เมื่อสมาชิกตระกูลกวนเห็นเช่นนั้นต่างก็อึ้งไปชั่วครู่ และไม่อยากเชื่อสายตา!เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างหยิ่งยโสเสียจริง!กวนเสี่ยวไห่ฮึดฮัดและตะโกนว่า “เจ้ากล้าทำร้ายข้า เชื่อหรือไม่ว่าหากบิดาของข้ามาถึง ย่อมจะฆ่าเจ้าให้ตายได้!”หวังหยวนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย สั่งให้ต้าหู่มัดกวนเสี่ยวไห่ไว้ และมัดผู้ใหญ่บ้านไว้ด้วยเช่นกันจากนั้นหวังหยวนก็ก้าวไปยืนอยู่บนแท่นสูง มองไปที่คหบดีและชาวนาเหล่านั้นแล้วกล่าวว่า“ชาวบ้านทั้งหลาย บัดนี้กฎหมายใหม่ของเมืองหลิงได้ประกาศใช้แล้ว ทุกคนสามารถทำไร่ไถนาได้ ทุกคนสามารถค้าขายได้ สิ่งที่เราต้องการคือทำให้ทุกคนร่ำรวยและเข้มแข็ง!”“ไม่ใช่ปล่อยให้เพียงแค่คหบดีและตระกูลผู้มั่งคั่งไม่กี่ตระกูลร่ำรวย ชีวิตเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ ดังนั้นเราจึงควรสามัคคีกันเข้าไว้!”หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แม้ว่าเมืองหลิงจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกลที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้มากมายเหลือเกิน กฎหมายใหม่ของหวังหยวนอาจประกาศใช้ได้ แต่เมื่อพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว บางพื้นที่ก็ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้ทีเดียว!ท้ายที่สุดแล้ว หวังหยวนไม่มีคนมากมายน
เขาสามารถทำให้ทุกคนร่ำรวยได้ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีสมเหตุสมผล มีคุณธรรมและถูกกฎหมาย!หากกองเงินที่ได้มานั้นมาจากการเหยียบย่ำร่างของคนยากจน นั่นไม่ใช่เงินแต่เป็นเลือดต่างหาก!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ!นั่นไม่ใช่หนทางแสวงหาความร่ำรวย!หากเป็นพื้นที่อื่น หวังหยวนอาจไม่สนใจเนื่องด้วยไม่สามารถจัดการได้!แต่เมืองหลิงแห่งนี้เขาต้องเป็นผู้กำหนด!“พี่ชาย ข้าเข้าใจความหมายของท่าน ไม่ต้องกังวลเลย เรื่องนี้ข้ามีขอบเขตจริง ๆ!”หวังหยวนยกยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจหลิวต้าฮั่นถอนหายใจและไม่พูดอะไรอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ชาวบ้านจำนวนมากไม่กล้าอยู่ต่อ รีบแยกย้ายกลับบ้านไปต้าหู่ก็ไปจัดการธุระเช่นกัน ส่วนเชียนหลงนั่งอยู่ข้างหวังหยวนนางเฝ้ามองชายผู้นี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น“คุณชาย แม้ว่าท่านจะช่วยพวกเขาได้และความสามารถของท่านสามารถช่วยเหลือใครก็ได้จริง แต่...สิ่งที่ท่านทำนับว่าเป็นการละเมิดกฎของโลกนี้หรือไม่?”เมื่อเชียนหลงพูดจบ หวังหยวนก็เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของนาง!“เจ้าหมายความว่า ข้าแทรกแซงพวกเขาใช่หรือไม่?”เมื่อหวังหยวนพูดจบ
เมื่อหวังหยวนเอ่ยคำถามนี้จบลง เชียนหลงก็ชะงักไปครู่หนึ่งนางไม่รู้ว่าเหตุใดหวังหยวนถึงได้ถามคำถามนี้ขึ้นมาในทันใด!ต้องรู้ก่อนว่าคำว่าชีวิตนั้นเป็นคำถามที่ยากที่สุดในยุคสมัยนี้แล้ว! เกรงว่าจะหาผู้ที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนได้ยากนัก!แต่เชียนหลงเป็นคนฉลาด นางรู้ว่าเนื่องจากหวังหยวนถามคำถามนี้ขึ้นมา ทั้งยังถามในเวลานี้ด้วยแล้ว ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องตรงหน้าเป็นแน่!ดังนั้น...นางจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คุณชาย ชีวิตนั้นยากเกินกว่าจะบรรยายได้ หากให้ข้ากล่าว… อาจจะกล่าวได้ว่าการได้อยู่อย่างสุขสบายนั้นสำคัญที่สุด”เมื่อเชียนหลงกล่าวจบ หวังหยวนก็ชะงักไปครู่หนึ่งสตรีผู้นี้กล่าวคำพูดที่ค่อนข้างลึกซึ้งเหมือนเขาไม่มีผิด!แต่ตัวเขานั้นมีประสบการณ์จากชาติก่อน จึงมีความคิดเช่นนี้ในชาติก่อนเขาใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการเล่าเรียน ไม่ทันได้เสพสุขก็ตายไปเสียแล้วโชคดีที่ในชาตินี้มีจิตสำนึกจากชาติก่อนติดสอยห้อยตามมาด้วย ถึงรู้สึกว่าชาติก่อนของตนนั้นขาดทุนมากชาตินี้จึงต้องเสพสุขให้เต็มที่ทว่าเชียนหลงผู้นี้...เหตุใดจึงมีแนวคิดเช่นนี้ได้?ตามเหตุผลแล้วนางน่าจะชอบเ
