เขาจำเธอได้ตั้งแต่แรกเห็น นั่นหมายความว่าเขาคิดถึงเธอในใจนับพันครั้ง”

“อย่าพูดไร้สาระน่า”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status