Share

บทที่ 16

ลู่ม่านเซิงเงียบไปครู่หนึ่ง

เวินหนี่ยังอยู่ในงาน เธอก็รู้สึกประหลาดใจที่เย่หนานโจวโทรมา เธอนึกว่าเขากำลังพลอดรักกับลู่ม่านเซิง จนไม่มีเวลามาสนใจเธอเสียอีก

เวินหนี่สงบสติอารมณ์ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น “อยู่ที่นิทรรศการศิลปะค่ะ”

เย่หนานโจวพูดขึ้น “จบงานแล้วกลับบริษัทพร้อมกันกับฉัน”

เขาไม่คิดจะให้วันหยุดกับเธอแล้ว และจะให้เธอกลับไปทำงาน

เวินหนี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง

หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เย่หนานโจวก็หันกลับมาและเห็นว่าลู่ม่านเซิงยังคงอยู่ข้าง ๆ “เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”

ลู่ม่านเซิงต้องการหาโอกาสที่จะได้อยู่กับเขาตามลำพัง แต่หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว เธอถอนมือกลับมาและพูดว่า “ฉันจะกลับไปพักผ่อนแล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”

“อืม” เย่หนานโจวขานรับ

ลู่ม่านเซิงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ “คืนพรุ่งนี้พี่ว่างไหมคะ?”

“แล้วแต่สถานการณ์”

“ถ้าคืนพรุ่งนี้พี่มีเวลา ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวพี่น่ะค่ะ”

เย่หนานโจวพูดขึ้นทันที “พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

ลู่ม่านเซิงถือว่าเขารับปากแล้วและเธอก็รู้สึกมีความสุขขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะจากไปพร้อมกับผู้ช่วยของเธอ

เวินหนี่อยู่กับถังเยา

ถังเยาถามขึ้น “เย่หนานโจวโทรมาเหรอ?”

“อืม”

“เขาอยู่กับยัยมือที่สามนั่นไม่ใช่เหรอ แล้วโทรมาหาเธอทำไม?”

“อีกเดี๋ยวฉันต้องกลับบริษัทกับเขา”

ถังเยาพูดขึ้น “เขาไม่พลาดโอกาสที่จะบีบเธอเลยจริง ๆ แล้วทำไมเธอต้องยอมด้วย!”

“ตอนบ่ายฉันไม่มีธุระอะไรแล้ว ทำงานจะได้ช่วยให้ฉันไม่ต้องคิดมาก”

ถังเยาส่ายหัว เธอว่างไม่ได้เลย มีคุณนายคุณหญิงคนไหนยังต้องไปทำงานอยู่อีกบ้าง แต่เธอนั้นแตกต่างออกไป

ถังเยาไม่อยากให้เธอเอาแต่อยู่รอบตัวเย่หนานโจวตลอดทั้งวัน จึงพูดขึ้นว่า “รีบวางแผนแต่เนิ่น ๆ ยังไงเธอก็ต้องหย่ากับเย่หนานโจว ก่อนหย่าก็มองไปรอบ ๆ บ้างล่ะ ถ้าเจอคนที่ใช่ก็ไปต่อเลย เขาจะได้รู้สึกเสียบ้างว่าการเสียเธอไปเป็นความสูญเสียของเขา”

เวินหนี่มองเธอ “ทำไมจะต้องมองหาผู้ชายด้วยล่ะ?”

ถังเยาตอบทันที “ยั่วโมโหเขาไง!”

เวินหนี่พูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเขาไม่ได้รักฉัน ต่อให้ฉันหาผู้ชายมากมายแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจอยู่ดีนั่นแหละ”

เธอไม่มีความคิดที่จะยั่วโมโหเย่หนานโจว

การแต่งงานของทั้งสองเป็นไปตามความยินยอม หลังจากหย่ากันแล้วพวกเขาก็จะไม่มีเกี่ยวข้องกันอีก

ถังเยาคว้าไหล่ของเธอ “เธอจะแขวนตัวเองไว้บนต้นไม้ต้นเดียวไม่ได้ ฉันรู้ว่าเธอยังชอบเย่หนานโจวอยู่ แต่จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดความสัมพันธ์คือการมองหาเป้าหมายต่อไป แล้ววันหนึ่งเธอจะไม่เสียใจให้กับเย่หนานโจวอีก”

ทันใดนั้นเวินหนี่ก็เข้าใจว่าถังเยากลัวว่าเธอจะเศร้ากับเย่หนานโจวมากเกินไป เขาและลู่ม่านเซิงถูกกำหนดให้คู่กัน แม้ว่าเธอกับเขาจะไม่ได้หย่ากัน แต่วันหนึ่งเธอก็จะต้องถูกทอดทิ้งอยู่ดี

หากต้องการลืมเย่หนานโจวก็จำเป็นต้องมีคนใหม่

แต่เวินหนี่ลังเลเล็กน้อย “แค่หาคนใหม่ ฉันก็จะลืมเขาได้แล้วงั้นเหรอ?”

