ไป๋ชิงชางสูดหายใจเข้าลึก ความสงสัยฉายแววในดวงตาของเขา เพราะเขาไม่รู้ว่าจะนิยามความสุขตามมุมมองของเขาอย่างไรดี!หากเขาอยู่ในตำแหน่งสูงก็ควรจะมีความสุขมาก แต่ไป๋ชิงชางกลับไม่ค่อยรู้สึกเช่นนั้นเลยไม่ใช่ว่าไม่พอใจ แต่แค่รู้สึกเหนื่อยเกินไปแม้ว่าหลังจากทำสิ่งต่าง ๆ ได้ประสบความสำเร็จจะทำให้เขามีความสุขมากก็ตามแต่เขายังคงไม่สามารถตอบคำถามของหวังหยวนได้ และเขายังเข้าใจสิ่งที่หวังหยวนต้องการสื่อได้อีกด้วย!“ท่านตอบไม่ได้หรือ? ความสุขนั้นยากที่จะนิยามจริง ๆ อย่างน้อยสำหรับข้า ข้าคิดว่าความสุขควรจะเป็นความรู้สึกสุขใจอย่างแท้จริง”“ความสุขคืออะไร? มีอาหารให้กินเพียงพอ มีเสื้อผ้าเพียงพอ ไม่ถูกคุกคาม ไม่ถูกคนอื่นข่มขู่ มีเวลาทำสิ่งที่อยากทำ มีเพื่อนสนิทมิตรสหายมากมาย สิ่งเหล่านี้แหละ... ที่ข้าคิดว่ามันคือความสุข”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋ชิงชางก็ถอนหายใจความสุขเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้!โลกที่หวังหยวนพูดถึงนั้นเปรียบเสมือนสวรรค์!พูดตามตรงคือแม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังไม่กล้าพูดเลยว่าเขาสามารถทำให้แผ่นดินเป็นเช่นนั้นได้!“พี่หวัง เรื่องนี้มันยากเกินไปจริง ๆ…”ไป๋ชิงชางยิ้มฝืดเ
ในเวลานี้หวังหยวนยังคงนั่งอยู่ที่ลานบ้าน จานอาหารบนโต๊ะหายไปแล้ว แต่ยังมีกาน้ำชาตั้งไว้หวังหยวนยังต้มน้ำร้อนรอให้ไป๋เจิ้นถังมาถึงด้วยซ้ำ!ไม่ว่าจะเป็นไป๋เฟยเฟยหรือไป๋ชิงชาง ก็ไม่สามารถหยุดไป๋เจิ้นถังได้!ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของไป๋เจิ้นถัง!หวังหยวนรู้ว่าไป๋เจิ้นถังกลัวเขา!กลัวอำนาจของเขา แต่ก็ยังอยากควบคุมอำนาจของเขาด้วย!ไม่ใช่กลัวแค่ในปัจจุบันแต่ยังรวมถึงอนาคตด้วย แม้กระทั่งอีกร้อยปีต่อจากนี้!หวังหยวนย่อมเข้าใจความคิดของไป๋เจิ้นถังดี เขาจึงอยากคุยกับไป๋เจิ้นถัง เพื่อดูว่าเขาจะยอมล้มเลิกความคิดหรือไม่!เพราะเขาไม่อยากขัดแย้งกับตระกูลไป๋เลย!ทันใดนั้นไป๋เจิ้นถังก็มาถึง เขาหรี่ตาลงเมื่อเห็นหวังหยวนนั่งจิบชารอเขาอยู่ตรงนั้น“หวังหยวน ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ว่าข้ากำลังมา”ไป๋เจิ้นถังเดินเข้ามาหาหวังหยวนด้วยรอยยิ้ม แล้วนั่งตรงข้ามเขา!“แน่นอน ฝ่าบาทลองดื่มชาที่ข้าเพิ่งชงดูเถิด”หวังหยวนรินชาให้เขาแล้ววางไว้ตรงหน้าเขาไป๋เจิ้นถังหยิบมันขึ้นมาดื่มหมดในอึกเดียวโดยไม่ลังเล“ไม่เลว ชาชั้นดี”หวังหยวนหัวเราะแล้วพูดว่า “ฝ่าบาทไม่กังวลว่าข้าจะวางยาพิษในชาหรือ?”ไป๋เจิ้นถังได้ฟังเ