พวกเขามาถึงหมู่บ้านอย่างรวดเร็วพร้อมส่งเสียงคำรามเมื่อเห็นหวังหยวน และลูกชายของเขาที่ถูกจับมัดแขวนอยู่!“ไอ้สารเลว! ไอ้ชาติหมา ปล่อยลูกชายข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าฆ่าเจ้าแน่!”กวนเจิ้นสยงผู้เป็นหัวหน้าตระกูลกวนแค่นเสียงคำรามเบื้องหลังมีคนกว่าร้อยคนชักดาบใหญ่ออกมา บรรยากาศก้าวร้าวรุนแรงมาก!ชาวบ้านต่างตกใจกลัว วิ่งเตลิดด้วยความขวัญผวา!“ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย... ต้องฆ่าไอ้สุนัขตัวนี้ให้ได้ รวมถึงนังหญิงชั่วเหล่านี้ด้วย ต้องฆ่าให้หมด!”กวนเสี่ยวไห่พูด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น!หวังหยวนได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ก็เพียงแค่ยิ้มรับ ต่างจากชาวบ้านที่กลัวมากจนคุกเข่าลงกับพื้น“นายท่านกวน ได้โปรดเถิด... อย่าทำร้ายพวกเรา!”“ใช่แล้ว... นายท่าน ได้โปรด...”พวกเขากลัวมาก หวาดกลัวอย่างที่สุด!“หึ! พวกเจ้าสมควรตายทั้งนั้น!”“ไอ้หนุ่ม เจ้าเป็นใคร กล้าแทรกแซงเรื่องกิจการภายในมณฑลงั้นหรือ? ไม่รู้หรือว่าที่นี่ข้าคือสวรรค์!”เขาเยาะเย้ยและเอ่ยด้วยความโกรธเมื่อหวังหยวนได้ยินดังนั้นก็หัวเราะร่า“เจ้าคือสวรรค์หรือ? ช่างน่าขัน!”ที่เมืองหลิงแห่งนี้ไม่มีสวรรค์ ชาวบ้านต่างหากที่เป็นสวรรค์!หาก
ผู้คนกว่าห้าสิบคนนั้นตายอย่างรวดเร็วเกินไป!รวดเร็วเสียจนหลายคนยังตั้งตัวไม่ทัน!พวกเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น!เหตุใดคนเหล่านั้นจึงตายได้!เหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ยังตกใจจนพูดไม่ออก พวกเขาหวาดกลัวมาก!กวนเจิ้นสยงก็ไม่คาดคิดว่าคนของตนเองกว่าห้าสิบคนจากร้อยคนจะถูกปลิดชีวิตได้ในชั่วพริบตา!นี่มัน...นี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากจะเชื่อเลย!สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ หวังหยวนเพียงแค่ยกยิ้มจากนั้นก็มีคนสิบคนค่อย ๆ เดินออกมาจากบริเวณโดยรอบในมือของพวกเขานั้นถือปืนคาบศิลา!สิบคน!เผชิญหน้ากับร้อยคน ในพริบตาเดียวก็ฆ่าคนไปได้แล้วถึงห้าสิบคน!วิธีการเช่นนี้คงทำให้พวกเขาคาดไม่ถึง!แต่หวังหยวนรู้ว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น!“เจ้า... เจ้าเป็นใคร!”กวนเจิ้นสยงตกใจจนพูดไม่ออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง!“ข้าก็คือ... หวังหยวน!”หวังหยวนตะคอกออกมาดังลั่น น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว!เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ทุกคนก็ตกใจจนพูดไม่ออก!พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนผู้นี้...คือหวังหยวน!เจ้าผู้ครองเมืองหลิง!ผู้ที่ประกาศนโยบายใหม่ ซึ่งใ
หวังหยวนไม่ต้องการปล่อยคนประเภทนี้ไว้ให้เป็นภัยแก่เมืองนี้!แม้ว่าจะดูโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมเกินไป หวังหยวนก็จะไม่ใจอ่อน!เขาจะต้องฆ่าคนชั่วเหล่านี้!ให้เขาได้รู้ว่านี่คือสิ่งที่เขาควรได้รับ!กวนเจิ้นสยงตกใจจนพูดไม่ออก รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที“คุณชายหวัง... ข้าผิดไปแล้ว... ข้าผิดไปแล้ว... ท่านโปรดเมตตาด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด!”กวนเจิ้นสยงหวาดกลัวแทบสิ้นสติ!ชื่อเสียงของหวังหยวนนั้นเขารู้ดี แม้แต่ต้าเย่ ต้าเป่ยก็ยังไม่สามารถจัดการกับเขาได้ แล้วขุนนางอำนาจน้อยนิดในดินแดนเล็กๆ แห่งนี้เช่นเขาจะจัดการอะไรได้?