“แน่นอน” ถังเถากล่าว “ฉันมีประสบการณ์ด้านความรักมากกว่าเธอ เชื่อฉันเถอะ คนต่อไปจะต้องทำให้เธอพึงพอใจมากกว่าแน่”

เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของถังเยา

ถังเยาพูดถูก เพียงแต่เธอไม่ได้มีความคิดแบบนั้น

ถังเยาพาเธอไปรู้จักกับคนที่มางานนิทรรศการศิลปะอยู่นานจนแทบจะกลายเป็นงานนัดบอดไปแล้ว ถังเยาคอยแนะนำว่า คนไหนหล่อ คนไหนมีภูมิหลังครอบครัวที่ดีและร่ำรวย ติดตรงที่เธอไม่ชอบ ไม่อย่างนั้นคงกลายเป็นงานนัดบอดจริง ๆ ไปแล้ว

ถังเยามีอิทธิพลในด้านผลงานและเธอก็มีชื่อเสียงไม่น้อย

ผู้ชายที่เธอแนะนำนั้นไม่เลวเลยจริง ๆ แต่เธอมองผู้ชายทุกคนราวกับว่ากำลังมองกะหล่ำปลี

เวินหนี่อยากจะหนี จึงอาศัยจังหวะที่ถังเยากำลังคุยกับคนอื่นผละออกห่าง และบังเอิญไปชนกับพนักงานเสิร์ฟเข้า

“อ๊ะ!”

พนักงานเสิร์ฟถือถาดอยู่ในมือ แก้วไวน์หกเละไปหมด

เครื่องดื่มหกใส่คนที่เดินผ่านมา

เมื่อเวินหนี่เห็นว่าอีกฝ่ายเปียกโชก โรคเนี้ยบในการทำงานก็ทำให้เธอก็รีบพูดขึ้นโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย “ขอโทษที่ทำให้ชุดสูทของคุณเปื้อนค่ะ”

เธอมักจะจัดเตรียมเสื้อผ้าให้กับเย่หนานโจว ดังนั้นเธอจึงสามารถบอกได้โดยดูจากเนื้อผ้าว่าแบรนด์ของชุดสูทนี้ราคาไม่เบาเลย

เธอรู้สึกเป็นกังวลและหยิบทิชชูออกมาเช็ดให้อีกฝ่าย

อีกฝ่ายจับมือของเธอแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรครับ”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นมาจากข้อมือ และอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าติดใจเอาความ แถมยังดูเป็นมิตรมาก เวินหนี่จึงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

เห็นเพียงอีกฝ่ายกำลังยิ้ม

ดวงตาสีน้ำตาลมีประกายซ่อนอยู่ ทั้งดูเป็นมิตร และมีเสน่ห์

คนที่อ่อนโยน นุ่มนวลและเป็นประกายราวกับหยกที่ในหนังสือได้กล่าวไว้ คงใช้อธิบายถึงคนประเภทนี้สินะ

เขาไม่ได้ตำหนิเธอ เวินหนี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเป็นมิตร “คุณถอดมาให้ฉันก็ได้ค่ะ ฉันจะเอาไปซักแห้งให้คุณเอง ฉันรู้จักร้านซักดี ๆ ร้านนึง จะไม่ทำให้สูทราคาแพงของคุณมีรอยแน่นอนค่ะ”

เธอเป็นคนดูแลชีวิตของเย่หนานโจว จึงมีประสบการณ์มากในด้านนี้

อีกฝ่ายหัวเราะขึ้น

เวินหนี่สับสน

“เวินหนี่ คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมขนาดนั้น”

เวินหนี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งที่อีกฝ่ายรู้จักชื่อของเธอ และเขายังพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรเช่นนี้ เธออดไม่ได้ที่จะมองชายตรงหน้าอีกครั้ง

เขามีรูปร่างสูง และผอมเพรียว ผมตรง และดวงตาของเขาก็หยีเล็กน้อยเวลาที่เขายิ้ม ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนอยากเข้าใกล้เขามากขึ้น นิสัยของเขาดูโดดเด่น เป็นคนที่สามารถมองเห็นได้ในพริบตาท่ามกลางฝูงชน

เวินหนี่จำไม่ได้ว่าเคยพบกับบุคคลระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงเอ่ยถามออกไปอย่างสับสน “คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ? เราเคยพบกันมาก่อนเหรอคะ?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status