หลังจากที่หวังหยวนพูดถ้อยคำเหล่านั้นออกไป สีหน้าของไป๋เจิ้นถังก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย!พูดตามความจริง...แม้ว่าหวังหยวนจะยอมเป็นมหาองครักษ์จริง ๆ แต่เขาก็ยังคงไม่สบายใจอยู่ดี!เพราะเขาหวาดกลัวหวังหยวนจากก้นบึ้งของหัวใจ!ดังนั้นหากมีโอกาส เขาจะพยายามยึดพลังของหวังหยวนมาไว้ในมือของเขาเองอย่างแน่นอน!ในขณะนี้สีหน้าของไป๋เจิ้นถังเริ่มมืดมนมากขึ้นเรื่อย ๆหวังหยวนยกยิ้มขณะมองไป๋เจิ้นถัง เพราะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นจึงพูดว่า “ฝ่าบาท ข้ารู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ ท่านอยากจะเกลี้ยกล่อมข้า แต่ก็ยังกังวลอยู่จึงรู้สึกลังเล”“ท่านกังวลว่าข้าจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงแผ่นดินในอนาคตใช่หรือไม่ และท่านก็ยิ่งกังวลมากขึ้นว่า แม้ว่าข้าจะไม่ได้ต่อสู้แย่งชิงแผ่นดิน แต่ลูกหลานของข้าก็จะทำเช่นนั้นอยู่ดี”“ดังนั้น... ไม่ว่าข้าจะทำอย่างไรท่านก็ไม่เชื่อใจข้าอยู่ดี และท่านจะไม่โล่งใจจนกว่าพลังของข้าจะอยู่ในมือของท่านใช่หรือไม่?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ไป๋เจิ้นถังก็สูดหายใจเข้าลึก ในเมื่ออีกฝ่ายพูดทุกอย่างออกมาแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป“ใช่แล้ว หวังหยวน หากเจ้าสามารถยอมจำนนต่อตระกูลไป๋ของข้าได
เมื่อเขาตะโกน เหล่าทหารผู้มีวรยุทธ์ชั้นสูงหลายสิบคนก็รีบวิ่งเข้ามาในลานบ้าน!“ตอนนี้ข้าแค่ต้องออกคำสั่งเท่านั้น หวังหยวน หัวของเจ้าจะหลุดจากบ่าทันที!”“ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งเดียว ว่าเจ้าจะยอมแพ้หรือจะ... ตาย!”ไป๋เจิ้นถังแทบรอไม่ไหวแล้ว!เพราะเขาเข้าใจความคิดของหวังหยวนว่าจะไม่ยอมจำนน!แม้ว่าตอนนี้เขาจะดำเนินการอย่างหุนหันพลันแล่น ไร้ความเมตตา และไม่ยุติธรรมก็ตาม!แต่ว่า…เขาต้องทำเช่นนี้ในฐานะฮ่องเต้!หวังหยวนก็สามารถเข้าใจได้ เขาจึงไม่โกรธเลย เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ผู้ใดไม่เห็นแก่ตัว ผู้นั้นจะถูกสวรรค์ลงทัณฑ์!แต่หวังหยวนยังคงถามว่า “ฝ่าบาท ท่านเองก็ทราบดีอยู่แล้วว่าข้าท่านจะไม่ยอม”“ว่าแต่... ท่านจะลงมือกับข้าจริงหรือ?”หวังหยวนถามประโยคนี้อีกครั้งไป๋เจิ้นถังถอนหายใจแล้วพูดว่า “หวังหยวน ไม่ใช่ว่าข้าอยากลงมือจัดการเจ้า แต่ว่า... เจ้าเองก็สามารถเข้าใจได้ว่าการอยู่ร่วมกันเป็นเรื่องยากสำหรับเรา และเพื่อจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ ข้าไม่มีทางเลือกจริง ๆ ดังนั้น…”“อย่าได้โทษข้าเลย จงยอมรับเสียเถิด!”ไป๋เจิ้นถังตัดสินใจแล้วในเวลานี้!ทันทีที่เขาโบกมือ กองทหารเหล่านี้ก็จะเข้าไปจั