“ไว้ชีวิตเจ้าหรือ? ตลกสิ้นดี!”“แล้วเจ้าเคยคิดจะไว้ชีวิตพวกเขาบ้างหรือไม่!”หวังหยวนตะคอกอย่างดุดัน!สิ่งที่ต้องทำในวันนี้ก็คือการข่มขวัญทุกคน ไม่ใช่แค่ฆ่าเขาเท่านั้น แต่ยังต้องให้ทุกคนตระหนักไว้ด้วย!ว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน!ให้เคารพกฎหมาย!นั่นคือหนทางที่ถูกต้อง!หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็พ่นลมหายใจออกมาจากนั้นก็โบกมือ!เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ในพริบตาทุกคนก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น!หวังหยวนยิ่งหยิบปืนพกออกมาจ่อไปที่กวนเสี่ยวไห่และผู้ใหญ่บ้านด
เมื่อต้าหู่เห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ จึงหยุดมือทันที ไม่ได้จัดการกับพวกเขาต่อเขาเดินเข้าไปหาเด็กกลุ่มนี้ทีละก้าว แล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้งว่า “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงมาเป็นโจรที่นี่?”เด็กหลายคนตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัวจนแทบขวัญกระเจิง!พวกเขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโดยไม่รู้ตัว และพยายามถอยหลังหนีไปเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าต้าหู่ดูเหมือนจะไม่คิดจะจัดการกับพวกเขาต่อไปแล้ว แต่กลับถามถึงที่มาของพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทำให้เด็กคนหนึ่งที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม จู่ ๆ ก็ตาแดงก่ำแล้วน้ำตาไหลพราก“พวกเรา... พวกเราเป็นคนเขตหลิน...”“เขตหลินหรือ?”หลังจากที่ต้าหู่ได้ทราบที่มาของพวกเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ก่อนหันกลับไปมองหวังหยวนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็มองไปที่เด็ก ๆ เหล่านี้แล้วถามกลับไปอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจังว่า “แล้วอย่างไรต่อ?”เด็กโตซึ่งเป็นหัวหน้าปาดน้ำตาบนใบหน้า เขาอดกลั้นสะอื้นไม่อยู่ขณะพูดด้วยเสียงเบาว่า “พวกเราไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ต้องพึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่เด็ก และไม่รู้ว่าจะไปหาเงินได้จากที่ไหน...”“พวกเราเคยตั้งแผงขายของ แต่ก็ถูกไล่และยังถูกขโมยของไปด้วย
จู่ ๆ สีหน้าของเด็กหนุ่มที่ดูโตที่สุดก็พลันเปลี่ยนไปกลายเป็นเคียดแค้น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะกัดฟันเล่าด้วยความเกลียดชังว่า “หากไม่ใช่เพราะหัวหน้าเขตหลิน พวกเราคงไม่กลายเป็นเช่นนี้หรอก!”เมื่อหวังหยวนเห็นเด็กหนุ่มโกรธมากก็ยิ่งมีสีหน้าจริงจังขึ้นแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าเล่ามาให้ละเอียด!”เด็กหนุ่มปาดน้ำตาบนใบหน้า ดวงตาของเขาฉายแววคับข้องใจและเกลียดชัง ขณะกำหมัดแน่นพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “หัวหน้าเขตหลินเป็นผู้มีอำนาจจอมฉ้อฉลรายใหญ่!”“เปรี้ยง”หวังหยวนรู้สึกราวกับว่าในหัวของเขามีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ จึงถามด้วยความสงสัยว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เด็กหนุ่มเช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างแรง เขาเกร็งกำปั้นแน่นแล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เขาเป็นหัวหน้าเขต แต่สิ่งที่เขาทำล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเขาทั้งนั้น!”“เขาไม่เพียงแต่ยึดที่ดินของชาวบ้านในเขตทั้งหมด แต่ยังยึดแรงงานชาวบ้านและโรงงานทั้งหมดอีกด้วย!”“อะไรนะ มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ!”สีหน้าของหวังหยวนเปลี่ยนไปในทันที หากหัวหน้าเขตหลินทำเรื่องเช่นนี้ ชาวบ้านก็คงจะต้องทุกข์ยา