หลังจากออกไปได้แล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่งป้องกันตนเองจากตระกูลไป๋ด้วยพลังทั้งหมดของเขาทันที!เขาต้องการควบคุมทุกการเคลื่อนไหวของตระกูลไป๋!แน่นอนว่าหวังหยวนรู้ดีว่าตระกูลไป๋จะไม่กล้าโจมตีเขาง่าย ๆ เพราะด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลไป๋ในปัจจุบัน แม้จะจัดการกับตระกูลเซิ่งและเมืองหวงก็ยังยากมากแล้ว หากจะหันมาจัดการกับพวกเขาก็ยากพอ ๆ กับการบุกสวรรค์!ไป๋เจิ้นถังไม่ได้บอกไป๋ชิงชางและไป๋เฟยเฟยเรื่องนี้ แต่สองพี่น้องย่อมรู้ข่าวการจากไปของหวังหยวน!แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ถาม แต่ก็รู้ด้วยว่าไม่มีการปรองดองระหว่างผู้เป็นบิดากับหวังหยวน!“ท่านพ่อ เราควรทำอย่างไรดี ตระกูลเซิ่งและเมืองหวงจะรุกคืบเข้ามาในไม่ช้าแล้วขอรับ!”ไป๋ชิงชางถามด้วยความกังวล“แค่ต้านทานเอาไว้ พวกเขาจะไม่สามารถโจมตีได้หรอก ไม่ต้องกังวล”ไป๋เจิ้นถังพูดด้วยสีหน้าราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง!พวกเขาไม่มีพลังแบบหวังหยวน มีเพียงแค่อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้แบบดั้งเดิมที่สุดเท่านั้น หากต้องการเอาชนะพวกเขาก็อาจจะต้องจ่ายอย่างแสนสาหัส!แต่หากต้องการจะบุกเมืองให้สำเร็จ ก็ต้องมีกองกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองถึงสามเท่า!ตอนนี้
เขายังคงอยากจะลองดู!ดังนั้นหลังจากสั่งการกองทัพทหารม้าแล้ว เขาก็ออกจากเมืองหลวงทันที เพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านต้าหวังการกลับมาของหวังหยวนยังทำให้หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้ว่าจะไม่มีอันตรายใด แต่หวังหยวนก็รู้ดีว่ามีบางสิ่งที่เขาต้องเตรียมรับมือให้เร็วที่สุด!ตระกูลไป๋...ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกเขาจะมีระยะห่างระหว่างกันแล้ว!เรื่องเช่นนี้ต้องวางแผนล่วงหน้า ไม่อาจล่าช้าได้!ตระกูลไป๋ต้องการจัดการกับเขา แม้ว่าจะยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้แต่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต เขาสามารถมองเห็นความมุ่งมั่นของไป๋เจิ้นถังได้จากการกระทำของเขาคิดอยากจะควบคุมเขาไว้ในกำมือ!ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ไป๋เจิ้นถังจะสามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของอาณาจักรต้าเป่ยได้ ในกรณีนี้หวังหยวนจะต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ให้ดี!ไป๋ชิงชางมาถึงที่นี่ด้วยสีหน้าลำบากใจเพราะหวังหยวนเป็นคนให้คำแนะนำแก่พวกเขา แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ พูดตามตรงคือเขาแทบไม่มีหน้ามาเจอหวังหยวนด้วยซ้ำ!“พี่หวัง ขอโทษด้วยจริง ๆ ข้า…”ไป๋ชิงชางยังคงเป็นคนที่ค่อนข้างซื่อสัตย์ แต่เขาขาดความโหดเหี้ยมในฐานะฮ่อง
การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!ไป๋ชิงชางไม่กล้าตอบตกลงอย่างง่ายดาย เพราะหากเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อแผนการของพ่อของเขา เช่นนั้น...เขาก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องทำอย่างไร!“เรื่องนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในตอนนี้ ท่านควรกลับไปหารือกับพ่อของท่านก่อน แต่ข้ารับประกันได้ว่าเมืองหวงจะยืนเคียงข้างข้าอย่างแน่นอน!”หวังหยวนยกยิ้ม คำพูดของเขาหนักแน่นมาก!มีเขาเข้าร่วมด้วย หากเมืองหวงจะเลือกช่วยตระกูลเซิ่งแทนที่จะช่วยเหลือเขาก็คงโง่เขลาเต็มทน!“ได้เลย!”ไป๋ชิงชางสูดหายใจเข้า จากนั้นกลับไปที่วังหลวงเพื่อเล่าทุกเรื่องให้ไป๋เจิ้นถังฟัง“อะไรนะ? หวังหยวนต้องการปกครองเมืองหลิงแต่เพียงผู้เดียว นั่นแสดงว่า... เขายังปรารถนาจะแย่งชิงแผ่นดิน!”ไป๋เจิ้นถังตะคอกอย่างเย็นชาทันที“ท่านพ่อ ในสถานการณ์ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมหวังหยวนได้เลย มีเมืองหวงอยู่ด้านหน้า และมีตระกูลเซิ่งอยู่ด้านหลัง หากเราไม่ยอมเห็นด้วย หวังหยวน ตระกูลเซิ่งและเมืองหวงจะร่วมมือกัน และตระกูลไป๋ของเราก็จะ... ไม่อาจต้านทานได้!”“วันที่อาณาจักรจะถูกโค่นล้มนั้นใกล้เข้ามาแล้ว!”ไป๋เจิ้นถังจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าไป๋ชิงชางหมายความ
หลังจากที่เซียวฉู่ฉู่หายตกตะลึงนางก็หัวเราะทันที“ถูกต้อง มันไม่ง่ายเลยที่จะจับเขาไว้ได้ ในเมื่อครั้งนี้เขาเลือกที่จะมาเยือนเมืองหวงของเรา ก็แสดงว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่!”หลังจากที่เซียวฉู่ฉู่พูดจบ อ๋องหลงซีก็กล่าวเสริม“ไทเฮา มีเพียงสองผลลัพธ์เท่านั้น ผลลัพธ์แรกคือการโน้มน้าวให้เราล่าถอย และอีกผลลัพธ์คือมาเพื่อเจรจาความร่วมมือ!”หลังจากที่อ๋องหลงซีพูดจบแล้ว เซียวฉู่ฉู่ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าอยากจะเลือกทางเลือกที่สองมากกว่า!”“ถ้าหวังหยวนโน้มน้าวให้เราถอยทัพ ก็คงจะไม่กล้าทำเช่นนั้นในเวลานี้หรอก!”“เพียงแต่ความร่วมมือที่ว่านั้น...จะเป็นอย่างไร?”มีความสงสัยฉายแววในดวงตาของเซียวฉู่ฉู่ เพราะท้ายที่สุดก็มีสองทาง!ทางที่หนึ่งคือการร่วมมือกับตระกูลเซิ่ง หากมีความขัดแย้งระหว่างตระกูลไป๋และหวังหยวน ก็เป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหาเรื่องตระกูลไป๋ได้!หรือบางทีตระกูลไป๋และหวังหยวนอาจร่วมมือกันเพื่อจัดการกับตระกูลเซิ่งทั้งสองสถานการณ์ล้วนเป็นไปได้ในสายตาของนาง!“ไทเฮา หวังหยวนแอบเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว คิดว่าอีกไม่นานเขาน่าจะเข้ามาในวังหลวงวัง พวกรออีกสักพักได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”อ๋องหลงซี